เมียงมองเมืองหม่อง ผ่านเลนส์ (1) @ พุกาม, มัณฑะเลย์, สิเรียม, ย่างกุ้ง
ตั้งแต่ตัดสินใจหยิบ "เมียงมองเมืองหม่อง โดย คุณกาญจนา หงษ์ทอง" จากร้านหนังสือเมื่อสี่ปีก่อน เกิดอาการตกหลุมรักทั้งเมืองหม่องและคนเขียน แอบวาดฝันไว้ในใจว่า ..จะตามรอยไปให้ได้..ซักวัน
แล้วพอมาเห็นภาพผ่านเลนส์ที่คุณเต้ยและเพื่อนเก็บมาฝาก จาก ทริปพม่าพาเพลิน แบกเป้ไปลุยกันเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สวยได้ใจมาก ๆ อยากแชร์ภาพและทำบล็อกไว้กระตุ้นต่อมอยากไปให้ตัวเอง 55
เปิดทริปพม่าด้วยการอาการเซ็ง จากโรคเลื่อนเที่ยวบิน Air Asia / FD 3772 ทำให้ถึง สนามบินมิงกาลาดง ใน เมืองย่างกุ้ง เอาเย็นย่ำ ได้แต่เช็คอินเข้าที่พัก Panda Hotel ได้แต่นอนเก็บแรงไว้ลุยวันรุ่งขึ้น
เจ็ดโมงเช้า มุ่งสู่ "เมืองพุกาม" ด้วย Air Mandalay / 6T 401 ย่างกุ้ง-พุกาม ใช้เวลาเดินทาง หนึ่งชั่วโมงยี่สิบนาที โดยประมาณ
ว่ากันว่า..ยามเจ้าแห่งวันส่องแสงอาบไล้เจดีย์ยามเย็นก่อนจะลาลับ ทำให้องค์เจดีย์บนท้องทุ่งผุดเรียงรายอยู่เบื้องหน้า เป็นสีทอง ทำให้เกิดตกหลุมรักทุ่งเจดีย์สีทอง ริ่มฝั่งแม่น้ำอิระวดีอย่างถอนสายตาไม่ขึ้น
ขนาดช่วงเวลากลางวัน ภาพยังสวยจับใจได้ขนาดนี้ ภาพนี้ถูกเก็บยามโพล้เพล้ จะสวยงามสักขนาดไหนน๊อ
ภาพนี้ เป็นเทคนิคส่วนตัวของคุณหนึ่ง ทำที่ให้ของจริงสว่างโล่ เป็นภาพกลางคืน สวยได้อีก^^
มิงกาลาเจดีย์ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า มงคลเจดีย์ เป็นที่ซึ่งนิยมมาชมทะเลเจดีย์กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา สร้างโดย พระเจ้านรสีหปติ
ทรงให้สร้างขึ้นตามโบราณราชประเพณีไม่ได้ทรงศรัทธาในพุทธศาสนา เจดีย์สร้างเลียนแบบ มหาเจดีย์ชเวสิกอง ขณะนี้เจดีย์กำลังถูกบูรณะอยู่
"มหาเจดีย์ชเวสิกอง" (Shwezigon Paya ) เจดีย์ทองเรืองรอง ณ ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดีตอนบน เขตเมืองพุกาม อาณาจักรแรกที่ชนชาติพม่ายิ่งใหญ่ขึ้นในลุ่มน้ำนี้
เมื่อกว่า 900 ปีก่อน เจดีย์ชเวสิกองนี้เป็นเจดีย์แห่งชัยชนะที่พม่ามีเหนือมอญ สร้างโดย พระเจ้าอนอรธา วีรกษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรพุกามอันยิ่งใหญ่
จุดที่สร้างเจดีย์ เกิดจากช้างเสี่ยงทายของพระเจ้าอโนรธาเดินมาหยุดอยู่ ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี จึงเฉลิมนาม ชเวสิกอง หรือในสำเนียงพม่าว่า ชเวซีโข่ง แปลตรงตัวว่าเจดีย์ทองบนพื้นทรายเจดีย์เป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาในศาสนาพุทธนิกาย เถรวาท...
ที่สำคัญคือ เป็นเจดีย์บรรจุพระทันตธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพม่าจึงนับถือเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดในจิตใจ
พุทธลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบมอญ ประดับลายงดงามด้วยเฟื่องอุบะและ แถบคาดรอบองค์ระฆังที่เรียกว่า รัดอก แซมลวด ลายประดับทั้งขอบล่างและขอบบน องค์เจดีย์หุ้มด้วยแผ่นทอง ตั้งบนฐาน 3 ชั้น ระเบียงมีภาพแผ่นเคลือบปูนปั้นเล่าเรื่องในนิทานชาดกสอนใจคน
เจดีย์อนันดา สร้างขึ้นโดย กษัตริย์จันสิทธะ (King Kyanzittha) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทน ภูเขานันทมูล (Nandamula) บนเทือกเขาหิมาลัยอันเนื่องมาจากการ จาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกามของพระอรหันต์ 5 รูป
โดยสร้างวัดขึ้นตามลักษณะที่เหล่าพระอรหันต์ได้ พรรณา แล้วตั้งชื่อว่า วัดอนันดา ตามชื่อถ้ำที่พระอรหันต์ทั้ง 5 องค์
วัดอนันดา หรือ อนันดากู่พยา เป็นวัดสีขาว ถือเป็นงานที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นเพชรเม็ดงามแห่งสถาปัตย์ของพุกาม เพราะถือว่าเป็นสุดยอด พุทธศิลป์สกุลพุกามสถาปัตยกรรมแบบมอญที่งดงามมาก
สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1091 โครงสร้างของวัดอนันดามีระเบียงทางเดินที่ไม่ซับซ้อน มีซุ้มประตูใหญ่สี่ซุ้มขนาดเท่ากันทุกด้านเปิดจากแนวกึ่งกลางกำแพงไปสู่ห้องคูหากลางวิหาร
ด้านบนก่อเป็นแกนทึบสี่เหลี่ยมขึ้นไปรับกับส่วนยอด ที่แกนทึบแต่ละด้านทำรวงเข้าไปเป็นซุ้มพระขนาดใหญ่ ผนังแต่ละด้าน ยาว 35 เมตร
โครงสร้างวิหารมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ในซุ้มมีพระพุทธรูปยืนประจำหลักสูง 9.5 เมตร ประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ
ภายในวิหารวัดอนันดา มีพระพุทธรูปยืนที่แกะสลักด้วยไม้สักประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ เป็นฝีมือช่างพม่าชั้นสูงที่ทำช่องให้แสงส่องสว่างเฉพาะองค์พระพุทธรูป
พระพักตร์ของพระองค์นั้นจะต่างกันตามองศาที่เราแหงนหน้ามอง บางมุมจะยิ้มเปี่ยมเมตตา บางมุมจะสงบนิ่งเฉย ทั้งๆที่เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวกัน
"มหาวิหารมหาบดี" (Mahabodi Phaya) สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้า Nantaungmya รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบเดียวกับ วิหารมหาบดี ที่โด่งดัง ของเมือง Bodhgaya รัฐ Bihar ในประเทศอินเดียอันเป็นสถานที่ ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
รูปแบบของยอดวิหารทรูปร่างคล้ายกับปิรามิด มีพระพุทธรูปนั่งอยู่ใต้ฉัตรเล็ก ๆ จึงทำให้วิหารแห่งนี้มีความแตกต่างจากวิหารรูปทรงระฆังคว่ำแบบพุกาม ส่วนล่างของวิหาร ก่อสร้างด้วยอิฐเป็นเป็นรูปสีเหลี่ยมตัน เพื่อรองรับตัว มีพระพุทธรูปขนาดเล็กมากมายที่ถูกบรรจุไว้ด้านข้างภายนอกวิหาร
"วัดชเวกู่จี" Shewgugyi ในภาษาพม่าหมายถึง the golden cave หรือ ถ้ำทอง วัด/วิหารแห่งนี้สร้างโดย พระเจ้าอลอง สินธู ซึ่งต่อมาได้ถูกพระโอรสทำการปลงพระชนม์ (ปิตุฆาต) ขณะที่พระองค์กำลังประชวรอยู่ที่วิหารแห่งนี้
วิหารนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าของพระราชวังเดิม จึงมักจะรู้จักกันในชื่อ Nandaw Oo Paya หมายความว่า วัดที่ตั้งอยู่หน้าพระราชวัง มีการก่ออิฐเป็นแท่งอย่างสูงถึง 12 ฟุตจากพื้นดิน เล่ากันว่า การก่อสร้างวิหารใช้เวลาทั้งสิ้น 7 เดือน กับอีก 7 วันเท่านั้น
จากวัด เจดีย์ชเวกูจี สามารถมองเห็น เจดีย์สัพพัญญู หรือ ถัดบินยู มุมนี้เลย
เจดีย์สัพพิญญู หรือ ถัดบินยู (Thatbyinnyut Pagoda) เมื่อมองจาก เจดีย์ชเวกูจี เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในเมืองพุกาม
ความสูงทั้งสิ้นประมาณ 61 เมตร สร้างขึ้นตามศิลปะแบบปาละของอินเดีย ก่อสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 1687 โดย กษัตริย์อลองสิตธู (King Alaungsithu) โดยแบ่งลักษณะของเจดีย์ออกเป็นระดับจำนวน 5 ชั้น
ทั้งเป็นวิหารและเจดีย์ส่วนลานชั้นสามของเจดีย์นั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายรูปทิวทัศน์โดยรวมของเมืองพุกาม
"เจดีย์บูพญา" เดิมเป็นเจดีย์แบบพิวที่เก่าแก่ที่สุดในพุกาม แต่ในปี ค.ศ. 1975 เจดีย์องค์เดิมพังทลายลงทั้งหมด ด้วยเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
เจดีย์ที่เห็นโดดเด่นบนริมฝั่งแม่น้ำเอยาวดี (อิระวดี) ในปัจจุบัน เป็นองค์ที่สร้างขึ้นมาใหม่แทนองค์เดิม
เจดีย์องค์นี้ เป็นหลักหมายของนักเดินเรือว่า ถ้าเห็นเจดีย์บูพญา หมายถึง การเดินทางมาถึงพุกามแล้ว รอบๆองค์เจดีย์มีลานกว้างเป็นระเบียง ซึ่งว่ากันว่า ในยามที่องค์เจดีย์ฉาบไล้ด้วยแสงสีส้มอมทองของอาทิตย์อัสดงนั้นงดงามเกินบรรยาย
คุณเต้ยบอกว่า เป็นสินค้าของพม่าที่มีให้เห็นแทบทุกที่ เค้าเรียกว่าอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าราคาไม่ถูกเลยค่ะ มิน่า..ไม่เห็นซื้อมาฝากคนที่บ้านบ้างเลย แพงนี่เอ๊ง..
