All Blog
จัดรักให้ลงล็อค บทที่33





บทที่33

เวลาหลายวันดูเหมือนจะผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเตรียมตัวเตรียมใจไม่ค่อยจะทัน งัดเอาผีมือที่เคยรับบทตัวประกอบบนละครเวทีเมื่อสมัยเรียนมาใช้แทบไม่ทัน ตอนที่เป้าหมายรี่เข้ามาคว้าข้อมือเธอไว้ หน้าตาประหลาดปนดีใจ

“หนูนิฮะ”

“อ้าว อานนท์ มาทำอะไรที่นี่เหรอ”

นิศากรปั้นหน้าประหลาดใจที่ได้พบตามที่รัญชิดาฝึกฝนมาอย่างดี ทั้งที่ขัดกับความรู้สึกภายในราวฟ้ากับเหว ก็เธอน่ะ ต้องแอบมองอานนท์แบกกระเป๋าเข้าห้องไปในบังกะโลหลังเล็กในรีสอร์ทชั้นดี บรรยากาศร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพรรณสะพรั่งซึ่งปลูกอยู่รอบบ้านออกดอกสีสันสดใส คล้ายมีคนวาดรูปดอกไม้หลากสีไว้บนกำแพงบ้านหลังเล็กกระนั้น

นิศากรรอต้องดูอยู่ในบ้านตนซึ่งอยู่ถัดไปไม่กี่สองหลังจนอานนท์ออกมาแล้วรีบทำเป็นเดินสวนทางมาให้อานนท์เห็ด้วยท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เธอค่อยๆปลดมือตัวเองออกจากการเกาะกุม พลางคิดถึงน้ำเสียงห้วนทุ้มโพล่งใส่นางร้ายสาว

‘นายอานนท์มือไวอย่างกับลิง เผลอเป็นคว้าหนูนิตลอดเลย ปล่อยให้อยู่กันต่อสองได้ยังไง ไม่มีทาง’

“ดีจังฮะ บังเอิญแท้ๆเลย ครอบครัวผมรับมาพักผ่อนน่ะฮะ” นิศากรพยักหน้ารับแกนๆ เพราะรู้เหตุอยู่แล้ว รู้มากกว่าด้วยซ้ำ

เนื่องจากพฤติกรรมของลูกชายไม่น่าไว้วางใจ บิดามารดาของอานนท์จึงร่วมมือเต็มที่เพื่อฉุดลูกชายกลับมาจากทางที่ไม่เหมาะไม่ควร เริ่มตั้งแต่ติดใจหญิงที่แก่กว่าตัว คงจะกลัวเข้าข่ายไก่แก่แม่ปลาช่อน ต่อมาก็คือ ประกาศกร้าวต่อหน้ามวลชนว่าจะแย่งคนรักเขามาเป็นของตัว สามก็คือ อานนท์ดำเนินการตามที่กล่าวไว้จริงๆ

บิดามารดาลมจะใส่ตั้งแต่ประการแรกแล้ว ยิ่งห้ามปรามเท่าใดยิ่งเหมือนลมพัดสาก ไม่สะกิดใจและสติของลูกชายแม้แต่น้อย เข้าทำนองดื้อด้านอย่างกับวัวกับควายอย่างที่รัญชิดาเคยตราหน้าเด็กหน้านุ่มไว้ไม่มีผิด

“แล้วหนูนิมากับใครรึเปล่าฮะ”

“เอ่อ...” เวรกรรม ทำไงดีล่ะ ไม่ได้เตี๊ยมกันไว้เสียด้วย

นิศากรม้วนผมตัวเองอย่างครุ่นคิด แล้วก็ปิ๊งๆๆๆคำตอบ

“นัดเพื่อนๆไว้น่ะ แต่ว่าโดนเบี้ยวเสียแล้วล่ะ”

“อ้าว...” อานนท์ร้อง ทำหน้าหงิกแล้วต่อว่า “อย่างนี้หนูนิก็อยู่คนเดียวสิฮะ แย่จริงๆเลย เพื่อนคนไหนฮะ”

แง้ ทำไมเด็กสมัยนี้มันช่างซักจริงแฮะ อยากรู้เรื่องชาวบ้านเขาซะจริงนะ

“ช่างเถอะ เขาติดงานกันกระทันหันน่ะ ช่วยไม่ได้นี่” นิศากรตอบเลี่ยงไป เพราะขืนโดนซักอีกทีอาจเกิดรายการเอ๋อสนิท จำไม่ได้ว่าตอบอะไรไปก่อนหน้านี้ อานนท์ยิ้มสดใสอย่างถูกใจ

“เหมือนฟ้าเป็นใจให้ผมได้พบหนูนิที่นี่ หนูนิเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมฮะ”

นิศากรไม่ตอบ แสร้งทำสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยที่อานนท์พูดถึงเรื่องนี้ กระพริบตาปริบๆประกอบ

“พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกลพรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ…” (เพลง พรหมลิขิต)

อานนท์ร้องเสียงเบาถูกทำนองถูกจังหวะอย่างคนร้องเป็น ยิ้มแฉ่ง ตาพราวขึ้นอีกตอนที่บอกว่า

“ผมเลยได้มาอยู่ใกล้กับหนูนิอย่างตอนนี้ไงฮะ” นิศากรได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็นึกเลี่ยนเล็กน้อย แต่แสดงออกไม่ได้ เลยพยายามหัวเราะ ให้เห็นเป็นเรื่องขำขันไป

คนที่แฝงกายอยู่ตามแนวไม้ลอบฟังอยู่ไม่ไกลอีกสามคนมีอาการแตกต่างกันไป แพรพรรณทำท่าแหวะอากาศออกมา ธเนศทำหน้าเบื่อมุขจีบหญิงสมัยพ่อ พลางคิดว่าอานนท์คงจะเพิ่งไปดูหนังย้อนยุคมาละมัง เลยจำมาลองใช้อย่างประมาทแบบนี้

ส่วนคนสุดท้ายคือภูดิส ชายหนุ่มคันเท้าตะหงิดๆเดือดปุดๆ เจ้าเด็กบ้า บังอาจมาแจกขนมจีบซาลาเปาแฟนชาวบ้าน คว้ากิ่งไม้เล็กๆข้างกายเขวี้ยงไปเฉี่ยวหัวอานนท์ไม่เกินคืบ

อานนท์สะดุ้ง เหลียวหาที่มาอย่างสงสัย ภูดิสสบถในคอเสียดายที่ไม่โดน

‘นายอานนท์ ดูท่าทางทันสมัยเป็นเด็กแนวอย่างนั้น ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมว่าก่อนออกจากบ้าน นายนนท์ขอย่างเท้าออกตอนวินาทีที่ลงท้ายด้วยเก้าเสมอ หนึ่งในแอคเซสเซอรี่ประดามีบนตัวนายนั่นถ้าจ้องดีๆจะเห็นแหวนอัญมณีนำโชคประจำราศีเกิด ส่วนอีกวงก็เปลี่ยนไปตามวันเพื่อเสริมดวง’ รัญชิดาให้ข้อมูลไว้ดังนี้

นิศากรกวาดสายตาไปที่มือของชายหนุ่ม ก็พบแหวนวงใหญ่ที่นิ้วชี้แบบที่ผู้ชายวัยรุ่นนิยมใส่กัน หากวัสดุของตัวแหวนคาดว่าน่าจะเป็นทองคำขาว เพราะส่องแสงสะท้อนประกายล้อแสงแดดอย่างน่ามองเช่นเดียวกับอัญมณีม็ดโตบนหัวแหวน

แหม...หน้าตาไม่เข้ากับไสยศาสตร์เท่าไหร่ ไหงเอนเอียงไปทางนั้นได้น้า

“หนูนิอยู่บ้านหลังไหนเหรอฮะ” อานนท์ถามถึงฐานทัพลับ ซึ่งเป็นกองบัญชาการ บัดนี้อัดแน่นไปด้วยหน่วยปฏิบัติการณ์ มีทั้งภูดิส แพรพรรณ ธเนศ อีกทั้งรัญชิดาและพ่อแม่ของอานนท์ที่เพิ่งตามมาสมทบ

หญิงสาวชี้ข้ามไหล่ตัวเองไปที่บ้านหลังใกล้ตัว ปลายหางตาเห็นม่านไหวนิดๆ เชื่อว่าคนข้างในคงหลบกับวูบวาบ น่าสนุกดีแท้

“ไม่ไกลกับผมเลย ดีจัง หนูนิกำลังจะไปไหนรึเปล่าฮะ”

“ว่าจะไปเดินเล่นชายหาดหน่อยน่ะ อยู่ในห้องมันอึดอัด เดี๋ยวจะฟุ้งซ่าน” นิศากรยิ้มแหยๆ

