นิราศน์เมืองกาญจน์ @ แรกพบสบตากาญจนบุรี

ตั้งแต่ได้รับข่าวคุณกะว่าก๋า หรือคุณก๋าของพวกเราชาว bloggang ได้สานฝันตัวเองออกหนังสือแนวธรรมะ เป็นครั้งที่สอง "หมื่นตาธรรมะ" หลังจากที่หมื่นตาได้อยู่ในอ้อมใจใครต่อใครมาพักใหญ่

และคุณพี่อัยย์ นักล่าน้ำตก ได้พักภาระกิจนักล่าฯ มาเป็น บก.สาว ปั่นต้นฉบับ หวานรักร้านขนม ที่กำลังหวานเยิ้มได้ที่ หลังจากที่ร่ายมนต์เล่มไหนเป็นอันต้องถูกทาบทามตีพิมพ์เป็นหนังสือ ขายดีเป็นเทน้ำท่า
หนึ่งในนั้นคือ อุ่นรักป่าฝน

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จุดประกายอยากเขียนหนังสือในตัวให้คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่มิอาจเทียบเคียงฝีมือรุ่นพี่เขียนหนังสือทั้งสอง ผู้น้อยขอร่ายมนต์เล็ก ๆ แนวท่องเที่ยวตามรอยนักเขียนในดวงใจ ด้วยนิราศน์เมืองกาญจน์ ที่ผู้เขียนเองไปเที่ยวมาเมื่อปีที่แล้ว แต่น แตน แต้น...ณ บัดนี้







24 กรกฎาคม 2552 : ตอน แรกพบสบตา กาญจนบุรี


เริ่มแรกเดิมทีหมายมั่นปั้นมือจะไปเยือนเกาะกูด เกาะสวาทหาดสวรรค์ที่ฝันใฝ่มานาน ด้วยดีกรีเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำทะเลตราดที่ได้รับการขนานนามว่าอันดามันแห่งทะเลตะวันออก

แต่ฝันต้องสลายเมื่อเห็นข้อความที่โพสต์ไว้ในเวปไซส์ถูกตอบกลับมาจากรีสอร์ทที่หมายตาว่า ..เป็นช่วงกลางมรสุม ไว้ใกล้จะมาแล้วค่อยจอง.. เล่นเอาใจแป้วปรับเปลี่ยนเป้าหมายทันที ลูกทะเลเปรยมาอีแบบนี้ก็ใครจะไปใจกล้าท้าทายลมมรสุมกลางฤดูฝน





พอได้ข่าวเปื้อนสาวคนแป้ไปแอ่วตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ ใจก็แอบเตลิดไปถึงปอยเปต แปะทะเลเมืองจันทร์เอาไว้วันสุดท้าย หมายมาดจะลงเล่นทะเลริมหาดให้ได้ แต่แล้วก็ต้องสองแห้ว เมื่อมิ่งมิตรเด็กเทพร่วมก๊วน เกิดกลัวสึนามิขึ้นมา เลยต้องระเหเร่ร่อนจากตะวันออกสุดเป็นสุดเขตแดนตะวันตกแทน

จึงเป็นที่มาของการเดินทางย้อนรอยประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 จรดสุดเขตแดนตะวันตกเมืองไทย เย้ยฟ้าท้าฝนยึดคอนเซ็ปต์ตะลอนละไมทัวร์ เก็บเกี่ยวความสุขริมทางให้มากเท่าที่จะทำได้

ทันทีที่แตะพื้นสนามบินสุวรรณภูมิ ก็กระโดดขึ้นแท็กซี่เฉพาะกิจพร้อมคนขับสาวสวยมุ่งสู่จังหวัดกาญจนบุรีอันเป็นที่หมายทันที ด้วยระยะทาง 129 กิโลเมตร กะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงถึงจุดหมายปลายทาง แต่แล้วก็ต้องมีเหตุให้ระส่ำกระตุกชีพจรเท้า

ลุงเต้ยหัวหน้าทริปดันลืมจีพีเอสสมองกลนำทางไว้ในรถที่บ้าน รีบสบตาเจ้าของรถคนสวยอย่างมีความหวัง กลับพบสายตาอันว่างเปล่ากับรอยยิ้มพิมพ์ใจ เอาละซิ รีบเร่งระดมสมองเปิดแผนที่หาพิกัดทางออกจากกรุงเทพไปกาญจนบุรีทันที







งานนี้เลยต้องอาศัยตัวช่วยจากจีพีเอสรุ่นลิมิเต็ด ดิ้นได้ โต้ตอบได้ สำรองใช้ยามจำเป็น หนุงหนิงเปื้อนสาวคนแป้ ที่พลาดร่วมก๊วนเดินทางทริปนี้อย่างน่าเสียดาย แต่ดันรู้ถนนหนทาง ทุกซอก ทุกมุม ไม่เว้นแม้แต่ซอยในกรุงเทพมหานครราวกลับเป็นบ้านเกิด

..สรรพคุณนี้ไม่เกินจริงเลยหากได้สัมผัสจากประสบการณ์ ขนาดป้ายของกรมทางหลวง ยังบอกได้ไม่ตกหล่นแทบทุกป้าย แถมด้วยประวัติตึกรามบ้านช่องที่ขับผ่าน อย่าได้ถามขึ้นมาเชียว

เพราะได้หนุงหนิงช่วยคลำทางแสนแม่นยำ จึงมุ่งสู่กาญจนบุรีรวดเร็วเกินความคาดหมายอย่างชนิดพี่ตาคนกาญจน์บ้านถิ่นยังนึกไม่ถึง เด็กเทพโดยสายเลือดอย่างหมวยจัง ยังอ้ำอึ้งยอมรับในความสามารถไร้ทางสู้รบปรบมือ

ปั๊มปตท.อำเภอท่ามะกา จุดนัดพบพี่สาวที่ได้ยินแต่เสียงมาหลายครั้งหลายครา คราวนี้ได้เจอตัวเป็น ๆ ซะที ช่วงระหว่างรอพบรีบเปิดท้ายรถคุ้ยหาของฝากปากก็ม้งเม้ง มือก็สาละวนค้นข้าวของ น้ำหนักสัมภาระและของฝากใครต่อใครเที่ยวนี้ ไม่ขาด แค่เกินมา 6 ขีด จาก 30 กิโลกรัมที่สายการบินกำหนดเท่านั้นเอง

สงสัยจะเสียงแตกรังไปหน่อย พี่เขมผู้ต้อนรับแขกต่างถิ่นจำเป็นจึงเข้ามาทักทายอย่างแม่นยำ เอ่อ..ใช่คนที่นัดพบตาไว้รึเปล่าครับ.. เอ๋อไปพักใหญ่ สมองสั่งการทันที รีบปรับโหมดสาวเรียบร้อยแทบไม่ทัน สวัสดีทักทายกันพอหอมปากหอมคอ







พี่ตา พี่ใหญ่แห่งชมรมคนรักกาญ (กาญจนา หงษ์ทอง) เจ้าถิ่นเมืองกาญจน์ที่อาสานำเที่ยวสองวันแรกในทริปนี้ พร้อมเพื่อนคู่หูผู้ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นเอกลักษณ์

เพราะตั้งแต่นาทีแรกที่เจอกันจนถึงวันที่อำลายังไม่เคยเห็น พี่ขวด หน้าบึ้งเลย สบตาทีไรเจอรอยยิ้มละไมของคุณพี่ทุกที เป็นรอยยิ้มที่คลายเส้นบาง ๆ กั้นความแปลกหน้าซึ่งกันและกันจนมลายแทบไม่เหลือ

เริ่มต้นทำความคุ้ยเคยที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณ พี่ตานำเสนอว่าร้านนี้เพิ่งมอบมรดกให้หลานทำต่อไม่นานมานี้เอง เดิมเห็นว่าคนทำอายุรวมกันเกือบ 200 ปี อะไรไม่เท่าสาวเสริฟสวยมาก ไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่แน่นอนรับรองได้ เล่นการันตีล่วงหน้าแบบนี้ ทำเอาบางคนหิวก่อนเวลาอันควร พอเจอสาวเสริฟอายุอานามประมาณลุงเต้ยคูณสาม งานนี้โดนพี่ตาหยอกเล่นซะเต็มพุง







จานเด็ดนำเสนอมื้อในวันนี้ เป็น "เกี๊ยวกรอบผัดไทย" ที่เกือบแห้วรับประทาน เนื่องจากมาถึงร้านก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่า แต่ได้เครดิตพี่ตาโทรศัพท์จองไว้ก่อน

ร้านคุณยายก็แสนใจดีแบ่งไว้ให้คนต่างถิ่นที่ดั้นด้นมาลิ้มลองถึงที่ อร่อยจริง ๆ ค่ะคุณผู้อ่าน สมกับคำร่ำลือ นี่ถ้าเดินทางมาเองตามเส้นหลักของการท่องเที่ยว คงพลาดมื้ออร่อยไปอย่างน่าเสียดาย

ยังค่ะยังไม่จบการนำเสนอมื้อแรก ตบท้ายด้วยของหวานแบบฉบับของคนกาญจน์ นั้นก็คือ กบทอดค่ะ กบธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กบทอดที่ฉันดูยังไงใจก็ยังเถียงว่าเป็นไก่ทอด คำแรกที่สัมผัสลิ้นถึงรู้ว่ากบจริง ๆ







รสชาติคล้ายไก่แช่น้ำปลาทอดแต่แห้งกว่า หอม กรอบนอก เหนียวนุ่มด้านใด เนื้อแน่น และที่สำคัญร้านนี้ไม่ได้อยู่เส้นทางหลัก ต้องมีผู้รู้นำทาง

ขอบคุณพี่ขวดพี่ตาที่นำลาภปากชนิดสุดยอดมาให้น้องนุ่งลิ้มลอง มื้อแรกแสนที่แสนประทับใจ ขอเพิ่มสโลแกนต่ออีกนิด “มากาญจนบุรีทั้งที มาถึงที่ต้องได้ทานเกี้ยวกรอบผัดไทกับกบทอด” ไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึง












“วัดถ้ำเสือ” คือเป้าหมายแรกของโปรแกรมในวันนี้ ตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง อยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามคันคลองชลประทานที่ไหลมาจากเขื่อนแม่กลอง

ไกด์กิตติมศักดิ์แนะว่าไหนก็ผ่านแล้ว แวะโฉบดู "เขื่อนแม่กลอง" ซะหน่อย เขื่อนที่ได้รวมเอาแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ มารวมกันกลายเป็นน้ำแม่กลอง







ใหญ่โตเอาการ บรรยากาศข้างในดูเงียบสงบ เห็นนักตกปลาหลายคนวางเบ็ดหลายหลังเรียงรายอยู่ตามทางเดินข้างเขื่อน เดาว่าที่นี้คงอุดมสมบูรณ์ทรัพยากรทางน้ำแน่นอน

เห็นองค์พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่สีทองตระหง่านอยู่บนยอดดอย แสงสีทองยามต้องตะวันทำเอาหัวใจฉันปลาบปลื้มอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ในที่สุดก็ได้มากราบสักการบูชา สวยจริง ๆ ค่ะ






พอถึงลานจอดรถแหงนมองขึ้นไปบนยอดเขา เห็นบันไดสามสายขึ้นเขาสายละ 158 ขั้น ด้านหน้า ทำเอาเพื่อนร่วมทางทั้งหลายถอดใจขอขึ้นรถรางที่มีไว้บริการข้างบันไดทางแทน มีแต่ฉันคนเดียวที่ข่มใจขืนขาตัวเองขึ้นบันไดอันสูงชัน

ปลุกปลอบใจตัวเองด้วยการเอาพลังศรัทธามาเป็นที่ตั้ง กว่าจะขึ้นถึงยอดดอยลานวัด เล่นเอาแทบหน้ามืดขาสั่นเกือบเสียฟอร์ม ทนฝืนยิ้มละไมกับเพื่อนร่วมทาง ...สู้ว้อย++







นอกจากหลวงพ่อชินน์ประทานพรหน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว องค์พระสูง 9 วา 9 นิ้ว แล้ว ยังคงมีพระอุโบสถอัฏมุขลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตรตระการตา พระอุโบสถ 8 มุขนี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้วางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ เมื่อ พ.ศ.2526 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ราชกุมารีทรงยกช่อฟ้าเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2526











นอกจากนั้นยังมี เจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท ที่ใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี เป็นเจดีย์ที่สูง 75 เมตร ภายในโปร่งมี 9 ชั้น มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ

ที่พระเดชพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ในปราสาทจุฬามณีบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาทแห่งนี้











ภาพซุ้มทางเดินชั้นล่างของเจดีย์ที่ซ้อนกันเป็นชั้น เป็นมุมที่ไม่พลาดที่จะลั่นชัตเตอร์เก็บภาพสวย

แต่ละชั้นมีวิวทิวทัศน์สวยงามต่างกันออกไป กว่าจะได้กราบสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้านบนพระเจดีย์ เรียกเหงื่อได้พอชุ่มแผ่นหลัง ด้วยความร้อนของเจ้าแสงตะวันที่ทำหน้าที่แบบไม่ปราณีปราศรัย











ช่วงเวลาที่น้องนุ่งต่างถิ่นดื่มด่ำกับความอลังการของวัด พี่ตาขอนั่งนิ่งสงบทำสมาธิ สวดมนต์ภาวนาในใจรออยู่หน้าพระประทานพร มีเพียงพี่ขวดคอยเก็บภาพพร้อมกับคำแนะนำให้น้องนุ่งอย่างเต็มอกเต็มใจ

ปล่อยเวลาเอ่อระเหยพักใหญ่ ฝนฟ้าเริ่มตั้งเค้าได้เวลาจรลีจากวัด ตอนขึ้นมาเสียพลังงานให้กับการวัดใจตัวเองลากขาขึ้นบันได 158 ขั้น ตอนลงจากวัด ยอมยกธงขาว กระโดดเกาะล้อรถรางลงอย่างไม่รีรอให้เสียเวลา


ไหน ๆ ก็มีวัดเปิดทางนำร่องทริปนี้แล้ว พี่ตาเลยเสนอแนะให้แวะ ”วัดจีน”ข้างวัดถ้ำเสือ เพื่อถ่ายภาพสวย ไม่มีคำปฏิเสธใด จากปากน้องต่างถิ่น เจ้าถิ่นว่าไงก็ต้องว่างั้น ประมาณเข้าเมืองตาหลิวก็ต้องหลิวตาตาม ก็พี่เค้าเซียนพื้นที่ย่อมรู้ดีกว่าเราเป็นไหน ๆ พี่ว่าไงน้องก็ว่าตามกัน







กระแสแห่งบุญยังชุ่มฉ่ำใจไม่พอ แวะให้อาหารปลาที่ ”วัดนางโน”หรือ วัดมโนธรรมาราม ก่อนที่จะเดินทางมุ่งสู่ตัวเมืองกาญจน์ ตลอดเส้นทางขับรถผ่าน มีอะไรให้อู้หูตลอดทางโดยเฉพาะฮวงซุ้ยที่สวยงามมาก หลังติดภูเขาลูกใหญ่ ด้านหน้าติดน้ำแม่กลอง ขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน







บางฮวงซุ้ยทำเอาสมาชิกทั้งคันรถตะลึงพรึงเพริศ นี่มันอภิมหาเศรษฐีชัด ๆ เสียดายสายฝนที่กระหน่ำอย่างไม่เป็นใจให้จอดรถลงบันทึกภาพ นี่ถ้ามาตามเส้นทางหลักพุ่งตรงสู่ตัวเมืองกาญจน์ ฉันคงไม่มีวันได้รู้ได้เห็นอะไรแบบนี้แน่นอน








ถึงอำเภอเมืองกาญจนบุรี ไม่ลืมแวะไหว้ ”ศาลหลักเมือง” ใกล้กับแนวกำแพงเมืองโบราณ เพื่อขอพรให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ช่วงระหว่างป้วนเปี้ยนในกาญจนบุรีอย่าได้มีอะไรติดขัด

ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย คิดเหมาเอาเองว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์พรมน้ำมนต์ให้พรสมดังหวัง











ก่อนเข้าที่พักไม่ลืมภารกิจสำคัญที่หมายมาดก่อนมาอีกหนึ่ง นั่นก็คือ กราบนมัสการ “หลวงพ่อโตแห่งวัดญวณ”หรือ วัดถาวรวราราม อันเลื่องชื่อ พี่ตากับพี่ขวดแสนดี ที่พลบค่ำแค่ไหนก็อุตส่าห์โฉบแวะให้น้องเข้าไปดู ทั้งที่รู้ว่าน่าจะเป็นเวลาที่พระวิหารวัดปิดแล้ว

ไม่พลาดไปจากที่คิดกว่าจะถึงวัดญวณปาเข้าไปเกือบห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่พระวิหารที่เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตได้ปิดไปแล้วจริง ๆ ด้วยพลังแห่งบุญที่ตั้งอกตั้งใจแรกเริ่มเดินทางก็ไม่ทราบ

แค่เอื้อนเอ่ยกับหลวงพี่ว่าหนูนั้นมุ่งมั่นจากแดนไกล ทำเอาหลวงพี่สงสารเห็นใจ เร่งตามหาคนถือกุญแจมาเปิดพระวิหารให้กราบนมัสการหลวงพ่อโตได้สมดังหวัง สาธุ







ช่วงระหว่างรอกราบหลวงพ่อโตอยู่นั้น ลุงป้าน้าอาที่อยู่ในวัดบอกให้ขับรถเลยเข้าไปข้างใน ทะลุรั้วหลังวัด ชม พระอุโบสถสถาปัตยกรรมจีน ที่งดงามตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่

กราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุเพื่อเป็นสิริมงคล และได้สนทนาธรรมกับกับหลวงพี่ถึงได้รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ได้เคยเสด็จมาวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน










ย้อนกลับออกมาชมพระวิหารของวัด อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปศิลาทรายแดง 3 องค์ โดยมีหลวงพ่อโตเป็นองค์ประธาน ที่ชาวเมืองกาญจน์ให้ความเคารพศรัทธาอย่างยิ่ง

วัดญวณแห่งนี้ นอกจากในหลวงพระองค์ท่านได้เคยเสด็จมาเยือน ยังมีพระประยูรญาติได้นำพระพุทธรูปมาถวายให้กับวัดอีกด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ไหนที่อยู่ข้างแท่นพระหลวงพ่อโต












คืนแรกประเดิมด้วยแพพักริมแม่น้ำแควน้อยใหญ่ที่ “เดือนฉายรีสอร์ท” ที่พักระดับสามดาว ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ที่ห่างจากตัวอำเภอเพียง 7 กิโลเมตร มีทั้งอาคารสามชั้น, บังกะโล และแพพักริมน้ำเงียบสงบ















ชมแสงแดดทาบทาบนผิวแม่น้ำแคว ช่างสวยเหมือนภาพวาด ดื่มด่ำกับภาพที่อยู่เบื้องหน้าพอหอมปากหอมคอ จำต้องเร่งทำเวลาอาบน้ำอาบท่า ให้ทันนัดหมายของดินเนอร์ค่ำคืนแรกในกาญจนบุรี

เดิมทีพี่ตากับพี่ขวดจะกลับอำเภอท่ามะกา คงเห็นน้องนุ่งต่างบ้านป้ำเป๋อ เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ จำต้องเปิดห้องนอนเป็นเพื่อนน้อง แถมยังเป็นเจ้าภาพดินเนอร์สุดหรูที่ “ร้านคีรีธารา” บรรยากาศแสนโรแมนติก อิ่มอร่อยกับอาหารริมระเบียงติดกับแม่น้ำแควใหญ่ยามค่ำคืน







ได้สนทนาปราศรัยกับผู้มากประสบการณ์ท่องโลกอย่างพี่ตา และผู้มีเทคนิคเรื่องราวสารพัดสอนน้องอย่างพี่ขวด เล่นเอาอิ่มทั้งพุง อิ่มทั้งใจ แบกพุงกางหน้าบานเปื้อนรอยยิ้มกลับเรือนแพพักอย่างมีความสุข

ก่อนจะหลับตาเก็บแรงไว้ลุยต่อวันที่สอง อดคิดไม่ได้ว่าตกลงทริปนี้ เป็นทริปย้อนรอยประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือทริปตามรอยพระพุทธศาสนากันแน่ ครึ่งวันแรกก็ปาเข้าไปสี่วัด แต่ละวัดล้วนวิจิตรงามตา อัดแน่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ อีกทั้งพ่อหลวงของไทยเคยเสด็จมาเยือนอีกด้วย

อดนึกปลาบปลื้มใจสุด ๆ กับกระแสแห่งบุญในวันแรกที่มาเยือน..กาญจนบุรี..






 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2553
27 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 7:35:16 น.
Counter : 2814 Pageviews.

 

แว้ววววววววว

รีบมาเลย...

เจิมก่อนๆ

 

โดย: นักล่าน้ำตก 15 กุมภาพันธ์ 2553 16:45:28 น.  

 

สวัสดีครับพี่จิน

พอดีงานซาเลยได้เข้ามานั่งชมทริปท่องเที่ยวเมืองกาญจน์ของพี่

ภาพสวยมกาเลยนะครับ
โดยเฉพาะภาพชุดพระอาทิตย์ตกดิน

งามแต๊ๆครับ




 

โดย: กะว่าก๋า 15 กุมภาพันธ์ 2553 17:10:36 น.  

 

น่าสนุกอีกแล้วค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 15 กุมภาพันธ์ 2553 17:40:52 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่น้องจินให้เกียรติพาดพิงพี่อัยย์

ประหนึ่งว่าพี่เป็นนักเขียนหญ่าย...อุอุ

นักอ่านอย่างน้องจิน ก็เป็นนักเขียนได้

ลองดูซักตั้งดีมะ...จากที่ทำบล็อกเนี่ย พี่ก็เห็นแววความมุ่งมั่นอยู่นะคะ

ถ้าเขียนอะไรยาวๆน่าจะได้อยู่...อยู่ที่อยากทำรึเปล่าเท่านั้นละ

..........

ทริปเมืองกาญจน์...เฮฮาอีกแล้วครับท่าน

รู้สึกว่าไปซะทั่วเมืองไทยเหมือนกันนะ

อยากพักแพเดือนฉายรีสอร์ตจังเลย

พี่ว่ามันโรแมนติกมาก ชอบบรรยากาศแบบนั้นจริงๆ

ให้พี่ไปนั่งที่เก้าอี้หน้าห้องพักนั่น พี่ก็นั่งได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่ๆจ้ะ

 

โดย: นักล่าน้ำตก 15 กุมภาพันธ์ 2553 17:59:17 น.  

 

หวัดดีคะ่คุณจิน ..เก็บภาพได้สวยงามทุก ชอ็ต ยังกะไปเองเลย.. ดูซะเพลิน ออกจะเป็นแนวธรรม ..นะคะ เมืองกาญ ..ที่เที่ยวเยอะมาก ตอ้งไปอีก แน่ เรา..

 

โดย: tifun 15 กุมภาพันธ์ 2553 19:11:32 น.  

 

สวัสดียามค่ำจ้า แม่จิน

วันนี้พลาดการเจิมบล๊อคไปอย่างน่าเสียดาย
เพราะว่าไปตะลอนทำธุระบ้าง
ไม่ธุระบ้างมาทั้งวันเลยน่ะจ้ะ

ตามประสาคนชอบกิน
ที่ชอบที่สุดของบล๊อค
นิราศน์เมืองกาญจน์ในครั้งนี้
คงหนีไม่พ้นน่องกบอวบ.อวบ
และผัดไทยเกี๊ยวกรอบเป็นแน่แท้ 555

วัดวาอารามก้อช่างสวยงามดีจริงๆ
ขอตามไปไหว้พระด้วยคนจ้า
เพราะเวลาเข้าวัดเข้าวาแล้วรู้สึกสบายใจดีจัง

คืนนี้เค้าต้องบ๊ะบายไปก่อนน๊า
แบบว่าไปว่ายน้ำมา
กลับมาแล้วยังต้องมาทำอาหารอีก
เลยง่วงน่ะจ้ะ
งั้นพรุ่งนี้คุยกันใหม่เน้อ

คืนนี้ฝันดีจ้า
jub jub

 

โดย: nLatte 15 กุมภาพันธ์ 2553 19:48:41 น.  

 

กบพันธุ์อะไรคะนั่น.. ขาแบบเป้ง ๆ .. ใหญ่ปึ๋ง กินขาเดียว อิ่มไปเลย..

ตามมาเที่ยวด้วย ปลายสัปดาห์นี้จะไปมั่ง.. หวังว่าคงจะสวย..

 

โดย: poongie 15 กุมภาพันธ์ 2553 20:09:14 น.  

 

สวัสดีครับคุณจิน.....

โห....อิจฉาตาร้อนผ่าว....ได้ไปแอ่วแหมแหล่ะ...เดี๋ยวรอหื้อว่างก่อน ฮิฮิฮิ...จะแอ่วหื้อคุณจินอิจฉาไปเลยครับ.....ฮะฮะฮะ...แต่คงอีกนาน เพราะปีนี้วางโปรเจ็คงานไว้ซะเยอะเลยครับ ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง...แฮ่ๆๆๆๆๆ....

ภาพสวยมากครับ ชอบจัง ถ่ายถอดออกมาได้อารมณ์มากๆ เลยครับ อย่างกับไปเที่ยวด้วยแน่ะครับ....เรื่องราวก็ดี น่าอ่าน น่าติดตามครับ....ปลื้มนะเนี่ย.....

จากที่คุณจินไปเม้นท์ไว...อ่านจบก็....สาธุ...ขอหื้อสมพรปากคุณจินทีเถอะ.....เพี้ยง......

ขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจที่มีให้กันมาโดยตลอดครับ...

ยิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน...ดีจั๊ดนักครับ

 

โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย 15 กุมภาพันธ์ 2553 20:20:08 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวเมืองกาญจนฯด้วยคนครับ

เห็ภาพบรรยากาศแล้วก็อยากจะไปบ้างจังเลย ได้ไปทั้งวัดไทยและวัดจีนเลย

วันที่อยู่บนเขา ที่นั่งรถรางขึ้นไป ผมคุ้น ๆ เหมือนกับเคยชมจากในรายการโทรทัศน์เลยครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 15 กุมภาพันธ์ 2553 21:41:09 น.  

 

สวัสดียามดึกค่ะ พี่จิน ภาพถ่ายสวยแล้วก็เล่าเรื่องดีค่ะ เห็นแล้วอยากไปเยี่ยมเยียนเมืองกาญจังเลย ใกล้แค่นี้จำได้ว่าไปตอนเด็กค่ะ (นานแล้ว) กับที่บ้าน ที่บ้านดันลืมกล้องกัน สมัยนั้นยังไม่มีกล้องดิจิตอล 555+ เลยไม่ได้ถ่ายอะไรมาก
เกี๊ยวน่าทานมากค่ะ แต่กบไม่กล้าอ่ะค่ะ อิอิ แต่เห็นคนรอบข้างลองกินติดใจกันใหญ่ (สงสัยคงอร่อยจริงๆ แต่รุ้งไม่กล้าค่ะ)
รุ้งชอบวัดที่ต้องนั่งรถรางขึ้นไปมากๆ แต่พี่จินเก่งและแข็งแรงมากค่ะ เดินไหวด้วย เป็นรุ้งถอดใจกลางทางแน่
เลย
รีวิวนี้ตั้งแต่กรกฎาใช่ไหมคะ จำได้ว่าตอนนั้นรุ้งไปภูเก็ต ตอนแรกเตรียมใจเรื่องฝนเลย แต่ไปปรากฎว่าแดดออกแรงสุดๆตลอดทริปเลยค่ะ แต่คนที่บ้านบอกกรุงเทพฝนตกน่าดู
คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า 16 กุมภาพันธ์ 2553 0:27:26 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ขอให้กิจการที่ขายดีอยู่แล้วขายดีๆยิ่งขึ้นไปนะคะ อยากทานติ่มซำจังเลย
ย้อนหลังนะคะพี่จิน

 

โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า 16 กุมภาพันธ์ 2553 0:34:39 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
อันนี้ก็ย้อนหลังเช่นกันค่ะ ขอให้ครอบครัวพี่จินมีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า 16 กุมภาพันธ์ 2553 0:36:37 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่จิน






 

โดย: กะว่าก๋า 16 กุมภาพันธ์ 2553 7:47:19 น.  

 



อรุณสวัสดิ์จ้า แม่จิน

เค้านำของว่างยามเช้ามาเสิร์ฟจร้า
มีความสุขสดชื่นทั้งวันนะจ้ะ

อ้อ..บล๊อคหวานๆของเราที่กุยบุรี
คลอดตอนหนึ่งแล้วเน้อ
ว่างแล้วตามไปเที่ยวด้วยกันน๊า

มิส.มิสจร้า

 

โดย: nLatte 16 กุมภาพันธ์ 2553 8:08:06 น.  

 

ว้าว หลายภาพสวยขนาดลงเต็มความกว้างได้เลยนะครับ
เสียดายจับไปย่อ ๆ รวมกันแล้ว
เที่ยวละไมแบบละเอียดเหลือเกินครับ อย่างนี้เรียกได้เลยว่าเที่ยวซอกแซกนะครับ ทำให้คนอ่านก็ได้รู้จักที่ใหม่ ๆ เพิ่ม อย่างเช่น อุโบสถสถาปัตยกรรมจีนนั่น แทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าตั้งอยู่ในไทย เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกในบล๊อคนี้เลย

รอคอยตอนต่อ ๆ ไปนะคร๊าบ คลอดแล้วบอกด้วยน๊า ^ ^

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 16 กุมภาพันธ์ 2553 9:35:11 น.  

 

ก๊อก ก๊อก แม่จินจ๋า

ว่าแต่ที่ตะเองจะไปเที่ยวหลวงพระบางอ่ะ
คุณซะมีไม่ได้ไปด้วย
แล้วไปกับใครอ่า

หวังว่าคงไม่ได้ไปคนเดียวน๊า
เดี๊ยวเหงาแย่ เป็นห่วงแทน 555
เค้าว่าตะเองคงไปกับเพื่อนสาวแน่ๆเลย
ชิมิ ชิมิ ...????

งั้นจะรอชมทริปหลวงพระบางอยู่ทางนี้น๊า
อย่าลืมใส่บาตรแบ่งบุญมาเผื่อเค้าบ้างล่ะ คริคริ

HappY DaY ja !!

 

โดย: nLatte 16 กุมภาพันธ์ 2553 10:13:57 น.  

 

ว๊าวว... สานฝันนักเขียนได้สบายเลยเจ้า..
แวะมาเป๋นกำลังใจ๋ฮื้อนักเขียนมือใหม่ แต่ภาษาบ่าได้
น้อยหน้าคนอื่นเลยเด้อ .. เก่งๆเจ้า ปรบมือฮื้อ ..

กำลังหิวเลยอ่ะ เห็นผัดไทยเกี๊ยวกรอบแล้ว โอ้ย..ไขอยากกิ๋นอ่ะ

ขากบ ยังกะขาไก่ทอดแต้ๆเลยเนอะตั๋วเอง 555

บ่าเกยกิ๋นกบทอดซักเตื่อ..
แอ่วเก่งแต้ๆบ้านนี้อ่ะ .. ว่าแต่ดีเนอะ ..ตั๋วเองจะได้
ไปแอ่ว(แบบตี่บ่าต้องมีลูกกะส้ามีไปตวย)
เปิ้นบ่าเกยไปแบบนั้นเลยอ่ะ อาจจะเพราะว่า ลูกยังน้อยอยู่
แล้วแหมอย่าง ..สามีก็ออกแนวประมาณว่า..
ไปไหนต้องไปตวยกั๋นจะอั้นอ่ะ ..
บางทีก็ก่ายเหมือนกันหนา ..เหอๆ
อยากแบบว่า.. อิสระๆผ่องอ่ะ ฮือๆๆ ..


โม้นัก ..หิวแระ ..ไปกิ๋นข้าวก่อนเน้อตั๋วเอง


 

โดย: Nongpurch 16 กุมภาพันธ์ 2553 11:46:32 น.  

 

หวัดดีครับคุณจิน.....

มาช้าไปวันหนึ่งนะ คงไม่ว่ากัน
อิจฉาที่ได้มาเมืองกาญจน์ก่อน
เราวางแผนไว้เหมือนกัน
อาจจะปลายปี หรือกลางปี.......
ตัวเองไม่ค่อยได้มา
แต่คนข้างกายมาบ่อย....

แต่เห็นภาพที่ไปแต่ลหะแห่งน่าไปมาก
ที่แปลกอีกที่หนึ่งคือ "หอฟ้า"
ที่สร้างเลียนแบบ หอฟ้าเทียนถาน ในปักกิ่ง...

บริเวณแพที่พัก
บรรยากาศยอกเยี่ยมเลยครับ
ชอบแบบนนั้นล่ะ....เข้ากับเมืองกาญจน์ดี

ขอบคุณที่เอามาให้ชมครับ
มีความสุขมากมายในวันดีๆแบบนี้ครับ

 

โดย: wicsir 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:00:18 น.  

 

ขอบคุณสำหรับทุกเมนต์ที่น่ารักและแยบยลมากๆจ้ะน้องจิน

มาทักทายแค่นี้ก่อนนะ

เด๋วมีประชุม

 

โดย: นักล่าน้ำตก 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:11:47 น.  

 

เวลานั่งในบัสแล้วพระอาจารย์ท่านสอนเรื่องสวรรค์นรก
ผมไม่ค่อยฟังหรอกครับ 555

เป็นเด็กเกเรครับ

เพราะอะไรที่ผมไม่เชื่อ
ผมก็ไม่ค่อยฟังครับ แหะๆๆๆ

ผมเชื่อเรื่องกรรมมากกว่าครับ

ปล. ตอนนี้หมิงหมิงหม่ำเก่งมากเลยล่ะครับพี่

 

โดย: กะว่าก๋า 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:12:11 น.  

 

สวัสดียามบ่ายค่ะ..พี่จิน

ตอนนี้กลับเข้าสู่โหมดปกติแล้วค่ะ
กว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจก็เล่นเอาเกือบปางตายเหมือนกัน
ไม่ได้หลับไม่ได้นอนไป 6 วัน 5 คืน

ไม่ได้ไปเที่ยวเมืองกาญจน์ตั้งนานแล้วอ่ะ
เห็นแบบนี้แล้วอยากไปจังเลย
ไปไหว้พระ ไปเล่นน้ำตกเนอะ...

 

โดย: chenyuye 16 กุมภาพันธ์ 2553 14:55:00 น.  

 

เกี๊ยวกรอบผัดไทย น่าทานมั่กๆๆๆ เห็นแล้วหิวค่ะ
เจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท งดงามมากๆเช่นกัน

 

โดย: แม่ส้มแป้น 16 กุมภาพันธ์ 2553 14:59:13 น.  

 

เหมือนไก่ทอดเลยค่ะ น่าอร่อยจัง

 

โดย: blog pu 16 กุมภาพันธ์ 2553 16:44:15 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำค่ะ
มาชวนไปสวดมนต์
แบบเพราะมาก มาก ไม่ฟังไม่ได้แล้ว


 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 16 กุมภาพันธ์ 2553 19:30:09 น.  

 

สวัสดครับคุณจิน....
อ๊ากส์.............อิจฉา ตาร้อนผ่าวๆ อีกแล้ว....เอิ๊กๆๆๆ ทริปนี้ไปถึงหลวงพระบางเลย สุดยอดครับ เจ๋งสุดๆ ไง ขออวยพรล่วงหน้าให้ปลอดภัย สนุก สะดวก ตลอดทริปนะครับ แล้วจะรอชมภาพสวยๆ และเรื่องเล่าของนักเขียนสมัครเล่นแต่ เป็นแต๊ เป็นว่า อี๊ว่ะ....เอิ๊กๆๆๆ...

งานนี้ตาเต้ยอยู่โยงเฝ้าร้านเหรอครับ อิอิอิ ดีๆ เดี๋ยวจะได้ชวนไปแอ่วตามประสาชายๆ บ้าง เอิ๊กๆๆๆ...อ่ะ...ล้อเล่น อาจจะเข้ามานั่งเม้าทส์ด้วย ถ้าไม่ติดอะไร เอ็นดูคนเฒ่าเฝ้าฮ้านกะลูกบ่าวน่ะครับ....ฮิ๊วววววว......

บอกตายเต้ยให้ฟิตร่างกายไว้หนา เพราะเดี๋ยวต้นเมษา ที่ชมรมเปิ้นจะขับมอไซค์ไปส่งผมกลับบ้านที่ประจวบฯ น่ะครับ เอาไว้เดี๋ยวกำหนดการออก ชักดจนเมื่อได จะแจ้งหื้อทราบแหมกำครับ...

วันตี้ซาวแปด ตรงวันเกิดผมพอดีเลยนะ วันเกิดปีนี้เป็นวันโคตรมหามงคลเลย เพราะตรงกับวันมาฆะบูชาพอดี เจ๋งเนอะ...ผมก็เลยวางแผนไว้ว่า เสาร์ติ๊ดก็เลี้ยงข้าวกลางวันเด็กๆ และครูๆ ตี้โฮงเฮียน แล้วเย็นวันติ๊ดก็ไปวัดร่ำเปิง สวดมนต์ เวียนเทียน นั่งสมาธิ ครับ จะได้เป็นมงคลกับชีวิตเนอะ...หันหน้าเข้าวัดติกๆ เลยผมอ่ะ....เอิ๊กๆๆๆๆ....

ขอบคุณจั๊ดนักเจ้นเดียวกันครับ สำหรับกำลังใจ

 

โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย 16 กุมภาพันธ์ 2553 20:37:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณจิน

เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ
ภาพสวย ไกด์ก็บรรยายได้น่าติดตาม
โดยเฉพาะ เกี๊ยวกรอบผัดไทย

วันนี้ไปทำบุญ ปิดทองลูกนิมิตร เอาบุญมาฝากนะคะ

 

โดย: พ่อระนาด 16 กุมภาพันธ์ 2553 21:06:12 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับจิน

ประโยคนี้โดนใจครับ

.
.


รู้มากรู้น้อยแค่ไหนไม่สำคัญ
สำคัญที่ว่าปฏิบัติมาก ปฏิบัติน้อย
และลงมือปฏิบัติรึยังต่างหาก


.
.








 

โดย: กะว่าก๋า 17 กุมภาพันธ์ 2553 3:44:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


JinnyTent
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป
& บันทึกเรื่องราว เล่าสู่กันฟัง ^^

ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนพี่น้อง Blog Gang
& ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันค่ะ :-D

Jin
09.9.09
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
15 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add JinnyTent's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.