แม่น้ำอิระวดี
แหม... ไปทั้งที พกกล้อง กะ เลนส์ไปเป็นกระสอบ มีภาพแม่น้ำอิระวดี ที่ว่ากันว่า ใหญ่กว่าแม่น้ำโขงตั้งสองเท่า มาฝากภาพเดียวเองอ่ะ
เห็นจากภาพที่ถ่ายมาแล้ว ขอเดาว่า หลังจากตะลอนละไมทุ่งเจดีย์ที่พุกาม ยามที่ขาก้าวถึงที่นอนนุ่มใน Golden Express Hotel คาดว่าน่าหลับสนิทกันทันที
ปูลู : เจ้าของภาพมาเฉลยที่หลังค่ะว่า ไม่มีคืนไหนที่เข้านอนแล้วสลบเพราะเพลียค่ะ ทีสลบเพราะเบียร์มากกว่า 55
รูปและข้อมูลที่ขอ คุณเต้ย และ เพื่อน มาอัพ สวย ๆ เยอะมาก เลยขอแบ่งเป็น สองตอน นะคะ ไว้ตอนต่อไปจะเอารูปสวย ๆ จาก มัณฑะเลย์ - สิเรียม - ย่างกุ้ง มาฝากกันค่ะ^^
Tips :
ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ Air Asia สุวรรณภูมิ - ย่างกุ้ง - สุวรรณภูมิ ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ทุกวัน Air Mandalay วันที่สอง 6T 401 RGN - NYU ย่างกุ้ง-พุกาม / วันที่สาม 6T 401 NYU-MDL พุกาม-มัณฑะเลย์ / วันที่สี่ 6T 402 MDL-RGN มัณฑะเลย์-ย่างกุ้ง
ค่าที่พักคืนแรกและคืนสุดท้าย ที่ Panda Hotel คืนที่สองในพุกาม Golden Express Hotel / คืนที่สามในมัณฑะเลย์ Royal Guesthouse
ค่าอาหาร ค่ารถ และ ไกด์ท้องถิ่น เบ็ดเสร็จทริปนี้ 4 คืน 5 วัน คุณเต้ยบอกว่าประมาณ 16,000 เอง ค่ะ แอบสะกิดบอกว่า ถ้าจะจ่ายหนักก็ตรงค่าเบียร์นี่แหละ^^
ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อ แต่พอเห็นสลิปบัตรเครดิตในการจองผ่านเวปแล้ว ขอปรบมือให้ คุณภัทร ที่จัดการทุกอย่างในทริปนี้ได้สุดยอดจริง ๆ สมกับเป็น นักเดินทางแบคแพคมืออาชีพ ค่ะ
ไม่เพียงแค่แม่งานเรื่องการเดินทางทุกย่างก้าวนะคะ คุณภัทร จะมีผลิตภัณฑ์ส่วนตัว ยี่ห้อกิ๊บเก๋ว่า e-patt แจกเพื่อนร่วมทริป ซึ่งแต่ละทริปไม่เหมือนกันด้วย เช่น ถุงผ้าร่มคัลเลอร์ฟูล แจกเพื่อนคนละสี, ซองใส่พาสปอร์ต เสื้อร่มกันฝน ฯลฯ
เพื่อนคนไหนไม่ได้ร่วมทริป อด อิอิ จขบ.ได้อานิสงค์ของคุณเต้ย แอบได้ของกับเขาบ้างเหมือนกัน ทั้งที่ไม่เคยร่วมทริป ยังไงขอบคุณภัทรมา ณ ที่นี้อีกครั้งนะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ
ขอขอบคุณมากมาย :
คุณเต้ย, คุณหนึ่ง ที่เอื้อเฟื้อภาพสวย ๆ จาก พุกาม มัณฑะเลย์ สิเรียม และ ย่างกุ้ง
และ คุณภัทร และ คุณเงาะ ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลเชิงลึกแต่ละที่ ๆ ไป พร้อมกับตรวจทานให้ ขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ..
Create Date : 18 กันยายน 2554 |
|
63 comments |
Last Update : 21 กันยายน 2554 21:06:04 น. |
Counter : 2964 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะครับ ตอนก่อนไปเที่ยวสังขละบุรี ผม search ข้อมูลในบล็อกแก๊งค์เลยได้อ่านบล็อกสังขละบุรีของคุณจินด้วย ลีลาการเขียนยังกับนักเขียนมืออาชีพ อ่านเพลินเลยล่ะครับ .....
ภาพถ่ายจากพม่าของคุณเต้ยในเอนทรี่นี้ สวยแจ่มมากๆ เลยครับ เห็นภาพแต่ละคนในทริปแล้ว ท่าทางจะเป็นตากล้องมือโปรทั้งนั้น .....
เอนทรี่นี้ยังไม่เห็นภาพทะเลเจดีย์ที่พุกามในยามเช้าแบบมีหมอกจางๆ เลย แบบว่าเคยเห็นบรรดาช่างภาพที่ไปที่นั่น ต้องมีภาพแบบนั้นกลับมาทุกคน ไม่รู้จะได้เห็นที่นี่บ้างหรือเปล่านะครับ .....