กำลังใจเมื่อมีความทุกข์
กำลังใจเมื่อมีความทุกข์
วันนี้ขออนุญาตคุยแบบสบายๆบ้างนะครับ ^^
ผมเองให้กำลังใจคนไม่เก่ง ยิ่งจะให้โอ๋ใครก็ทำไม่เป็น
แต่วันนี้อยากให้กำลังใจโดยเฉพาะเพื่อนๆที่มีความทุกข์หนักอยู่ตอนนี้
เพราะความทุกข์นี้เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ทุกคนต้องเจอ
เราจะหากำลังใจได้จากที่ไหน?
เราจะออกจากความทุกข์กันได้อย่างไร?
ลองอ่านกันดูนะครับ
เมื่อเราเจอความเปลี่ยนแปลงในชีวิตทุกอย่างล้วนนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะอกหัก หย่าร้าง เป็นโรค ตกงาน เพื่อนไม่รัก งานไม่รุ่ง หุ้นตก
ถูกโกง ล้มละลาย แม้แต่เป็นสิวผิวไม่เนียนก็เครียดและเป็นทุกข์ได้ทั้งนั้น
ยิ่งถ้าเราลังเลสงสัยท้อแท้ สิ้นหวัง ขาดศรัทธา ขาดกำลังใจ ขาดที่ยึด
เหนี่ยวจิตใจ ไม่มีที่ปรึกษา ปัญญาทึบไปชั่วขณะเพราะขาดสติ ความทุกข์
ก็เข้ามาซ้ำเราเหมือนเสือร้ายที่เข้ามาขย้ำกัดกินเราเลยทีเดียว การยอมรับ
ความทุกข์แบบเห็นว่าเป็นสิ่งธรรมดาของชีวิตแบบมีสตินั้นเป็นขั้นตอนแรกใน
การสร้างกำลังใจเมื่อมีทุกข์เพราะเมื่อไม่ดิ้นรนทำสิ่งไม่ดีซ้ำไปอีกเช่น กิน
เหล้า เที่ยวกลางคืน หรือผิดศีลห้า สักพักเมื่อสติมาปัญญาเกิดความทุกข์ก็
ดับไปได้แล้วอาจจะเร็วหรือช้าแค่นั้นเอง
ที่พูดเช่นนี้ก็เพราะผมเป็นคนที่มีความทุกข์มากที่สุดคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมา
ทางบ้านยากจน สุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัว เป็นคนขี้กังวล เครียดกับ
การเรียนตั้งแต่เด็กป.1จนถึงเกือบจบมหาลัย(ดีที่ไม่ได้เรียนอนุบาลจะ
นานกว่านี้)เลยทีเดียวทำให้ผมเป็นทั้งโรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ โรคกระเพาะ
เรื้อรัง(และยังมีโรคอื่นๆที่แวะเวียนกันมาไม่ขาดสายเลยทีเดียว ^^)
สิ่งที่ผมทำได้สิ่งเดียวตอนนั้นก็คือสวดมนต์และนั่งสมาธิ(ตั้งแต่สิบขวบผม)
ไม่น่าเชื่อว่าปัญญาเล็กๆน้อยๆจากการที่เราได้นั่งคิดแก้ปัญหาของตัวเองใน
ขณะที่จิตใจสงบและความสุขจากสมาธิเล็กๆน้อยๆแค่นี้ที่หล่อเลี้ยงความ
ทุกข์ผมให้น้อยลงไปได้กว่าครึ่งก็ทำได้แค่นี้แบบเด็กๆในตอนนั้น
เมื่อโตขึ้นผมได้มีโอกาสศึกษาธรรมะมากขึ้นก็รู้ว่า ศาสนาพุทธนั้นศึกษา
เรื่องของความทุกข์เพื่อเป้าหมายในการพ้นทุกข์ไม่เพียงแค่เปลี่ยนความ
คิดลบเป็นคิดบวก เปลี่ยนไอคิวเป็นอีคิวเท่านั้น หรือมีข้อแนะนำหรือกฏ 5
ข้อ10เท่านั้น
แต่ศาสนาพุทธสอนให้เราพ้นทุกข์ด้วยการสอนและให้เราได้ปฏิบัติเพื่อรู้
กระบวนการทั้งหมดของการเกิดความทุกข์ด้วยตนเอง และเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมทั้งหมดเพื่อจะเรียนรู้ทุกข์กันเลย เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมก็
คือ การปล่อยวางความทุกข์อันได้แก่กายและใจของหรือที่เรียกว่าตัวเรานี่
เอง เมื่อไม่มีความรู้สึกว่ามีตัวเราทุกข์ก็ดับไปพร้อมกัน เหมือนกระจกที่มี
ฝุ่นเกาะเราก็ต้องคอยเช็ดถูกระจกเป็นประจำ วันหนึ่งกระจกหายไปเราก็ไม่
ต้องเช็ดถูกันต่อไปอีก ใจที่ไม่แบกศักดิ์ศรีตัวตนไว้ เบาสบายโปร่งโล่ง
และเบิกบานอยู่ด้วยตัวเอง
เป็นทุกข์กับเรียนรู้ทุกข์นั้นต่างกัน ถ้าคุณเป็นชาวพุทธแล้วมีความทุกข์ถือว่า
โชคดีได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าจะได้บทเรียนบทใหม่ในการเข้าถึงชีวิตและ
ฝึกฝนเพียงแค่อย่าเผลอเป็นทุกข์กันเข้าก็แล้วกัน เหมือนอ่านละครแล้วเข้า
ไปเป็นตัวแสดงเสียเองแทนที่จะเป็นแค่คนดูเฉยๆ
การเรียนรู้ทุกข์คือการฝึกสติแบบออกมาเป็นผู้ที่ดูความทุกข์ที่เกิดขึ้นทั้งทาง
กายและทางใจ เช่นจากความคิดนึก อารมณ์ความรู้สึกที่รับเข้ามาทางตา
ทางหู เห็นมันเกิดแล้วก็เห็นมันทรงๆอยู่ แล้วก็เห็นมันดับไป เห็นบ่อยๆก็จะรู้
ว่า ทุกๆอย่างเป็นของชั่วคราว สุขก็ชั่วคราว ทุกข์ก็ชั่วคราว ดีและชั่วก็ชั่ว
คราว ชีวิตที่ดุเดือดเป็นจริงเป็นจัง ก็กลายเป็นชีวิตแบบชั่วคราวๆ ทุกอย่างก็
ค่อยๆเบาลงเพราะติดยึดมันไว้ไม่ได้อีกมีแต่ของเกิดๆดับๆทั้งนั้น นี่เขาเรียก
ว่าปัญญาเกิดเพราะว่าเห็นจริงด้วยตนเองไม่ได้ท่องจำมาตอบ รู้แค่นี้ก็พอที่
จะทำให้ไม่ทุกข์แล้วง่ายๆแค่นี้เอง
แต่ถ้าคุณเป็นชาวพุทธแล้วเอาตัวเองออกจากความทุกข์หนักๆไม่ได้ผมว่ามัน
จะน่าเสียดายที่สุด
เพราะศาสนาของเราเป็นศาสนาที่มีเป้าหมายพุ่งตรงไปเพื่อการดับความทุกข์
เลยทีเดียว แถมเราได้เกิดมาเป็นคนไทยที่มีศาสนาพุทธ มีวัด มีหนังสือ
ธรรมะมากมาย มีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่คอยแนะนำที่ดีที่สุดในโลกแต่ว่าเราก็ยัง
แบกความทุกข์ชนิดปล่อยวางกันไม่ลงกันเลย
จะน่าสงสารที่สุดถ้าบอกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธ ที่แปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น
ผู้เบิกบาน แต่เรากลับเป็น ผู้หลง ผู้หลับ ผู้เศร้าหมอง แล้วจะโทษใครกัน
ล่ะทีนี้
ถ้ามีทุกข์ก็อย่างท้อ ถ้าท้อได้ก็อย่ายอมแพ้ ถ้ายอมแพ้ได้ก็อย่าทิ้งธรรมนะ
ครับ ถ้าเรายังมีธรรมะอยู่ในใจ ธรรมะย่อมรักษาตัวเราอยู่ แต่ถ้าเราทิ้ง
ธรรมแล้วเราก็จะเป็นทุกข์นะ ทุกข์แบบจริงๆจังๆเสียด้วย เหมือนคนที่นอน
หลับฝันร้ายแล้วปลุกไม่ตื่น หรือเหมือนคนที่ตื่นแต่ใจยังหลับอยู่ในฝันร้าย
ตลอดเวลา ใครจะช่วยคนเหล่านี้ได้ เพราะเขาคิดว่าสิ่งนั้นเป็นจริงสำหรับ
เขาไม่ใช่ความฝัน เราก็ได้แต่ยืนมองด้วยความเศร้าใจ ช่วยอะไรไม่ได้
เลยถ้าเขาได้ศึกษาปฏิบัติธรรมให้พอที่จะบรรเทาทุกข์ในใจได้บ้างก็คงจะดี
ไม่น้อย ถ้ามีทุกข์ก็พยายามเข้าหาธรรมะกันนะครับจึงเป็นที่มาของบทความ
นี้แหละครับ
"กำลังใจที่ดีที่สุดเมื่อมีความทุกข์ก็คือธรรมะ"
"เรียนรู้โลกผ่านความคิด
เรียนรู้ชีวิตด้วยการปล่อยวาง
ผู้ที่เข้าใจตัวเองได้ดีที่สุด
คือผู้ที่รู้ว่าที่แท้ตัวเองไม่ได้มีอยู่จริง"
มาเอาธรรมะเป็นที่พึ่งกันนะครับ ^^
เรื่องและภาพประกอบ อ๋า วนารักษ์
Create Date : 02 สิงหาคม 2554 |
|
74 comments |
Last Update : 9 สิงหาคม 2554 11:29:10 น. |
Counter : 2582 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 2 สิงหาคม 2554 12:05:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: แค่มี IP: 122.154.16.246 2 สิงหาคม 2554 13:37:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 2 สิงหาคม 2554 14:35:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) 2 สิงหาคม 2554 17:29:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: kapeak 2 สิงหาคม 2554 19:39:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 3 สิงหาคม 2554 9:05:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 3 สิงหาคม 2554 10:19:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 3 สิงหาคม 2554 10:56:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 4 สิงหาคม 2554 10:13:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 4 สิงหาคม 2554 11:17:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: kapeak 4 สิงหาคม 2554 12:38:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 4 สิงหาคม 2554 12:40:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: กระติ๊บริมทาง (SK_KS ) 4 สิงหาคม 2554 15:10:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 4 สิงหาคม 2554 16:38:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 5 สิงหาคม 2554 13:49:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 5 สิงหาคม 2554 14:53:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: SK_KS 8 สิงหาคม 2554 10:54:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: วนารักษ์ 8 สิงหาคม 2554 11:26:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: SK_KS 8 สิงหาคม 2554 12:05:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 8 สิงหาคม 2554 12:18:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 8 สิงหาคม 2554 12:23:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 8 สิงหาคม 2554 13:03:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 9 สิงหาคม 2554 8:23:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธูปหอม IP: 110.77.208.168 29 กันยายน 2555 21:25:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ปราจีนบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]
|
ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^
บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่
เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ
บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก
จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^
ฝากข้อความหลังไมค์
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอขอบคุณน้องแน๋วสำหรับภาพในกล่องคอมเม๊นท์อันแสนสวยสดงดงาม แถมมีภาพชายนิรนามด้านบนด้วย เอิ๊กๆๆ
เดี๋ยวแวะเอาภาพมาฝากนะครับไปกินข้าวก่อนน้า