All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่4


บทที่ 4


ที่เวทีใหญ่ตกแต่งสวยงามภายในโรงแรมหรูใจกลางเมือง รัญชิดาซ้อมเดินเตรียมความพร้อมก่อนจะต้องเดินจริงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เมื่อซ้อมเสร็จรอบสุดท้าย รัญชิดาที่แต่งชุดราตรีเกาะอกสีดำเหมือนกันกับนางแบบคนอื่นๆ เมื่อครู่เธอเบื่อวงสนทนาของเพื่อนนางแบบด้วยกันที่เอาแต่พูดจานินทาเพื่อนร่วมวงการ แฉพฤติกรรมกันต่างๆนานา บ้างว่าเป็นเกย์ บ้างว่าเป็นเด็กเสี่ยเลี้ยงและอีกมากมายหลายหลาก

เครื่องคงลงเรียบร้อยแล้ว

รัญชิดามองนาฬิกาในมือถือรุ่นใหม่ที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ นี่คือข้อดีอีกอย่างของอาชีพนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เธอได้เป็นตัวแทนโฆษณาเหล่านั้น เธอจะได้เป็นเจ้าของด้วย
หญิงสาวกดหมายเลขที่เธอตั้งไว้เป็นเบอร์โทรด่วน เพียงกดปุ่มเดียวก็สามารถติดต่อได้ทันที หน้าจอแสดงชื่อเจ้าของเบอร์ที่กำลังต่อสัญญาณ

ภูดิส

ปลายสายที่ตอบรับไม่ใช่เสียงของคนที่เธอต้องการติดต่อ แต่เป็นบริการตอบรับอัตโนมัติ เธอกดตัดสาย
หรือว่าเครื่องจะยังไม่ลง แบตหมดรึเปล่า

รัญชิดากดหาเบอร์ติดต่อภูดิสที่บริษัท คิดว่าเลขาของเขาคงจะให้คำตอบเธอได้ ว่าขณะนี้เขาอยู่ที่ไหน เสียงต่อสายไม่นานเปลี่ยนเป็นเสียงนันทา เลขาของภูดิสทักทายผู้โทรเข้ามาอย่างสุภาพ

“รัญชิดาพูด ภูกลับมารึยัง” นิสัยคุณหนูที่มีแต่คนเอาใจ คำพูดสำหรับคนที่เธอคิดว่ามีฐานะด้อยกว่าจึงไม่มีหางเสียงต่อท้าย แต่ใช้วิธีทอดเสียงให้ไม่ห้วนแข็งกระด้าง อีกฝ่ายตอบรับกลับมาสุภาพตามเดิม

“ฉันจะเรียนสายด้วย ต่อให้สายที” นันทาบอกกลับว่ารอสักครู่ แล้วจัดการต่อสาย เธอรอไม่นานภูดิสก็รับสาย

“ภู วันนี้น่าเบื่อชะมัด เราไม่สบายยังต้องมาทำงาน แถมยังมีคนมาเม้าท์เรื่องแย่ๆให้ฟังอีก เซ็งมากๆเลย” รัญชิดาร่ายยาว ระบายความในใจและอาการป่วยของตนเองเรียกร้องชอความเห็นใจ อีกฝ่ายส่งเสียงหัวเราะเบาๆมา ขำคนป่วยที่บ่นยาวแทบไม่หายใจ

“ภูนี่ยังไง เราบอกว่าไม่สบายยังหัวเราะได้อีก ไม่สงสารกันบ้างเลยรึไง ปวดหัวแล้วก็เจ็บคอด้วย”

หญิงสาวแหวกลับ เสียงกระเง้ากระงอดน้อยใจเพื่อน อีกฝ่ายเลยส่งน้ำเสียงห่วงใยบอกให้ทานยาทานข้าวแล้วนอนพัก และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะไม่ซื้อของโปรดมาเยี่ยมไข้ แสดงว่าเขาจะมาหาเธอเพื่อเยี่ยมเธอ รัญชิดายิ้มพอใจ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ภูดิสเป็นห่วงเธอเสมอ

“ขอบใจนะภู ใจดีอย่างนี้รักตายเลย” ปลายสายหัวเราะอีกก่อนขอตัววางสายเพราะต้องออกไปข้างนอกแล้ว

“คุยต่ออีกนิดไม่ได้เหรอ เราเหงา” หญิงสาวทำเสียงออดอ้อน แต่ภูดิสบอกว่าหมดเวลาแล้วจริงๆ จึงต้องยอมวางสายเพราะเขาสัญญาว่าจะไปเยี่ยมพรุ่งนี้

ภูดิสใจดีกับเธอเสมอ ส่วนหนึ่งอาจเพราะเขาแอบชอบเธอเมื่อสมัยเรียน เธอรู้และเธอก็รู้สึกดี เธอชอบเป็นคนสำคัญ เธอสวยเด่น จึงมีคนมารุมล้อมเธอเสมอ แต่ในบรรดาคนที่มาชอบเธอ เธอเลือกให้ความสนิทสนมกับภูดิสและอดีตแฟนเธอมากกว่าใคร เพราะเห็นถึงความเหมาะสมคู่ควรกับเธอ อดีตแฟนของเธอเป็นรุ่นพี่ที่มีอัธยาศัยดีและหน้าตาดีสาวๆรุมล้อม อีกทั้งมีชื่อเสียงเป็นนักกีฬาและเป็นประธานของคณะและฐานะดีพอตัวมีรถแพงๆขับไปรับส่งเธอ เธอเห่อความป๊อบปูล่าของเขาซึ่งภูดิสไม่ทำ ดังนั้นเธอจึงเลือกคบกับเขามากกว่าภูดิส

ส่วนภูดิสรักความเรียบง่าย เขาไม่ได้แสดงท่าทางจีบเธอโจ่งแจ้ง บ่อยครั้งเธอทนไม่ได้กับความเรียบง่ายนั้น เขาและเพื่อนๆทานส้มตำริมข้างทาง บางครั้งเป็นเพียงขนมจีนในหาบเร่ที่นั่งทานกันตามริมทางเท้าบนเก้าอี้เตี้ยๆคนละตัว ขึ้นรถเมล์ที่มีคนเบียดเสียดกันกับกระเป๋ารถเมล์พูดจาหยาบคาย ภูดิสเห็นเป็นเรื่องธรรมดาบางครั้งเก็บมาเล่าสนุกสนาน แต่ไม่ใช่สำหรับรัญชิดา เธอไม่สามารถทนทำเรื่องแบบนั้นได้

พอเรียนจบภูดิสเริ่มเรียนรู้งานไปพร้อมกับเรียนปริญญาโท พอเข้ารับตำแหน่งสำคัญในบริษัทของครอบครัว เขาทิ้งมาดนักศึกษาแสนเรียบง่ายไปแทบไม่เหลือ กลายเป็นนักธุรกิจมาดเนี้ยบและความสุขุมนุ่มลึกที่มีติดตัวเสมอยิ่งทำให้ยิ่งดูดีสง่างาม

รัญชิดานึกเสียดายขึ้นมาทันที แต่ตอนนั้นเธอรักอดีตแฟนที่ช่างเอาอกเอาใจของเธอเต็มหัวใจซะแล้ว เพราะความรักทำให้คนเธอตาบอด จึงเลือกมองข้ามคุณสมบัติที่ด้อยกว่าภูดิสไปซะ

ตอนนี้เธอถูกทรยศจากคนรัก คนอย่างเธอถูกทิ้ง เธอถูกทำลายความเชื่อมั่นว่าเป็นคนสำคัญและหยามน้ำใจรักที่เธอมีให้ ภูดิส คนที่รักเธอไม่เสื่อมคลาย จึงกลับมาเป็นคนที่เธอต้องการอีกครั้ง เธอโทรหาเขาก่อนใคร เธอเชื่อเสมอว่าเขาให้ความสำคัญ เขาห่วงใย และไม่เคยทอดทิ้ง เพราะเขารักเธอ เธอรู้

แต่เมื่อชื่อเพื่อนสาวของแพรพรรณแวบเข้ามาในความคิด อารมณ์ขุ่นมัวบังเกิด แต่ก็กระหยิ่มในใจว่าภูดิสรักเธอ เด็กคนนั้นไม่มีทางสู้เธอได้


สองแม่ลูกเดินเข้างานแฟชั่นโชว์การกุศลพร้อมกันด้วยหน้าตายิ้มแย้ม เบิกบานรับกองร้อยนักข่าว(กองร้อยจำนวนน้อยกว่ากองทัพ)ที่ตรงเข้ามาถ่ายรูปและขอสัมภาษณ์

“วันนี้คุณภูดิสลูกชายไม่มาด้วยหรือคะ” นักข่าวสังคมคนหนึ่งถามขึ้น

“ไม่หรอกค่ะ เขาไม่ชอบมางานแบบนี้” คุณลักษิกาตอบน้ำเสียงนุ่มนวล

“แต่ว่าวันนี้คุณรัญชิดามาเป็นนางแบบเครื่องเพชรชุดฟิเนเล่ด้วยนะคะ พวกเราคิดว่าจะได้ภาพคู่สวยๆเสียอีก แหมน่าเสียดายนะคะ”

คุณลักษิกาและแพรพรรณนิ่งเงียบไม่พูดตอบใดๆ แต่ยังคงรอยยิ้มกว้างเมื่อตอนเดินเข้างานหดหายไปเกินครึ่งหนึ่ง ช่างภาพกดชัตเตอร์เก็บไว้ทันที

“แล้วข่าวที่ว่าทั้งสองคนเป็น...เพื่อนสนิทกันมาก...ตกลงเป็นเรื่องจริงรึเปล่าคะ” คราวนี้นักข่าวสายบันเทิงเป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม เน้นคำชัดเจน ตามคำนิยมที่ดาราชอบใช้กัน
สองแม่ลูกหันมองหน้ากันถอนหายใจ ไม่ตอบอะไรเช่นเดิม ช่างภาพเก็บภาพไปอีกแชะหนึ่ง

“คุณนิศากร ลูกสาวคุณกังสดาลเพื่อนของคุณลักษิกา ได้ข่าวว่ากำลังจะกลับมาแล้วใช่มั้ยครับ” นักข่าวสังคมคนที่แพรพรรณตั้งใจปล่อยข่าวให้เป็นคนตั้งคำถามนี้ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าสองแม่ลูกเหมือนเช่นยามเดินเข้ามาในงาน แพรพรรณตอบรับแทนมารดา

“สนิทสนมกันเฉพาะคู่ลูกสาวกับคู่คุณแม่รึเปล่าครับ” นักข่าวสายสังคมคนเดิม หยอดคำถามต่อทันที สองแม่ลูกหันไปมองหน้าให้กัน

อยากให้ภูดิสมาสนิทสนมแน่นแฟ้นด้วยอีกซักคน แต่ดันไม่ยอมซะนี่ น่าโมโหจริงเชียว หวังว่าแผนที่วางไว้จะพอทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนทั้งสองคืนกลับมาดังเดิม
สองแม่ลูกคิดตรงกันเป๊ะโดยไม่ต้องสืบ แต่ปากไม่ได้พูดอะไรออกไปตามที่คิด แต่แสดงรอยยิ้มมีเลศนัยให้ช่างภาพถ่ายอีกแชะ

สรุปแล้ววันนั้นกองร้อยนักข่าวไม่ได้บทสัมภาษณ์ไปซักเท่าไหร่ วันรุ่งขึ้นจึงมีภาพสองแม่ลูกสองภาพภาพหน้าเฉยเมยตอนที่ถูกถามถึงข่าวระหว่างภูดิสและรัญชิดา และอีกภาพยิ้มแป้นเมื่อนักข่าวพูดถึงนิศากรขึ้นคอลัมภ์สังคม นักข่าวหัวดีนำมาวางคู่เปรียบเทียบกันเป็นโฆษณาครีมแก้สิวฟ้า แบบแสดงผลก่อนใช้และหลังใช้


รถโฟร์วิลสีดำคันเดิมแล่นเข้ามาจอดหน้าตึกใหญ่ในเขตบ้านบริเวณกว้าง เสียงร้องตะโกนต่อกันมาตั้งแต่ยามหน้าประตูที่จัดการกดรีโมทเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อคนในรถเยี่ยมหน้าหวานยิ้มแย้มแจ่มใสออกมาทักทาย จนกระทั่งคนสวน แม่บ้าน เด็กรับใช้ และคนสุดท้ายคือเจ้านายผู้หญิงของบ้าน คุณกังสดาล

นิศากรกระโดดลงจากรถ วิ่งเข้าหามารดาที่ก้าวเท้าเร็วออกมาจากตัวบ้านหลังใหญ่พอดี หนึ่งปีหลังที่เธอไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเลย ความคิดถึงบ้านเก็บสะสมไว้ในใจ แม้จะโทรคุยกันบ่อยครั้ง และเห็นหน้าบ้างผ่านโปรแกรมทางอินเตอร์เน็ตที่แพรพรรณอุตส่าห์หอบหิ้วใส่รถมานั่งจัดการให้ถึงบ้าน แต่มันไม่ได้ช่วยให้คลายความคิดถึงลงซักได้เท่าไหร่ เพราะไม่ได้สัมผัสกอดหอมกันเหมือนยามอยู่ที่บ้าน

“เซอร์ไพร์!ค่ะแม่” เสียงหวานเอ่ยสดใส ภูดิสมองสองแม่ลูกสวมกอดกันแน่น นิศากรถูกล้อมรอบด้วยเหล่าสมาชิกในบ้าน ดูเธอจะเป็นที่รักของทุกคนไม่เว้นใครสักคนเดียว

“หนูนิ หนูนิลูกแม่ มาได้ยังไงกัน” คุณกังสดาลลูบหน้าลูบตัวลูกสาวคนเดียวให้แน่ใจว่าใช่จริงๆ ก่อนจะกอดแรงๆและหอมอีกครั้งให้ชื่นใจอีกครั้งหนึ่งแล้วปล่อย

“ขึ้นเครื่องบินมาค่ะ” หญิงสาวเอ่ยกลั้วหัวเราะ แกล้งกวนมารดาเล่นเหมือนเคย เรียกแรงเบาฝ่ามือจากมารดากระทบที่แขนอย่างหมั่นเขี้ยวได้หนึ่งที

“กวนแม่อีกแล้ว แอบหนีกลับมาไม่บอก น่าตีจริงเชียว เล่นเอาตกอกตกใจกันทั้งบ้าน ดูสิ” คุณกังสดาลเอ็ดไม่จริงจัง ดวงหน้าใจดีอ่อนโยนแสดงความรักใคร่ดีใจต่อบุตรสาวของตน

ภูดิสที่สั่งคนขับรถให้จัดการยกกระเป๋าของนิศากรลงจากรถเรียบร้อยแล้วก้าวมาหยุดยืนยกมือไหว้คุณกังสดาลที่รับไหว้งุนงงและแปลกใจว่าเหตุใดลูกชายเพื่อนจึงเป็นสารถีมาส่งลูกสาวเธอได้ แล้วเธอก็ได้รับคำตอบ

“พอดีพบหนูนิที่สนามบินโดยบังเอิญครับ เห็นว่าไม่มีคนมารับเลยพาส่ง” ภูดิสเฉลยเมื่อพบสายตาสงสัยจากคุณกังสดาลและได้รอยยิ้มขอบใจกลับมาจากมารดาของหญิงสาว

“ขอบใจมากจ๊ะ อุตส่าห์เสียเวลามาส่งน้อง ลูกคนนี้ซนจริงๆเลย” นิศากรทำหน้าทะเล้นกับมารดา แต่กลายเป็นทำหน้านิ่ว เมื่อภูดิสอมยิ้มขำเหลือบมองเธอ
ไม่ได้ขอสักหน่อย บังคับเธอมาแท้ๆ แล้วมาอมยิ้มขำอะไรไม่ทราบ

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้รบกวนอะไร ผมเต็มใจมาส่งเองครับ” ชายหนุ่มตอบ คุณกังสดาลยิ้มรับ
บอกว่าเต็มใจมาส่ง เดี๋ยวก็เหมาให้ไปรับไปส่งลูกสาวเธอซะหรอก คุณกังสดาลคิดในใจ

คุณกังสดาลก็ยังคงนิยมชมชอบลูกชายเพื่อนอยู่ดังเดิม ทั้งมารยาท ความนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ อัธยาศัยดี อ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลาย บางครั้งออกจะขี้เล่นกับคนที่คุ้นเคยและความสามารถในหน้าที่การงาน ข่าวที่ออกมาทำให้เธอลังเลในการสานสัมพันธ์ลูกสาวเธอและชายหนุ่มตรงหน้า แต่คุณลักษิกามาอธิบายเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมาและบอกเล่าถึงคำยืนยันความสัมพันธ์ของภูดิสระหว่างตนเองและดาราสาว เธอจึงคลายความลังเลลงไปมาก

แต่ถึงยังไงก็ยังต้องจับตาดูให้แน่ใจเสียก่อน เกิดพลาดพลั้งไป ทั้งชื่อเสียงและจิตใจของลูกสาวเธอจะต้องมีอันด่างพล้อย

“เอาละจ๊ะ ถึงยังไงป้าก็ต้องขอบใจที่มีน้ำใจมาส่งน้องนะ เดินทางมากันเหนื่อยๆนะ มาทานขนมทานน้ำกันแก้เหนื่อยสักหน่อยนะ” คุณกังสดาลเชื้อเชิญชายหนุ่มเข้าบ้าน พร้อมจูงลูกสาวให้เดินตาม นิศากรไม่ได้ออกเสียงคัดค้าน เพราะเห็นควรจะตอบแทนน้ำใจที่เขามีต่อเธอ

“ขอบคุณครับ”

คุณกังสดาลลืมไปแล้ว ว่าได้เคยตกลงไว้กับเพื่อนว่าจะแกล้งทำเป็นโกรธชายหนุ่ม ส่วนภูดิสก็เห็นว่ามารดาของหญิงสาวไม่ได้แสดงท่าทางเคืองขุ่นเขาตามที่แม่และน้องสาวเคยบอกกล่าวไว้ คงเป็นเพราะความรื่นรมณ์ยินดีที่ลูกสาวกลับมาสู่อ้อมอก จึงลืมความขุ่นข้องหมองใจไปสิ้น


ร่างสูงที่ก้าวตามเข้ามาทรุดตัวลงนั่งที่โซฟารับแขกตามเจ้าของบ้าน ส่วนนิศากรขอตัวไปอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย เพราะนานหลายชั่วโมงเต็มทีแล้วที่ตัวเธอไม่ได้โดนน้ำ เธอติดนิสัยต้องอาบน้ำทุกวัน ไม่มีที่จะโดดโครมลงนอนบนเตียงหลังกลับจากข้างนอกอย่างฝรั่งชอบทำกัน แม้อากาศจะหนาวอย่างไรก็ขอให้ได้ชำระล้างร่างกายเสียหน่อย ขอเอามาลูบๆตัวก็ยังดี ตอนนี้เธออยู่ที่เมืองไทยซึ่งอากาศตรงข้ามกับฝรั่งเศสโดยสิ้นเชิง ยิ่งทำให้อยากอาบน้ำเย็นๆให้หนำใจ เหนียวตัวเต็มทีแล้ว

พอประตูกระแทกปิดลง นิศากรระบายลมหายใจออก ลดอาการหัวใจเต้นถี่แทบตลอดเวลาที่อยู่ภายใต้การจ้องมองของสายตาคม คนที่บอกว่า เต็มใจมาส่งเธอเมื่อครู่

ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ใจมันแกว่งๆหวิวไหวทุกทีพอสบตาเขา อาการแบบนี้มันเคยเกิดเมื่อสองปีก่อน และเธอคิดว่ามันควรจะหายไปนานแล้ว พร้อมๆกันกับเวลาที่เธอตัดสินใจหายไปจากวงจรชีวิตเขา แต่ทำไมยังเกิดอีกก็ไม่ทราบ มิหนำซ้ำยังมากกว่าเดิมจนโมโหตัวเอง

ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ไม่ นิศากร เธอลืมเขาไปแล้ว นั่นเธอยังเด็ก ตอนนี้เธอโตแล้ว เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว

“ป้าทำลอดช่องเผือกไว้ ลองชิมให้ป้าหน่อยนะภู นี่ก็ว่าจะทำไปร่วมทำบุญเลี้ยงเด็กกำพร้าอาทิตย์หน้าสมทบกับแม่เรานั่นแหละ”

เด็กรับใช้นำถ้วยลอดช่องเผือกใส่น้ำแข็งทุบละเอียดมาวางให้ชายหนุ่มตามด้วยน้ำเย็นอีกแก้ว ภูดิสรับมาชิมตามคำขอของคุณกังสดาล

“เป็นไงบ้างจ๊ะ พอใช้ได้มั้ย”

“อร่อยครับ ฝีมือคุณป้าดีไม่มีตกเลยครับ ผมไม่ได้ทานฝีมือคุณป้านานแล้ว” ประโยคท้ายสร้างความแปลกใจให้คุณกังสดาล

“อ้าว ทำไมไม่ได้ทานล่ะจ๊ะ ป้าก็ฝากไปกับแม่เราอยู่บ่อยๆนี่นา”

คุญกังสดาลโปรดปรานการทำอาหารและทำขนม หาคนช่วยชิมอยู่เสมอ และด้วยฝีมือที่ดีไม่แพ้มืออาชีพ คุณกังสดาลจึงลงมือทำขนมและอาหารเองทานกันในครอบครัว ขนมและอาหารเหล่านี้จึงเผื่อแผ่ไปถึงครอบครัวของเพื่อนสนิทด้วย

“แพรเขาเก็บเงียบทานคนเดียว ไม่ยอมแบ่งให้ผมเลยครับ” คำตอบนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากคุณกังสดาลได้แพรพรรณทำตามที่เคยบอกไว้จริงๆ ว่าจะแก้แค้นแทนนิศากรโดยการเก็บของขนมอร่อยๆที่สองพี่น้องติดใจเหมือนกันไว้รับประทานคนเดียว ไม่แบ่งพี่ชาย

‘ปากไม่ดี ก็ไม่สมควรจะมีของดีๆอย่างขนมของคุณป้ากังสดาลเข้าปาก’

หลังจากนั้นก็เก็บขนมของฝากเรียบวุธไม่มีเล็ดลอด นอกจากของที่เธอไม่ชอบ ซึ่งนั่นก็น้อยมาก ขนมพวกนั้นถึงได้หลงมาถึงภูดิสได้

“งั้นทานเยอะๆนะภู เอาคืนที่ไม่อดมานาน”

“ครับ ผมจะเก็บไปอวดแพร เอาคืนบ้าง แต่วันนี้คงยังทำไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียแผนของหนูนิ” คุณกังสดาลทำหน้าฉงน คิ้วที่แต่งแต้มไว้จนได้รูปขยับขึ้นน้อยๆ ก่อนชายหนุ่มจะเฉลยว่าเป็นแผนเดียวกับที่คุณกังสดาลตกเป็นเหยื่อไปแล้วและไม่ได้มีคนเดียว ยังเหลือเหยื่อรายต่อไปอีกกลุ่มใหญ่ คุณกังสดาลส่ายหน้าน้อยๆเอ็นดูลูกสาวที่เล่นซนราวกับเด็กทั้งที่โตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว

หลังจากคุยกันต่ออีกชั่วครู่หนึ่ง คุณกังสดาลสังเกตว่าลูกสาวยังไม่ลงมาจากห้องเสียที จึงเรียกเด็กรับใช้ขึ้นไปดู และลงมารายงานผลว่าคุณหนูของบ้านเข้าสู่นิทรารมณ์ไปแล้วบนเตียงนุ่มที่คุ้นเคย ทั้งที่เส้นผมนุ่มสลวยยังไม่แห้งดี ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ใช้ซับน้ำจากผมสีน้ำตาลยังคล้องอยู่ที่ต้นคอขาว

เมื่อได้รับทราบดังนั้น อีกทั้งสมควรแก่เวลาที่ภูดิสจะขอตัวกลับได้แล้ว เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ไปดูแลตระเตรียมอาหารตามที่เธอชอบทำเป็นประจำเพื่อลูกสาวและสามีที่คงกำลังเดินทางกลับมา เขาจึงออกปากลาเจ้าของบ้าน

“เดี๋ยวเอาขนมไปทานอีกสิภู”

คำชื่นชมฝีมือทำอาหารของเธอจากภูดิสเมื่อครู่ พาให้คุณกังสดาลหน้าบานปลาบปลื้มใจ จึงเสนออย่างเต็มอกเต็มใจให้ลูกชายเพื่อนรับขนมที่เธอทำติดบ้านไว้เสมอ ติดมือกลับบ้านไปด้วย “วันนี้แม่กับน้องไม่อยู่บ้านนี่นะ ทางสะดวก” วลีสุดท้ายแฝงรอยขี้เล่นเป็นกันเอง


หลังภูดิสรับประทานอาหารเรียบร้อยเพียงลำพังในบ้านหลังใหญ่ไม่แพ้บ้านที่เพิ่งจากมา เขามีเมนูขนมหวานแสนอร่อยตบท้ายมื้ออาหารที่โดดเดี่ยวแต่ไม่เดียวดาย เพราะความรู้สึกสบายใจยังคงติดค้างจากการที่ขจัดความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจให้มลายหายไปด้วยดีแล้ว อีกทั้งยังรู้สึกว่าวันนี้เขาได้ผ่อนคลายมากกว่าปกติอีกด้วย

คืนนั้นภูดิสอาบน้ำเตรียมเข้านอนอย่างรื่นรมย์ ความเหน็ดเหนื่อยจากการงานและการเดินทางส่งให้ชายหนุ่มหลับไหลไปอย่างง่ายดาย เรียกว่าหัวถึงหมอน สติการรับรู้ก็หลุดลอย ก้าวเข้าสู่ห้วงนิทรารวดเร็ว อาจจะช้ากว่าอีกคนที่หลับหัวซุนไปเมื่อตอนเย็น แต่ชายหนุ่มไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึกดังเช่นนิศากร ที่หากมาเห็นภูดิสที่หลับสบายอย่างน่าอิจฉา คงนึกอยากทุบให้กระอัก ค่าที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอตาแข็งอยู่กลางดึกแต่ผู้เดียว

--------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------


คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน
โอย โดนฤทธิ์มายเกรนเล่นงานกัน ปวดหัวจนไข้จะขึ้น เพราะอากาศร้อน เพื่อนๆก็ระวังสุขภาพกันด้วยนะคะ สู้ๆ ใกล้เปิดเทอมแล้ว ทำไงดี จะมีเวลาเขียนมากเท่าไหร่กันน้า
ชาจัง - มาต่อให้แล้วค่ะ บทต่อไปเอาวันไหนดีคะ
natee - เข้ามาเยี่ยมสองที่เลยนะคะ
nekojung - อ๋า ใช่จริงๆด้วย อัพแล้วน้า อาจจะอัพที่นี่ก่อน ลองแว๊บเข้ามาได้นะจ๊ะ




Create Date : 23 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 18:33:29 น.
Counter : 228 Pageviews.

2 comments
  
ดีใจด้วยนะที่หายป่วย ตอนนี้คิดถึงพี่ภูกับหนูนิจัง

ตอนนี้กลัวยัยรันจะกับมาคาบพี่ภู ไปจัง หวังว่าพี่ภู

คงไม่ตาถัวนะ แล้วอัพมาเร็วๆนะจ๊ะ
โดย: nekojung IP: 58.9.80.173 วันที่: 23 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:49:01 น.
  
เย้ๆๆๆ มาแล้ว รอได้เสมอจ๊ะ ถ้าว่างก็มาอัพนะคะ
โดย: ชาจัง (สุรัสวดี) IP: 61.90.165.124 วันที่: 24 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:18:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik