All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่32





บทที่32

สองหนุ่มสาวนั่งลงเคียงกัน เลือกใช้ด้านบนชั้นลอย มีห้องส่วนตัวเพิ่งตกแต่งใหม่เอี่ยมห้องส่วนตัวสำหรับเจ้าของห้องเสื้อสาว

คิ้วเรียวขมวดแทบเป็นโบว์ ฟังน้ำเสียงทุ้มนุ่มเล่าเรื่อยๆอย่างหมดเปลือก ทุกอย่างพรั่งพรูอออกมา แม้กระทั่งความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ คาดไม่ถึงในเล่ห์กลที่เพื่อนกระทำต่อเพื่อน จนขณะนี้ชายหนุ่มลังเล ไม่อาจไว้ใจรัญชิดาได้สนิท สงสัยในตัวอานนท์ซึ่งมีฐานะเป็นญาติของรัญชิดา อานนท์นั้นอาจชอบใจในตัวนิศากรด้วยใจจริง แต่เบื้องหลังความชอบนั้น มีเหตุผลใดแอบแฝงมาด้วยหรือไม่ ไม่รู้

ภูดิสทอดถอนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าหนักใจไม่น้อย นิศากรก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่นึกมาก่อนว่ารัญชิดาจะทำได้ถึงขนาดนั้น น่ากลัวเหลือเกิน

ความอยากเอาชนะ ก่อให้เกิดการยื้อแย่ง ทั้งที่ใจจริงไม่ได้ต้องการ จนกระทั่งทำลายความเชื่อใจ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนให้สะบั้นลงอย่าง่ายดาย บาดแผลทางใจก่อเกิด แม้กระทั่งได้รับข่าวน่าห่วงใย ยังไม่ทำให้ความระแวงสงสัยคลายลง อีกทั้งข้อความที่ฝากมา คิดในแง่ดี รัญชิดาต้องการขอโทษและปรับความเข้าใจ หากในแง่ร้าย อาจเป็นกลลวงให้เกิดข่าว เพื่อสั่นคลอนความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เป็นได้

ด้วยเหตุนี้ ภูดิสจึงไม่อาจก้าวเท้าสู่โรงพยาบาลตามคำขอได้

“แล้วถ้าเขาป่วยจริงๆล่ะคะ”

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็คงแย่ที่พี่ไม่ยอมไปเยี่ยมเขา อานนท์บอกว่าอาจต้องผ่าตัด แต่ตอนพูดนายนั่นก็หน้าตาเฉย ไม่แสดงออกว่าเรื่องมันหนักขนาดนั้นสักนิด หรือจะหลอกเสียก็ไม่รู้” ภูดิสวิเคราะห์

“พี่ภูไม่ได้ไปมา...จริงๆเหรอคะ” นิศากรถามอ้อมแอ้ม ดวงตากลมมองใบหน้าคม หวังจับพิรุธ แต่กลับได้สายตาแน่วแน่จริงจังตอบกลับมาแทน

“ไม่!” มุมปากขยับยกขึ้นนิดหนึ่ง “กำลังทำตามสัญญาของพี่รึเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มจับมือบางขึ้นมาเกี่ยวนิ้วก้อยไว้ นึกถึงสัญญาที่เขาขอไว้ ถ้าหากสงสัยอะไรให้ถามเขาแค่คนเดียว นิศากรพยักหน้า

“หนูนิได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ครับ วันนี้พี่ขอเป็นจำเลยให้ซักได้ตามสบายครับ” ว่าแล้วก็ขยับยืดตัวตรง ตั้งมือขึ้นไว้ข้างตัวข้างหนึ่ง

“ต้องสาบานด้วยไหมครับ” ภูดิสถามยิ้มๆ นิศากรพยักหน้าอีก

“ก็ดีค่ะ”

ได้รับคำยืนยันเช่นนั้น ชายหนุ่มจึงหันหน้าเข้าหาคนรัก แล้วทำเสียงจริงจังดุจเอ่ยต่อหน้าศาลที่เคารพจริงๆเหมือนอย่างที่เห็นในหนัง

“ข้าพเจ้านายภูดิส ขอสาบานและสัญญาต่อหน้านางสาวนิศากรและโซฟาตัวนี้ว่า จะรักและซื่อสัตย์ต่อนางสาวนิศากรตลอดไปตราบจนชั่วชีวิต อย่างนี้ถูกไหมครับ”

คนลากไถลบทของจำเลยไปเป็นบทของเจ้าบ่าวหันมาถามหน้าตาเฉยเสียอีก หญิงสาวหน้าเห่อแดงโดยไม่ทันตั้งตัว อึ้งไปนิดที่ถูกสารภาพรักแบบฉับพลัน หัวใจเต้นแรงราวกับลูกบอลกระเด้งกระดอนอย่างแรงอยู่ภายในช่องอก หญิงสาวยังไม่อยากเชื่อหู มองชายคนรักตาปริบๆอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อน

“เอาใหม่ได้ไหมคะ นิฟังไม่ทัน” คราวนี้เลยได้เห็นผู้ชายหน้าแดงกันบ้างล่ะ คนเพิ่งนึกได้ว่าพูดอะไรออกไปยกมือเสยผม หัวเราะแหะๆบอกปัดอย่าน่าฟาดสักผัวะ

“ของดีมีครั้งเดียว” ว่าแล้วก็เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น “มาต่อเรื่องที่หนูนิอยากถามพี่ดีกว่า”

นิศากรหน้าค้อนใส่ คาดไว้ในใจ

คนบ้า อยู่ๆก็มาบอก เอ่อ รัก แบบสายฟ้าแลบแล้วก็เปลี่ยนเรื่องเสียเฉยๆ แล้วดูทำเข้าสิ พูดเล่นหรือเปล่าเนี่ย ชักไม่แน่ใจแล้วนะ คอยดูเถอะ สักวันจะให้ตะโกนบอกรักตั้งแต่หน้าปากซอยมาเลย คอยดู!

“อ้าว ไม่ถามแล้วเหรอครับ” ภูดิสสะกิด นิศากรวางหน้าเชิดนิดๆ มองด้วยหางตา ประหนึ่งไม่เชื่อถือ
“ถามแล้วจะบอกจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้”


“ถ้าอนุญาตให้ถามได้ พี่ก็ต้องตอบสิครับ”

“ทุกเรื่อง?” หญิงสาวมองอย่างประเมิน เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า จึงเริ่มตั้งคำถามแรกที่เล่นเอาคนแน่ใจว่าจะพูดอย่างเปิดอกเกาหัวแกรกซะแล้ว ก็เล่นขุดมาตั้งแต่รุ่นพระเจ้าเหามาซัก

“เรื่องที่พี่ภูกับคุณรันกิ๊กกันสมัยเรียนคงจริงสินะคะ ไปถึงไหนกันแล้วล่ะคะ”

“เอ...ก็ไม่มีอะไร เพื่อนกันไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไปไหนก็เป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่ก็กินข้าว ดูหนัง...” พูดไม่ทันจบนิศากรก็แทรกขึ้นมา

“ตอนดูหนังคงนั่งใกล้ๆกันสินะ ทำอะไรบ้างก็ไม่รู้” เสียงใสๆขึ้นจมูก หน้าตึงน้อยๆ ภูดิสรีบโบกมือปฏิเสธหยอยๆ

“เปล่านะครับ รันต่างหากกระเด้งมาเกาะตอนดูหนังผี” ภูดิสปัดความผิดเสีย จะมาโกรธเขาไม่ได้นะ ก็เขาน่ะนั่งอยู่เฉยๆแท้ๆ

“โดนคนสวยๆกระโดดใส่ คงประทับใจสินะคะ ปิ๊งเลยล่ะสิ” นิศากรพ่นลมหายใจแรง ภูดิสทำหน้าเก้อ ข้อหาที่ทายถูกเป๋ง คนถามรู้สึกจี๊ดตะหงิดๆ อยากเขกกระโหลกตัวเองสักโป๊ก ไม่น่าถามให้เจ็บใจเองเล๊ย เรื่องเก่าโบราณขนาดนั้น แล้วเธอเองก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยสักหน่อย

“คุณรันน่ะสวยก็จริงแต่น่ากลัวอย่างนั้น ชอบเขาตรงไหนคะ” ช่วยไม่ได้ ก็อยากรู้นี่นา ชายหนุ่มถอนหายใจยาว

“บางทีอาจจะไม่ใช่ก็ได้ พอมาคิดๆดูอีกที น่าจะเป็นความเป็นห่วงหรือไม่ก็สงสารมากกว่า ดูท่าทางร้ายๆไม่ใส่ใจคนอย่างนั้น จริงๆแล้วเขาจิตใจอ่อนแอมาก

ที่รู้ได้เพราะวันนึง พี่บังเอิญไปเจอเขานั่งนิ่งท่าทางเก็บกดอยู่บนรถคนเดียว เลยไปเคาะกระจกถาม พี่ต๊กกะใจตอนรันกรี๊ดลั่นรถก่อนเปิดประตูผัวะออกมาซัดโฮใส่ อมความอยู่นานกว่าจะพูดออกมา เพราะวันนั้นเขาเก็บกดจนทนไม่ไหว

รันโดดเดี่ยว เพื่อนแท้ๆรักกันอย่างจริงใจไม่มี คบใครก็ได้แต่ผิวเผิน หาคนเข้าใจเขาได้ ยากเต็มที แม่รันเสียตั้งแต่เขายังเด็ก ตั้งแต่นั้นมารันก็ว้าเหว่ พ่อก็ไม่ใส่ใจ ปล่อยอยู่บ้านหลังใหญ่กับคนรับใช้กับพี่เลี้ยงที่มาทำหน้าที่ตามที่ต้องทำ ไม่ได้ใส่ใจจริงจังอะไร น่าสงสารไหมล่ะ”

นิศากรฟังแล้วก็ชักเห็นใจนางร้ายสาวขึ้นมาบ้าง การที่รัญชิดาวีนไม่เว้นแต่ละวัน บางทีอาจเป็นการเรียกร้องความสนใจก็ได้ วิธีแบบเด็กมีปัญหาโดยแท้

“เด็กมีปัญหา”

“คงจะอย่างนั้นแหละ”

“เป็นห่วงเขามากไหมคะ” ไม่ได้ถามด้วยความรู้สึกอื่นใด นอกจากอยากรู้จริงๆ อยากทราบความรู้สึกของภูดิสขณะนี้ อย่างไรเสียก็คนเคยเห็นใจกันมานาน หญิงสาวแน่ใจทีเดียว หากไม่มีเรื่องเล่ห์กลคราวนั้น ภูดิสเป็นต้องรีบเร่งไปหารัญชิดาแน่นอนที่รู้ข่าวอาการป่วย อาจจะรีบจนลืมเธอไปเลยก็ได้

ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ชั่งน้ำหนักความห่วงใยที่มีกับความกังวลว่าจะถูกหลอก สัดส่วนของอย่างหลังดูจะมีมากกว่า เป็นเหตุผลให้เขาไม่กล้าย่างเข้าใกล้รัญชิดา

“แต่พี่กลัวถูกหลอกมากกว่า”

“พี่ภูคะ ไปหาคุณรันเถอะ”

“หือ?” ภูดิสเลิกคิ้วสูง แล้วแชนแข็งแรงก็ถูกฉุดลากออกไปจากร้านโดยที่นิศากรไม่ลืมที่จะสั่งเสียอย่างดีให้ลูกน้องทำหน้าที่ดูแลร้านอย่างดี



บัดนี้สองหนุ่มสาวก้าวมายืนอยู่หน้าโรงพยาบาลตามที่ได้รับแจ้งมาจากอิมมี่ ผู้จัดการสาวเทียมของรัญชิดา พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ตรงเข้ามาถามไถ่อย่างรู้หน้าที่ บริการดีสมกับเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ผู้เข้ารักษาตัวต้องทุ่มเงินค่าโรงพยาบาลกันหลายอยู่ เพื่อแลกกับการบริการชั้นเยี่ยม

สองเท้าก้าวไปตามทางนำไปสู่ห้องซึ่งนางร้ายสาวพักฟื้นอยู่เพียงลำพัง บางคาบบางคราวเท่านั้นที่จะมีผู้เยี่ยมเยียน คนที่ต้องนั่งเฝ้าไม่พ้นอิมมี่ ผู้จัดการที่โล่งใจไปได้ เพราะนางร้ายสาวไม่มีแรงลุกขึ้นมาโวยวาย วีนได้ชั่วขณะ

มือใหญ่ฉุดมือเล็กไว้ก่อน หากคิ้วเข้มมีขอเกี่ยวคงได้เกี่ยวกันแน่ สายตาคมสอดส่ายหาบางสิ่งไปทั่วบริเวณ นิศากรเอ่ยถามอย่างสงสัย

“มีอะไรคะ”

“ก็...”

“ไม่มีปาปารัสซี่หรอกมั้งคะ เรามากันไม่ได้ประกาศให้ใครรู้ แม้แต่คุณรันเองก็เถอะ” นิศากรเดินหน้าต่อ ไม่รอภูดิสซึ้งรั้งตัวไว้นิดๆ ไม่ค่อยอยากตามไปเท่าไรจนกระทั่งถึงหน้าห้องที่ต้องการ

มือเล็กบางคว้ากลอนประตู ภูดิสก็ควักโทรศัพท์มือถือของตัวข้นมากดรับสายทั้งที่ไม่มีเสียงเรียกสาย โบกมือส่งสัญญาณว่ารอสักแป๊บ นิศากรแอบคิดในใจ แอบใช้มุขเดียวกับเราเมื่อก่อนรึเปล่านะ แต่ดูท่าทางการคุยอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ไม่น่าเป็นเช่นนั้น จึงจำใจรออยู่ก่อน

หญิงสาวอดใจรออยู่ได้สักครู่ อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จธุระทางโทรศัพท์เสียที นิศากรเขย่ามืออีกฝ่าย ชี้นิ้วไปทางประตู แล้วผลักเข้าไปทันที ด้วยความใจร้อนอยากพิสูจน์บางสิ่งบางอย่างแทนภูดิสใจจะขาด

เขาว่ากันว่า หากจะจับโกหก ต้องเล่นทีเผลอ เอาให้ได้คาหนังคาเขา จะได้ดิ้นไม่หลุด

สายตาสองคู่จับจ้องมาอย่างตระหนกน้อยๆ อิมมี่ที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟายกมือปิดปาก กั้นเสียงอุทานไม่ทัน

“ว๊ายตาย นางเอกมา”

“สวัสดี...” น้ำเสียงแผ่วเบา แหบแห้งทักทายมาก่อน

ใบหน้าซึ่งเคยตกแต่งอย่างปราณีตมีสไตล์ บัดนี้ไร้สีสัน ดวงตาสวยหวานยังคงความสวย แต่กลับไม่เปล่งประกายจัดจ้าอย่างคนเอาแต่ใจเช่นเดิม สายน้ำเกลือระโยงระยางอยู่ข้างเตียงคนไข้ ปลายสายซึ่งมีเข็มแหลมทิ่มแทงเข้าสู่ผิวนวลเนียนบนมือเรียว ร่างบางระหงหยันตัวขึ้นนั่ง ชะเง้อมองไปทางประตู

“ภูมาด้วยหรือเปล่า” นิศากรพยักหน้า รู้สึกละอายน้อยๆ เพราะรัญชิดาไม่ได้จะใช้กลลวงชนิดใดเพื่อสร้างเรื่องให้เธอแตกกับภูดิสอย่างที่มโนส่วนหนึ่งเชื่อถือ

“เธอมาก็ดีนิศากร เรามีเรื่องต้องคุยกัน ฉันได้ข่าวเรื่องอานนท์กับพวกเธอ...” รัญชิดาพูดไม่ทันจบ ภูดิสก็ก้าวตามเข้ามาอีกคน คราวนี้อิมมี่อุทานซ้ำสอง

“อ้าว พระเอกก็มา...” สรุปว่าละครเรื่องนี้ครบเครื่องตัวละคร เตรียมเดินเรื่องต่อได้ อิมมี่หุบปากสนิท พลีตัวเล่นเป็นคนใช้ หาน้ำท่ามาเสริฟแฝงกายนักข่าวหัวเห็ดไว้ภายใต้บทสาวใช้

“เชิญนั่งก่อนสิ ขอบใจที่มานะภู” แววตาสะท้อนความยินดีอย่างลึกซึ้ง ใบหน้าค่อยแช่มชื่นขึ้นนิด

“รอตั้งนาน นึกว่าภูจะไม่ยอมมาแล้วสิ โชคดีจัง” เสียงอ่อนระโหยจากริมฝีปากแตกแห้งจี้เข้ากลางใจคนฟัง ภูดิสอึ้งไปนิด ละอายเช่นเดียวกันเมื่อพบความจริง

“แต่ว่าไม่บอกก่อนนะ จะได้เตรียมตัวให้ดูเป็นคนหน่อย” รัญชิดาก้มดูสภาพตัวเองพลางลูบหน้า รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เพราะไม่เช้งวับจับตา ภูดิสยิ้มน้อยๆ

“ภู...ขอโทษนะ เรื่องนั้น...” รัญชิดาหลุบตาต่ำ ไม่กล้ามองภูดิสและนิศากร “เราทำร้ายๆไว้มาก ผิดอย่างไม่น่าให้อภัยเลยทีเดียว เพราะภูใจดี ดีมาก จนเราถือดีว่าภูไม่มีวันทิ้งเราแน่ เลยทำอะไรไม่คิดแบบนั้น ขอโทษจริงๆนะภู” น้ำตาใสๆร่วงผล่อย สะอื้นไห้พูดต่อไป “เราไม่หวังว่าภูจะยกโทษให้เดี๋ยวนี้ แค่ได้มีโอกาสพูดอย่างวันนี้ ก็ดีมากพอแล้ว”

“ขอโทษนะภู...” รัญชิดาเสียงสั่น พร่ำรำพันขอโทษเป็นครั้งที่เท่าไหร่เจ้าตัวก็ไม่ได้นับ รู้แต่ต้องพูดคำนี้สักร้อยรอบก็คงไม่พอทดแทนการกระทำเลวนั้นได้

ภูดิสพยักหน้ารับเงียบ ทอดมองเพื่อนอย่างสงสาร เรื่องจะโกรธไปจนวันตาย ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เรื่องจะให้ลืมและวางใจโดยสนิท ก็ไม่ได้เช่นกัน ทั้งเขาและรัญชิดาคงต้องจำเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน

แค่เพียงอีกฝ่ายพยักหน้ารับคำขอโทษเท่านั้น นางร้ายสาวก็ยินดีอย่างที่สุดแล้ว

นิศากรแปลกใจ ภูดิสผู้ใจดีและอ่อนโยนคงจะลุกไปปลอบแล้ว แต่ไหงวันนี้ ไม่มีทีท่าขยับตัวสักน้อย

“ขอโทษเธอด้วย นิศากร” ผู้ถูกขออภัยทำคอเอียงหน้าเหลอ ก่อนจะยิ้มให้ถึงบางอ้อ

สงสัยเรื่องที่เคยทำร้ายๆกับเธอ อย่างเช่นพูดจาจิกกัด หาเรื่องมาตลอดละมั้ง ยกให้ก็ได้ อุตส่าห์กลับใจเป็นนางเอกกับเขาบ้างแล้ว

“เฉพาะเรื่องที่เจอกันครั้งแรกกับเรื่องสุดท้ายนี้เท่านั้นนะ”

อ้าว?

“เพราะเธอแก้แค้นฉันไปหมดแล้ว เพราะงั้นฉันไม่ต้องขอโทษ
นิศากรหุบยิ้มทันควัน นั่นไง ขอถอนคำพูดที่ว่ากลับใจตรงสี่บรรทัดนับขึ้นไปข้างบน รัญชิดาหัวเราะคิก เมื่อเห็นหน้าเอ๋อแล้วสลับเป็นตูมน้อยๆของนิศากร

“จริงสิ เรื่องนายอานนท์น่ะ...”

ภูดิสตวัดสายตาคมดุขึ้นทันควัน มองทางนิศากรก่อนปัดไปทางรัญชิดาจนสะดุ้งโหยง แล้วโบกมือทันควันทำหน้าบูด

“เราไม่เกี่ยวนะ เรื่องนั้นเราก็รู้จากหนังสือพิมพ์แล้ววันต่อมา นายนนท์ก็วิ่งแจ้นมาบอกว่าไปปิ๊งหนูนิของภูเข้าน่ะแหละ เราห้ามแล้ว นายนนท์ก็ไม่ฟัง ดื้ออย่างกับวัวกับควาย”
นางร้ายสาวบ่นอุบ ค่าที่น้องชายไม่ใยดี เชื่อฟังคำห้ามปรามที่แหบแห้งของตนซึ่งอุตส่าห์ถ่อสังขารตะเบ็งให้ดุอย่างมีประสิทธิภาพ

“ไม่สบายเกือบตาย นายนนท์ไม่เห็นใจฟังเราสักนิด แถมยังทำหน้ากวนโมโหบอกไม่สนอีก”

พอได้ยินเจ้าตัวบอกอาการ แขกทั้งสองจึงจำได้ อาการป่วยของรัญชิดา เป็นอย่างไรบ้าง

“จริงสิ รันเป็นยังไงบ้าง หมอว่ายังไง” ภูดิสซักซีเรียส หากอีกฝ่ายบอกหน้าเฉย

“เครียดจนไมเกรนกำเริบหนัก เป็นไข้สามสิบแปดองศา ทอนซิลอักเสบ” คนฟังฟังตาปริบๆ อ้าปากหวอ

“แล้วเรื่องเนื้องอกล่ะ” ภูดิสถามอย่างเอ๋อจัด รัญชิดาคอเอียง ร่วมเอ๋อเป็นคนที่สาม ภูดิสกระจ่างใจ

“เอาแล้วไง นายอานนท์หลอกเข้าจริงๆด้วย” ชายหนุ่มเข่นเขี้ยว อยากเจอเจ้าเด็กแสบในวินาทีนี้จริงๆ จะได้ประเคนรองเท้าใส่บางเข้าสักข้างสองข้าง ให้สมกับที่ทำให้เขาเครียดอยู่เป็นนาน

“อานนท์บอกว่าคุณรันเป็นมะเร็ง ใกล้จะตาย” นิศากรเฉลย

“หา!!!” นางร้ายสาวอุทานเสียงแห้ง “หนอยแน่ะ แช่งพี่เชื้อได้ ฉันแค่เป็นไข้ นายกลับบอกว่าฉันจะตาย อย่างนี้มันต้องเจอกันหน่อยแล้ว นายอานนท์!” รัญชิดาอาฆาต วาดแผนการในใจไว้ตั้งแต่หลายวันก่อน เพื่อช่วยภูดิส ตอนนี้คงต้องเพิ่มเติมฤทธิ์เดชให้เด็ดดวงขึ้นอีกหน่อย จะได้แก้แค้นให้สะใจไปในตัวด้วย

“เธอ!” นางร้ายสาวชี้มาที่นิศากรซึ่งหน้าเอ๋อไม่คลาย “ต้องเป็นเหยื่อล่อนายนนท์ เพื่อกำจัดอุปสรรคออกจากชีวิตภูซะ”

เอาล่ะสิ เวรกรรมอะไรตกที่ฉันล่ะเนี่ย แล้วนางเอกแบบฉัน ต้องมาร่วมมือ

“ส่วนฉันได้แก้แค้น เอาล่ะ เราจะคิดแผนต่อเติมอีกสักหน่อย ได้เรื่องแล้วจะโทรไปบอก แค่นี้แหละ กลับไปกันได้แล้วทั้งสองคน”

ไล่แขกเสร็จเรียบร้อยแล้ว รัญชิดาก็ถดตัวลงนอน หลับตาไม่สนใจสิ่งรอบข้างอีกต่อไป


-----------โปรดติดตามตอนต่อไป-------------



*;...คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน...;*

มาเยือน - 555 ไม่ค้างนานหรอกค่ะ แต่ว่ามันไม่มีเวลามาเขียนต่อมันเลยดูแล้วว่านาน

โอเ่ล่รสส้ม - ใจเย็นค่ะใจเย็น ฟ้ารินอยากอัพจริงๆค่ะ แต่มันไม่มีเสลาเขียน ขอโทษทีค่ะ

kakok_riwkiw - คลายให้หนึ่งแล้วเน้อ ปมน่ะ มีไม่เท่าไหร่หรอก แค่รอมากำจัดเท่านั้นเอง





Create Date : 19 มกราคม 2551
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 16:00:56 น.
Counter : 258 Pageviews.

4 comments
  
แต่งเก่งจังเลยค่ะ ตามอ่านมาทุกตอนตั้งนาน สนุกมากๆเลย ว่างๆมาอัพอีกนะคะ รอคอยตอนต่อไปอย่างไปจดใจจ่อค่ะ

อิอิ คุณรันบทจะดีก็ดีแสนดีจัง ... แต่เป็นคนดีก้อดีแล้วแหละ หนูนิกะพี่ภูจะได้ไม่ปวดหัว แต่นายอานนท์นี่สิ ดื้ออย่างกะวัวดะควาย 555 เอามาจากคุณฟ้าริน

ปอลอ นางเองชื่อเหมือนเราเลย เราก็ชื่อนิเหมือนกัน
โดย: นิ IP: 58.8.22.226 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:23:10:33 น.
  
c'est trop mimi!!!!

สนุกมากเลยค่ะ อยู่ดีๆหลงมาเจอเข้า มาให้กำลังใจคนเขียน คุณฟ้ารินเรียนเอกฝรั่งเศสเหรอคะ??
โดย: ห.จ.ม.ต. IP: 82.233.116.193 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:5:32:11 น.
  
จะจบในเดือนนี้ไหมค่ะพี่ฟ้าริน
โดย: เด็กดอยซาส์ IP: 203.172.199.254 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:10:14:30 น.
  
ขอโทษที ที่ทวง ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร
ไม่ต้องซีเรียส ยังไงพี่ก็รออ่านอยู่แล้ว
รอลุ้นแผนของรัน
โดย: โอเ่ล่รสส้ม IP: 203.156.68.254 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:22:14:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik