มรดกโลก มรดกลูกหลานไทย @ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย & อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย


มรดกโลก มรดกลูกหลานไทย :
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย



การได้ท่องเที่ยวทั่วไปตามใจฉัน เป็นความฝันที่ใคร ๆ ก็อยากจะทำ ทุกครั้งที่ลองสำรวจใจตัวเองว่าอยากไปที่ไหนมากที่สุด

หลายต่อหลายครั้งที่ให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ใจคิดขวนขวายอยากจะเที่ยวท่องโลกอยู่ตลอดเวลา




วันนี้เลยต้องมาตีวงให้คำตอบตัวเองใหม่ มีอะไรใน 17จังหวัดภาคเหนือ บทสนทนากับพี่นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง จุดประกายความคิดท่ามกลางความสับสน

"..ในต่างประเทศ เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกนั้นจะถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกทั้งเมือง แต่ประเทศไทยเรานี่ได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเพียงแค่บริเวณเดียว ไม่ใช่ทั้งเมือง บริเวณที่ว่าก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย.."


ปิ๊ง!! ไอเดียบรรเจิด เสี้ยวหนึ่งของบทสนทนาในวันนั้น กลายเป็นที่มาของ ทริปย้อนรอยเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยในวันนี้...



ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข หรือที่เรารู้จักกันในนาม "สุโขทัย" นั้น ในอดีตเคยเป็นราชธานีของไทยที่มีความเจริญรุ่งเรืองสุดขีด เป็นศูนย์กลางการปกครองศาสนา และเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่




โดยการปกครองของราชวงค์พระร่วงมี "พ่อขุนศรีอินทราทิตย์" เป็นปฐมกษัตริย์ ทรงครองราชย์ตลอดระยะเวลา 120 ปี ในราชวงศ์สุโขทัยนั้น มีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์

แต่ที่เรารู้จักกันดีตั้งแต่เริ่มเรียนประวัติศาสตร์ของไทยช่วงวัยประถม นั่นก็คือ "พ่อขุนรามคำแหง" กษัตริย์ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยเป็นคนแรก นั่นเอง++



..เริ่มต้นวันแรกด้วยเมืองคู่แฝดแห่งสยามผู้น้อง "อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย" ตั้งอยู่บริเวณแก่งหลวง หรือเมืองเชลียงในอดีต

นาทีแรกพบสบตา รู้สึกบอกไม่ถูก ฉันถูกต้อนรับด้วยบรรยากาศทึม ๆ เงียบเหงาและวังเวง อุทยานที่เห็นอยู่เบื้องหน้าในเวลานี้ แทบไร้ร้างผู้คนแวะมาดื่มด่ำกับการย้อนรอยในอดีต



นักท่องเที่ยวเบาบางแทบนับหัวได้ มีวัยรุ่นแรงดีไม่มีตกอยู่สองสามคนปั่นจักรยานละเลียดชม ฉันได้แต่ปลอบใจตัวเองเงียบ ๆ



เอาน่า.. ไหนก็ตั้งใจมาถึงแล้ว มาศึกษากันหน่อยว่าในอดีตนั่น บรรพชนเค้ากิน เค้าอยู่กันยังไง..



"วัดเจดีย์เจ็ดแถว" จากหนังสือแนะนำบอกว่า เดิมเป็นวัดที่มีศิลปะแบบสุโขทัยแท้ เป็นศิลปะแบบศรีวิชัยผสมสุโขทัยอยู่ มีเจดีย์ต่างแบบกันมากมาย และมีเจดีย์องค์ประธานเป็นรูปดอกบัวตูมอยู่ด้านหลังพระวิหาร มีกำแพงแก้วล้อมรอบ



ปัจจุบันเห็นแต่กำแพงศิลาแลงฉาบปูนให้เห็นกันเท่านั้น นี่ถ้าไม่มีแบบโครงร่างจำลองให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาแล้ว คงยากที่คนจะจินตนาการออก และไม่มีทางรู้เลยว่าในอดีตนั้น วิจิตรตระการตาขนาดไหน



เพราะพระวิหารข้างหน้าฉันเหลือเพียงโครงเสา แท่นหินศิลาแลง ที่ผ่านการบูรณะ ทะนุถนอมไม่ให้มันชำรุดไปตามกาลเวลาเท่านั้นเอง




"วัดช้างล้อม" เป็นอีกวัดใกล้ ๆ ที่ถูกเลือกให้เดินชม นอกนั้นจะขับรถวนเพราะทนแสงแผดเผาจากเจ้าดวงตะวันที่เล่นเอาปวดแสบปวดร้อนผิวอย่างไม่เกรงใจ


วัดช้างล้อมเป็นโบราณสถานที่มีเจดีย์ประธานเป็นทรงลังกา จุดเด่นคือ มีฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นยืนหันหลังชนผนังเจดีย์โดยรอบ 99 เชือก ลักษณะยืนเต็มตัวออกจากผนัง มีขนาดสูงใหญ่กว่าช้างจริง



เป็นอีกวัดหนึ่งที่ดูโดดเด่นจากจุดทางเข้า จะอยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับวัดเจดีย์เจ็ดแถว มีอาณาบริเวณวัดกว้างขวาง มีทางเดินปูด้วยหินศิลาแลงจากขอบกำแพงวัดจนถึงตัวพระวิหาร ดูแล้วมีมนต์ขลังยังไงไม่รู้



วันที่สองถึงคิวแฝดสยามผู้พี่ "อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" หรือเมืองเก่าสุโขทัย ได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองมรดกโลกเมื่อเดือนธันวาคม 2534 มีสถานที่สำคัญมากมาย



ภายในอุทยานมีทั้ง พระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน กำแพงเมือง คูเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นชั้น ๆ



สามารถเลือกชมได้ทางรถยนต์ รถจักรยาน และรถมินิโค้ชพร้อมเจ้าหน้าที่คอยบริการบรรยายพิเศษในแต่จุด



วัดที่ถูกเลือกให้เป็นเป้าหมายแรก วันที่สองของการเดินทางในครั้งนี้ คือ วัดมหาธาตุ เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นวัดใหญ่และสำคัญของกรุงสุโขทัย



มีแท่นซึ่งเคยประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ซึ่งปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์ กรุงเทพมหานคร




ในบริเวณวัดมีพระพุทธรูปบางองค์ค่อนข้างสมบูรณ์เนื่องจากผ่านการบูรณะมาอย่างพิถีพิถัน มีทางเดินวนชมในวัดอย่างสวยงาม สงบ เหมือนจะร้อนแต่ไม่ร้อน ทั้งที่เจ้าดวงตะวันทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มพิกัด



อดคิดเหมาในใจเอาเองว่า ขึ้นชื่อว่าวัด อันเป็นสถานที่ดับร้อน เย็นสบาย ใครร้อนรน ร้อนรุ่ม ร้อนใจ เป็นต้องเข้าวัดดับร้อน นี่ขนาดเหลือแต่ซากโบราณสถานยังร่มเย็นขนาดนี้



“วัดศรีชุม” เป็นอีกวัดที่ถูกเลือกเยี่ยมชม ด้วยเหตุรูปพระประธานองค์ใหญ่ พระที่อยู่บนหน้าปกโปรชัวส์แนะนำก่อนเข้าชม



สวยงามจริง ๆ คะ องค์ประธานเป็นพระอัจนะ รูปปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หน้าตักกว่า 11.30 เมตร ในอดีตเล่าลือกันว่าเป็นวัดที่มีพระวิหารที่เร้นลับซ่อนอยู่





..จากสายตาฉันหากมาอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ถ้าไม่ได้ชมวัดศรีชุม เหมือนกับมาไม่ถึงอย่างไงอย่างนั้น++..




อาจเป็นเพราะอากาศร้อนหรือมึนประวัติศาสตร์ก็ไม่ทราบ ทำให้หมดเรี่ยวแรงที่จะเก็บภาพความประทับใจที่ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ" หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า วัดพระปรางค์ เพราะมีปรางค์ประธาน ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูนรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา



ด้านหน้าองค์ปรางค์ มีวิหารภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย และทางด้านขวามีพระพุทธรูปปูนปั้น "ปางลีลา" ลักษณะอ่อนช้อยงดงาม ใครเห็นแล้วต้องร้องอ๋อทันที

ก็องค์พระรูปปั้นรูปนี้เอง ที่มีภาพวาดให้เห็นตามร้านขายของที่ระลึก และมีแทบทุกร้านเลยก็ว่าได้ สวยจริง ๆ ค่ะ




จะว่าไปหากเทียบความยิ่งใหญ่ระหว่าง "อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" กับ "อุทยาประวัติศาสตร์ศรีสัชชนาลัย" ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแฝดแห่งสยามแล้ว

เปรียบเสมือน บ้านพี่เมืองน้องแห่งล้านนา เชียงใหม่-ลำพูน นั่นเอง สุโขทัยเปรียบเสมือนผู้พี่ ศรีสัชนาลัยเปรียบเสมือนผู้น้อง ต่างก็มีราชวงศ์พระร่วงปกครองอยู่เช่นกัน




เท่าที่รัศมีของสายตาจะสอดส่ายเก็บภาพซากปรักหักพัง ส่งคลื่นสู่สมองประมวลภาพและเรื่องราวในอดีตว่าจะรุ่งเรืองขนาดไหน



ในฐานะลูกหลานไทย และพุทธศาสนนิกชนคนหนึ่ง ได้มาเห็นร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของพุทธสถาน ความยิ่งใหญ่ของพลังศรัทธาพระพุทธศาสนาในสมัยสุโขทัยแล้ว



รู้สึกหดหู่และแสนจะเสียดายไม่ได้ ที่ต้องมาล่มสลายไปซะก่อน ทุกภาพที่เห็นและสัมผัส ทุกโบราณสถานและวัตถุที่ก่อสร้างด้วยศิลาแลงฉาบปูน




อดคิดสะท้อนใจไม่ได้ว่า นี่ขนาดเหลือเพียงซากปรักหักพังที่ผ่านการบูรณะให้คงอยู่เป็นอนุสรณ์ให้ลูกให้หลานได้ศึกษากันแล้ว ยังทำเอาใจระทึกได้ขนาดนี้ ในอดีตจะยิ่งใหญ่เกรียงไกรเพียงไหนกันนะ




..ฉันจำใจจากดินแดนที่ยังคงทิ้งร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตให้เห็นลางเลือน ถอนหายใจด้วยใจสะท้อน ทำเอาอกสะเทือนหลายระลอกเลยทีเดียว..










Create Date : 21 กันยายน 2552
Last Update : 22 กันยายน 2552 21:32:43 น. 8 comments
Counter : 3772 Pageviews.

 
ถ่ายรูปสวย
เอาไว้จะมาแวะเยี่ยมอีกน่ะค่ะ
ครอบครัวน่ารักจัง


โดย: toommeang_ju วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:14:23:25 น.  

 
สักวันต้องไปอีกให้ได้.. สุโขทัยเนี่ย..

ครั้งก่อน.. ไม่จุใจเลย.. เพราะไปกะคุณตา + หลานชาย.. เดินไม่ทน..ทั้งคู่..


โดย: poongie วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:19:43:05 น.  

 
สวัสดีครับ....

พอดียังอยู่ที่คอม เห็นที่เม้นท์ไว้น่าสนใจมาก

ผมก็ใช้จิตนาการแบบนั้นแหละครับ สร้างฝันไปเรื่อย ฝัน ฝัน แล้วก็ได้ไป...

มันเป็นความจริงที่ถ้าเรา สร้างฝัน แล้วซักวันหนึ่งเราจะได้ในสิ่งนั้น...

ขอเพียงฝันนั้นต้องแรงกล้า...

.สุโขทัยนี่ก็เหมือนกัน สมัยอยู่แถวๆนั้น
ทุกครั้งที่มีเวลาเราก็จะชวนกันไป
ไปไหว้พระ หรือเดินเที่ยว ทำให้เราคิดถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเราในอดีต
มันเป็นปลื้มน่ะ....

Nice day na krub.


โดย: wicsir วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:8:47:14 น.  

 
ส่งดอกชบาที่วิลล่าเขาแผงม้ามาแทนคำขอบคุณที่ไปพักผ่อนด้วยกันค่ะ...



หนึ่งยังไม่เคยไปสุโขทัยเลยค่ะ
ดูแค่นี้ยังเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตเลยนะเนี้ย
ต้องหาโอกาสไปให้ได้ค่ะ..


โดย: chenyuye วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:12:33:55 น.  

 
สวยจังเลยค่ะ
น่าไปเที่ยวชมดูซักครั้ง


โดย: nikanda วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:20:13:23 น.  

 
มาเยี่ยมเช่นกันค่ะ ฝีมือต่างกันเลยกับบล๊อคเรา แบบนี้มือใหม่ไม่หัดแต่งล่ะมั๊ง


โดย: momnic วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:13:51:59 น.  

 
รูปสวยจัง


โดย: arunee_tum วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:14:04:04 น.  

 
อยากไปสักครั้ง


โดย: พระจันทร์สัญจร วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:23:52:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JinnyTent
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป
& บันทึกเรื่องราว เล่าสู่กันฟัง ^^

ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนพี่น้อง Blog Gang
& ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันค่ะ :-D

Jin
09.9.09
Group Blog
 
 
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add JinnyTent's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.