All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่14(ครึ่งแรก)



บทที่ 14(ครึ่งแรก)



บทที่ 14(ครึ่งแรก)

“ตัวอะไรวะเนี่ย” เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านตั้งคำถามกับเพื่อนผิวน้ำผึ้งที่หน้าหงิกงอเป็นจวักมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างตัว เสื้อผ้ายับย่น ที่แก้มมีรอยแดงเป็นปื้นห้าแถบ ดูคล้ายๆเป็นรอยมือยังไงไม่รู้

“คนโว้ย คน ถึงตอนนี้จะสภาพดูไม่ค่อยได้ก็เหอะ” เสียงห้าวตวัดห้วนอย่างโมโห

“ไปทำอะไรมาคะเนี่ย คุณธเนศ” นิศากรถาม ตากลมฉายแววสงสัย

“ชะอุ๊ย น้องนิก็อยู่ด้วยเหรอเนี่ย โอย...เสียภาพพจน์ชะมัด” ธเนศปิดหน้าหนีอายกับสภาพไม่หน้าดู ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เละอย่าบอกใคร “เป็นเพราะน้องแกนั่นแหละ แสบนักนะ” หนุ่มผิวน้ำผึ้งครางและเสียงเขียวฟ้องเพื่อนสนิทอย่าคับแค้น

“ฮะๆๆๆ” แพรพรรณส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยมาก่อนตัว “เอ๋...หนูนิ มาอยู่นี่ก็ไม่บอก เราจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาเสียอารมณ์ที่อื่นตั้งนานสองนาน แต่จะว่าไปก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย จะเล่าให้ฟังนะ” เสียงเล็กเจื้อยแจ้วกับเพื่อนสาวอย่างสนุกสนาน

“ยัยเปี๊ยก เงียบไปเลย!” เสียงห้าวดังขัดขึ้นอย่างโมโห จะมาเผากันสดๆต่อหน้าให้ฟังเชียวเรอะ ใจร้ายๆๆๆๆ ผู้หญิงอะไรเนี่ย ไม่มีความน่ารักเลยสักนี๊ดดดดดดดดดดเดียว

“อย่ามาเสียงดัง เดี๋ยวโดนดีอีกหรอก”

“เชอะ ผู้หญิงใจร้ายๆเกินไปแล้ว” ธเนศโวยวาย ชี้ให้ดูสภาพตัวเขาที่ถูกดึงทึ้งแถมอับอายต่อหน้าประชาชีอีก

“เหอะ ช่วยไม่ได้ ดวงนายมันจะซวยเองต่างหาก ยังไงก็หนีไม่พ้นมาโทษกันไม่ได้หรอก” แพรพรรณเชิดหน้าใส่ ไม่ยอบรับข้อกล่าวหา

“แต่เธอเป็นคนก่อเรื่อง งานนี้ฉันอาจจะเสียลูกค้าวีไอพีไปอีกคนก็ได้ โธ่...คุณลูกค้าของฉัน” หนุ่มผิวน้ำผึ้งโวยต่อว่างานนี้อาจกระทบถึงธุรกิจของเขาก็เป็นได้

“ขาดคุณลูกค้าระเบิดลูกตุ้มนั่นไปสักคน สปอร์ตคลับนายไม่เจ๊งหรอกน่า” แพรพรรณอ้อมแอ้มตอบ หวั่นเกรงว่าเธออาจก่อเรื่องให้ธเนศอย่างนั้นก็ได้ ต้องโทษยัยนั่นต่างหาก นอกจากใช้สายตาหมิ่นๆแล้วยังคำพูดที่ว่าเธอเป็นเด็กไม่โตผสมปนเปกับความหงุดหงิดที่ถูกปล่อยทิ้งไว้เหมือนว่าเธอไม่มีความสำคัญ เป็นบุคคลที่ถูกลืมและความโมโหหิว ไม่งั้นเธอไม่บ้าจี้ทำอะไรบ้าๆแบบนั้นแน่


‘ยัยเปี๊ยก ไปรอที่ในร้านก่อนเลย เดี๋ยวตามไป’ ธเนศบอกกับแพรพรรณแล้วปลีกตัวมุ่งเข้าไปในอีกร้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ไม่เหลียวหลังกลับมามองร่างเล็กที่ยืนงง

แพรพรรณถูกธเนศลากแกมขอร้องให้มาช่วยหาซื้อของขวัญให้แก่ผู้มีอุปการะคุณกับสปอร์ตคลับของธเนศ โดยเขาต้องใจจะเลือกด้วยตนเองแต่ติดที่ว่าเขาไม่ค่อยมีเทสในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่สาวๆนี่นา โดยหลอกล่อว่าระหว่างทางจะได้ช่วยกันปรึกษาหารือเรื่องรัญชิดาไปด้วย แต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมจากเดิมสักเท่าไหร่ ดูเหมือนจะเป็นแค่ข้ออ้างหลอกใช้เสียมากกว่า

มือบางคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเป็นรอบที่สาม หลังจากรอบแรกได้รับคำตอบว่า

‘รอเดี๋ยว อีกสิบนาทีไป อย่าเพิ่งชิงกินก่อนล่ะ ไม่งั้นไม่จ่ายนะ’

สิบนาทีต่อมาท้องเธอเริ่มร้อง กลิ่นอาหารที่ย่างบนเตาบนโต๊ะทั้งหลายลอยมาเตะจมูกยิ่งเรียกน้ำย่อยให้ออกมามากกว่าปกติ แพรพรรณโทรไปเรียกเจ้ามืออีกครั้ง

‘ตื้ด ตื้ด ตื้ด ตื้ด...กรุณาฝากข้อความหลังเสียงสัญญาณ’ ปลายสายตัดสัญญาณเธอทิ้ง หญิงสาวกดตัดสายไม่ฝากข้อความใดๆ วินาทีต่อมา เธอได้รับข้อความ

อีกห้านาที กำลังคุยธุระอยู่

‘อ้าว แล้วก็ไม่บอก รออีกนิดนะลูกนะ อย่าร้องงอแงนะจ๊ะ” แพรพรรณลูบท้อง ร้องบอกกระเพาะอาหารตัวเองให้สงบเข้าไว้

ห้านาที

สิบนาที

ยี่สิบนาที

และเป็นสามสิบนาที

‘โอ๊ย...ไม่ไหวแล้ว หิวไส้จะขาด เธอรอมาเกือบชั่วโมงแล้ว’ แพรพรรณลุกออกจากร้านไป ร้านที่เธอมานั่งรอธเนศอยู่นี่ ไม่เหมาะแก่การมาทานอาหารคนเดียว อาหารชุดปิ้งย่างต่างๆมากมายเกินกว่ากระเพาะเธอคนเดียวจะรับไหว มือบางคว้าถุงของขวัญของธเนศติดมือเพื่อเอาไปให้เขาและบอกว่าเธอจะขอแยกไปกินก่อนและปล่อยให้เขาคุยธุระต่อไป

แพรพรรณก้าวเข้ามาในร้านที่เธอเห็นหนุ่มผิวน้ำผึ้งหายเข้ามา ดวงตาโตสอดส่ายหาเพื่อนพี่ชายจนพบ แพรพรรณตรงเข้าหา ตั้งใจจะเข้าไปขัดจังหวะอย่างสุภาพเรียบร้อยที่สุด แต่สิ่งที่ค่อยๆเข้ามาปรากฏในสายตาเรื่อยๆคือหญิงสาวสวยคม แต่งตัวโฉบเฉี่ยวด้วยชุดเกาะอก นั่งกระแซะบนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกับหนุ่มผิวน้ำผึ้ง ป้อนอาหารใส่ปากกันจิ๊จ๊ะ

‘อร่อยมากมั้ยคะ คุณธเนศขา’ แพรพรรณถามเสียงแข็ง โยนถุงของขวัญของเขาโครมลงบนโต๊ะ

‘ว้าย! อะไรกันเนี่ย’ หญิงสาวร้องวีดว้ายเสียงแหลม มองผู้กระทำการอุกอาจตาขวาง

‘เฮ้ย...อ้าว...แพร’ ตายละหว่า ธเนศลืมไปเสียสนิทว่าเขาบอกให้แพรพรรณรอเขาอยู่ที่ร้านนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย เขากำลังกล่อมให้สาวข้างกายยอมเทกระเป๋าให้โปรโมชั่นตัวใหม่ แต่มันกลับเลยเถิดไปจนเกินเวลาและเกินหน้าที่ที่เคยตั้งใจไว้แต่เดิม

‘นี่เหรอ...ธุระ คงเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว ถึงได้กล้าลืมทิ้งให้ฉันคอยอยู่ได้เกือบชั่วโมง’

‘เอ่อ…’ เวรกรรม เอาไงดีวะเนี่ย

’ถ้าไม่คิดจะกลับไปก็ไม่ต้องถ่วงเวลาคนอื่นเขา’ แพรพรรณมองหน้าคมแหยเหมือนไม่รู้จะทำยังไงแล้วอยากซัดสักเปรี้ยง

‘อะไรกันคะธเนศ เด็กนี่มีสิทธิ์อะไรมาว่าคุณฉอดๆอย่างนี้คะ ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่’ กิ๊ฟปลายตามองตำหนิชัดแจ้งตั้งแต่หัวจรดเท้า สาวสวยที่นั่งกระแซะชายหนุ่มส่งเสียงแหลมสูงเสียดแก้วหูมาท้วงแทนหนุ่มผิวน้ำผึ้ง เพราะทนเห็นอาการเบื้อใบ้ของเขาไม่ได้ อีกทั้งยังอยากประกาศให้รู้ว่าเธอก็อยู่ที่นี่เช่นเดียวกันและหวั่นเกรงท่าทีกังวลกับความโกรธของเด็กสาวที่เธอยังไม่รู้ว่าเป็นใคร

ท่าทีที่แพรพรรณกัดปาก ขยับตัวก้าวเข้ามาชิดขึ้นอีกอย่างเอาเรื่องคนแปลกหน้าที่มองเธออย่างตำหนิและข่มด้วยความเป็นผู้ใหญ่กว่าทั้งอาวุโสและสรีระร่างกาย ทำให้ธเนศผลุดลุกมายืนกั้นทางสายตาฟาดฟัน กลืนน้ำลายลงคอแล้วแทบสำลัก เมื่อลูกค้าวีไอพีสาวของเขาดันไปเขี่ยต่อมระเบิดของยัยเปี๊ยกเข้าแล้ว

‘เวรของกรรม คุณกิ๊ฟครับ พูดอะไรแบบนั้นครับ แพร...ฉันขอโทษเป็นอย่างสูงที่ลืมเธอ เดี๋ยวจะชดใช้ให้ แต่อย่ามีเรื่องเลยนะ ไปเถอะ’ เขาพยายามไกล่เกลี่ยหากไม่มีผลใดๆที่ดีขึ้นกลับมา ยิ่งแพรพรรณเห็นที่คนบอกว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่มาเกาะแขนอีกข้างของธเนศ ลอยหน้าลอยตาถามหน้าตาเฉยว่า

‘กิ๊ฟพูดอะไรผิดเหรอคะธเนศ ตกลงเด็กตัวกระปิ๊ดนี่ใครคะ มาทำเสียมารยาทอยู่ได้’

‘นี่ เด็กงั้นเหรอ ฉันเนี่ยนะเด็ก คุณเอาอะไรมาวัดว่าฉันเด็กไม่ทราบ’ กิ๊ฟตอบคำถามด้วยการหัวเราะเบาๆจ้องไปที่ตัวของแพรพรรณแล้วกลับมายืนอกท้าทายต่อ แพรพรรณหน้าแดงด้วยความโกรธและอายข้อด้อยที่เถียงไม่ขึ้น ธเนศก็เช่นเดียวกันหน้าแดงเล็กน้อย แต่เป็นเพราะเขินการข่มกันแบบแปลกๆของผู้หญิง

‘ไอ้นี่น่ะเหรอ ตำราไหนสอนคุณไม่ทราบ ฉันนึกว่าเขาวัดกันที่สมองและการปฏิบัติตัวเสียอีก ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงดีๆและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แบบที่ฉันนับถือ เขาจะไม่ทำตัวเป็นปลาหมึก นัวเนีย เกาะแกะกับผู้ชายกันหรอก’

แม้จะโกรธแต่แพรพรรณก็โต้ได้กลับเจ็บแสบ ทำเอากิ๊ฟหน้าม้าน ชาดิกไปทั้งหน้า แล้วก็กรี๊ดเสียงแหลม เมื่อมือเล็กของแพรพรรณเอื้อมมาทาบเข้ากับหน้าอกที่เธออวดเบ่งเมื่อครู่

‘เฮอะ ว่าแล้วเชียว เสียเงินซื้อซิลิโคนอัดเข้าไปเท่าไหร่ล่ะเนี่ย ระวังมันจะเน่าจนต้องตัดทิ้ง ทีนี้ละคงไม่เหลือให้บึ้มเป็นระเบิดลูกตุ้มแบบนี้แน่...อุ๊บ’

มือใหญ่ปิดปากเล็กที่ซอยฉับๆสับหญิงสาวอีกคนไม่เลี้ยง คว้าเอวน้องสาวเพื่อนปากจัด ทำท่าจะลากออกไป แต่อีกฝ่ายจิกเท้าไว้มั่น ทั้งดิ้นทั้งทุบให้ปล่อยจะได้จัดการฉะให้แหลกสะใจ

‘พอแล้วยัยเปี๊ยก’ เสียงก้มลงดุแพรพรรณ

‘ธเนศ คุณปล่อยยัยเด็กนี่นะ ปากเสียขนาดนี้มันต้องโดน’ กิ๊ฟดึงร่างเล็กและพยายามแกะมือของชายหนุ่มออกด้วยความริษยาและเจ็บใจ สองมือแข็งแรงหรือจะสู้สี่มือได้ แขนแข็งแรงหลุดออกจากร่างเล็ก แพรพรรณเป็นอิสระแต่ก็ติดกับดักอีกหนึ่งสาว

กิ๊ฟเงื้อมือขึ้นและตวัดลงอย่างแรง หมายมั่นจะลงฝ่ามือไปที่แก้มและปากบนใบหน้าเรียว ตาคมรับภาพตรงหน้าอย่างตะลึง ยัยเปี๊ยกกำลังจะถูกทำร้าย มือหนากระตุกร่างเล็กให้หลบพ้นรัศมีและก้าวเข้ารับแรงฝ่ามือนั้นแทน

เพี๊ยะ!!! เสียงมือกระทบครึ่งแก้มสากอย่างจังจนชาวาบและปรากฏเป็นรอยนิ้วขึ้นทันตา คนทั้งร้านมองมาเป็นตาเดียว บางคนทำท่าซุบซิบ บางคนซี๊ดปากเจ็บแทน ส่วนสองสาวทำปากหวอ

‘พอใจกันรึยังครับ’ ธเนศถาม ยกมือกุมแก้มข้างนั้นไว้

‘กิ๊ฟขอโทษ เจ็บมากมั้ยคะ กิ๊ฟไม่ได้ตั้งใจนะ’ หญิงสาวกระวีกระวาดมาสำรวจรอยฝีมือที่ฝากไว้หน้าเสีย ‘เพราะเธอนั่นแหละ เด็กบ้า’

‘อ้าวๆ ยัยป้าระเบิดลูกตุ้ม มาโทษกันอย่างนี้ได้ไง นายดำนี่มารับฝ่ามือเธอแทนฉันเองนะ’ แพรพรรณเถียง ธเนศช่วยกันเธอไม่ให้ถูกทำร้าย ยื่นหน้าไปรับกรรมแทนเธอเอง เธอไม่ได้ผลักเขาเข้าไปสักหน่อย

‘ไม่จริง ธเนศคุณช่วยยัยเด็กนี่ทำไมคะ คุณก็เห็นว่าสมควรจะโดน ในฐานะที่มาล่วงเกินกิ๊ฟ ไปช่วยมันทำไมคะ ทำไมตอบมานะ…’ สาวระเบิดลูกตุ้มโวยและดึงทึ้งทั้งแขนทั้งเสื้อจนยับเยินขอคำตอบจนเขาเซไปมา ธเนศปวดหัวจี๊ดกับเสียงแหลมเสียดประสาทที่ง้องอแง้งข้างหู

‘โอ๊ย!!! คุณเลิกเขย่าผมเสียที’ ธเนศว่าเสียงดัง สะบัดแขนออก แล้วเสริมต่ออีกว่า ‘คุณกิ๊ฟครับ มีใครเคยบอกคุณบ้างไหมว่าคีย์เสียงของคุณมันสูงมาก ผมแสบแก้วหูไปหมดแล้ว แล้วตอนนี้ผมก็หน้าชาไปแถบนึง เพราะแรงมือของคุณซึ่งอาจเป็นผลมาจากการออกกำลังกายที่สปอร์ตคลับของผม ผมรู้สึกยินดีที่คุณแข็งแรงขนาดนี้ แต่คราวหลังไม่ต้องมาวัดความแข็งแกร่งด้วยการตบตีคนอื่นแบบนี้อีก ผมรับไม่ได้ ลาละครับ ยัยเปี๊ยก!กลับบ้าน’

ธเนศสั่งแพรพรรณเสียงดุ แต่ร่างเล็กไม่ขยับเพราะยังอึ้งกับฝีปากของเขาที่ตอกใส่หน้าลูกค้าวีไอพีของเขาด้วยตัวเอง มือแข็งแรงจึงกลับมาคว้าแขนเล็กดึงออกจากร้านไปอย่างเร็ว



“ฉันอายมากเลยต้องรีบเดินออกมา สาบานเลยว่าฉันจะไม่เข้าไปเหยียบร้านนั้นอีก ให้ตายสิ ฉันเพิ่งด่าลูกค้าวีไอพีเจ้าบุญทุ่มของฉันไป ฉันทำไปได้ยังไงวะ แกช่วยฉันคิดหน่อยเหอะ” หนุ่มผิวน้ำผึ้งถามอย่างไม่เข้าใจตัวเอง

“ฉันก็ไม่รู้แก แต่ก็ขอบใจที่ช่วยยัยแพรวะ” ภูดิสขอบคุณเพื่อนที่ออกรับแทนน้องสาวของเขาหลังหัวเราะสีหน้าเอ๋อ ไม่เข้าใจของเพื่อน

“แกนี่เป็นคนมีจิตสำนึกดีนะ ไม่เห็นเหมือนน้องแกเลย ไม่รู้จักบุญคุณ” ตาคมหวานของธเนศปลายตามองแพรพรรณ เธอทำปากยื่นแลบลิ้นใส่เขา บอกว่า

“ถือว่าเจ๊ากันย่ะ ค่าที่นายปล่อยให้ฉันรอเป็นชาติ”

ปิ๊นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงกดแตรอย่างไม่เกรงใจเป็นสัญญาณยุติการถกเถียงลงชั่วคราว ภูดิสลุกขึ้นไปดูเป็นคนแรก ประตูรั้วเปิดพร้อมรถยนตร์แล่นเข้ามาอย่าเร็วแรง ร่างเพรียวถลาลงจากรถไปหาเจ้าของบ้านหนุ่มและกิดเขาไว้แน่น ไม่สนใจสายตาอีกสามคู่ที่มองมา

“ภู...ภูช่วยเราด้วย”

“รัน”



-----------โปรดติดตามตอนต่อไป-------------


//punnarm-farin.bloggang.com


*;...คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน...;*
ทุกคนคะ เอาครึ่งแรกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวครึ่งหลังจะตามมาอีกไม่ช้าแน่นอนค่ะ พอสอบเสร็จก็รีบมานั่งปั่นแลยค่ะ

ขอขอบคุณสำหรับคำอวยพรทุกคำนะคะ

Ormmie - เอามาให้ติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับคู่หนูแพรนะคะ ตอนนี้นายธเนศเป็นไงบ้างคะ

g - สำหรับบทหวานๆที่ขอมา ฟ้ารินจัดให้! เป็นบทบู๊ของหนูแพรไปก่อนนะคะ แฮะๆ ขอโทษทีค่ะ

ผู้ติดตาม - มาส่งครึ่งแรกก่อนค่ะ แล้วครึ่งหลังจะตามาค่ะ


kikkak_riwkiw - เอ้า เอามาส่งแล้วนะจ๊ะ 555 สรุปว่าพี่ฝันดี มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนครึ่งหลังรู้สึกว่าพี่จะค่อนข้างฝันร้าย









Create Date : 29 กรกฎาคม 2550
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 18:10:37 น.
Counter : 230 Pageviews.

1 comments
  
แหมตอนนี้ฮามากเลยค่ะ

ชักชอบคู่นี้สะแล้ว

นางโกงโผล่มาอีก

ลุ้นตอนต่อไปค่า
โดย: g IP: 222.123.235.217 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:30:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik