สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง.... มีกรรมเป็นของตน.... มีกรรมเป็นผู้ให้ผล....มีกรรมเป็นแดนเกิด.... มีกรรมเป็นผู้ติดตาม.... มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย.... จักทำกรรมอันใดไว้ ....เป็นบุญหรือบาป........ จักต้องเป็นผู้ได้รับผลกรรมนั้น ๆ สืบไป
เรื่องที่ 12 รถด่วนอวกาศ กาแลกซี่ 999

เรื่องที่ 12 รถด่วนอวกาศ กาแลกซี่ 999




ในสมัยที่ผมจบมาทำงานใหม่ๆ มาใช้ทุนในต่างจังหวัด เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่น
ธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง ตอนเย็นๆเป็นตอนสั้นๆ ที่มีเนื้อหาไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดาจนต้องหวนกลับไปคิดถึงบ่อยๆ แม้จะผ่านมานานนับสิบปี


เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของอนาคตที่คนเราสามารถเอาชนะความตายได้ ทุกคนสามารถอยู่เป็นอมตะได้ โดยการแปลงร่างกายมนุษย์ให้เป็นหุ่นยนต์ สุดท้ายก็จะไม่ต้องหิว ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บป่วย และก็มีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่ต้องตายอีกต่อไป


เด็กชายเท็ตสึโร่ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง อายุประมาณ 10 ปี มีชีวิตอยู่อย่างยากจนบนโลกอนาคตอันห่างไกล โลกซึ่งมนุษย์ที่ไม่ใช่เครื่องจักรกลมีฐานะยากจน ถูกกดขี่ข่มเหง และกำลังถูกกำจัดให้สูญหายไป เขาและแม่อาศัยในเพิงเล็กๆ และยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาวอันโหดร้ายที่กำลังจะมาถึง แต่แล้วเกมล่าของมนุษย์จักรกล ก็มาถึงพวกเขาโดยไม่คาดฝัน มันเหมือนกับมนุษย์จักรกลเหล่านั้นได้เจอกวาง พวกนั้นได้ฆ่าแม่ของเท็ตสึโร่ และนำร่างของเธอไปด้วยเป็นรางวัล เท็ตสึโร่สาบานว่าจะแก้แค้นพวกนั้นให้ได้

เท็ตสึโร่ต้องการที่จะมีร่างกายจักรกลที่ไม่สามารถทำลายได้ เพื่อที่จะแก้แค้นให้แม่ของเขาได้ แต่ก็เหมือนความฝันอันห่างไกล เพราะร่างจักรกลนั้นมีราคาแพง เขารู้มาว่า ณ จักรวาลอีกด้านหนึ่ง มีดวงดาวที่สามารถทำร่างของเขาให้เป็นจักรกลได้ฟรี และรถด่วนอวกาศ 999 ก็จะพาเขาไปได้ เมื่อได้โอกาส เขาขโมยบัตรผ่านขึ้นรถไฟ และตำรวจก็ตามจับเขา


ขณะที่เกือบจะโดนจับได้ เท็ตสึโร่ก็ได้พบกับเมเทล ผู้หญิงสวยผมสีทอง สวมชุดสีดำสนิท ผู้ซึ่งทำให้เขารู้สึกประทับใจเหมือนแม่ของเขา เมเทลมาช่วยเขาไว้ได้ทัน และได้ให้บัตรผ่านขึ้นรถด่วนอวกาศ 999 แก่เขา เธอบอกเขาว่า รถด่วนอวกาศ 999 เป็นรถไฟที่สามารถพาเขาจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือกไปยังกาแล็กซี่แอนโดรมีด้า ที่นั่นมีดาวซึ่งสามารถทำร่างกายของเขาเป็นจักรกลได้ฟรี เงื่อนไขการให้บัตรผ่านนี้มีเพียงว่า เขาจะต้องให้เธอติดตามไปด้วย แม้จะดูลึกลับ แต่เท็ตสึโร่เห็นว่า บัตรนี้เป็นโอกาสเดียวของเขาที่จะไปจากโลก ได้เห็นจักรวาล และมีร่างกายจักรกลที่เขาต้องการ


เรื่องราวดำเนินต่อไป เขาหยุดแวะดาวแล้วดาวเล่า เท็ตสึโร่เริ่มเห็นว่า การมีร่างกายจักรกลไม่ใช่ช่วยแก้ปัญหาอย่างที่เขาเคยคิดไว้ ในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์จักรกลที่เขาพบเจอล้วนแต่ขาดแคลนแรงผลักดันสู่ความสำเร็จอย่างที่มนุษย์ปกติมี ขาดแคลนความต้องการที่จะสร้างสรรค์บางสิ่งที่มีค่ามีความหมาย ภายในช่วงชีวิตอันสั้นของมนุษย์ปกติ


มนุษย์จักรกลส่วนใหญ่ที่เขาพบมักเสียใจกับการตัดสินใจละทิ้งความเป็นมนุษย์ ที่น่าสงสารที่สุด คือ คริสตัล แคลร์ (Crystal Clare) ผู้ทำงานบนรถด่วนอวกาศ 999 นี้ ร่างเปลือยของเธอดูเป็นคริสตัลใสสวยงาม แต่เธอก็อยากมีความอบอุ่นของสัมผัสมนุษย์อย่างเท็ตสึโร่มี


ขณะเดินทางไปกับเมเทล เท็ตสึโร่เริ่มประหลาดใจว่าจริงๆ แล้ว เมเทลเป็นใครกัน เธอมักมีอารมณ์เศร้าเสมอ และเขาเริ่มรู้สึกว่าการเดินทางของเมเทลไม่เคยสิ้นสุด เธอน่าจะเคยมีเพื่อนร่วมทางมาก่อน และเขาก็รู้ว่าเธอจะมีเพื่อนร่วมทางใหม่อีกในอนาคต ซึ่งบางตอนในเรื่อง ก็ทำให้เข้าใจว่า เมเทลมีร่างจักรกลเช่นกัน เพราะเธอได้ไปเยี่ยมร่างมนุษย์ของเธอบนดาวพลูโต ที่ซึ่งร่างมนุษย์ที่ถูกละทิ้งได้รับการห่อหุ้มไว้ด้วยน้ำแข็งในสุสานขนาดใหญ่ เมเทลบอกว่า เธอจะต้องเดินทางอย่างไม่มีวันจบสิ้นไปกับเด็กชายเช่นเดียวกับเท็ตสึโร่ เพราะเธอไม่มีวันแก่และไม่มีวันตาย


เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นการผจญภัยร่วมระหว่างเท็ตสึโร่กับเมเทล จน ตัวเอกทั้งสองสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง เธอจะคอยถามเด็กอย่างเศร้าๆเสมอว่า เขาต้องการเป็นอมตะจริงหรือ


แล้วก็มาถึงตอนจบที่สถานีสุดท้าย ก่อนที่เมเทลจะพาเท็ตสึโร่ไปสู่โรงงานที่แปลงร่างมนุษย์ เธอสงสารเด็กจึงพาไปดูสภาพการใช้ชีวิตหลังจากที่คนแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์แล้ว เพื่อให้ข้อมูลในการตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย


ภาพที่เห็นน่าตกใจมาก เป็นภาพของคนที่ไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตอีกต่อไป คนส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอย่างสำมะเลเทเมา ทั้งกินทั้งดื่ม ทั้งเที่ยว มัวเมาในกามารมณ์ บางคนก็เดินเหม่อลอยไร้จุดหมาย บางคนก็นอนอยู่ที่ข้างถนน สุดท้ายคนที่เบื่อชีวิตมากๆก็กระโดดตึกลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย


เมื่อไม่มีความทุกข์ความสุขก็หายไป เพราะเมื่อไม่ต้องทุกข์จากความหิว ไม่ต้องทำงานเพื่อที่จะมีเงินมาซื้ออาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ความสุขจากการกินอาหารก็ไม่มี ความสุขจากเครื่องนุ่งห่มดีๆที่จะต้องใส่ไปทำงานหรืออวดฐานะก็ไม่จำเป็น เมื่อไม่ต้องเจ็บป่วยก็ไม่ต้องดูแลตัวเอง เมื่อไม่ต้องคอยหาเงินก็ไม่ต้องคอยทำงานชีวิตก็เลยไม่เหลือคุณค่าอะไร เมื่อไม่มีกายก็เลย ไม่เหลือความสุขที่คอยหล่อเลี้ยงใจอีกต่อไป


เมเทลเล่าต่อไปอีกว่า เมื่อคนได้ร่างที่เป็นหุ่นยนต์แล้ว เขาก็จะเอาร่างกายของคนๆนั้น ไปแยกอวัยวะเพื่อจำหน่ายให้กับคนมีเงินที่มีโรคร้ายและยังไม่อยากตายไวๆ เงินทองที่ใช้ในการทำหุ่นยนต์และเดินรถไฟได้มาจากกำไรจากการขายอวัยวะมนุษย์นี่เอง เธอเองก็รู้สึกผิดที่ต้องทำงานอย่างนี้แต่ก็จำใจต้องทำ


เมื่อเด็กชายเห็นดังนั้นก็เลยเปลี่ยนใจ เมเทลยิ้มหวานด้วยความดีใจและพาเด็กไปส่งยังสถานที่เดิม แต่คราวนี้ เด็กคนนี้ไม่ได้มองโลกว่า โหดร้ายอีกต่อไปแล้ว แต่มองเห็นว่า สิ่งที่เป็นอยู่นี่แหละดีที่สุดแล้ว มีสุขบ้าง มีทุกข์บ้าง มีเจ็บป่วยบ้าง มีอายุที่เพิ่มไปตามวัย และตายไปตามธรรมชาตินี้แหละ ดีที่สุดแล้ว เพราะเป็นธรรมชาติของชีวิต


ความจริงความทุกข์นั้นก็เกิดจากความคิด ความยึดติดของเรานี่เอง เราคิดว่า ถ้าเรารวยเราจะมีความสุข คิดว่าเราแข็งแรงเราจะมีความสุข คิดว่าไม่เจ็บไม่แก่ ไม่ต้องตายจะมีความสุข ครั้นเราได้ทุกอย่างตามที่เราหวัง เราก็จะไม่มีความสุขเลย เพราะเราไม่มีความหวังอีกต่อไป ไม่มีทุกข์ก็หมดสุขไปโดยปริยาย


ในชีวิตจริง ไม่มีใครได้ทุกอย่างเสมอไป ได้อย่างหนึ่งก็ไม่ได้อีกอย่าง
ตอนเด็กมีสุขภาพดี มีแรงกิน มีแรงเที่ยว แต่ก็ไม่มีเงิน ไม่มีเวลาเที่ยว เพราะต้องเรียนหนังสือ พอแก่ตัวมีเงินเก็บ ก็ไม่ค่อยมีแรงเที่ยว ไม่อยากเที่ยว จะกินอะไรก็ไม่ค่อยได้เพราะมีโรคประจำตัว แต่ถ้าชีวิตเราไม่มีการแก่ไม่มีการตาย เราจะใช้ชีวิตกันอย่างประมาทกันสักแค่ไหน สังคมเราจะเป็นอย่างไร


พระพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ว่า มีแต่ทุกข์เท่านั้น ที่เกิดขึ้น มีทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป สุขก็คือความทุกข์ที่ลดลงเพราะบำบัดได้ถูกวิธี เช่น หิวก็ได้กินก็มีความสุข เมื่ออยากได้ก็ทุกข์เมื่อสมอยากก็สุข แล้วก็สร้างความอยากขึ้นมาใหม่ให้ต้องทุกข์ใจอยู่เรื่อยไป หน้าที่ของทุกข์ก็คือการกำหนดรู้ เพื่อให้เกิดปัญญาพาตัวเองออกจากความทุกข์ คลายความยึดติดในกายและใจ ไม่ใช่วิ่งหาความสุขมาแก้ทุกข์ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งทุกข์ก็ยิ่งดิ้น เราไม่เคยมาสนใจดูแลจิตใจของตัวเองแบบถูกทางบ้างเลย


ท่านพุทธทาสสอนไว้ว่าที่เรามีชีวิตกันอย่างพออยู่พอเป็น ก็เพราะรสชาติของความเปลี่ยนแปลง ถ้าให้เรากินอาหารที่เราชอบทุกวัน ทุกมื้อ สุดท้ายเราจะเบื่อจนทนไม่ไหว เพราะเรากินอาหารเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อยๆ เราจึงอร่อยได้
ทุกมื้อ เพราะมีวันทำงานบ้างวันพักผ่อนบ้าง เราจึงไม่เครียดเกินไป เพราะมีฝนตกบ้าง แดดออกบ้าง มีร้อนบ้าง มีหนาวบ้าง เราจึงมีชีวิตอยู่ได้ นี่แหละคือสิ่งที่ปิดบังความจริงของความทุกข์อยู่


ถ้าไม่มีของที่เป็นคู่กัน ของอีกสิ่งหนึ่งจะไม่มีค่าเลย เช่น ไม่มีทุกข์ก็ไม่มีสุข ไม่มีดี ก็ไม่มีชั่ว ไม่มีผิดพลาดก่อน ก็คงไม่รู้ว่าถูกเป็นอย่างไร ไม่มีวุ่นวาย ก็คงไม่รู้จักว่าความสงบสุขเป็นอย่างไร ไม่มีผิดหวังก็คงไม่รู้ว่า สมหวังเป็นอย่างไร ถ้าไม่เคยอกหัก ก็คงไม่เห็นคุณค่าของความรักที่แท้จริง ฯลฯ


เห็นไหมเล่าว่าธรรมชาตินี้เขายิ่งใหญ่และปรานีต่อเราเพียงใด เขาให้ร่างกายเราไว้เคลื่อนไหว ให้วัยเด็กอันสดใสร่าเริง ให้วัยหนุ่มสาวไว้ลำบากทำงานสร้างครอบครัว ให้วัยแก่ไว้พักผ่อนสุขสบาย จะเป็นอย่างไรถ้าเราต้องทำงานหนักอย่างไม่มีวันพักผ่อน ธรรมชาติจึงให้มีชีวิตที่เป็นไปตามลำดับๆ


เราอาจจะยังมองไม่ค่อยออกถึงบุญคุณของร่างกายนี้ ถ้าวันใดเราเคลื่อนไหวไม่ค่อยจะได้ เราหายใจไม่ค่อยออก ตาก็มองไม่ค่อยเห็น หัวใจเราไม่ค่อยอยากจะเต้น หรือรู้ว่าเราเหลือเวลาอีกไม่นานเพราะเป็นโรคร้าย นั่นแหละแค่มีชีวิตอยู่ ไม่ต้องมีเงินทองมากๆ ไม่ต้องมีอะไรเลยจริงๆ แค่มีร่างกายที่พอจะใช้ได้ จมูกใช้ได้ ตาใช้ได้ ปอด หัวใจใช้ได้สักหน่อย หรือแค่มีเวลาต่อไปอีกนิดเดียว ก็ดีแล้ว


ของที่เรามีอยู่ทุกวันนี้นี่แหละมีค่าที่สุดแล้ว สิ่งที่เราเป็นอยู่ มีอยู่นี้ มีค่าที่สุดแล้ว รูปร่างหน้าตาจะขี้เหร่ ดำไปนิด แก่ไปหน่อย งานที่ทำเงินน้อยไปนิด เจ้านายหรือผู้ร่วมงานไม่ค่อยดี แค่ตราบใดที่ยังคนที่เรารัก มีคนที่ห่วงใยเรามีแรง มีรายได้บ้างถึงจะแค่พอใช้ไม่มากนัก ตราบใดที่ยังมีอวัยวะทำงานเป็นปกติดี ไม่มีโรคร้ายแรง ยังมีเวลาในชีวิตเหลืออยู่ ยังมีความหวังเหลืออยู่ ดีที่สุดแล้ว



มันดีที่สุดแล้วจริงๆ

ท่านคิดเช่นเดียวกับผมบ้างหรือเปล่า ?





ที่มา : จินตนาการ

อิกคิว




Create Date : 30 มกราคม 2552
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 15:02:56 น. 7 comments
Counter : 2862 Pageviews.

 
เป็นอีกการ์ตูนที่ผมชอบมาก


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:20:11:55 น.  

 
ไม่มีทุกข์ก็หมดสุขไปโดยปริยาย

อ่านแล้ว ได้ข้อคิดเพิ่มอีกมากเลยค่ะ

ดีนะที่ได้อ่านตอนนี้ เพราะตอนเด็กๆ ไม่ชอบดูการ์ตูนเลย


แล้วจะแวะมารับเรื่องราวดีๆอีกนะคะ


โดย: ดูดีคู่สีจี๊ด วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:19:00:44 น.  

 
ช่ายแล้วค่ะ พี่อ๋า ที่จริง ท่านให้มองว่า มันดีแม้แต่ กระทั่งความตาย หรือ มะเร็งร้ายมาเยือน ท่านบอกว่า ทุกความทุกข์ เรื่องร้าย ความยากจน ฯลฯ เรื่องที่แย่ๆทุกเรื่อง มี Buddha nature มีความเป็นพุทธะในตัว


คือสิ่งที่ดีๆ ที่ซ่อนอยู่เสมอ เป็นคนแก่ก็ดี เป็นคนใกล้จะตายก็ดี ทุกอย่างไม่ใช่ปัญหา ไม่ว่าความยากจน ความเจ็บไข้ ความแก่ ความน่าเกลียด และความตาย

แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เราคิดยังไงกับมัน เรารู้สึกยังไงกับมัน เรารับมันได้ไม๊

ถ้าเรารู้สึกดีกับมัน เรายินดีต้อนรับ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ทุกอย่างก็ไม่เป็นปัญหา

ชีวิตพี่อ๋า มี buddha nature นะ มีคุณค่าที่แสนวิเศษ ซ่อนอยู่ในชีวิตที่ยากจน และอยู่ในสลัม เพราะพี่อ๋าก้ามข้ามผ่านมาได้

ชีวิตได้พัฒนา จากจุดเริ่มต้นที่ดูจะไม่ดีนัก แต่มันก็มี Buddha nature จ้า


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:56:08 น.  

 
-ขอบคุณที่น้องหลินช่วยขยายความให้นะครับ

จริงๆด้วยชีวิตที่เคยชินกับความยากลำบากไม่ได้รู้สึกว่าลำบากอีกเลย ครับ ความเข้าใจชีวิตมีมากขึ้น เพราไม่ต้องไปจ้องแสวงหาความสุขสบายมากนัก แต่สิ่งที่ต้องการคือการพ้นทุกข์มากกว่า

แอบปลื้มกับคำว่า buddha nature ด้วยครับ ท่านพุทธทาสท่านใช้คำว่าธรรมมีในทุกสิ่งทุอย่างมีธรรมแม้แต่ในกองขี้หมา ท่านว่าไว้ตลกๆอย่างน้นครับ


โดย: วนารักษ์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:37:21 น.  

 
พี่อ๋า ทราบเรือง พระอาจารย์พรหมแล้วจ้า ได้นัดกับเพื่อน คอธรรมะ เหมือนกันแล้ว ฮ่าๆๆ ต้องไปจองแถวหน้าเลย ถ้า ไม่ติดขัดอะไรนะจะถ่ายรุปมาให้ดูจ้า

ธรรมะรักษานะ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:14:41 น.  

 
ดีจังเลยครับ แล้วจะคอยดูรูปครับ


โดย: วนารักษ์ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:53:00 น.  

 

อยากดูทำไงดี


โดย: ปอ IP: 124.121.202.231 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:18:57:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วนารักษ์
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^

บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่

เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ
บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ

บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก

จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^


ฝากข้อความหลังไมค์
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add วนารักษ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.