"ชมพู่" บ่นซวยเผยเพื่อนแขวะ "ออย" สาบานไม่ได้ทำเอง ''ชมพู่'' แถลงข่าวขอโทษ ''ออย-ศรุตา'' พร้อมรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด รับเป็นแอคเคาต์ทวิตเตอร์ของตนเองจริง แต่ตนเองไม่ได้เป็นคนโพสต์ แจงไม่เคยโพสต์ข้อความเป็นภาษาไทย เผยหากคู่กรณีฟ้องร้องมาก็ยอมรับความซวยที่เกิดขึ้นกับชีวิตตน พร้อมสาบานสิ่งที่พูดมาเป็นเรื่องจริง รับ ''น็อต'' ให้กำลังใจและอยู่ข้างๆ ตลอด กลายเป็นข่าวครึกโครมเลยทีเดียวเมื่อจู่ๆ มีกระแสว่านางเอกสาว ''ชมพู่'' อารยา เอ ฮาร์เก็ต ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ที่ใช้แอคเคาต์ว่า ChompooAraya ว่า ''อยากหน้าเหมือน ''ออย-ศรุตา'' ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้มีข้อพิพาทกันเรื่องไฮโซหนุ่ม ''น็อต-วิศรุต'' แต่หลายคนต่างก็คิดว่าศึกน้ำลายดังกล่าวได้จบลงไปแล้ว ซึ่งข้อความจากทวิตเตอร์ของนางเอกสาวเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก จนหลายคนมองว่านางเอกสาว ''ชมพู่'' เป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวเองหรือเปล่าและเพราะอะไรถึงโพสต์อย่างนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 29 ส.ค. 54 นางเอกสาว ''ชมพู่'' อารยา เอ ฮาร์เก็ต ได้เดินทางออกมาแถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่บริษัทบลูริบบ้อน ปิ่นเกล้า ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งก่อนที่จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามนั้น ''ชมพู่'' ก็ได้ขอโอกาสที่จะพูดระบายในส่วนของตนเองก่อนอีกด้วย ''ก็เครียดค่ะ...เครียด ไม่รู้ว่าจะบรรยายว่ายังไงนะ งั้นขออนุญาตเท้าความก่อนก็แล้วกันนะคะ คือชมทราบเรื่องน่าจะพร้อมๆ ที่สื่อทราบกันคือเมื่อวานนี้เวลาประมาณเที่ยงๆ น่ะค่ะ ก็ได้รับคำชี้แจงจาก ผจก.ว่ามีการโพสต์ข้อความโดยที่ใช้แอคเคาต์ของชมตามที่เป็นข่าวน่ะค่ะ เอ่อ...(เงียบไปสักพัก) คือมันเป็นเรื่องที่ชมก็ลำบากที่จะพูดนะค่ะ เพราะมันเหมือนเป็นการแก้ตัวที่ฟังยังไงก็ไม่ขึ้นนะคะ แต่ก็ถือโอกาสชี้แจงก็แล้วกันนะคะ คือปกติเนี่ยชมเพิ่งจะเล่นทวิตเตอร์เมื่อตอนละครเรื่องดอกส้มสีทองเอง คือก่อนหน้านี้ชมมีแอคเคาต์ทวิตเตอร์ที่น้องๆ แฟนคลับทำให้ ไม่ได้ทวีตเอง จนมาช่วงดอกส้มฯ เราก็อยากจะใกล้ชิดกับแฟนๆ มากขึ้นก็เลยตัดสินใจว่าจะเล่น แต่ช่วงที่เล่นก็เล่นเอง ตัวผจก.ชมก็มีล็อกอินเพื่อที่จะทวีตหรืออัพโหลดรูปตอนที่ชมไปงานได้ นี่ก็คือที่มาที่ไปว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ทีนี้มันคงเป็นการละเล่นอะไรสักอย่างนึงของแก๊งในกลุ่มของเค้าที่ชอบแกล้งเปลี่ยนสเตตัสกัน ไม่ว่าจะทางบีบี เฟซบุ๊ก คือในวันที่เกิดเหตุเนี่ยเค้าก็แกล้งกัน แล้วก็ไปโพสต์ในทวิตเตอร์ด้วย โดยใช้โทรศัพท์ของผจก.โดยที่เค้าก็ไม่ทราบว่าล็อกอินอันนั้นคือล็อกอินของชมอยู่น่ะค่ะ เท่าที่ชมทราบเหตุก็เกิดขึ้นช่วงใกล้สว่างแล้ว แล้วเหมือนเค้ามารู้ตัวอีกทีของสายๆ วันเสาร์เค้าก็ลบออก แต่ก็เข้าใจว่าคนฟอลโล่เราก็มีประมาณนึง แล้วพี่ๆ สื่อบางท่านก็ฟอลโล่แล้วก็ก๊อปปี้หน้านั้นไว้ได้ก็เลยเป็นที่มาที่ไปของเรื่อง วันนี้ก็เลยรบกวนพี่ๆ ทุกคนออกมาก็คือ จริงๆ ก็เกรงใจน่ะค่ะเพราะเราจะเจอกันวันที่ 1 นี้ แต่ชมก็ค่อนข้างที่จะร้อนใจมาก คือพูดตรงๆ ว่ากวนใจ แล้วมันก็กระทบเววลาชมทำงาน ชมไม่มีสมาธิแล้วชมก็นอนไม่ได้ ชมก็เลยคิดว่าวันนี้อยากจะจัดการให้มันเรียบร้อย เลยขอโอกาสทุกคนชี้แจง ซึ่งจุดประสงค์หลักๆ ที่อยากออกมาพูดคืออยากจะชี้แจงว่าสถาการณ์มันเป็นอย่างนี้น่ะค่ะ ส่วน 2 คืออยากจะแสดงความรับผิดชอบเท่าที่จะทำได้น่ะค่ะ สำหรับบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงสำหรับคู่กรณีก็อยากจะฝากชี้แจงว่าไม่มีเจตนาและชมก็ไม่ได้ทำนะคะ คือด้วยความเคารพใครจะมีดุลยพินิจยังไงก็แล้วแต่ ใครจะตัดสินชมยังไงก็แล้วแต่ชมเคารพการตัดสินใจของทุกคน แต่ชมขอชี้แจงอย่งนี้ว่าชมไม่ได้ทำนะคะ ณ วันที่เราบอกว่าจบก็คือจบจริงๆ ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นน่ะค่ะ ก็ในฐานะที่มันเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นทวิตเตอร์ของชมจริงๆ แล้วก็ชมถือว่าชมสะเพร่าและเลิ่นเล่อที่สามารถให้คนอื่นเข้าแอคเคาต์ของชมได้ ชมก็อยากจะขอโทษนะคะเพราะชมก็เข้าใจว่าข้อความที่โพสต์ลงไป ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งก็คงกระทบจิตใจคนที่ถูกกล่าวถึงไม่มากก็น้อย ก็ยังยืนยันว่าอยากจะจบจริงๆ ไม่ได้อยากจะก่อกวนหรือว่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือว่าก่อเรื่องขึ้นมาอื่น ก็อยากจะบอกประมาณนี้ จะพูดยังไงล่ะ...ชมรู้ว่าสถานการณ์อะไรหลายๆ อย่างมันก็มีข่าวที่ค่อนข้างจะร้อนประมาณนึง แล้วมันก็มีมูลเหตุจูงใจที่จะทำให้หลายๆ คนคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงได้ ซึ่งชมก็เคารพในการตัดสินของทุกคน แต่ไม่มีใครอยากถูกตัดสินหรอกค่ะถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง ก็อยากจะบอกว่าหนึ่งเลยที่อยากจะชี้แจงนะคะ สำหรับทวิตเตอร์เนี่ย ชมไม่เคยทวีตภาษาไทยน่ะค่ะ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นภาษาไทย คือชมไม่ได้ดัดจริตหรือว่าอะไรนะคะ แต่ว่าชมพิมพ์ไม่ทันและไม่ค่อยถนัด เพราะฉะนั้นน้องๆ ที่ฟอลโล่เป็นประจำก็จะรู้ว่าชมไม่เคยทวีตภาษาไทย 2.ก่อนหน้านี้ชมก็ไม่ได้เคยทวีตมานานมากแล้วค่ะ คือเป็นคนไม่ค่อยขยันทวีตเท่าไร ถ้าย้อนกลับไปดูก็คงเป็นเดือนๆ ค่ะ 3.ความตั้งใจของชมที่มีทวิตเตอร์ขึ้นมาเพื่อทวีตกับแฟนๆ ไม่ได้ตั้งใจทวีตใช้คุยเรื่องส่วนตัวหรือใช้คุยเรื่องที่ระบายอารมณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ และสุดท้ายที่อยากจะบอกคือชมเชื่อว่าที่ผ่านมาใครที่ได้ติดตามฟังหรือพี่ๆ ที่เคยคุยกับชม ชมก็เป็นคนระวังตัวนะคะ ออกสื่อทุกครั้งชมก็ทำการบ้านและหลีกเลี่ยงที่จะพาดพิงถึงใครมากที่สุดเพราะฉะนั้นการกระทำนี้มันไม่ใช่ชมเลยค่ะ แต่ก็ขอชี้แจงตามนี้ ท้ายที่สุดแล้วจะโดนตัดสินยังไงก็ต้องยอมรับผิด'' ต่อข้อซักถามจากผู้สื่อข่าวว่ามีโทร.ไปคุยเคลียร์กับคู่กรณีอย่าง ''ออย-ศรุตา'' หรือเปล่า นางเอกสาว ''ชมพู่'' ก็ยอมรับว่าเคยคิดบ้างว่าจะโทร.ไป แต่คิดว่าทวีตขอโทษและขอโทษผ่านสื่อก็น่าจะสมศักดิ์ศรีแล้ว ''อืม...จริงๆ ตอนแรกก็คิดนะคะ ก็มีปรึกษากับคนใกล้ชิด เมื่อวานพอตั้งหลักได้ก็ทวีตก่อนเลยว่าขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วก็ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นเรา ส่วนหลังจากนั้นชมก็คิดว่าขอโทษผ่านสื่อก็น่าจะสมศักดิ์ศรีค่ะ คือมันก็ต้องรับผิดชอบนะคะเพราะมันเป็นแอคเคาต์ชมจริงๆ นะคะ แล้วก็มันก็เกิดขึ้นโดยคนที่ชมก็รู้ว่าเป็นใครนะคะ เราก็รู้ที่มาที่ไปและชมก็มีคำอธิบายให้ทุกอย่าง ชมทำอะไรไม่ได้นอกจากบอกความจริงทั้งหมด จะให้ชมอธิบายกี่ครั้งชมก็พูดตามนี้ค่ะ'' ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าได้เคลียร์กับเพื่อนในกลุ่มที่เป็นคนทวีตข้อความดังกล่าวหรือยัง นางเอกสาวก็ได้กล่าวว่าเพื่อนตนเองโทร.มาขอโทษแต่ตนเองยังไม่พร้อมที่จะคุยและยอมรับว่าโกรธมากถึงขนาดคนใกล้ตัวตอนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้ ''คือก็เป็นคนรู้จักค่ะ ก็เป็นแก๊งเพื่อนกันทั้งนั้น เมื่อวานตอนเย็นเค้าก็โทร.มาหาชม เค้าก็ขอโทษค่ะ แล้วเค้าก็ชี้แจงว่าเค้าได้พยายามทำอะไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่มันมีขึ้น คือพูดตรงๆ ชมก็ไม่พร้อมที่จะคุยมากเท่าไร คือชมเข้าใจและรู้ค่ะว่าไม่มีใครเจตนาอยากให้มันเกิดขึ้น เพระาว่าคนที่ทำก็เป็นเพื่อนๆ คนที่เรารักกันทั้งนั้น ถ้าถามว่าชมโกรธไหม ชมยอมรับนะว่าชมโกรธค่ะ...พูดตรงๆ คือตอนนี้คนใกล้ตัวไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ชม'' เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อไปยังไง นางเอกสาว ''ชมพู่'' ก็ได้เปิดเผยว่ต่อไปตนเองคงเปลี่ยนพาสเวิร์สทวิตเตอร์ให้เป็นส่วนตัวของตนเองเพียงคนเดียวเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ''คือเราก็ต้องคุยกันเองภายในแล้วค่ะ รวมถึงผจก.ชมด้วย เราคงต้องคุยว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แล้วก็เกิดความเสียหายและกระทบชมมาก เราคงต้องคุยกัน แต่พูดตรงๆ ว่าวันนี้ชมยังไม่คุย เมื่อวานตอนแรกโมโหมากกะจะปิดแอคเคาต์เลย เหมือนสติยังไม่มา แต่มันก็ไม่ใช่ทางออกนะ ก็คิดว่าคงไม่ให้ใครเล่นแทนแล้วค่ะ คงเปลี่ยนพาสเวิร์ส เปลี่ยนล็อกอินให้มันเป็นของเราคนเดียว เราอาจจะอัพเกรดหรือทวีตน้อยลง อาจจะไม่มีผจก.ทวีตให้ ถือว่าตรงนี้ก็ละไว้แล้วกัน'' จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามต่อถึงกรณีที่ว่าทางฝั่งคู่กรณีอย่าง ''ออย-ศรุตา'' ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเกี่ยวกับกรณีเรื่องดังกล่าวว่าจะปรึกษาผู้ใหญ่เพื่อฟ้องร้องนั้น นางเอกสาว ''ชมพู่'' ก็ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ว่าตนเองก็คงต้องตั้งรับและยอมรับความซวยในครั้งนี้ พร้อมกับสาบานว่าทุกคำพูดที่ตนพูดออกมาเป็นความจริง ''ชมก็อยู่ในจุดที่เป็นฝ่ายตั้งรับอยู่แล้วค่ะ ก็...อย่างที่บอกว่าเค้าก็มีความเป็นไปได้ที่เค้าจะทำอะไรก็ได้ คือชมซวยค่ะ ก็ต้องยอมรับความซวยในรูปแบบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นค่ะ ก็ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับค่ะ แต่ชมก็ยืนยันตามนี้ว่ามันเป็นความบริสุทธิ์ใจ ชมสาบานได้เลยว่าทุกคำพูดเป็นความจริง ชมคิดว่าทั้ง 2 คน เราก็บอบช้ำมาทั้งคู่นะคะ แล้วจากใจจริงเลยชมก็ไม่อยากให้มันเกิดอะไรอย่างนี้ขึ้นเพราะมันไม่คุ้มเลย แต่ว่าชมทำใจยอมรับนะคะว่าหลังจากนี้ไม่ว่าจะมีฟีดแบ็กอะไรก็ตามอาจจะมีหรือไม่มีก็แล้วแต่ ชมก็เข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะเค้าไม่จำเป็นต้องมาเข้าใจชมก็ได้นะเพราะมันเป็นสถานการณ์ที่เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่ออีกอย่างหนึ่งก็ได้'' ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามว่ามีผลกระทบอะไรกับงานบ้างหรือเปล่า ''สาวชมพู่'' ก็ได้ชี้แจงด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ เช่นเคยว่าผลกระทบกับงานโดยตรงคงไม่มี แต่จะกระทบในเรื่องของจิตมากกว่าเพราะตนเองกังวลและทำงานไม่ได้เลย ''คือถ้ากระทบกับงานจริงๆ เลยมันคงไม่กระทบหรอกค่ะ แต่ส่วนตัวชมมันกระทบกับคุณภาพชีวิต คุณภาพงานของชมตอนนี้ เพราะว่าชมไม่มีสมาธิทำงาน วันนี้เข้าฉากวันนี้ก็ไม่โอเค ถ้าจะกระทบก็คงตรงนี้แหละค่ะ มันไม่สบายใจ สุขภาพจิตก็ไม่ดี แต่ตอนนี้ชมรู้สึกว่าชมได้ทำในสิ่งที่ควรจะได้ทำแล้วค่ะ ชมไม่อยากให้มีเรื่องกวนใจแล้วค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าอะไรที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ชมยอมรับแต่ใจยังรับไม่ได้ ก็คือโมโหค่ะ'' จากนั้นนางเอกสาวก็ได้กล่าวต่อไปว่าด้านหวานใจไฮโซหนุ่ม ''น็อต-วิศรุต'' ก็ได้ให้กำลังใจตนเองมาโดยตลอด ''เค้าก็บอกให้หยุดพูดหยุดคิดได้แล้ว เพราะว่าคือเราต้องนอนเอาแรงแล้ว แต่คือชมเป็นแนวว่าถ้ายังไม่จบชมก็ปล่อยวางไม่ได้ แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ชมยังทำใจไม่ได้ตอนนี้คือชมยังรับไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้น คือพาร์ตที่เป็นสมองมันบอกเราแล้วว่าเราต้องทำยังไง เราต้องออกมาพูดความจริง ต้องรับมือยังไง แต่ถ้าในด้านจิตใจชมยังรับไม่ได้กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ซึ่งเค้าก็ถามชมค่ะว่าจะให้เค้าช่วยอะไรได้บ้าง ก็ไม่เป็นไร ก็แค่เข้าใจเท่านั้นก็พอแล้วค่ะ เพราะเรื่องนี้ชมเชื่อว่ามันก็ไม่ได้มีใครจะมาช่วยชมแก้ไขอะไรได้'' อย่างไรก็ตามนางเอกสาว ''ชมพู่'' ก็ได้กล่าวทิ้งท้ายก่อนจบการแถลงข่าวครั้งนี้ว่าขอขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสตนเองได้ออกมาชี้แจงถึงแม้ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ตนเองก็พร้อมจะน้อมรับทุกคำติชม ''ชมเชื่อว่าใครที่ได้ฟังสัมภาษณ์นี้ก็คงจะรู้นะคะว่าอยากจะให้มันออกมายังไง ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ สำหรับที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขอบคุณที่สละเวลาฟังชม ไม่อยากจะทิ้งท้ายอะไรหรอกค่ะ...ก็ค่อนข้างครบถ้วนแล้วนะค่ะ ก็ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากเจตนา มันไม่ใช่การกระทำของชมค่ะ ถึงแม้ว่าฟังดูแล้วมันจะเป็นเรื่องหลอกเด็กแต่ก็...ขอบคุณที่ให้โอกาสชมชี้แจงค่ะ'' ชมพู่กล่าว   Create Date : 30 สิงหาคม 2554 1 comments Last Update : 30 สิงหาคม 2554 7:55:43 น. Counter : 1704 Pageviews. Share Tweet

.......   โดย: new pek 30 สิงหาคม 2554 16:33:08 น.