สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง.... มีกรรมเป็นของตน.... มีกรรมเป็นผู้ให้ผล....มีกรรมเป็นแดนเกิด.... มีกรรมเป็นผู้ติดตาม.... มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย.... จักทำกรรมอันใดไว้ ....เป็นบุญหรือบาป........ จักต้องเป็นผู้ได้รับผลกรรมนั้น ๆ สืบไป
คำถามสามข้อ

คำถามสามข้อ











พระจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง บริหารบ้านเมืองอย่างเต็มพระปรีชาสามารถ

แต่พระองค์ก็รู้สึกว่าตัวเองงานผิดพลาดอยู่บ่อยๆ....

พระองค์ตระหนักว่า หากทรงรู้คำตอบปัญหา 3 ประการ ดังต่อไปนี้แล้ว

จะทำให้พระองค์ทรงทำอะไร ไม่ผิดพลาดเลย คำถาม 3 ประการนี้คือ

1. เวลาไหนที่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำกิจแต่ละอย่าง?

2. ใครคือคนสำคัญที่สุดที่ควรทำงานด้วย?

3. อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรทำตลอดเวลา?

พระจักรพรรดิสั่งให้ประกาศว่าใครก็ตามที่สามารถจะตอบคำถาม 3 ข้อนี้ได้

จะได้รับรางวัลมหาศาล










ปัญหาข้อที่ 1(เวลาที่เหมาะสม) มีผู้ตอบแตกต่างกัน....


คนที่ 1 แนะนำให้พระจักรพรรดิทำตารางเวลาที่แน่นอน

สำหรับภารกิจแต่ละอย่าง ทุกๆชั่วโมง ทุกๆวัน ทุกๆ ปี

ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถทำกิจได้ถูกต้องตามกาลที่เหมาะสม....


คนที่ 2 บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะวางแผนล่วงหน้าเช่นนั้น

แล้วแนะนำว่าพระจักรพรรดิควรจะเลิกความสนุกสนานไร้สาระทั้งหมด

แล้วเอาใจใส่ต่อกิจกรรมต่างๆ โดยพระองค์เองทุกอย่าง

จึงจะทราบได้ว่าเวลาไหนเหมาะสมที่จะทำอะไร....


คนที่ 3 ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่พระจักรพรรดิหวังจะเลือกเวลาทำกิจ ต่างๆ

ที่อยู่ในอำนาจความรับผิดชอบได้เหมาะสมทุกอย่าง....

สิ่งที่จำเป็น ก็คือต้องมี "สภาแห่งคนฉลาด"

และทำตามคำแนะนำของสภานั้น


แต่ก็มีคนแย้งว่า "สิ่งต่างๆ จำเป็นต้องตัดสินใจทันที

ไม่อาจรอการปรึกษาได้

ฉะนั้นหากต้องการจะรู้ล่วงหน้าว่าอะไรเกิดขึ้น....

พระจักรพรรดิ์ควรจะปรึกษาผู้วิเศษและหมอเวทมนต์"







ปัญหาข้อที่สอง(คนสำคัญที่ควรทำงานด้วย)คำตอบก็แตกต่างกันออกไป

คนที่ 1 เสนอว่าพระจักรพรรดิจะต้องไว้วางใจ

ในคณะขุนนางข้าราชการอย่างเต็มที่

คนที่ 2 บอกว่า ต้องไว้วางใจพระและนักบวช

คนที่ 3 เสนอให้ไว้วางใจนักวิทยาศาสตร์

แถมยังมีบางคนเสนอให้ไว้วางใจต่อนักรบ



คำตอบต่อคำถามที่สาม(สิ่งสำคัญที่ควรทำ)ก็ต่างกันไปเช่นกัน

คนที่ 1 บอกว่าวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่จะต้องติดตามอยู่ตลอดเวลา

คนที่ 2 ว่าเรื่องปฏิบัติตามหลักศาสนาต่างหาก

คนที่ 3 ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกทักษะการทำสงคราม


พระจักรพรรดิ์ไม่พอพระทัย คำตอบไหนเลย

จึงตัดสินพระทัยไปหาฤาษีตนหนึ่ง ผู้อาศัยอยู่บนเขา ซึ่งตรัสรู้เห็นแจ้ง....

ทั้งๆ ที่รู้ว่าฤาษีนั้นจะต้อนรับเฉพาะคนยากจน เท่านั้น

ไม่ยอมต้อนรับคนร่ำรวย หรือผู้มีอำนาจราชศักดิ์

ท่านจึงต้องปลอมตัว เป็นชาวนา และสั่งองครักษ์ให้คอยอยู่ที่เชิงเขา

โดยที่ทรงไต่เนินเขา ขึ้นไปพบฤาษีตามลำพัง








พอมาถึงที่อยู่ของ "ผู้รู้" ที่ว่านั้น....

ทรงพบว่าฤาษีกำลังขุดดินอยู่ในสวนหน้ากระท่อม


เมื่อฤาษีเห็นผู้แปลกหน้าก็ผงกหัวเป็นการต้อนรับแล้วก็ขุดดินต่อไป....

เห็นได้ชัดว่าการใช้แรงนั้นเป็นงานหนักเพราะฤาษีนั้นชรามากแล้ว

แต่ละครั้งที่จอบฟันลงไปพลิกดินขึ้นมาท่านจะต้องหอบแรงๆ.. ทุกครั้งไป

พระจักรพรรดิเข้าไปหาแล้วตรัสว่า


"ผมมานี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน

ขอให้ท่านช่วยแก้ปัญหา 3 ข้อของผม คือ

1. เวลาไหนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำกิจแต่ละอย่าง?

2. ใครคือคนสำคัญที่สุดที่ควรทำงานด้วย?

3. อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำตลอดเวลา?

ฤาษีฟังคำถามด้วยความเอาใจใส่ แต่มิได้ตอบ

เพียงแต่เอามือตบไหล่จักรพรรดิเบาๆ และก็ขุดดินต่อไป

จักรพรรดิตรัสว่า "ท่านคงเหนื่อยมาก มาให้ผมได้ช่วยท่านเถอะ"....

ฤาษีขอบใจ แล้วก็ส่งจอบให้จักรพรรดิ จากนั้นก็นั่งพักบนพื้นดินนั้น

หลังจากขุดไปได้ 2 ร่อง จักรพรรดิก็หยุด

และหันมาถามหัญหาทั้ง 3 อีกครั้งหนึ่ง....

ฤาษีก็มิได้ตอบอีก แต่ยืนขึ้นและชี้มือไปที่จอบ

และบอกว่า "หยุดพักได้แล้วละ....ฉันทำต่อเองไหวแล้ว"....

แต่จักรพรรดิไม่ส่งจอบคืนให้และขุดดินต่อไป

ชั่วโมงหนึ่งผ่านไปแล้วก็สองชั่วโมง จนอาทิตย์ลับไปหลังภูเขา


จักรพรรดิทรงวางจอบลง และหันมาตรัสกับฤาษีว่า

"ผมมาที่นี่เพื่อขอร้องให้ท่านช่วยตอบคำถามของผม

หากท่านไม่สามารถตอบได้โปรดบอกให้ผมรู้ด้วย

ผมจะได้กลับบ้านของผม"


ฤาษีเงยหน้าขึ้นและถามจักรพรรดิว่า

"เธอได้ยินเสียงใครกำลังวิ่งมาทางนี้หรือเปล่า?"

จักรพรรดิหันไปทอดพระเนตร







ทันใดนั้นทั้งสองก็เห็นชายชรามีเคราขาวคนหนึ่งวิ่งเตลิดออกมา

มือทั้งสองกุมบาดแผลโชกเลือดที่ท้อง

เขาวิ่งตรงมายังจักรพรรดิก่อนที่จะล้มลงสิ้นสติไป....ตรงหน้า

พอเปิดเสื้อผ้าออกทั้งจักรพรรดิและฤาษี

ก็แลเห็นบาดแผลลึกที่หน้าท้องของชายผู้นั้น....

จักรพรรดิได้ทรงทำความสะอาดบาดแผล

แล้วเอาฉลองพระองค์พันแผลให้ เพียงประเดี๋ยวเดียว....

เสื้อนั้นก็โชกไปด้วยเลือดเพราะเลือดไหลไม่หยุด

จักรพรรดิก็เลยเอาเสื้อนั้นออกมาซักบิดให้แห้งแล้วพันแผล

อีกเป็นครั้งที่สอง และทำอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งเลือดหยุดไหล....


เมื่อคนเจ็บฟื้น ได้สติ ก็ร้องขอน้ำ

จักรพรรดิรีบไปที่ลำธารตักน้ำใสสะอาดมาให้เหยือกหนึ่ง

ขณะนั้น ดวงตะวันลับฟ้าไปแล้ว

และอากาศหนาวยามค่ำคืนเริ่มแผ่คลุมไปทั่ว....

ฤาษีช่วยจักรพรรดินำคนเจ็บเข้ามาในกระท่อม

และให้นอนบนเตียงของตน ชายนั้นปิดตาลงและนอนหลับไป

จักรพรรดิเองก็ประทับพิงประตูกระท่อมหลับไปเช่นกัน....

ด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการปีนเขาและการขุดดินทั้งวัน

และมาตื่นบรรทมขึ้นเมื่อตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว...


จักรพรรดิทรงลืมไปชั่วขณะว่าพระองค์เสด็จมาอยู่ที่ไหน

และมาทำอะไร ทรงทอดพระเนตรไปที่เตียงคนเจ็บทันที...

และก็พบว่าชายผู้นั้นกำลังจ้องมองมายังตนอย่างฉงนฉงาย

พอเห็นจักรพรรดิ ชายผู้นั้นก็ครวญครางออกมาอย่างแผ่วเบาว่า








"ได้โปรดประทานอภัยโทษให้ข้าพระองค์ด้วย"

"แต่เธอทำผิดอะไรเล่าที่ฉันจะต้องให้อภัย?" จักรพรรดิตรัสถามกลับ

"ท่านไม่รู้จักข้าพระองค์ แต่ข้าพระองค์รู้จักท่านดี

พี่ชายของข้าพระองค์ถูกฆ่าเมื่อสงครามครั้งที่ผ่านมานี้

และทรัพย์สมบัติถูกริบหมด ข้าพระองค์จึงถือว่าท่านคือศัตรูคู่อาฆาต

ข้าปฏิญาณไว้ว่าจะต้องล้างแค้นให้ได้


เมื่อทราบข่าวว่าท่านขึ้นมาหาฤาษีตามลำพัง

ข้าพระองค์จึงตั้งไจที่จะดักฆ่าท่านเสีย ตอนท่านเสด็จกลับ....

แต่รออยู่นานไม่เห็นท่าน ข้าพระองค์จึงออกจากที่ซุ่มกำบังเพื่อตามหา

แต่แทนที่จะพบท่านข้าพระองค์กลับไปเจอะเอาทหารองครักษ์ของท่านเข้า

พวกนั้นจำข้าพระองค์ได้และเข้าจับกุมข้าพระองค์ จนถูกมีดฟันบาดเจ็บ

แต่ข้าพระองค์ยังโชคดีที่หนีรอดการจับกุมได้และวิ่งมาที่นี่

ถ้าไม่ได้พบท่านป่านนี้ข้าพระองค์คงตายไปแล้ว

ข้าพระองค์ละอายใจและสำนึกในพระคุณอย่างบอกไม่ถูก....

หากข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ต่อไปขออุทิศชีวิตช่วงที่เหลือนี้รับใช้ท่านตลอดไป

และจะสั่งสอนลูกหลานให้ทำเช่นเดียวกันด้วย....

ขอโปรดประทานอภัยให้ข้าพระองค์ด้วยเถิด"



จักรพรรดิดีพระทัยยิ่งนัก ที่ศัตรูได้กลับมาเป็นมิตรอย่างง่ายดาย....

นอกจากจะประทานอภัยแล้วยังทรงสัญญาที่จะคืนทรัพย์สมบัติ

ที่ริบมาจากชายผู้นั้น ตลอดจนจัดส่งแพทย์และคนใช้ไปคอย

รักษาพยาบาล....จนกว่าเขาจะหายเป็นปกติอีกด้วย


พอสั่งทหารให้นำชายผู้นั้นไปส่งบ้านแล้ว

จักรพรรดิก็เสด็จกลับมาหาฤาษีอีกครั้ง

เพื่อทวนคำถามเป็นครั้งสุดท้ายและพบว่า

ฤาษีกำลังหว่านเมล็ดพืชลงบนดินที่ขุดไว้

ฤาษีเงยหน้าขึ้นและหันมาทางจักรพรรดิ

"คำถามของท่านได้รับคำตอบหมดแล้วนี่"

"อย่างไรกัน?" พระจักรพรรดิทรงถามด้วยความงุนงง....









"เมื่อวานนี้ ถ้าท่านไม่เกิดความสงสารสังขารของฉันและลงมือช่วยฉันขุดดิน

ท่านก็คงถูกทำร้าย โดยชายผู้นั้นตอนขากลับ

และคงต้องโทมนัสใจอย่างมากที่ไม่ได้พักอยู่กับฉัน

ดังนั้นเวลาสำคัญที่สุดตอนนั้น

ก็คือเวลาที่ท่านขุดดิน

บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือตัวฉัน....

และภารกิจที่สำคัญที่สุดก็คือ การช่วยฉันขุดดิน"


"จากนั้นเมื่อชายบาดเจ็บผู้นั้นวิ่งมา

เวลาที่สำคัญที่สุด....

ก็คือตอนที่ท่านช่วยพยาบาลเขา เพราะมิฉะนั้นเขาก็จะต้องตายไป

และท่านก็จะหมดโอกาสที่จะได้กลับเป็นมิตรกับเขา

บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือชายผู้นั้น

ภารกิจสำคัญที่สุด ก็คือการรักษาพยาบาลเขา"....






จงจำไว้ว่า



เวลาที่สำคัญที่สุดเวลาเดียวคือ "ปัจจุบัน"

ช่วงขณะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นเวลาที่เราเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง


บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่เรากำลังติดต่ออยู่

คนที่อยู่ต่อหน้าเรา เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะมีโอกาสได้ติดต่อ

กับเขาอีกหรือไม่ ไม่รู้ว่าเราจะได้ปรับความเข้าใจกับเขาได้อีกหรือไม่

ถ้าไม่ได้เจอกันอีกและ


ภารกิจที่สำคัญที่สุดก็คือการใส่ใจคนที่อยู่กับเราขณะนั้นๆ

ห่วงใย สนใจเขา และทำให้เขามีความสุข

เพราะนั่นเป็นภารกิจอย่างเดียวของชีวิต"....



คัดลอกจาก... บทประพันธ์ ลีโอ ตอลสตอย ค.ศ.1828-1910

วนารักษ์ภาพประกอบ


















Create Date : 17 เมษายน 2555
Last Update : 18 เมษายน 2555 11:59:16 น. 33 comments
Counter : 1856 Pageviews.

 
เจิม


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:23:13:49 น.  

 
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซ

ได้เจิมด้วย ดีใจค่ะ ดีใจ

เด๋ววนขึ้นไปอ่านก่อนนะคะ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:23:14:36 น.  

 
จริงด้วย (อีกแล้ว)

เขียนได้น่าติดตามมากๆ

ขอบคุณนะค๊า

ฝันดีค่ะคุณอ๋า


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:23:20:29 น.  

 



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:23:31:58 น.  

 


ขอบคุณค่ะ
สำหรับสาระที่มีประโยชน์มากๆ
newyorknurse



โดย: newyorknurse วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:23:46:17 น.  

 
เห็นด้วยครับ


โดย: panwat วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:0:42:13 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่อ๋า
เห็นด้วยค่ะ

ไปเที่ยวกลับมาแล้ว เดี๋ยวต้องได้ดูภาพสวยๆแน่เลย

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ


โดย: pantawan วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:1:38:07 น.  

 
แนวคิดของตอลสตอย นี้คล้ายพุทธ นะครับ
คือ "ปัจจุบัน" ดีที่สุด ควรทำ

แต่ผมยังสงสัยอยู่อย่าง ท่านผู้นี้ใช่หรือเปล่า
ครับ หลบออกจากบ้านตนเอง แล้วไปเสีย
ชีวิตกลางหิมะ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:5:21:24 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อ๋า







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:6:03:29 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่อ๋า แปะไว้ก่อนนะคะ
ไปวัดก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่านค่ะ ^^
มีความสุขกับการทำงานนะคะพี่


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:6:53:25 น.  

 
ภาพสีสวยมากเลยค่ะ


โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:9:43:20 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอ๋า วันนี้คงไปทำงานแล้วนะคะ กิ่งมาอ่านเรื่องสัญญา 3 ข้อ ให้ข้อคิดที่ดีมากเลยค่ะ วันนี้โหวตไปหมดแล้วไว้กิ่งจะมาโหวตให้ใหม่นะคะ

ญาติพี่น้องมาเยอะมากค่ะ กิ่งเป็นแจ๋วเต็มตัวเหนื่อยสุดๆเพราะเป็นเจ้าบ้านแต่ก็มีความสุขค่ะเพราะนานทีเจอกันครั้งค่ะ

ขอให้คุณอ๋าทำงานอย่างมีความสุขนะคะ ของกิ่งยังได้พักอีกยาวค่ะ อิอิ








โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:11:15:48 น.  

 
พี่อ๋า สวัสดีค่ะ
สงกรานต์ไปเที่ยวไหนมาคะ
สนุกมั๊ยเอ่ย

เที่ยวเผื่อน้องอุ๊มั๊ยคะ
น้องอุ๊ไม่ได้เที่ยวไหนเลย ไม่ได้เล่นน้ำเลยค่ะ

วันนี้ทำงานมีความสุขนะคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:12:02:02 น.  

 
กลับมาอ่านอีกทีตอนบ่ายค่ะพี่
เวลาที่สำคัญที่สุดเวลาเดียวคือ "ปัจจุบัน"
อันนี้เห็นจริงตามด้วยค่ะ
แต่บุคคลที่สำคัญที่สุด
และภารกิจที่สำคัญที่สุด
สองข้อหลังนี่...บางทีตัวเรา
ก็ไม่แน่ใจว่าเรากำหนดบทบาทหรือให้
ความสำคัญสิ่งนั้นว่าสำคัญที่สุดถูกมั้ย
เป็นบางทีหรือบางกรณีนะคะพี่ แฮ่ ๆ ๆ
เพราะบางเรื่องจะชัดเจนมาก เช่นเรื่องการงาน
แต่ถ้าเป็นเรื่องความรัก ความรักสึก บางทีคลุมเคลือ
ไม่รู้ให้ความสำคัญ "ผิด-ถูก" รึเปล่า ^^
...
...

ขอบคุณบทความที่ให้ข้อคิดดี ๆ นะคะพี่อ๋า
สุขสันต์ยามบ่ายค่ะ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:13:38:55 น.  

 
สวัสดียามบ่ายที่แสนจะเซ็ง

เมื่อคืนใครไม่รู้อัพบล็อกซะเกือบเที่ยงคืน
จนป่านนี้ยังสลบไม่ฟื้นเลย

เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
อะไรก็เอาแน่ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:15:47:00 น.  

 
เคยอ่านนานจนเลือนๆไปแล้วขอบคุณ

ที่นำเรื่องดีกลับมาสู่ความทรงจำอีกครั้ง

ปจจุบันขณะคือเวลาที่สำคัญที่สุดถ้าจำไม่ผิด

ท่านติชนัทฮันพระชาวเวียตนามสายมหายาน

ก็เขียนหนังสือไว้เหมือนกัน ชักจะเลือนลางไป

แล้วเหมือนกันเพราะอยู่กับปัจจุบันขณะ

มากกว่าเลยเรื่องในอดีตชักเลอะเลือนค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:19:32:47 น.  

 
สวัสดีครับเพื่อนๆ 555++

วันนี้ยุ่งมากครับ ไม่ได้หยุดเลยงานเข้าตลอด
งานหลวง งานราษฎ์ แข่งกันมาเลยมาเอาซะสายเลย

เดี๋ยวแวะไปเยี่ยมเพื่อนๆนะครับ ^^





โดย: วนารักษ์ วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:21:23:38 น.  

 
Photobucket Pictures, Images and Photos

แวะมาเยี่ยมหลังสงกรานต์ ยังไม่ไปทำงานเลย

ยังหยุดถึง 22 โน้นนนนน ^__*


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:21:38:55 น.  

 
สวยจัดจานสีสดใสแถมชื่อใช่เลยค่ะ

บ่งบอกสัญลักษณ์เลยเนอะ

แต่ก่อนคุณแคทปลูกแคทรียาแยอะมากค่ะ
ออกดอกมาให้ชมไม่เบื่อเลย
ให้เด็กคนงานดูแลให้ปุ๋ย..เลยมีดอกให้ชมตลอด

พอช่วงหนึ่งก็แจกให้เพื่อน..ผลสุดท้ายยกให้เพื่อนไปปลูกเลยค่ะ
เสียดายพันธ์ดีดีทั้งนั้น
พอไม่ดูแลก็ตายหมด

สะสมมาตั้งแต่ไม่ขวดเลยค่ะ
ค่อยๆๆมาช้ำเพาะพอจะได้ชมดูกก็แจกกระจาย

ต้นนี้อดีตต้นที่บ้านค่ะ..ชอบมากออกดอกมาก็ฟอร์มดีสีสวยไม่ได้แต่งสีเลยค่ะ
เป็นสีที่ถูกใจเลย

ชื่อ** ปากต่างสี **ค่ะ



คุณแคทถ่ายภาพไม่เก่งแต่ชอบถ่ายดอกไม้นะค่ะ
มีแยอะมาก
ถ้าไปเที่ยวเจเจ..พอเจอดอกแคทถูกใจขอถ่ายภาพเลยค่ะ

ไม่สนเท่าไหร่นะว่าเจ้าของร้านจะห่วงไหม
แต่ของก่อนเสมอค่ะโชคดีเจอคนใจดีเสมอค่ะ
เลยได้ภาพสวยสวย




คงสักระยะค่ะจะเปิดคอมเมนต์ช่วงนี้
ไม่มีเวลาแวะหาเพื่อนๆนะค่ะ
รบกวนด้วยนะค่ะถ้าเปิดคอมเมนต์เอาดอกไม้สวยๆไปฝากด้วยนะค่ะ
ยังมีแคทอีกแยะค่ะ
แล้วจะเอามาฝากเรื่อยๆค่ะ
ถ้าไม่เบื่อซะก่อน


มีความสุขนะค่ะ




เนื้อหาสอนใจดีจังค่ะ
อดีตคือประสบการณื
ปัจจุบันคือสิ่งที่ต้องทำ
อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

อย่าทุกข์กับอดีต
อย่าเหนื่อยกันอนาคต
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็ไร้ทุกข์แถมมีพลังไม่สิ้นสุด




โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:22:48:05 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะคุณอ๋า กิ่งมาซะดึกตามเคย ป่านนี้คุณอ๋าคงเข้านอนแล้ว ขอให้หลับพักผ่อนอย่างมีความสุขและฝันดีค่ะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:23:06:26 น.  

 
นับเป็นข้อคิดที่ดีจริงๆ ครับ จงใส่ใจกับปัจจุบันนี่แหละดีที่สุด อ่านแล้วไม่รู้ทำไมผมไปนึกเรื่องคนโกรธแค้นขนาดจะฆ่ากัน ทั้งที่ในอนาคตเราอาจไม่เจอเขาอีกปล้วก็ได้

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:23:39:23 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่อ๋า
แวะมารอบดึก
อากาศร้อนมากๆ มีติมมาฝากค่ะ



โดย: pantawan วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:1:36:24 น.  

 
เห็นสีดอกไม้บ้านนี้ เจ็บจริงๆ จ้ะ

สีแดงข้างบนสุด สวยมาก กุ้งชอบแดงแบบนี้ล่ะค่ะ งามๆ ค่ะพี่อ๋า

อรุณสวัสดิ์นะคะ


โดย: ก๋าสะลองเงิน วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:5:20:16 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อ๋า

เป็นเรื่องราวที่ดีมากนะครับ
อ่านแล้วได้แง่คิดที่ดี
ไม่ว่า ณ ขณะนี้
เราจะเป็นใครหรือทำอะไรอยู่ก็ตามที








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:6:10:48 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่อ๋า เช้าวันนี้สดชื่นมากเลย
แต่คาดว่าสาย ๆ จะร้อนหูดับตับแล่บแน่ ๆ
อ่านที่ว่าพี่อ๋ากับคุณแม่คุยกัน คงเพราะพี่เป็น
ลูกชายมังคะ แม่ปายถ้าโกรธก็มีเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ค่อยจะโกรธหรอกค่ะ แม่เป็นคนอารมณ์ดีเว่อร์ อิอิ
...
...

มีความสุขกับการทำงานนะคะพี่ ^^


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:6:17:56 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดียามเช้าครับ


โดย: panwat วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:8:00:22 น.  

 
ร้อน ๆ อย่างนี้ ถวิลหาสายฝนเย็นชุ่มฉ่ำ
ตกลงมาซักห่าสองห่า (จะผ่าน กบว. หรือเปล่า ลองดู)
จะได้คลายร้อนได้บ้าง



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:9:50:44 น.  

 
หิวอ่ะ รีบเข้ามาทักทายก่อน เดี๋ยวบ่ายกลับมาอ่านนะคะ (ทำไมไปปฏิบัติธรรมอาทิตย์หน้าอ่ะพี่ ไม่ทำงานเหรอคะ ดีจังเน๊อะยังพอว่างตั้งอาทิตย์นึงในการไปปฏิบัติธรรม อย่าลืมเอาบุญมาฝากน้องน้า...เผื่อน้องจิตตกขึ้นมากระทันหัน ฮ่าๆๆ) เดี๋ยวมาอ่านเจ้าค่ะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:10:21:56 น.  

 
อกิลาสุ วินฺเท หทยสฺส สนฺตึ
คนขยันวุ่นกับงาน จะได้ความสงบใจ

พัฒนาความสงบที่ได้จากการทำงานให้เกิดปัญญาณ ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:10:47:28 น.  

 
เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ
ส่วนโบนัสและ OT ถ้าได้ก็ดีซิคะ


โดย: bee_บี วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:11:13:42 น.  

 
สวัสดีครับ วันนี้พฤหัสอีกแล้วนะครับ

จะหมดอาทิตย์อีกแล้วเหลือวันเดียว

เข้าสู่ภาวะปกติแล้วนะครับหลังสงกรานต์

ยังไงอากาศร้อนก็อย่าให้ใจร้อนนะครับ อิอิ ^^





โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:11:27:06 น.  

 



วันี้มาโหวตให้ค่ะ เนื้อหาสาระดีๆค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:13:06:48 น.  

 
หาที่เม้น ม่ะเจอ เลยแวะมาเม้นบล๊อกนี้ครับ

ภาพดวงตะวัน สวยมากเลยครับ ถ่ายที่ไหนเอ่ย ผมอยากถ่ายเเบบนี้มั่งจัง มีดวงตะวัน มี ฟ้ามี นก



โดย: Sleeping_prince วันที่: 15 พฤษภาคม 2555 เวลา:4:08:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วนารักษ์
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^

บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่

เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ
บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ

บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก

จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^


ฝากข้อความหลังไมค์
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add วนารักษ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.