All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่28(ครึ่งหลัง)






บทที่28/2


เสียงเรียกคุ้นหูดังก้อง พาให้คนที่กำลังวิ่งราวกับหนีอะไรบางอย่างชะงัก หันกลับมองคนเรียกที่โผล่ออกจากประตูมาครึ่งตัว ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากคุณหมอหนุ่มผิวสะอ้านกับอาหารสองจานในมือใหญ่

“จะรีบวิ่งไปไหนน่ะ มีอะไรให้เราช่วยหรือเปล่า” หน้าตาบ่งบอกความอ่อนแรง หากยังคงมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ

“ทำหน้าตาแปลกๆ แพรเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” นัฐกรถามพลางเดินเข้ามาใกล้ร่างเล็กที่หยุดชะงักอยู่กลางทาง สังเกตหน้าตาเริ่มเหยเกขึ้นทุกที ดวงตากลมโตแดงระเรื่อ เจ้าตัวพยายามกลืนก้อนแข็งที่จุกอยู่กลางลำคออย่างลำบากยากเย็น ส่ายหน้าปฏิเสธและยิ้มเยือนแทนคำว่าขอบใจ

“เข้าไปข้างในห้องกัน หนูนิก็อยู่” หมอหนุ่มชักชวนใช้ศอกสะกิดแขนเพื่อนให้เดินตามมาในทิศทางเดียวกัน

ภายในห้องเล็ก มุมหนึ่งมีโซฟาตัวยาวถูกครอบครองโดยสาวแปลกหน้านางหนึ่งซึ่งนัฐกรเดินเข้าไปหา นิศากรยืนทำอะไรบางอย่างอยู่ในอีกมุมหนึ่ง แพรพรรณตาวาวๆขึ้นมาอีกระลอกเมื่อนิศากรหันมาพบเข้า

“หนูนิ...” น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งจากขอบตาลงสู่แก้มนวล ท่ามกลางความตกตะลึงของภูดิสและนิศากร

“แพร ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไร” นิศากรโอบเพื่อนสนิทไว้ในอ้อมแขน ลูบหลังไหล่เป็นการปลอบโยน แม้ไม่มีเสียงสะอื้นไห้ แต่อาการสั่นสะท้านบอกให้รู้ได้ สายน้ำตารินไหลเริ่มพรั่งพรู

ห้องทั้งห้องเงียบสงัด ไม่มีผู้ใดสอบถามอีก รอเท่านั้น รอ ให้เจ้าตัวระบายออกมาเสียให้หมดก่อน แล้วหลังจากนั้น ค่อยถามที่มาที่ไป

แพรพรรณหลับตา หวังให้มันปิดกั้นทางของหยดน้ำใสที่ไม่รู้ว่าออกมาจากไหนได้มากมายนัก

ระหว่างสองคนนั่น คือที่ที่แพรพรรณไม่อยากอยู่ เพราะที่ตรงนั้น เคยสร้างความรู้สึกหนึ่งที่เธอจะไม่ขอเป็นอีก

ส่วนเกิน

ไม่เอาอีกแล้ว ไม่เอา จะเป็นศิราณีให้ใครก็ได้ ยกเว้นสองคนนั่น ไม่เอา ไม่ต้องการ ขอหลีกหนีเสียให้พ้นไปจะดีกว่า

เวลาผ่านไป เขื่อนที่พังทลายเมื่อครู่ก็ถูกซ่อมแซม รอยรั่วแคบลงทุกขณะจนกระทั่งไม่เหลือร่องใดๆให้น้ำอุ่นๆไหลออกมาได้อีก

“มีอะไรเหรอแพร เล่าให้ฟังได้ไหม”

นิศากรบอกด้วยน้ำเสียงเบาแสนเบา ราวกับกลัวว่าคลื่นเสียงของตนจะไปกระทบกระแทกส่วนใดส่วนหนึ่งของคนฟังให้บาดเจ็บได้

แพรพรรณมองเพื่อนอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าตกลง ไม่ว่าเมื่อใด นิศากรเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น นิศากรไม่เคยนำเรื่องส่วนตัวที่ผองเพื่อนนำไปปรึกษาบอกเล่าแก่ใครสักคนเดียว นิศากรผู้เก็บความลับได้เยี่ยมยอด

นัฐกรมองเพื่อนรักทั้งสองเป็นเชิงถาม มีอะไรให้ช่วยไหม แพรพรรณฝืนยิ้มให้นิดหนึ่ง นี่ก็อีกคนหนึ่ง พร้อมเสมอที่จะยื่นมือเข้าช่วยผู้ที่กำลังลำบาก สมแล้วที่เป็นคุณหมอ สองสาวเดินจูงมือกันออกไปหาที่สงบและเป็นส่วนตัวมากกว่านี้



“หนูนิ...หนูนิครับ”

ผู้เรียกชะเง้อคอโบกมือมาแต่ไกล ฝ่าฝูงชนเข้ามาใกล้สองสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเสียเหลือเกิน แพรพรรณมองอย่างสงสัย หนุ่มหน้าอ่อนนี่อะไรจะยิ้มได้เบิกบานขนาดนี้ ตรงข้ามกับอารมณ์เธอในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

“คะ มีอะไรรึเปล่าคะ”

“หายไปไหนมาตั้งนานฮะ ผมรออยู่นี่ ไม่กล้าไปไหน เพราะยังไงวันนี้ผมต้องพูดให้ได้” อานนท์เอ่ยอย่างหมายมั่น สองสาวตกอยู่ในอาการงุนงงไม่แพ้กัน หากแพรพรรณถึงกับเกาหัว กระซิบถามเพื่อนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน

“เจอกันที่ผับวันที่แพรเมานั่นแหละ”

แพรพรรณถึงบางอ้อ ส่วนตัวนั้นไม่ได้บันทึกข้อมูลในคืนป่วนนั้นเข้าไปสักเท่าไหร่ เรื่องที่จะจำว่าเจอใคร ทำอะไรลงไปบ้าง ไม่มีอยู่ในหัวน้อยๆนี้หรอก

มือขาวนวลถูกรวบไปไว้ในมือแข็งแรงของหนุ่มน้อยข้างหนึ่ง ซึ่งนิ้วนางบนมือข้างนั้นสวมแหวนวงเล็กไว้ ช่างดูเหมาะสมกับผิวนวลเนียนอมชมพูนั้นเสียเหลือเกิน อานนท์มองมันนิดหนึ่งก่อนทำเป็นไม่สนใจ ไม่ถามว่าแหวนวงนี้ใครเป็นคนให้หรือเป็นของนิศากรเอง อานนท์ใช้นิ้วหัวแม่มือตัวเองปิดมันไว้ นิศากรที่ตระหนกเล็กน้อย กระตุกมือกลับ อานนท์ยื้อไว้

“นี่นาย ปล่อยนะ” แพรพรรณท้วงเสียงดัง พยายามช่วยเพื่อนแกะมือเหนียวอย่างกับตีนตุ๊กแกออก

เสียงเล็กหากดังก้องเรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้างได้หลายสายตา รวมถึงอีกผู้หนึ่งซึ่งก้าวตรงเข้ามาโดยทันที กระชากไหล่ชายหนุ่มผู้อุกอาจอย่างแรง อานนท์แทบล้มลงไปกองกับพื้น หากไม่ปลิวไปประทะฝูงชนด้านหลัง

ร่างสูงก้าวเข้าใกล้คนรัก ดึงให้หลบอยู้ข้างหลัง ใช้ตัวเองกั้นไว้ราวกับเกราะกำบังภัย มือเล็กบางเกาะแขนภูดิสไว้ทันควัน ดวงตาคมเข้มดุตวัดมองหนุ่มน้อยที่เพิ่งพยุงตัวเองขึ้นได้ก็หันหน้ามาประจัน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเกือบชิด เมื่อเห็นหน้าค่าตาผู้ก่อเหตุได้ถนัดตา

“อานนท์”

“สวัสดีฮะ” อานนท์กล่าวทักทายราวกับเพิ่งได้พบ ทั้งที่บุคคลแรกที่อานนท์มองหาเมื่อแรกเข้างานมา คือคนที่กระชากไหล่เขาจนหงายหลังไปเมื่อครู่

“ได้พบก็ดี ผมมีเรื่องจะพูดด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ว่าง” อานนท์บอกอย่างไม่ใส่ใจ กลับมองนิศากรไม่วางตา ขยับเข้าหาโดยไม่กลัวเกรงคนตัวสูงเลยแม้แต่น้อย

“จะทำอะไร” ภูดิสใช้มือยันอกหนุ่มรุ่นน้องไว้ ถามเสียงดุเย็น มีทั้งความโกรธและสงสัยในพฤติกรรมอานนท์ระคนกัน

“ผมจะพูดกับหนูนิ ไม่ได้พูดกับคุณภู อย่าเพิ่งยุ่งได้ไหมฮะ” อานนท์เสียงสะบัดอย่างไม่พอใจที่โดนขัดขวาง

“หนูนิรู้จักอานนท์ด้วยเหรอ” ภูดิสเอี้ยวตัวไปถามด้วยความสงสัย เหตุใดอานนท์จึงมีเรื่องพูดกับหญิงสาว แถมยังเรียก หนูนิ เต็มปากเต็มคำราวกับเพื่อนสนิทโดยไม่มีคำนำหน้า ซึ่งควรจะเป็นคำว่า พี่ จากอายุที่ห่างกันหลายปีอยู่

หญิงสาวบอกเสียงเบา ย้อนไปถึงวันวิปโยคครั้งก่อนที่เริ่มด้วยการถูกชักชวนไปที่ผับหรูจนได้พบกับหนุ่มน้อยคนนี้ชั่วแวบแล้วจากกัน

“มีอะไรก็พูดเสียตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ” นิศากรบอกทั้งยังเกาะแขนภูดิสและแพรพรรณไว้ เพิ่มความอุ่นใจ

“ใช่ คนเยอะดี มีอะไรก็ว่ามา พฤติกรรมนายไม่น่าไว้ใจ ”

แพรพรรณใช้ประโยชน์จากเหล่าไทยมุง หากมีอะไร อย่างน้อยจะได้มีพยาน หรือหากหนุ่มน้อยผู้นี้มีความประสงค์ร้ายแอบแฝงภายใต้ใบหน้าเบิกบานเป็นมิตรเมื่อครู่ คงไม่กล้าทำอะไรต่อหน้าผู้คนมากมายให้ถูกจับได้หรอก

“แน่ใจนะฮะ ต้องการแบบนั้นแน่นะฮะ” หนุ่มน้อยถามย้ำ คนฟังได้แต่สงสัย เรื่องอะไรกัน

“ก็ได้ฮะ ความจริงก็ไม่ได้อยากประกาศเรื่องนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้หรอกนะ แต่ทุกคนยืนยันอย่างนั้น ผมก็ไม่มีทางเลือก” อานนท์ถอนหายใจทำหน้าเป็นเชิงว่า ช่วยไม่ได้ เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอด พูดเสียงดังฟังชัดราวกับประกาศก้องไปทั่วว่า

“ผม นายอานนท์หลงรักหนูนิตั้งแต่แรกพบ ขอสมัครเป็นหนึ่งในผู้ช่วงชิงตำแหน่งแฟนของหนูนินะฮะ”

ทุกสายตาพุ่งตรงมายังอานนท์ที่ยืนยืดอกเต็มความสูงราวกับภาคภูมิหนักหนา ในที่นี้ไม่ว่าใครก็รู้ นิศากรมีใครเคียงข้างอยู่ก่อนแล้ว การที่อานนท์ประกาศออกมาอย่างนี้ ย่อมหมายถึงการท้าทายและการจงใจจะแย่งชิงคนรักจากภูดิสกันซึ่งๆหน้า

“พูดว่าอะไรนะ” ผู้ถูกท้าถามเสียงเรียบเย็นอย่างสะกดอารมณ์ สันกรามเกร็งขึ้นจนเห็นชัดเจน ดวงตาวาวโรจน์ราวกับมีไฟประทุอยู่ภายใน หากมีเครื่องวัดความร้อนรอบตัวภูดิสแล้วล่ะก็ คงได้เห็นอุณหภูมิที่พุ่งขึ้นจนปรอทแทบแตก

“เมื่อกี้ฟังไม่ชัดเหรอฮะ ผมพูดใหม่ก็ได้ ผมบอกว่าขอสมัครเป็นแฟน...” ไม่ทันจบประโยคเสียงก็สะดุด อานนท์ตัวปลิวตามคอเสื้อติดมือภูดิสไปแล้ว

“พี่ภู!” สองเสียงประสาน ร้องห้ามพี่ชายและคนรักแทบจะพร้อมกัน หากภูดิสไม่ฟังเอ่ยเสียงดุกับอานนท์

“เลิกพูดจาเหลวไหล กลับบ้านไปท่องหนังสือเตรียมสอบดีกว่าอานนท์ แล้ววันหลังอย่ามาล้อเล่นกับผู้ใหญ่แบบนี้อีก มันไม่สมควร!”

“ผมไม่ใช่เด็ก ผมไม่ได้พูดเล่น ผมมีสิทธิจะแข่ง คุณภูกล้าไหมล่ะ เอ...หรือจะไม่กล้า” อานนท์ปัดมือหนาออกจากคอเสื้อ จัดให้เข้าที่เข้าทางด้วยกิริยากวนโทสะ หากไม่ติดที่นิศากรเกาะแขนภูดิสไว้อีกข้าง ล็อคอย่างแน่นหนา คงมีหวังได้ลอยไปกระแทกปากคนท้าทายแน่นอน

“โอ๊ะ...ข้อหาทำร้ายร่างกายนี่ขึ้นโรงพักนะฮะ ผมยังไม่อยากดังมากไปกว่านี้ วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ แล้วพบกันใหม่นะฮะหนูนิ” ส่งเสียงกวนโทสะไม่พอ ยังส่งสายตาหวานเยิ้มให้นิศากรก่อนแทรกตัวฝ่าฝูงชนขนาดย่อมออกจากงานไป ภูดิสฉุนเฉียวหันหลังบังหญิงสาวไว้จนมิด

“อย่ามองเชียวนะหนูนิ” ภูดิสสั่งเสียงเขียว ใบหน้าคมถมึงทึงอย่างที่นิศากรไม่เคยเห็นมาก่อน หากหญิงสาวยังแอบเหล่มองดูว่าตัวต้นเหตุแห่งความวุ่นวายลับหายไปแล้วแน่นอนหรือไม่ จึงโดนดุเสียงเขียวอีกคำรบหนึ่ง

“แน่ะ! บอกว่าห้ามมอง”

“ก็ดูว่าไปแน่หรือยังนี่คะ” นิศากรแก้เสียงอ่อย

“ไอ้เด็กบ้า!” เสียงทุ้มสบถ หัวเสียมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน




-----------โปรดติดตามตอนต่อไป-------------


//punnarm-farin.bloggang.com


*;...คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน...;*

เอามาส่งแล้วนะคะ ต้องเร่งหน่อยแล้ว เดี๋ยวไม่ทันปลายเดือน มัวแต่ป่วยจนสมองตื้อเหขียนไม่ค่อยออกมาหลายวันเต็มที คราวนี้จะป่วนพี่ภูให้หนำใจเชียวหล่ะ 555

เหินหาว - ขอบคุณที่เข้ามาแนะนำของดีๆให้ค่ะ

kakok riwkiw - เอ้า เอามาต่อให้แล้วอีกครึ่งหนึ่ง ไม่จบง่ายๆ ต้องป่วนพี่ภูเสียก่อน 5555555

keroobob - ขอบคุณค่ะที่อวยพรให้ฟ้าริน แหม พรนี้ได้ผลนะคะ ฟ้ารินคิดว่ากำลังจะหายแล้ว เดี๋ยวไปตรวจดูอีกทีค่ะ




Create Date : 03 ธันวาคม 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 17:17:18 น.
Counter : 280 Pageviews.

4 comments
  
bloggang Award ครั้งที่4 เริ่มขึ้นแล้วค่ะ โหวตได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่6มกรานะคะ

มีการปรับเปลี่ยนวิธีการโหวต จากเดิมที่ให้เลือกโหวตให้เพียงสาขาละ 1 คน ครั้งนี้จะสามารถให้โหวตได้สาขาละไม่เกิน 3 คน และสามารถให้คะแนนแต่ละคนที่คุณโหวต เพื่อเป็นการจัดลำดับความชอบอย่างชัดเจนได้ด้วย โดยมีสาขาการประกวดที่หลากหลายตามเนื้อหามากขึ้น

ส่วนของพวกเราชาวlove ที่มีblogทั้งหลายคงไม่พ้นสาขา Best Literature Blog : blog งานเขียน-บทประพันธ์ ที่คุณชื่นชอบมากที่สุด

เชิญชวนทุกคนนะคะ

ของฟ้ารินไปได้ที่//punnarm-farin.bloggang.com

link อยู่ทางด้านขวามือบนสุดนะคะ ขอสักคะแนน2คะแนนก็ยังดีนะ
ปล.อย่าลืมloginก่อนโหวตนะคะ
โดย: ฟ้าริน (ปั้นน้ำกะฟ้าริน ) วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:21:08:56 น.
  
มาโหวตให้ฟ้ารินเลยถือโอกาสเม้นท์ที่นี่เลยแล้วกันนะ

พี่ภูทำดีมาก ๆ อย่าให้ใครมาแย่งหนูนิไปจากเรา

ส่วนนายธเนศบังอาจมาทำให้แพรร้องไห้เหรอ



แต่ยังไงก็รักหมอนัดนะ
โดย: blue_lily (orn_le ) วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:23:09:25 น.
  
ยังไม่ได้ล็อคอินอ่า ขอติดไว้ก่อนล่ะกันน๊า

พี่ภูเริ่มออกอาการหวงหนักขึ้นแล้ว หุๆ ชอบๆๆ

เหมือนพี่บลู ยังไงก็รักหมอนัด คริๆ
โดย: kikkak_riwkiw IP: 203.113.32.14 วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:20:28:44 น.
  
โหวตให้ล่ะเน้อ



สุขสันต์วันพ่อค่ะ

มีความสุขนะคะพี่ฟ้า (ริน)
โดย: kakok_riwkiw วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:14:55:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik