All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่2



บทที่ 2


ภูดิสนั่งเอนหลังมือประสานกันที่ท้ายทอยตามสบายบนโซฟายาวกลางห้อง เป็นอย่างนี้เสมอเมื่อใดที่เขาอยู่บ้าน สถานที่ที่เคยคุ้นมาแต่เล็กแต่น้อย คิ้วเข้มและดวงตาคมจัดบนใบหน้าเป็นจุดเด่นชวนมอง ประกอบกับท่าทางสง่า เคร่งขรึมสุภาพยามเมื่อต้องทำงาน มาดสมเป็นนักธุรกิจ ผลงานการบริการที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจมาก ชายหนุ่มจึงเป็นที่จับตามอง ในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่

คุณลักษิกาเหนื่อยหอบ หลังจากบ่นว่าลูกชายตัวดี ที่แวบออกไปจากบ้านกลางดึกจนเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์ มองลูกชายแววตาขุ่นมัว

“ภู แม่ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ แม่หนูรันอะไรนี่ก็ด้วย ทำไมถึงต้องตามแกดึกๆดื่นๆให้เป็นข่าว”
“เพื่อนผมทั้งคน มีปัญหาต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมก็ต้องช่วยเป็นธรรมดา” ภูดิสตอบอย่างเหนื่อยหน่าย เขาตอบคำถามนี้มาแล้วหลายรอบ ทั้งกับน้องสาวและคราวนี้เป็นมารดา

รัญชิดา นางร้ายในละคร กำลังโด่งดังขณะนี้ เพิ่งถูกแฟนบอกเลิก ทั้งที่คบกันมาหลายปี และเคยพูดเรื่องจะแต่งงานกัน แต่เรื่องกลับตาลปัตไปด้วยเหตุผลว่า เธอไม่มีเวลาให้ ก่อนไปเห็นตำตาในวันเดียวกันว่าแฟนกำลังจู๋จี๋กับนางร้ายน้องใหม่ที่ผับประจำ พอสองคนนั่นเห็นเธอเข้าก็รีบรุดออกไปทันที ส่วนรัญชิดาผิดหวังอย่างรุนแรง ไม่คิดว่าอดีตแฟนจะมีพฤติกรรมหลอกลวงเช่นนี้ นั่งดื่มจนมึนเมา เธอร้องไห้ แต่ไม่ฟูมฟายและมีสติรู้ตัวอยู่ว่าตนเองไม่ควรขับรถ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุและเจอเข้ากับด่านตรวจแอลกอฮอลล์ เธอเป็นคนมีชื่อเสียง ควรจะร่วมรณรงค์เมาไม่ขับมากกว่าฝ่าฝืน จึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ถือว่าสนิทและยังติดต่อกันอยู่ นั่นคือ ภูดิส

“แล้วมันยังไงถึงได้ไปนั่งพิงกันแบบนี้ แม่ไม่ชอบ และก็ไม่แน่ใจว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่ข่าวเขาแซว”

คุณลักษิกาหวนคิดถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน ภูดิสอกหักดังเป๊าะ ซึมไปบ้างถึงจะไม่มาก แต่คนใกล้ชิดสังเกตเห็นได้ไม่ยาก เหตุผลนั้นไม่ใช่ใครอื่น เพื่อนสาวคนสนิท รัญชิดา ตกลงคบหากับอีกหนึ่งหนุ่มไปแล้ว หลังจากนั้นลูกชายเธอเลยลอยเท้งเต้งอยู่อย่างนี้จนจะสามสิบอีกไม่นานเกินสองปีแล้ว ไม่มีแววลงหลักคบหาดูใจกับสาวไหนเสียที พอหาสาวน้อยแสนน่ารักมาประเคนให้ ลูกชายเธอดันทำให้หนีหายไปไกลถึงเมืองนอกเสียอีก คงต้องขึ้นคานอย่างที่แพรพรรณบอกซะล่ะมั้ง

“โธ่แม่ครับ คนเมาขนาดนั้นจะนั่งตรงๆได้ไง ผมบอกตั้งหลายทีแล้ว เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ เรื่องมันนานมาแล้วจนผมเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ”

จริงอย่างที่เขาบอก เกือบลืมไปแล้ว ว่าเคยคิดกับรัญชิดาเกินกว่าเพื่อน เขาตัดใจได้ ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน แต่มันไม่นานเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหน้าที่การงานที่กำลังยุ่งวุ่นวาย เขาเป็นผู้นำ ทำให้เขาต้องละทิ้งเรื่องส่วนตัวทิ้งไปรับผิดชอบหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด พอรู้ตัวอีกที ความเศร้ามันหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ให้มันจริงเถอะ มีลูกชายกับเขาคน ไม่ได้อย่างใจเล๊ย เฮ้อ!” คุณลักษิกาขึ้นเสียงสูงอย่างขัดใจ ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ตบท้าย อยากเฉ่งลูกชายตัวดีอีกสักรอบ แต่เมื่อยปากและเริ่มเจ็บคอ เลยหันไปหาของว่างบนโต๊ะแทน

“แม่ แม่จ๋า” แพรพรรณที่วิ่งตึกๆลงบันไดมาร้องถามหามารดา ตรงเข้ามาทิ้งตัวลงบนโซฟายาวตัวเดียวกับพี่ชาย

“อีกสองอาทิตย์หนูนิจะกลับมาแล้วค่ะแม่ หนูนิถามว่า แม่ชอบน้ำหอมกลิ่นไหนเป็นพิเศษคะ แพรกำลังจะตอบไปว่าชอบหมดเลย แต่กลัวยัยแพรจะแกล้งซื่อเหมามาหมดจริงๆเลยมาถามแม่ดีกว่า ส่วนแพรสั่งของฝากเรียบร้อยแล้ว ไม่มีพลาด” แพรพรรณเล่าถึงกำหนดการกลับของนิศากรที่ส่งข่าวทางอีเมลล์แทนการพูดคุยเพราะไม่มีเวลาด้วยน้ำเสียงสดใสติดตลก ภูดิสสะดุดนิดหนึ่งแต่ยังท่าทางนั่งนิ่งสบายเหมือนเดิม

“แหม...กำลังคิดถึงอยู่เชียว ดีจริงเลย บอกหนูนิไปเถอะว่าอะไรก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดี ขอเป็นกลิ่นทรีโรส” คุณลักษิกาแอบกระซิบบอกความต้องการอย่างขี้เล่น

"ส่วนพี่ภู...” แพรพรรณปรายตามองพี่ชายที่ดูจะไม่ใส่ใจ แถมหันไปสนใจทีวีมากกว่าบทสนทนาของน้องสาว แพรพรรณมองแล้วหมั่นไส้ เลยลอยหน้าลอยตาพูดขึ้นมากระแทกใจพี่ชาย

“หนูนิไม่ได้ถาม เพราะว่าไม่สนใจไม่อยากพูดถึง แพรพูดถึงพี่ภูทีไร หนูนิเปลี่ยนเรื่องทุกที มันก็น่าอยู่หรอก ช่วยไม่ได้นะพี่ภู ทำตัวเองแท้ๆ” แพรพรรณยิ้มสะใจ ดูกวนอารมณ์เป็นที่สุด แม้ว่าแพรพรรณจะหมดหวังที่จะได้เพื่อนสาวคนสนิทมาสมัครสามัคคีรวมใจกับพี่ชายแล้ว แต่ก็ยังแอบๆขุดเขี่ยเรื่องพี่ชายสอดแทรกมาเล่าให้เพื่อนฟังเสมอ หวังให้เพื่อนสาวลดดีกรีความขุ่นเคืองลงบ้าง เผื่อจะสมานไมตรีได้ดังเดิม

นี่ก็อีก เรื่องที่รบกวนจิตใจเขา นานเท่าช่วงระยะเวลาการไปเรียนต่อของเจ้าตัวนั่นแหละ กลับมาทีก็โผล่แวบๆแล้วก็หายไป ไม่เคยเจอตัวสักที

“รู้แล้วน่ะ แล้วพี่ก็อยากขอโทษ แต่เพื่อนเราไม่เคยโผล่มาให้พี่พบอีก จะให้ทำยังไง” เสียงทุ้มออกน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างปิดไม่อยู่

แพรพรรณกับมารดาแอบเหล่มองหน้ากัน ไม่คิดว่าภูดิสจะใส่ใจเรื่องนี้ ทุกครั้งที่แพรพรรณเปิดประเด็นนี้ ภูดิสจะส่ายหน้าแล้วเดินลับหายไปจากวงสนทนา

“จะเอายังไงแน่พี่ภู เดี๋ยวรังเกียจเดี๋ยวอยากเจอ เอาใจไม่ถูกแล้วนะ”
ภูดิสหน้ายุ่งกับคำต่อว่าของน้องและสายตาของมารดาที่เริ่มมีประกายบางอย่าง

“ผมแค่อยากขอโทษเฉยๆ แม่อย่ามองผมอย่างนั้น ถ้าได้ทำสักครั้ง ก็ดีกว่าอย่างนี้ไม่ใช่รึไง มีเรื่องขุ่นเคืองกันมันไม่ใช่เรื่องดีอยู่แล้ว”

“ไม่ต้องตั้งโหมดป้องกันตัวเองอย่างนั้นหรอก เฮอะ!” แพรพรรณพ่นลมออกจากปาก ส่วนคุณลักษิกาเมินหน้าไป ขัดใจจริงๆ เบื่อคนรู้ทัน

“ขอบอกให้รู้ไว้ตรงนี้เลยนะ หนูนิน่ะ ถ้าลองปักใจว่าตัดแล้ว เขาไม่เก็บชิ้นส่วนมาต่ออีกหรอก เห็นแบบนั้น เด็ดขาดยิ่งกว่าอะไร แล้วถ้าแพรไม่กรอกชื่อพี่ภูใส่หูหนูนิบ่อยๆ ก็คงจะลืมไปแล้วว่าแพรมีพี่ชายชื่อภูดิสอยู่บนโลกใบนี้ด้วย”

“อีกไม่นานหนูนิก็จะกลับมาแล้ว คงมีโอกาสขอโทษขอโพยบ้างหรอก” คุณลักษิกาเอ่ยเสียงเรียบ ดีหละ จะได้มีข้ออ้างสานต่อเรื่องเก่าๆเสียที “แต่นั่นก็ต้องแล้วแต่ว่า ฝ่ายโน้นเขาจะยอมให้พบเจอรึเปล่า” หญิงสูงวัยไม่วายแกล้งขู่บ้าง เอาคืนเล็กๆน้อยๆที่เคยทำให้เธอผิดหวังมาเมื่อครั้งก่อน

ภูดิสเม้มปาก หน้ายุ่งยังไม่คลาย คำขู่บั่นทอนกำลังใจทับถมจนความคิดว่าเธอไม่น่าจะใจร้าย และความโกรธขุ่นเคืองน่าจะลดลงบ้างแล้วเริ่มคลอนแคลน หากนิศากรจะให้อภัย คงดี การมีคนเกลียดไม่ใช่เรื่องดีเลย เขาถือคติ มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู ถ้าคลายความขุ่นเคืองไปได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องลำบากคอยหลบกันไปหลบกันมา ใช่มั้ยล่ะ


เสียงเคาะประตูห้องดังติดกันสามครั้ง ภูดิสเงยหน้าจากกองเอกสารตรงหน้า วางปากกาสีทองราคาแพงลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นเดินไปที่โซฟาสีครีมมุมหนึ่งของห้อง ประตูห้องเปิดพร้อมร่างของสาวสวยผอมเพรียว ผมดัดเป็นลอนทำสีเป็นบางแห่งในชุดเสื้อยืดคอกว้างพอดีตัวกับกางเกงเข้ารูปสบายๆ แต่หากจะพิศให้ดีแล้ว ชุดสบายๆนั้น เป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมยี่ห้อดังทั้งนั้น เธอเดินผ่านเข้ามาและจัดการปิดลงตามเดิม

“ว่าไงรัน มาถึงนี่มีอะไร” ภูดิสถามถึงสาเหตุการมาของเพื่อนสาวที่หน้าตา ผิวพรรณ และรูปร่างอ่อนกว่าอายุจริง เนื่องเพราะอาชีพการงานที่ต้องการความสวยสด จึงต้องรักษาไว้ให้นานที่สุด และช่วงนี้เธอกำลังโด่งดังกับบทนางร้ายที่ร้ายได้ถึงใจ

“ก็เรื่องข่าวบ้าๆนั่นแหละ ไม่ทันคิดเลยว่าจะดันมีปาปารัสซี่อยู่แถวนั้นด้วย” รัญชิดาถอดแว่นตาดำใหญ่ตามสมัยนิยมออก เผยให้เห็นดวงตาบวมช้ำ

“ไม่เป็นไร อย่าคิดมากเลยน่า อีกพักเดียวก็เงียบไปเอง ทำยังกับไม่เคยเป็นข่าว”

“อย่างนั้นก็เถอะ แต่ไม่เคยพาเพื่อนดีๆอย่างภูมาเสียนี่นา ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ” ดวงตาบวมช้ำฉายแววอ่อนล้า ภูดิสมองเพื่อนอย่างเห็นใจเพื่อนที่กำลังเผชิญกับปัญหาหัวใจและข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์

“บอกแล้วว่าไม่เป็นไร” รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฎบนใบหน้าคมปลอบใจ รัญชิดาพยักหน้าขอบใจเพื่อน แล้วน้ำตาก็พานเอ่อล้นขึ้นมาอีก เมื่อคิดถึงรอยยิ้มของอดีตคนรัก

“ทำไมเขาต้องหลอกเราด้วย คนเลว” รัญชิดาสะอื้นต่อว่าแฟนเก่า น้ำตารินจากดวงตาสวยสู่สองข้างแก้ม ใบหน้างามเศร้าโศก ภาพอดีตคนรักคลอเคลียกับดารารุ่นน้องปรากฎในห้วงความคิดอีกครา ภูดิสส่งกระดาษให้เพื่อนซับน้ำตา หญิงสาวรับมาทั้งที่ยังสะอื้นฮัก ซักพักหนึ่งจึงเริ่มสงบลง

“พอเถอะ ตาปูดเป็นกบแล้ว” ภูดิสเอ่ยติดตลกหวังคลายความเศร้าให้เพื่อนได้บ้าง ถึงความรู้สึกรักจะหมดไปแล้ว แต่ความห่วงใยไม่เคยจางหาย รัญชิดายิ้ม สองมือซับคราบน้ำตาให้หมดจากหน้าสวย

“บ้า เราออกจะสวย”

ภูดิสขำกับคำยกยอตัวเองที่ดาราสาวชอบพูดเล่นเป็นประจำ ซักพักหนึ่งก็ยังดี หากจะช่วยให้เธอลืมความทุกข์ทั้งหลายได้

“หิวแล้ว กินข้าวกันมั้ย ว่างรึเปล่า” รัญชิดาเอ่ยชวนน้ำเสียงสดใสขึ้น

“ได้สิ ไม่มีนัดอะไร ไปร้านเดิมแล้วกันนะ” ภูดิสลุกขึ้นไปเก็บเอกสารและจัดการปิดคอมพิวเตอร์ คว้าโทรศัพท์เครื่องเล็กบนโต๊ะติดมือเดินเคียงคู่กันออกไปพร้อมกับรัญชิดา ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเลขาหน้าห้องของชายหนุ่มที่กำลังกดสายติดต่อภายในถึงแพรพรรณ

“คุณแพรคะ ออกไปกันแล้วค่ะ เจ้านายสั่งว่าไปทานข้าวกับคุณรัญชิดาแล้วจะกลับเข้ามาบ่ายๆค่ะ”

แพรพรรณวางหูลงหลังจากกล่าวขอบคุณสาวรุ่นพี่เลขาพี่ชายที่เธอไปสั่งการไว้ให้รายงานความเคลื่อนไหว หลังจากได้ยินว่ารัญชิดามาขอพบภูดิส


แพรพรรณเดินตรงเข้าไปในร้านเหลือบตามองหาพี่ชายตัวดีที่บังอาจจะสร้างข่าวให้ตัวเองลำบากอีก เท่าที่ผ่านมาไม่กี่วัน เหยี่ยวข่าวหลายคนมาจดๆจ้องหน้าบริษัทไม่เลิกรา เล่นเอายามรักษาการหงุดหงิดเกือบมีเรื่องราวหลายครั้ง เพราะฝ่ายหนึ่งมีหน้าที่หาข้อมูลมาทำข่าว จ้องเก็บภาพและคำสัมภาษณ์ ส่วนอีกฝ่ายก็ต้องปกป้องเจ้านาย ไม่ให้ได้รับความยุ่งยากตามหน้าที่ เมื่อทางเดินในอาชีพขัดกันคนละทาง เรื่องวุ่นวายจึงตามมา เช่นเดียวกับหน้าบ้านเธอ
แพรพรรณกระแทกตัวลงนั่งข้างพี่ชาย ท่ามกลางความงุนงงของสองเพื่อน พร้อมกระชากเมนูมาจัดการสั่งอาหารเองเสร็จสรรพไม่ถามความต้องการของผู้ร่วมโต๊ะแต่อย่างใด

“มาได้ไงน่ะเรา”

“สบายดีเหรอคะพี่รัน ไม่เจอตัวเป็นๆมานานแล้ว เห็นแต่รูปในข่าวหนังสือพิมพ์” แพรพรรณพูดกับดาราสาวเพื่อนพี่ชาย แอบกัดเล็กน้อย เพราะยังเคืองข้อหาที่ทำให้พี่ชายเป็นข่าวและเรื่องที่เรียกหาภูดิสเสมอยามทุกข์ระทม หากแต่พอสุขสำราญกลับไม่แยแสพี่เธอเลย ระรื่นหน้าบานกับแฟนหนุ่ม มีเพียงคำขอบใจตอบแทน

รัญชิดาหน้าเสียลงเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบคำตอบของน้องเพื่อน

“ก็ดีจ๊ะ แพรคงสบายดีเหมือนกันใช่มั้ย”

“ร่างกายสบายดี แต่จิดใจไม่ค่อยสบายค่ะ พี่ภูก่อเรื่องให้แม่วีนจนเสียงหาย แพรก็รำคาญพวกนักข่าวมาด้อมๆหน้าบ้าน วุ่นวายชะมัด” แพรพรรณเล่าหน้าเซ็งสุดชีวิตพลางดูดน้ำส้มปั่นที่พนักงานนำมาเสริฟ ไม่อนาทรต่อสีหน้าที่เสียยิ่งขึ้นของรัญชิดา

“ยัยตัวดี พอได้แล้วนะ เลิกป่วนซะที” ภูดิสล็อคคอน้องสาวให้เอียงมาใกล้ กระซิบเสียงดุ ขณะที่พนักงานเสริฟลำเลียงอาหารลงบนโต๊ะ แต่แม่น้องสาวกลับแกะแขนพี่ชายออก ตีหน้าเฉยไม่แยแสเสียงดุๆของพี่ชาย แถมยังกักเอาอาหารที่ภูดิสบริการตักให้รัญชิดามาไว้ที่ตัวเองเสียหมด แถมยกชื่อเพื่อนสาวมาอ้างสร้างความเข้าใจผิดให้อีกและยังตั้งใจพูดเสียงดังยังกับอยากให้ได้ยินทั้งร้าน

“พี่ภู ความเป็นสุภาพบุรุษน่ะดี แต่เก็บไว้ทำให้หนูนิคนเดียวดีกว่ามั้ง แพรขี้เกียจช่วยง้อแล้วนะ” ภูดิสหน้าเหวอ มองหน้าน้องสาวงุนงง ที่อยู่ๆก็พูดเสียงดังขึ้น แถมกุเรื่องประหลาดขึ้นมาอีก

“หนูนิ” รัญชิดาทวนชื่อที่ได้ยินอีกครั้ง

“ค่ะ หนูนิ นิศากร ลูกสาวคุณป้ากังสดาลนายกสมาคมแม่บ้านไฮโซไงคะ เพื่อนสนิทแพรเอง ตอนนี้เรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส” ดาราสาวพยักหน้า คุ้นเคยกับชื่อที่ปรากฏบ่อยครั้งในหน้าหนังสือพิมพ์

เนื่องจากลูกสาวไม่อยู่ให้คอยดูแล คุณกังสดาลจึงรับหน้าที่นี้ เพื่อจะได้ใช้เวลาว่างทำผลประโยชน์เพื่อส่วนรวม ดีกว่านั่งคิดถึงลูกสาวคนเดียวไปวันๆ

ภูดิสเสจิ้มของโปรดวางให้น้องสาวในจาน เอียงไปหากระซิบเสียงเบาอีกครั้ง

“เรื่องอะไรอีกกันอีกแพร” แพรพรรณตอบกลับรวดเร็ว

“นักข่าวที่สามนาฬิกา” ภูดิสเข้าใจในทันใด แม่น้องสาวจงใจสร้างข่าวใหม่กลบข่าวเก่า จึงนั่งเงียบปล่อยให้น้องเจื้อยแจ้วต่อไป

“พี่ภูทำตัวเหลวไหลไม่เข้าท่าแบบนี้ หนูนิโทรมาหาแพร พี่ภูรับสายหนูนิไม่ยอมพูดด้วย ขอสายแพรอย่างเดียว สมน้ำหน้าพี่ภู!” แพรพรรณผสมเรื่องเองเสร็จสรรพรวดเร็ว ภูดิสถอนหายใจเบาๆ ที่น้องสาวแอบว่าเขาเรื่องเดิม


เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ

เรื่องแรก คุณผู้หญิงทั้งบ้านสามัคคีกันรุมจิกกัดต่อว่าเขาว่าทำเรื่องไม่เข้าท่ามาให้ปวดเศียรเวียนเกล้า

เรื่องที่สอง นิศากรโทรมาที่บ้านและภูดิสบังเอิญเป็นคนรับสายพอดี เสียงหวานแนะนำตัวดังมาตามสาย เสียงที่ไม่ได้ยินมาแสนนานทำให้เขานิ่งอึ้งไปนิดหนึ่ง พอเขาตอบกลับก็เป็นอีกฝ่ายที่เงียบไปเช่นกัน นิศากรทักทายตามมารยาทเพียงคำเดียว

‘สวัสดีค่ะ’

คำเดิมกับคำกล่าวลาเมื่อครั้งก่อน เขาตั้งใจจะถามสารทุกข์สุกดิบแต่พออ้าปากหญิงสาวก็ขัดขึ้นมาซะก่อน ‘นิไม่มีเวลามากนัก ขอสายแพรหน่อยค่ะ’ แพรพรรณไม่อยู่ เขาจึงบอกให้ฝากข้อความไว้ แต่คำตอบกลับมีมาว่า ‘งั้นไม่เป็นไรค่ะ สวัสดีค่ะ’ ตามด้วยเสียงวางหูทันที เธอแสดงชัดว่าไม่ต้องการพูดกับเขา


ภูดิสเอามือกุมขมับปวดหัวกับเรื่องที่ติดค้างใจเขามานาน เขายังไม่มีโอกาสขอโทษ แต่รัญชิดาเข้าใจไปว่าเพราะตัวเธอ สาวน้อยที่ชื่อนิศากรจึงผิดใจกับเพื่อนสนิทที่ไปมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตอนไหนไม่ทราบได้ และเจ้าตัวไม่ได้ปฏิเสธคัดค้าน อย่างนั้นคงจะจริงอย่างที่แพรพรรณพูดมา การรับรู้ว่าภูดิสมีอีกคนที่เขาให้ความสนใจนอกจากเธอ ความห่วงใยใส่ใจของเขาได้ถูกปันไปให้อีกคน ที่เธอไม่เคยได้พบเจอ ความรู้สึกไม่พอใจ เสียใจเหมือนกำลังจะถูกทิ้งไว้เพียงลำพังอีกแล่นขึ้นมา หน้าเธอจึงหมองลงไปอีก

“ขอโทษนะภู เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ น้องแพรด้วยนะ”

“ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร” ภูดิสที่คิดว่าเพื่อนยังเสียใจที่ทำให้เกิดข่าวนั้นจึงขอโทษขอโพยเป็นที่รอบสอง “เลิกขอโทษแล้วทานอาหารได้แล้ว”

แพรพรรณยิ้มกริ่มในหน้า เมื่อเห็นนักข่าวคนนั้นสั่งเก็บเงินแล้วลุกออกไปจากร้าน คงจะรีบเอาข่าวไปลงตัดหน้าฉบับอื่นอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ นักข่าวสังคมหน้าประจำคนนี้ไวพอจะตามรถพี่ชายเธอออกมาทันก่อนคนอื่นๆ และเธอก็รีบตามออกมาทันที รอดูข่าวพรุ่งนี้ได้เลย


สายตาคมจับจ้องไปที่หญิงสาวที่เห็นในระยะไกลนั้น คิ้วเข้มขมวดมุ่น หนูนิ ดวงตาคมมีร่องรอยความไม่แน่ใจถึงกับกระพริบตาหลายครั้ง

บ้าน่า จะใช่ได้ยังไง ก็นี่มันยังไม่ถึงกำหนดกลับตามที่ยัยแพรเคยบอกไว้นี่นา

“เจ้านาย เจ้านายคะ” นันทา เลขาคุณแม่ยังสาวแถมลูกอีกหนึ่งคนร้องเรียก เพราะอยู่ดีๆเจ้านายเธอก็หยุดอาการเดินลิ่วๆที่เธอเร่งสปีดสุดตัวตามขายาวๆของเขาแทบไม่ทันซะอย่างนั้น คนขับรถที่มีหน้าที่เข็นกระเป๋าตามเจ้านายก็เช่นกัน

“คิดว่าเจอคนรู้จักน่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า” คิ้วเข้มยิ่งขมวดมุ่นเข้าไปใหญ่

เมื่อมองไปรอบๆ เขาสะดุดตาเข้ากับสาวหนึ่ง เสื้อคลุมตัวนอกถูกวางพาดไว้ที่แขน เหลือแต่กางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อแขนกุดคอเต่าตัวในสีขาวที่เจ้าตัวรูดซิปเปิดลำคอขาวนวลไว้เพราะอากาศร้อน ถ้าปิดไว้คงได้ตะกายไปขอแอมโมเนียมาดมแน่ๆ ถึงจะมีเครื่องปรับอากาศแต่ด้วยจำนวนคนและบริเวณที่กว้างขวาง ประสิทธิภาพความเย็นจึงน้อยลงเลยทำให้รู้สึกร้อนอยู่ดีถึงจะไม่มากเท่าอากาศภายนอกอาคารก็ตาม ต่างหูห่วงสีเงินส่องประกายยามต้องแสงพระอาทิตย์ ผมสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับดวงตากลมถูกรวบเก็บไว้ด้วยกิ๊บตัวใหญ่ ปอยผมบางส่วนหลุดร่วงลงมาเคลียไหล่อย่างเก๋ไก๋ และบางส่วนระแก้มนวลที่ตอนนี้เป็นสีแดงระเรื่อด้วยความร้อน สีเดียวกันริมฝีปากอิ่ม ไม่ได้สวยเลิศวิไล แต่ดูน่ารักน่าชวนมอง

ภูดิสนึกถึงภาพหญิงสาวที่ปรากฎในหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แพรพรรณตั้งไว้เป็นภาพพักหน้าจอ นิศากรในสถานที่ต่างๆและอิริยาบทต่างกันสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางรูปไม่ได้เป็นรูปเดี่ยวแต่มีเพื่อนหลายเชื้อชาติร่วมด้วย รอยยิ้มอ่อนโยนสดใสบนหน้านวลแสดงถึงความสุขสนุกสนาน เขานั่งมองไปเรื่อยๆ จนแม่น้องสาวตัวดีกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่ทุกคนมักจะรวมตัวกันพูดคุยในห้องนี้เป็นประจำ

ลองเข้าไปดูซักหน่อยเป็นไร ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป

“รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมมา” ชายหนุ่มสาวเท้าฝ่าผู้คนตรงเข้าไป เธอกำลังจะออกเดินไปผ่านออกไปที่ประตูทางออก ภูดิสจึงยิ่งเร่งฝีเท้าไปทันก่อนที่เธอจะก้าวออกไป

“หนูนิ!” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกพร้อมคว้าข้อมือเล็กขาวไว้ในมือใหญ่ ใบหน้าหวานหันตามเสียงเรียกด้วยความตกใจ จะสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมตามสัญชาตญาณการป้องกันตัว ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างขึ้น รับภาพของร่างสูงหน้าคมเจ้าของเสียงทุ้มที่เอ่ยชื่อเธอ

ให้ตายสิ สวรรค์ตั้งใจกลั่นแกล้งเธอรึยังไงกัน ทำไมคนที่เธอต้องการพบเป็นคนสุดท้ายเมื่อกลับมาถึง จึงได้เป็นคนแรกที่เธอได้เจอ

“พี่ภู!”


-----------------โปรดติดตามตอนต่อไป-----------------


คุยนิดหน่อยกับฟ้าริน
หมูน้อยหน้าใส - ติดได้ก็ดีจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ ตามมาติดต่อไปนะจ๊ะ
natee - จากเว็บloveหรือเปล่าคะ
ธาราภิรมณ์ - มาบทที่2แล้วจ้า ต่อไปบทที่สามจะเป็นไงน้าลองเดาดูมั้ยคะ




Create Date : 15 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 18:37:13 น.
Counter : 257 Pageviews.

1 comments
  

สนุกดีจ๊ะ เคยอ่านเจอในอีกเว๊ป อย่าลืมไปอัพที่

บ้านโน้นนะค่ะ มาเร็วๆนะค่ะ
โดย: nekojung IP: 58.9.79.37 วันที่: 17 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:52:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik