All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่27








บทที่27


ทั่วบริเวณห้องแถวสองคูหาเต็มไปด้วยแขกเหรื่อผู้มีเกียรติ หลังตัดริบบิ้นเปิดร้านอย่างเป็นทางการตามฤกษ์ยามงามดี ทั้งไฮโซไฮซ้อทั้งหลายต่างมาร่วมงานกันเนืองแน่นตามคำเชิญของนายกสมาคมแม่บ้านไฮโซอย่างคุณกังสดาลทยอยกันเดินเข้าภายในร้านที่ตกแต่งด้วยสีขาว ผู้มีเกียรติทั้งหลายต่างหนีบบุตรสาวบุตรชายมางานกันอย่างเนืองแน่น นิศากรตรวจความเรียบร้อยด้วยการหมุนไปรอบๆตัวนางแบบแทนที่จะให้นางแบบหมุนตัวด้วยความตื่นเต้น

ครั้งนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะเจ้าของห้องเสื้อคนใหม่ ร่างกลมกลึงอยู่ในชุดเกาะอกกระโปรงพริ้วสีขาวสะอาดยาวถึงเคลียเข่า เปิดโชว์ผิวขาวนวลใสช่วงไหล่มนและท่อนแขนเสลา ผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเก็บไว้ ปล่อยปอยผมบางปอยมาระแก้มและท้ายทอยม้วนเป็นเกลียวอ่อนๆช่วยเพิ่มความหวานใสให้ใบหน้าซึ่งตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์เฉดสีชมพู เน้นขอบดวงตากลมใสให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ริมฝีปากอิ่มทาด้วยสีชมพูโอลโรส ทั้งเนื้อทั้งตัวไร้เครื่องประดับใดนอกเสียจากต่างหูเพชรเส้นยาวกับแหวนเพชรวงเล็กที่สวมติดนิ้วนางซ้ายมาอาทิตย์กว่าแล้ว

“โอ๊ย หนูนิหมุนไปมาจนจะอ้วกอยู่แล้ว เลิกเช็คซะทีมันเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เชื่อเถอะ” คนถูกตรวจตราร้องรำพัน ทำท่าจะอาเจียน แพรพรรณมองแล้วถอนหายใจโล่งอกที่มีคนเบรกเพื่อนรักเสียที เพราะเธอเองกำลังเป็นคิวต่อไปที่จะต้องโดนตรวจอย่างนั้น

“ก็เราตื่นเต้น กลัวจะมีอะไรผิดพลาด เช็คไว้ก่อนจะได้แน่ใจ” คนถูกเบรคอธิบายอาการของตัวเอง แพรพรรณที่ถูกจับแปลงโฉมให้โฉบเฉี่ยวแบบหญิงสไตล์มั่นใจเปรี้ยวเท่ในชุดกระโปรงทำงานกึ่งลำลองเข้ามาแตะไหล่นวล มืออีกข้างก็กำมือขาวของเพื่อนรักไว้ บีบเบาๆเป็นการให้กำลังใจ


“ไม่มีอะไรพลาดแน่นอน งานนี้พวกเราทุ่มกันเต็มที่แล้ว พวกเรามือฉมังกันขนาดไหนก็รู้ๆอยู่ หรือว่าไม่เชื่อใจเสียแล้ว”

“เปล่าๆๆ เปล่านะ เชื่อใจสิ แต่มันอดตื่นเต้นไม่ได้นี่นา” คนพูดเสียงสั่นมือเย็นอย่างกับแช่แข็ง เพื่อนทุกคนเข้าใจ ต่างเข้ามารุมล้อมเกาะกอดให้กำลังใจกันเป็นการใหญ่ เริ่มจากเบาๆเป็นการปลอบขวัญเป็นรัดแน่นขึ้นๆๆๆ จนกลายเป็นแกล้งหวังช่วยคลายเครียดให้เพื่อน นิศากรร้องอุทรณ์กระท่อนกระแท่นเนื่องจากขาดอากาศหายใจ ทุกคนในที่นั้นเลยได้หัวเราะร่ากันอย่างสมใจ

นิศากรยื่นมือขาวออกมาข้างหน้า แพรพรรณและเพื่อนทุกคนจิ้มนิ้วลงบนมือนั้น กดแรงๆลงไป ส่วนมือบางที่เป็นฐานก็ดันขึ้นแล้วร้องเฮ พร้อมกันดังๆ สัญลักษณ์แห่งการรวมใจเป็นหนึ่ง เหมือนสมัยเรียนที่ร่วมกันทำงานหรือแข่งกีฬาต่างๆ

ดวงตาคมที่ทอดมองมายิ้มๆ พอใจในมิตรภาพอันดีที่เพื่อนๆมีให้กัน คอยช่วยเหลือเจือจุนกันด้วยความสามัคคี ใบหน้าหวานในวันปกติยิ่งหวานล้ำกว่าเดิมนักในวันนี้ ครั้งแรกที่เห็นสาวน้อยเดินกระสับกระส่ายไปมา คิ้วขมวดนิดอย่างวิตกกังวลก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กลัวสาวคนรักจะเครียดเกินไป ตั้งใจจะเดินเข้าไปปลอบก็ไม่ทันน้องสาวเสียแล้ว

กำลังแอบมองอยู่เพลินๆ น้ำหนักมือจากใครคนหนึ่งตบลงแรงๆ บนไหล่หนา เจ้าตัวสะดุ้งเฮือก หันหน้าหาคนประทุษร้าย พอรู้ว่าใครก็ตีหน้ายักษ์ใส่ ค่าที่ทำเสียอารมณ์


“เป็นอีแอบรึไงวะ ดูทำเข้า” เสียงห้าวทักเสียงเครือ หัวเราะหึๆในลำคอตั้งแต่พบเพื่อนสนิทเกาะประตูยื่นหน้าทำท่าเหมือนโจรถ้ำมองอยู่


“ฉันไม่ได้โรคจิตแบบแก” เสียงทุ้มสะบัดอย่างขัดเคืองเล็กน้อย คนแซวคงตั้งใจจะหาว่าเป็นพวกโรคจิตชอบเจาะรูดูสาวๆ แต่ดันจงใจใช้คำผิดความหมาย หาว่ากลายเป็นชาวสีม่วงไป ใครบ้างไม่โมโห

“เหอะ แล้วมาชะเง้อชะแง้อะไรแถวนี้ นี่มันห้องแต่งตัวนะโว้ย”

“มาดูเฉยๆ ว่าเรียบร้อยรึเปล่า เกิดมีอะไรจะได้ช่วยกันได้ แล้วแกมาทำอะไร” นักธุรกิจหนุ่มหันมาถาม เหล่สายตามองอย่างระแวง

ไอ้โรคจิต

ธเนศรับรู้ได้ทางกระแสจิตหรือสายตาที่ตั้งใจสื่อความหมายแบบนั้นก็ไม่ทราบหรืออาจจะทั้งสองอย่างหันขวับไปส่ายหน้าดิก ทั้งที่ไม่ได้มองคนพูดแม้แต่น้อย สายตาคมหวานแบบผู้หญิงเลื่อนไปมาตามร่างเล็กแบบบางซึ่งสอดส่องตัวเองอยู่หน้ากระจกไม่ยอมเคลื่อนกายไปไหน

“ไม่ได้มาแอบดูนะโว้ย แม่แกใช้ให้มาตามหาแก เล่นหายหัวไปหมด ไม่มีใครช่วยรับแขก” ขณะพูดก็ยังอดเหลือบมองใบหน้าเล็กหวานที่สะท้อนในกระจกไม่ได้

วันนี้ยัยเปี๊ยกดูแปลก แต่ก็...สวยดี...ละมั้ง

ร่างสูงทั้งสองขยับตัวตรง เมื่อสำรวจว่าเหตุการณ์ภายในห้องนั้นสงบเรียบร้อยดีแล้ว ตั้งท่าเดินกลับไปภายในงาน ไม่ทันเห็นร่างเล็กแบบบางคล้ายแพรพรรณ หากผิวขาวกระจ่างและเครื่องหน้าแบบเชื้อสายจีนผสมไทยยิ้มอย่างลังเล เดินตรงเข้าหาแพรพรรณ จับมือเธอแล้วพูดอะไรบางอย่าง ทำท่าเหมือนขอร้อง หากไม่มีผู้ใดรู้ว่าคำขอร้องนั้นคือสิ่งใด แต่มันทำให้สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมีอันมลายหายไปพักหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะรีบปรับเป็นแย้มเยือน พยักให้หญิงสาวคนนั้นซึ่งผละจากไปด้วยความยินดียิ่ง หลังจากนั้น แพรพรรณก็ยืนนิ่งส่องกระจกดูตัวเองในรูปลักษณ์ที่แปลกตาไปจากเดิม ดวงตาโตหลุบต่ำทันควัน เหมือนอยากจะหลบอะไรบางอย่างที่ตนมองเห็นผ่านกระจกยาวบานนั้น เจ้าตัวผละไปจากที่เดิมไม่ปราถนาจะมองอะไรผ่านเงานั้นอีก



ด้านหน้าอาคารสองคูหาแขกเหรื่อทั้งหลายป้องปากซุบซิบกันยกใหญ่ เนื่องจากร่างสูงตรงของบุตรชายคุณลักษิกาเดินตรวจตรา ต้อนรับแขกอยู่เคียงข้างมารดาตนบ้าง มารดาเจ้าของร้านสาวบ้างสลับกันไป เสมือนการตอบรับกระแสข่าวที่ลือกันมาพักใหญ่

รักสามเส้าระหว่างนักธุรกิจหนุ่ม นางร้ายสาวและลูกสาวไฮโซ ครั้งก่อนหน้านี้ไม่นาน ข่าวซุบซิบที่แพร่ไปทั่วเมือง นางร้ายสาวพ่ายแพ้เสน่ห์นักเรียนนอกหน้าใส ไม่รู้ข่าวจริงเท็จย่างไร หมู่คนเกาะติดสถานการณ์ดาราติดตามกระชั้นชิด จนได้มีข่าวเล็ดลอดอีกข่าวที่เสริมขึ้นมาจากวงใน

รัญชิดานางร้าย ร้ายสมบทบาท วางแผนสร้างข่าวลวง สวีทหนุ่มนักธุรกิจกลางงานวันเกิดตัวเอง สุดท้ายถูกจับได้โดยละม่อม

ใบหน้านิ่งหากกระจ่างด้วยรอยยิ้มสุภาพยินดีที่ดวงตาคมเข้มและมุมปากซึ่งยกขึ้นแบบที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ท่วงท่าสง่าแบบนักธุรกิจจับไปทุกอิริยาบทชวนมอง พูดคุยต้อนรับผู้มีเกียรติแทนคนรักสาวชั่วครู่ เพราะอีกฝ่ายยังมือสั่นใจสั่นอยู่ไม่ไกล ถึงจะแอบเข้ามุมเสาจนมิดแล้วลอบชะเง้อมองมาชั่วแวบที่ฝูงชนขนาดย่อมเริ่มมาออกกันข้างทางเดินปูพรมสีแดงยขึ้นสูงจากพื้นเล็กน้อยที่จะใช้เป็นแคทวอล์กสำหรับนางแบบ หากสายตาคมยังจับได้ ร่างกลมกลึงในชุดสีขาวอยู่ในสายตาเสมอ



เมื่อไหร่ไม่รู้ ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้คนที่ยืนตัวสั่นงันงก พนมมือแต้พึมพำขอพรไม่เลิก ด้วยหวั่นใจว่าไม่อาจสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ ทั้งที่ตัวนางแบบทั้งหลายต่างจับจองชุดที่ตัวเองเป็นแบบก่อนจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียด้วยซ้ำ หากความขลาดกลัวทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะเพื่อนอยากให้กำลังใจเป็นทุนในงานใหญ่ครั้งแรก

“สวดมนตร์ครบบทรึยังครับ” เสียงทุ้มทักขึ้นชิดใกล้แค่ไหน ก็ใกล้แค่ถูกทักสะดุ้งแล้วเบี่ยงตัวตามเสียงเล็กน้อยก็ชนเข้ากับอกกว้างแล้วนั่นแหละ นิศากรอุทานเสียงไม่ดังนักแล้วถอยห่างมาเล็กน้อยก่อนหันไปเผชิญหน้าด้วยยิ้มค่อนข้างแหย

“พี่ภู ทำไงดี ตื่นเต้นจังเลยค่ะ” มือขาวบางเปลี่ยนจากพนมกันไว้เป็นบีบแน่นแทนสั่นน้อยๆด้วยความไม่มั่นใจ ภูดิสยิ้มอบอุ่น ปลอบประโลมคนขวัญเสียด้วยอุ้งมืออบอุ่น รวบมือน้อยทั้งสองมาไว้ในกำมือตน รู้สึกได้ทันทีว่ามันเย็นเฉียบ

“หนูนิ” เมื่อชายหนุ่มเรียกชื่อเล่นของนิศากร ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่น้ำเสียงมักจะทอดอ่อนชวนฟังกว่าใครๆ ไม่แน่ใจนักว่าเจ้าตัวจะรู้หรือไม่ หากทุกครั้งที่ได้ยิน คนฟังเคลิ้มและต้องยิ้มรับทุกครั้งไป

“ความกลัวอะไรก็ตาม ไม่ร้ายเท่ากันความกลัวที่เราสร้างขึ้นมาเองหรอกนะครับ” นิศากรนิ่งไปนิดแล้วพยักหน้าเห็นด้วย มือใหญ่ประกบมือเล็กทั้งสองข้างไว้บีบน้อยๆอย่างให้กำลังใจ

“มั่นใจหน่อย พี่เชื่อว่ามันจะผ่านไปด้วยดี”

“ค่ะ”

ใบหน้าหวานเงยขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกยืดตัวตรง พอลืมขึ้นดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มมีประกายความเชื่อมั่นมากกว่าเดิม ภูดิสเห็นอย่างนั้นแล้วก็โล่งใจ ประสบความสำเร็จในการเพิ่มความมั่นใจให้คนรัก สองหนุ่มสาวยิ้มให้กัน งานนี้นักข่าวไม่พลาด เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกฝากคอลัมภ์ซุบซิบไฮโซหรือจะซุบซิบดาราดีก็ยังไม่แน่ใจ




ไฟเกือบทุกดวงในร้านหรี่ลงจนเหรอแค่ความสลัว เสียงเพลงดังก้องตามติดพิธีกรซึ่งรับหน้าที่โดยสาวเทียมผู้มีเสียงและลีลาจัดจ้านไม่แพ้มืออาชีพเดินลงบันไดวนจากชั้นลอยลาดด้วยพรมแดงลงมาด้วยท่าทางมาดมั่น ประกาศต้อนรับและเชื้อเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านชมการเดินแบบเสื้อผ้าจากห้องเสื้อ Nooniza

เสียงปรบมือคลายลง พร้อมร่างเพรียวบางของเหล่านางแบบสมัครเล่น ตกแต่งใบหน้าด้วยเครื่องสำอางค์อย่างเฉียบเนี้ยบ

น้ำเสียงเร้าใจของพิธีกรเริ่มขึ้น แขกผู้มีเกียรติมาออกันข้างพรมแดงตั้งแต่หัวบันได นางแบบกิตติมาศักดิ์ทั้งหลายวาดลวดลายจนผู้ชมอึ้งกิมกี่ งานนี้คอนเซปคือ up to u แปลว่า ทำอะไรตามใจแกเหอะ แค่ให้คนดูเขาเห็นความงามของชุดแล้วเกิดความอยากได้ก็พอ คุณๆนางแบบเลยใส่กันซะเต็มที่แบบว่าไม่กลัวขาดทุน ไม่งั้นก็หวังเกิดในงานนี้เลยทีเดียว อีกหนึ่งความแปลกที่ไม่คิดว่าจะมีแฟชั่นโชว์ไหนทำแน่นอนคือ การบรรยายคุณลักษณะของเสื้อผ้า ประโยชน์ใช้สอย การพากย์สด แปลกประหลาดปนขำขัน และเริ่มหนักข้อเรื่อยๆเมื่อถึงคราวแพรพรรณ

หญิงสาวร่างเล็กปรากฎกายขึ้นที่หัวบันไดในชุดกระโปรงแดงสลับขาวแนบลำตัวยาวจนถึงต้นขาขาวเรียวเหนือเข่ามาหนึ่งฝ่ามือ เสื้อสูทตัวสั้นสีขาวแขนยาว คอตั้งติดกระดุมครบทุกเม็ด ผมดัดเป็นลอนรวบเก็บปลายเรียบร้อยไว้ด้วยปิ่นปักผม

แพรพรรณยิ้มอย่างมาดมั่น กวาดสายตาไปทั่ว ก้าวลงบันไดลาดพรมแดงมาเรื่อย จนกระทั่งลงมาหยุดที่ขั้นสุดท้าย เดินตรงดิ่งหน้าเชิดแบบคนมั่นใจบนส้นเข็มสูงปรี๊ดเพิ่มความเพรียวบาง ก้าวยาวๆแบบสาวเปรี้ยวมั่นใจในเสน่ห์ตนเต็มที่ ดวงตาโตเป็นประกายเลื่อนไปมาตามทางที่เดิน ยิ้มกว้างโบกมือน้อยๆให้ผู้ชมข้างแคทวอล์กแล้วชะงักเล็กน้อย เมื่อผ่านร่างสูงหนา ผิวน้ำผึ้ง ใบหน้าคมเข้มกับดวงตาหวานคล้ายผู้หญิงเป็นประกายขบขัน

ยัยเปี๊ยกเอ๊ย คงนึกว่าตัวเองสวยล่ะสิ เหมือนเด็กแก่แดดเสียล่ะมากกว่า

ธเนศรู้สึกเหมือนแพรพรรณเอาชุดผู้ใหญ่มาแต่งเล่นเสียมากกว่า คนขำแบบไม่ปกปิดฉีกยิ้มกว้างจนเกือบเห็นฟันขาวตัดกับสีผิวครบทุกซี่ต้องชะงัก เมื่อแพรพรรณหมุนตัวผ่านกลับมาด้วยใบหน้าและสายตาเฉยเมยเหมือนไม่ใส่ใจ ทั้งที่ควรจะได้ตาเขียวๆ หน้าบึ้งเข่นเขี้ยวอยากกระโดดถีบเพราะโกรธที่ถูกหัวเราะมากกว่า ไหงกลับเป็นแบบนั้นไปได้ เอ หรือจะตาฝาดหว่า

“ชุดนี้นะคะ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดทำงานแสนเปรี้ยวเพียงเท่านี้นะคะ คุณนางแบบช่วยสลัดคราบสาวออฟฟิศออกฝากไว้ที่คุณผู้ชายคนหล่อๆคนนั้นทีค่ะ”

แพรพรรณชี้มือไปที่ชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แล้วหันไปทำหน้าเป็นเชิงถามพิธีกรสาวเทียมฝีปากจัดจ้านว่า คนนี้ใช่หรือเปล่า สาวเทียมพยักหน้าทำมือเป็นรูปตัวโอ แปลว่าถูกต้อง

“และแล้วนางสาวเฝ้าออฟฟิศแสนมาดมั่นก็กลายเป็นสาวสวยพร้อมสำหรับงานปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงในมาดสาวเซี้ยวเปรี้ยวจี๊ด”

แพรพรรณจึงแกะกระดุมเสื้อตัวสั้น ถอดออกเหลือเพียงชุดเกาะอกแนบลำตัวจนเห็นส่วนโค้งเว้าของวัยสาวเต็มที่ เผยช่วงลาดไหล่บอบบางชวนมอง มือเล็กบางปลดปิ่นออก ผมเป็นลอนสลวยทิ้งตัวลงมา ปกปิดผิวนวลได้บางส่วน

แพรพรรณฝากของทั้งหมดไว้กับชายคนที่ถูกเลือกเมื่อครู่ ผิวขาวตัดกับชุดขาวแดง เพิ่มความโดนเด่นให้ผู้สวมใส่ เจ้าตัวเปิดกระเป๋าถือใบเล็ก นำสร้อยเส้นยาวมีจี้คริสตัลส่องประกายวอบแวบมาสวมแล้วปิดกระเป๋า ผู้ชมหลายคนมองยามร่างบางโฉบผ่านหน้าไปอีกรอบ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ไม่เว้นแม้คนที่หัวเราะขำขันเมื่อครู่

ยัยเปี๊ยก โตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย

ธเนศกวาดสายตาไปทั่วร่างบาง พบความเป็นจริงที่ไม่อยากยอมรับ แพรพรรณโตเป็นสาวเต็มที่และมีเสน่ห์ไม่น้อย เขาเพิ่งเห็นเต็มตาก็วันนี้เอง สายตาของหนุ่มๆหลายคู่คงมองเห็นเช่นเดียวกัน คนข้างเคียงสอบถามหญิงกลางคนข้างตัว อยากรู้ เธอเป็นใคร

จะรู้ไปทำไม แค่ภาพลวงตา โบ๊ะหน้าหนาเตอะ อยู่นิ่งๆก็สวยดีหรอก แต่พอล้างออกแล้วให้พูดสิ ได้เผ่นกันไม่ทันหรอก เฮอะ!

หญิงสาวที่ถูกสั่งมากำชับให้ทำหน้ายั่วยวนชวนหลงไหลพยายามหว่านเสน่ห์เต็มที่ให้เข้ากับชุด ส่งรอยยิ้มที่พยายามสั่งให้ตัวเองเซ็กซี่สุดให้ทุกคน แล้วก็สะดุดอีกรอบเมื่อพานพบตาขวางๆมองมาอย่างไม่พอใจ แพรพรรณพิศวง อยากถามเหลือเกิน เป็นบ้าอะไรยะ ตาขวางโดนน้ำมาหรือไง แต่สำนึกได้ว่าตนกำลังทำหน้าที่ใดกับคำขอร้องของเพื่อนเธอเมื่อครู่นี้ จึงตัดใจเดินผ่านไปอย่างไม่ไยดีทำตัวเซ็กซี่สวยสดของตนต่อไป จนสุดท้ายยิ้มหวานขอเสื้อคืนจากหนุ่มวัยรุ่นคนนั้น ธเนศเห็นแล้วยิ่งโมโห

ทำเชิดใส่เหรอ ยัยเปี๊ยกเดี๋ยวเจอกันแน่

ปิดท้ายด้วยการเปิดตัวดีไซน์เนอร์สาวคน เจ้าของห้องเสื้อคนใหม่ นิศากรในชุดสีขาวสะอาด สวยหวานก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มและดวงตากลมบ่งบอกความมั่นใจและภูมิใจในสิ่งที่ตนเองทำมากแค่ไหน เสียงปรบมือดังกึกก้องส่งให้รอยยิ้มหวานกว้างขึ้น

ใครคนหนึ่งมองอย่างตกตะลึงและดีใจจนแทบกระโจนเข้าไปหา หากมีคนเรียกและดึงไว้ก่อน

“คุณนนท์จะทำอะไร”

“ฉันรู้จัก เธอคนนั้น” อานนท์ทำท่าจะก้าวไปหาอีก

“แต่เราไม่ได้มาหาคนนั้นนะ คุณภูดิสต่างหาก”

“ในที่สุดก็เจอจนได้”



คุณกังสดาลและคุณลักษิกาก้าวขึ้นพรมแดง หญิงทั้งสองผลัดกันแสดงความยินดี หอมแก้มนวลใสคนละข้างด้วยความยินดี พยักให้ร่างสูงก้าวตามพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ยื่นให้สาวน้อยที่ยื่นมือมารับไว้เต็มอ้อมแขน ท่ามกลางแสงแฟรชจากกล้องทั้งหลายที่ไม่ยอมพลาดช็อตเด็ดที่เท่ากับเป็นการประกาศความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวให้รู้กันทั่วอย่างชัดเจนตามความต้องการของสองมารดา

“เอาให้น้องสิลูก” คุณลักษิกาขยับมาบอกลูกชายยิ้มๆ ทวงของขวัญแทนสองแม่ลูกที่ทำหน้าแปลกใจ

ภูดิสเหลือบสายตาคมมองปราดไปยังผู้ชมหลายสิบเล็กน้อย ใจจริงเขาอยากเก็บไว้ให้หญิงสาวเองเป็นการส่วนตัว ไม่อยากทำประเจิดประเจ้อต่อหน้าผู้คนแปลกหน้าที่มองมาอย่างสนใจ แต่ตอนนี้ถูกทักเข้าแล้ว เขาจึงต้องล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

กล่องสีแดงยาวเปิดอ้า นิ้วแข็งแรงบรรจงหยิบสร้อยข้อมือทองคำขาวเส้นเล็กออกมา ประดับด้วยพลอยสีแดงเจียระไนเป็นรูปหัวใจอันเล็กน่ารัก ภายในโลหะเส้นบางร้อยสานกันโปร่งๆคล้ายลูกตะกร้อทรงกลม

คุณลักษิกาเอื้อมมาฉวยช่อดอกไม้ไปจากมือนิศากร ปล่อยให้สองมือเล็กว่างเปล่า แต่เจ้าตัวคิดอยากให้มันกลับมาอยู่ในอ้อมแขนอย่างเดิมมากกว่า จะได้ไม่รู้สึกเหมือนไม่รู้จะเอามือไปวางตรงไหนดีเช่นนี้

ดวงตากลมเหลือบขึ้นสบกับเจ้าของสร้อย เห็นสีหน้าเก้อเขินนิดๆภายใต้ท่าทางนิ่งสงบอยู่เหมือนกัน มือแข็งแรงยื่นมาตรงหน้า ทำท่าขออะไรสักอย่าง นิศากรเข้าใจทันใด แต่ยังอยู่นิ่ง ไม่ยอมให้ตามคำขอ เพราะรู้สึกหน้าแดงเห่อขึ้นมายังไงไม่รู้ ภูดิสเลยคว้ามือนิ่มมาเองเสียเลย นิศากรขืนไว้ในทีแรกแล้วผ่อนลงเมื่อเสียงทุ้มกระซิบ

“เอาเถอะครับ เราตกหลุมแม่พี่เสียแล้ว ถอยไม่ทันแล้วล่ะ ต้องยอมหวานต่อหน้านักข่าวนิดหน่อย หรืออยากหวานนานๆครับ อย่าเลย พี่เขินนะ” ท้ายประโยคเจ้าตัวบอกอย่างจริงใจแกมขำขัน เลยได้เสียงแหวเบาๆจากหญิงสาวกลับไป

“บ้า!”

โลหะเย็นลูบผิวเนื้อนวลข้างเดียวกับมือน้อยที่สวมแหวนเพชรวงน้อยไว้ ช่างภาพที่ตั้งใจจับภาพของขวัญบนข้อมือเล็กสังเกตเห็น นักข่าวรายการซุบซิบไฮโซปากไวส่งเสียงถามไถ่ แหวนนี้ได้แต่ใดมา คำตอบไม่มีเป็นเสียงหวานใส หากแต่สายตาทั้งคู่ที่มองกันทำให้ได้คำตอบ

อานนท์ที่ถูกรั้งไว้จากคนๆหนึ่งสะบัดหลุดออกมาด้วยความร้อนใจ รี่ตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่เฝ้ารออยากพบทำความรู้จักมาหลายเพลา บัดนี้เขาได้พบแล้ว และไม่ว่าอย่างไร เธอจะมีใคร หากในความคิดเขาแล้ว คติประจำใจมีอยู่ว่า ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ คนที่รักในวันนี้ อาจไม่ใช่คนที่ใช่ในวันหน้า ดังนั้น เขามีสิทธิจะลงแข่ง





-----------โปรดติดตามตอนต่อไป-------------


//punnarm-farin.bloggang.com


*;...คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน...;*

เพทยาธร - จริงค่ะ พวกผู้ชายนี่ แย่จริงๆ แถวนี้ก็มีพวกขี้ลืม ปากแข็งแล้วก็ไม่รู้ตัวอยุ่ครบเสียด้วย

Ormmie - เอ ไม่รู้สิคะ คิดได้หรือเปล่า หรือฟื้นมาจะป่วนหนักกว่าเดิม หรือกลับใจได้แล้วก็ไม่รู้สิคะ

kidakarn - สวัสดีค่ะ ยินดีๆๆๆๆที่เข้ามาเยี่ยมนะคะ ส่วนblog 555 เปลี่ยนมาไม่รู้กี่แบบแล้ว 5555 เจ้าของโรคจิต เดี๋ยวซักพักก็เปลี่ยนอีก ดูอย่าง โลโก้ปะไร

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 17:28:07 น.
Counter : 266 Pageviews.

5 comments

  

สุขสันต์ สุขสันต์ค่า
โดย: โสมรัศมี วันที่: 18 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:33:57 น.
  
นี่จะมีคู่แข่งเพิ่มอีกคนใช่มะ ท่าทางรักนี้จะไม่ลงตัวง่ายๆ ซะแล้ว

จะตามดูตอนต่อไปแน่นอน

เพธยาธร
โดย: วิมานเพธยาธร IP: 210.1.7.12 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:38:52 น.
  
เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆใช่มั๊ยคะนี่ มีตัวปัญหาอีกแล้วเหรอ
ต้องเอาใจช่วยพี่ภูหละงานนี้
โดย: Ormmie IP: 125.24.83.241 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:20:43 น.
  
จอร์จ...วุ่นๆ อยู่ที่โรงเรียน กลับมาดูนิยายที่บล็อก อ๊ากกก!! พี่ฟ้าหนีฟิวไปอีกแล้ว เค้าตามอ่านไม่ทัน

เห็นว่ามีตัวละครเพิ่มมาอีก แง่มๆ ท่าทางพี่ฟ้าจะเอาให้จบถึงตอนที่ 30 กว่าจริงๆ แฮะ (หรือมากกว่านั้น)

ไปอ่านล่ะ คนเราช่างทำกันได้ลงคอ ต้องอ่านตามตั้ง 3 ตอน ตาบอกแน่ไอ้ฟิวเอ๊ย!
โดย: kakok_riwkiw วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:12:20 น.
  
คงไม่จบง่ายๆ
โดย: ผึ้ง เอ็ม IP: 202.143.162.138 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:11:36:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik