สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง.... มีกรรมเป็นของตน.... มีกรรมเป็นผู้ให้ผล....มีกรรมเป็นแดนเกิด.... มีกรรมเป็นผู้ติดตาม.... มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย.... จักทำกรรมอันใดไว้ ....เป็นบุญหรือบาป........ จักต้องเป็นผู้ได้รับผลกรรมนั้น ๆ สืบไป
มายาแห่งเส้นด้าย.....

ว.วชิรเมธี



สองสัปดาห์ก่อน ผู้เขียนจาริกปฏิบัติศาสนกิจในฐานะพระธรรมทูต ที่มหานครนิวยอร์ค

สหรัฐอเมริกา วันหนึ่งหลังจบการเสวนาธรรม สตรีสูงอายุคนหนึ่งขอโอกาสเข้ามานั่งคุย
กับผู้เขียน ระหว่างการสนทนา ผู้เขียนสังเกตเห็นว่า น้ำตาเธอคลอหน่วย


เมื่อสอบถามถึงสาเหตุ เธอจึงตอบว่า ที่น้ำตาคลอหน่วย เพราะรู้สึกดีใจที่ได้มาฟังธรรม
แต่พร้อมกันนั้นก็เสียใจจนสะเทือนใจ ที่สะเทือนใจก็เพราะเธอรู้สึกว่า ตนเองได้พบกับธรรมะ

เมื่ออายุมากแล้ว จึงรู้สึกเสียดายวันเวลาที่ผ่านมา เธอเล่าว่า


" ชีวิตคนเรา ก็เหมือนกับเส้นด้ายที่ถูกดึงออกมาจากหลอดด้ายทีละนิดๆ ขณะที่ดึงด้าย
ออกมาจากหลอดด้ายนั้น บางทีเราก็รู้สึกกระหยิ่มว่า ยังมีด้ายเหลืออยู ่ อีกมากมาย จึงชะล่าใจ

ที่จะดึง ด้ายออกมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย แต่ พบว่าแท้จริงแล้ว มีด้ายอยู่เพียงนิดเดียว เย็บผ้าได้
เพียงนิดหน่อยก็หมด หากแต่ที่เราเห็นว่า ยังคงมีด้ายเหลืออยู่เยอะแยะนั่นเป็นเพราะว่า

แกนด้ายมันใหญ่ต่างหาก...แกนด้ายมันหลอกตาให้ เราพลอยชะล่าใจ... "


พลันที่เธอเล่าจบ ผู้เขียนก็รู้สึกสว่างโพลงขึ้นมาในใจ

ผู้หญิงคนนี้ เธอไม่ได้มาฟังเทศน์เสียแล้ว แต่เธอมาเทศน์ต่างหาก


เธอกำลังเทศน์เรื่อง "ความสำคัญของเวลา" และ " คุณค่าของชีวิต" เคยได้ยินคำพูด




ในทำนองนี้บ่อยๆ ว่า เรามีเวลา ๒๔ ชั่วโมงต่อหนึ่งวันเท่ากัน ทว่า เราได้ประโยชน์จากเวลา ไม่เคยเท่ากัน

สำหรับบางคนเวลา ๒๔ ชั่วโมงช่างแสนสั้น แต่สำหรับบางคน ๒๔ ชั่วโมง ช่าง เป็นเวลายาวนานเหลือแสน

ผู้หญิงคนนี้เธอบอกว่า เธอเสียดายที่มีเวลาเหลืออีกไม่มาก อยากจะปฏิบัติธรรม ให้ถึง
ที่สุดก็เกรงว่าเวลาจะมีไม่พอ

ผู้เขียนจึงบอกว่า การปฏิบัติธรรมนั้นไม่สำคัญที่เวลา แต่สำคัญที่ "ปัญญา" สำหรับ




คนมีปัญญากล้าแข็ง อย่าว่าเป็นวันเลย บางที นาทีเดียวก็บรรลุธรรมได้ สำหรับคนเขลา ต่อให้ภาวนาทั้งชีวิต บางทีก็ยังไม่เห็นผล คนที่อยู่ในวัยสนธยา จึงไม่ควรน้อยใจว่า เรามีเวลาไม่พอ แต่ควรจะบอกตัวเองว่า
เรายัง " พอมีเวลา" ต่างหาก

แต่คนที่คิดว่าเรายัง "พอมีเวลา" ก็ต้องระวังด้วยเหมือนกัน เพราะบางทีการ
คิดด้วย ท่าที ที่เป็นบวกอย่างนี้ ก็ทำให้ประมาท และเป็นเหตุให้พลาดโอกาสที่จะเร่งรัดทำสิ่งดีๆ

ดังนั้น นอกจากจะคิดว่ายังพอมีเวลาแล้ว ก็ควรจะคิดเพิ่มอีกอย่างหนึ่งว่า

" วันนี้เป็น วันสุดท้ายของชีวิต" ด้วย เพราะหากเราคิดว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เราจะเริ่มคิดถึง
สิ่งที่ต้องทำแข่งกับเวลา และนั่นจะทำให้ เวลา กลายเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด ของชีวิตได้ในทุกๆวัน


เราเคยได้ยินพระท่านสอนอยู่บ่อยๆ ว่า การฆ่าสัตว์เป็นบาป แต่ผู้เขียนอยากบอกว่า

การฆ่าเวลาต่างหากที่เป็นบาปมหันต์ยิ่งกว่า เพราะเมื่อคุณฆ่าสัตว์ หากสำนึกได้ คุณก็อาจจะไปหาสัตว์มาปล่อยเอาบุญ แต่หากคุณฆ่าเวลาด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงแม้คุณจะ สำนึกผิด กลับมาเห็น คุณค่าของเวลา ทว่าก็ไม่สามารถย้อนเวลาที่ผ่านไปแล้วให้ หวนคืนกลับมาได้อีก เราทุกคน ต่างก็มีเวลาที่ไม่อาจรีไซเคิล ไม่ว่าคุณจะมีเงิน มหาศาลสักกี่ล้านล้านดอลล่าร์ก็ตามที สำหรับเวลานั้น ผ่านแล้ว ผ่านเลยนิรันดร์ ...





ครั้งหนึ่งลีโอ ตอลสตอย เคยเขียนปริศนาธรรมไว้ว่า
" ใคร คือ คนสำคัญที่สุด
งานใด คือ งานที่สำคัญที่สุด
เวลาใด คือ เวลาที่ดีที่สุด"


ตอลสตอยตั้งคำถามนี้ผ่านเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง และในที่สุดก็เฉลยว่า

" คนสำคัญที่สุด ก็คือ คนที่อยู่เบื้องหน้าเรา
งานสำคัญที่สุด ก็คือ งานที่เรากำลังทำอยู่ในขณะนี ้
เวลาที่ดีที่สุด ก็คือ เวลาปัจจุบันขณะ"



ทำไมคนที่อยู่เบื้องหน้าเราจึงสำคัญที่สุด คำตอบก็คือ อาจเป็นไปได้ว่า ในชั่วชีวิต อันแสนสั้นนี้ เรากับเขาอาจมีโอกาสพบกันได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้น เราจึงควรทำให้ การพบกันทุกครั้ง
เป็นเหมือนการเฉลิมฉลองอันแสนวิเศษที่ต่างฝ่ายต่างควร สร้างความทรงจำแสนงาม
ไว้ให้แก่กันและกันตลอดไป

เราต้องไม่ลืมว่า มนุษย์นั้น รู้เกลียดยาวนานกว่ารู้รัก
หากการพบกันครั้งแรกนำมา ซึ่งความรัก และหากเป็นการพบกันเพียงครั้งเดียวของชีวิต ในอนันตจักรวาล นั่นก็นับว่า เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดแล้วสำหรับการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างคนสองคน

ทำไมงานที่เรากำลังทำอยู่ขณะนี้ จึงเป็นงานสำคัญที่สุด คำตอบก็คือ เพราะทันทีที่ คุณปล่อยให้งานหลุดจากมือคุณไป งานก็จะกลายเป็นของสาธารณ์ หากคุณทำงานดี มันก็คือ อนุสาวรีย์แห่งชีวิต และหากคุณทำงานไม่ดี มันก็คือ ความอัปรีย์แห่งชีวิต

ตอนแรกคุณเป็นผู้สร้างงาน แต่เมื่อปล่อยงานหลุดจากมือไปแล้ว
งานมันจะเป็น ผู้ย้อนกลับมาสร้างคุณ

ทำไมเวลาที่ดีที่สุด จึงควรเป็นปัจจุบันขณะ คำตอบก็คือ เพราะเวลาทุกวินาทีจะไหล ผ่านชีวิตเราเพียงครั้งเดียว ไม่ว่าคุณจะหวงแหนเวลาขนาดไหน มีเงินมากเพียงไร ก็ไม่มีใครสามารถรื้อฟื้นเวลาที่ล่วงไปแล้วให้คืนกลับมาได้

ทุกครั้งที่เวลาไหลผ่านเราไป หากเราไม่ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ชีวิตของคุณ ก็พร่องไปแล้วจากปวงประโยชน์มากมายที่คุณควรได้จากห้วงเวลา

เวลาไม่มีตัวตน แต่หากเรามีปัญญา ก็สามารถสร้างคุณค่าที่เป็นรูปธรรมจากเวลาได้อเนกอนันต์ คน ... แม้มีตัวตนเห็นกันอยู่ชัดๆ แต่หากปฏิบัติไม่ถูกต่อเวลา ถึงมีตัวตนเป็นคนอยู่แท้ๆ แต่ชีวิตก็อาจว่างเปล่ายิ่งกว่าเวลา

ทุกวันนี้ เราทุกคนกำลังสาวด้ายแห่งเวลาในชีวิตออกมาใช้กันอยู่ทุกขณะจิต เคยคิด
กันบ้างหรือไม่ว่า เส้นด้ายแห่งเวลาในชีวิตของเรา เหลือกันอยู่สักกี่มากน้อย เราถนัด แต่สาวด้ายออกมาใช้ หรือว่าเราใช้เส้นด้ายแห่งเวลาอย่างมีคุณ ค่าที่สุดแล้ว ?

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคุณเป็นนักอ่านตัวยง ขอแสดงความยินดีที่คุณไม่ได้เป็นคนไทย
ที่อ่านหนังสือปีละ 9 บรรทัด


ภาพประกอบโดย อิกคิว ^^



Create Date : 02 พฤษภาคม 2554
Last Update : 2 พฤษภาคม 2554 15:25:29 น. 41 comments
Counter : 1511 Pageviews.

 
ชอบรูปตะวันจังเลย อิิอิอิ ล่ายคล้อยตะวันลาลับฟ้า


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:02:17 น.  

 
อ่านจนจบเลย เย้ แต่ไม่ใช่นักอ่านตัวยงหรอกนะคะ
แต่ชอบบทความนี้เลยอ่านมาเรื่อยๆ จนจบ อิอิ
<<<<< เวลา >>>> <<< ความคิด>>>>
ชอบจังเลยค่ะ



โดย: Megeroo วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:42:42 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านเรื่องราว+ ข้อคิดที่ดี่ๆ และชมรูปสวยๆ ค่ะ


โดย: luckyfarm6662 วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:35:53 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับพี่ .....

ชอบภาพแรก สวยครับ ถ่ายดวงอาทิตย์ได้กลมโตเป็นไข่แดงเลยทีเดียว ..... แล้วก็ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี นะครับ ....


โดย: NET-MANIA วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:48:02 น.  

 
บทความนี้ทำให้ได้คิดมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ


โดย: น้ำค้างเดือนหก วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:54:20 น.  

 

แหล่มค่ะ
ขอบคุณที่นำมาฝากนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:38:58 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่

ภาพสวยมากเลยครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:44:58 น.  

 
ภาพถ่ายของพี่สวยมากเลยล่ะครับ
เห็นแล้วผมก็อยากจับกล้องไปเดินถ่ายภาพบ้างแล้วล่ะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:57:42 น.  

 
ทักทายตอนเย็นๆนะจ่ะ อิอิ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:40:55 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะ


ปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้แฟลชค่ะ ชอบแสงธรรมชาติมากกว่า



โดย: luckyfarm6662 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:42:33 น.  

 
สวัสดีครับน้องก๋า อิอิ ภาพพวกนี้ถ่ายที่เทอเรสหน้าบ้านตอนเช้าๆ
ครับ ไม่ค่อยได้ไปไหนเลยครับ ผมอยากถ่ายภาพได้สวยๆแบบน้องก๋าบ้างจังเลย บล็อกจะได้ไม่น่าเบื่อครับ ^^

สวัสดีครับคุณตะวันเจ้าเอย อยากเอารูปตะวันงามๆไปฝากที่บล็อกบ้างจังเลย ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะครับ^^

สวัสดีครับคุณ ลักษณ์ คือปกติผมใช้ริงแฟลช ถ่ายมาแล้วก็แข็งทื่อเลย
หลังๆไม่ได้ใช้ แต่ดูจากภาพของคุณลักษณ์ใช้แล้วสวยกว่าแสงธรรมชาติเยอะเลยครับ เพราะสีจะสดกว่าครับ ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:01:25 น.  

 
วันคืนล่วงไป เรามัวทำอะไรอยู่ จริงๆ นะคะ

ต้องตั้งสติและใช้ชีวิตให้เต็มไปด้วยปัญญามากกว่าเดิมแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะพี่


โดย: ดวงลดา วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:42:51 น.  

 
สวัสดีครับน้องด้า ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ ^^

ธรรมะเหมือนทิศที่พาไปสู่ความสงบเย็นจริงๆครับ


โดย: วนารักษ์ วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:05:39 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะพี่


โดย: ดวงลดา วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:15:28 น.  

 
อิอิ ขอบคุณนะจ่ะ อิอิ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:37:09 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณวนารักษ์..

Lotteryออกแล้ว อ้อมแอ้มใบ้หวยไม่ถูกค่ะ

แต่มีโชคยิ่งกว่าถูกหวยเสียอีก..

เพราะได้รับคัดเลือกให้ไปเที่ยวประจวบฯฟรี 2 วันกะ1คืนค่ะ

ไปช่วงปลายเดือนนี้ค่ะ..

แล้วจะเล่าให้ฟังวันหลังจากเที่ยวแล้วนะค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:55:31 น.  

 
กดไลค์ค่ะ อิอิ


โดย: windsylph วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:40:58 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะ

ถ้าใช้ริงแฟลช ถ่ายมาแล้วก็แข็งๆ ทื่อๆ แล้วอยากจะได้แสงนุ่มๆ นอกจากติด softbox แล้วก็ยังลดแสงไม่ได้ เอากระดาษทิสชูซ้อนๆ กันซัก สองสามแผ่น หาหนังยางมารัดไว้ ช่วยให้แสงนุ่มลงได้ค่ะ รูปที่ถ่ายนั้นใช้สามแผ่นค่ะ


โดย: luckyfarm6662 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:45:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่

ผมกลับมาประจำการบล็อกเหมือนเดิมแล้วครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:48:37 น.  

 
เป็นบทความที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ อ่านแล้วชอบจัง
จะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะคะ คุณเป็นคนแรกที่โหวตให้เรา ขอบคุณมากนะคะ ดีใจจัง
แต่ครั้งนี้ไม่ได้โหวตให้คุณเพื่อตอบแทนนะคะ แต่อ่านแล้วชอบมาก ๆ
ต่อไปคนที่อยู่ตรงหน้าเรา คือคนที่สำคัญที่สุดจะจำไว้ตลอดเลยค่ะ และจะทำให้ดีด้วย


โดย: magic-women วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:56:36 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีนจ่ะ อิอิ รุ่งแน่ๆๆๆ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:01:47 น.  

 
ภาพที่เอามาเม้นให้สวยดี เป็ฯดั่งตะวันยอแสง

ดวงตะวันเจ้าเอ่ยยอแสงเพื่อรอเวลาจะกลับมาเจิดจ้าและิย่งใหญ่


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:02:38 น.  

 
ภาพที่เอามาเม้นให้สวยดี เป็ฯดั่งตะวันยอแสง

ดวงตะวันเจ้าเอ่ยยอแสงเพื่อรอเวลาจะกลับมาเจิดจ้าและิย่งใหญ่


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:02:39 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:42:30 น.  

 
ชีวิตเหมือนหลอดด้าย....นึกว่ามีเยอะ...อือมดีนะ

แต่เคยดึงแรงเกิน ด้ายขาด....เปรียบชีวิต

คงประมาทไป....ด้ายยังไม่หมด...ขาดซะแล้วววววว

ไม่มีไรแน่นอนเลยเน๊อะ...



*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*

..HappY BrightDaY..


โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:05:53 น.  

 
ผมว่าผมยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ครับพี่
แต่พอไหวครับ

ช่วงนี้เลยหลับเร็วมากครับ
4 ทุ่มก็หลับเลยครับ
เวลาตื่นตี 5 มาอัพบล็อก
จะได้ไม่เพลียมาก หรือง่วงนอนระหว่างวันน่ะครับ อิอิอิ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:10:22 น.  

 
โมกฺโข กลฺยาณิกา สาธุ
เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ

ตามปอป้าไปดูว่า ปู่ม่าน กระซิบวาจางามอะไรให้ญ่าม่าน..นะคะ



ขอบคุณที่แวะเยี่ยมบล๊อกปอป้า...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:22:27 น.  

 


สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ....

ม่าม๊าอะไรที่อยู่ตรงหน้าเรานั้นสำคัญที่สุดค่ะ

แล้วยังมีอีก1อย่างที่ต้องทำคือ

ถ้าคิดจะทำอะไรก็ให้ทำเลยค่ะ




โดย: mamamodern วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:59:53 น.  

 
สวัสดีค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งค่ะ หากแม้นว่าประโยคที่เขียนออกไปทำให้ใครสักคนรู้สึกว่าชอบได้

และขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ของคุณวนารักษ์ ได้เข้ามาอ่านวันนี้ ทำให้ได้เปิดใจคิดไตร่ตรองกับลมหายใจที่เข้า-ออกในแต่ละครั้งอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ^^


โดย: กระติ๊บริมทาง วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:19:48 น.  

 
อิอิ เรามาทักทายนะจ่ะ สบายดีไหม กินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ อิอิ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:45:02 น.  

 
มาทักทายยามค่ำค่ะ


โดย: magic-women วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:35:46 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:30:04 น.  

 
อิอิ เย็นแล้วมากินหมูกระทะที่บ้านเราป่าวอิอิ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:53:11 น.  

 
ขอบคุณครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:43:22 น.  

 
วาณิโชว ภยํ มคฺคํ อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน วิสํ
ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปริวชฺชเย

พ่อค้ามีทรัพย์มาก มีพวกน้อย ละเว้นทางที่มีภัย
คนรักชีวิตละเว้นยาพิษ ฉันใด บุคคลพึงละบาป ฉันนั้น

มีความสุขกับการละบาปได้ ทั้งกายและใจ ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:03:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:09:55 น.  

 
สวัสดีตอนค่ำค่ะ

น่าจะได้นะคะ คุณนายตื่นสาย ดอกโตกว่าหญ้างวงช้างอีก อืม...ถ่ายที่ต้นหรือว่าเอาดอกเดี่ยวๆ มาถ่ายล่ะคะ

ถ้าลองแล้วแสงแรงไปลองเพิ่มกระดาษทิสชูค่ะ เอ..หรือว่าริงแฟลช สายสั้นไปมั้ยคะ

มีคนเคยลองใช้ถ้วยมาม่าหรือถ้วยพลาสติกสีขาวมาครอบค่ะ แต่ว่าอันหลังนี้ยังไม่เคยลอง

ปล. เอารูปมาโชว์ด้วยซิคะ


โดย: luckyfarm6662 วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:26:30 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณวนารักษ์..

หนังสือของท่านว.น่าอ่านนะค่ะ

สอนคนดีจัง..

มีความสุขมากๆนะค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:25:06 น.  

 
ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิสํ
นาพฺพณํ วิสมเนฺวติ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต

เมื่อมือไม่มีแผล บุคคลย่อมจับต้องยาพิษได้
ยาพิษนั้นไม่สามารถทำอันตรายได้ บาปก็ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำบาป

มีความสุขกับชีวิตที่ปลอดบาป ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:26:27 น.  

 
ขอบคุณครับผม ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:19:25 น.  

 
เวลาไม่ได้มีอยู่จริงล้วนแล้วแต่เป็นมายาสมมุติเอา อย่ามัวรำไรเพ้อฝันกันอยู่เลย มันผ่านแล้วก็แล้วๆไป เราไม่สามารถได้ประโยชน์อะไรกับชีวิตนี้อยู่แล้ว สิ่งที่ได้มาก็เหมือนไม่ได้มา คือยึดเอาไว้ไม่อยู่ทุกอย่างทุกเรื่อง ชีวิตก็ไม่ได้มีคุณค่าสักนิดเดียว เปรียบประดุจต้นกล้วยหาแก่นไม่ได้ ชีวิตนี้มีแต่ทุกข์สุขนิดเดียว ความสุขนิดเดียวยังเป็นความสุขจอมปลอมเสียอีก มักจบลงด้วยความคับแค้นน้ำตานองหน้า เพราะพื้นฐานของความสุขมาจากความรัก การพลัดพรากจากสิ่งที่รักจึงทรมาณ"


โดย: คนแท้ไม่มีคน IP: 111.84.74.176, 82.145.209.24 วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:06:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วนารักษ์
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^

บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่

เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ
บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ

บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก

จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^


ฝากข้อความหลังไมค์
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add วนารักษ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.