อานนท์ส่งสายตาเห็นใจมาให้ ตีความไปถึงเรื่องหนักใจเกี่ยวกับภูดิส เพราะรัญชิดาไปโปรยความเข้าใจผิดไว้ให้ก่อนเริ่มแผนการ

‘ฉันไม่สนหรอกว่ายัยเด็กนั่นจะคิดยังไง ฉันไม่ปล่อยภูไปหรอก’

นิศากรไม่เข้าใจนัก แต่ก็ไม่อยากตอบคำถามอะไรอีก เดี๋ยวจะหลุดและสับสนไปกันใหญ่

“งั้นผมไปเป็นเพื่อนนะฮะ”

นิศากรพยักหน้า ลอบถอนใจ โล่งอกที่ไม่ต้องหว่านมนตร์อันใดเพื่อลากเด็กหนุ่มไปตามที่คิดไว้



สองคนเดินเรื่อยๆบนชายหาด คุยกันไปเรื่องสัพเพเหระ นิศากรได้พบว่าอานนท์เป็นคนอัธยาศัยดีคนหนึ่ง เชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง ในขณะเดียวกันก็เชื่อเรื่องโชคชะตาไปด้วย อีกหนึ่งความลับพิเศษก็คือ อานนท์มีsix sense หรือ สัมผัสที่หกนั่นแล บรื๋อ...น่าสยองพิกล

“คุณๆ สนใจดูดวงกับบ้างไหม ฉันดูแม่นนะ”

เสียงกำไลกระทบกันกรุ๋งจากหญิงสาวร่างบางเขียนตาคมในชุดยาวสีเขียวน้ำทะเล กระโปรงปักลาย มีผ้าคลุมผมบางพริ้วไปตามสายลมปิดหน้าไว้บางส่วน ปูเสื่ออยู่ในกระโจมใต้ร่มไม้ ถือลูกแก้วกลมใสอยู่ในมือ ดูคล้ายแม่มดสาวในละครแฟนตาซียังไงอย่างนั้น

“มาเลือกคุ๊กกี้ทำนายดูสักอันก่อนไหมล่ะ ไม่เก็บตังค์หรอกนะ มาเถอะ”

หมอดูสาวชักชวนแล้วก็รี่เข้ามาดึงแขนทั้งสองเข้าไปในกระโจม เปิดกล่องขนมอันมีส่วนประกอบเป็นแป้งคุ๊กกี้ ห่อเข้าหากันตรงกลางป่องออกรูปร่างคล้ายกระจับอยู่ในหีบห่อพลาสติกใสสวยงามส่งให้แขกทั้งสองเลือกคนละชิ้น

“แกะดูสิคะ”

อานนท์แกะขนมออกจากห่อ หักครึ่งออกจากกัน จึงเห็นแผ่นกระดาษเล็กๆซ่อนอยู่ข้างใน เขาคลี่ออกมา จึงพบข้อความ

มองข้ามคนของตน เพื่อไขว่คว้าของผู้อื่น ถูกแล้วหรือ

อานนท์คิ้วขมวดเข้าหากัน ในใจคิดต่อต้าน นิศากรลอบมองยิ้มนิดๆ เหลือบไปสบตากับแม่หมอสาว แต่พรรคพวกที่รู้กันหาได้สนใจไม่ กลับจ้องเขม็งไปที่อานนท์อย่างรอคอย หนุ่มน้อยเงยหน้าขึ้นสบสายตาแฝงอำนาจประหลาดนั้นแล้วก็นิ่งไป

“ไม่อยากเชื่องั้นสิ แต่อย่าฝืนโชคชะตาเลยเลย เธอก็รู้และเชื่อไม่ใช่เหรอเรื่องฟ้าลิขิตน่ะ” แม่หมอบอกเสียงเรียบเรื่อย แต่แววตาที่มองลึกเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่มลึกล้ำดุจรู้ถึงความคิด อานนท์อึ้งไป แม่หมอยิ้มนิดๆ ยื่นไพ่สำรับหนึ่งมาตรงหน้าชายหนุ่ม

“อธิฐานก่อน แล้วเดี๋ยวเรามาเริ่มดูดวงกัน”

อานนท์รับมากำไว้ ภาวนาในใจครู่หนึ่งแล้วส่งคืน แม่หมอวางลูกแก้วในมือไว้บนผ้ากำมะหยี่สีดำ คลี่ไพ่ลงบนโต๊ะแล้วให้อานนท์หยิบขึ้นมาสามใบวางเรียงกัน

“เฮ้อ ไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ คู่ที่เฝ้าหวัง ไม่ใช่ของเธอหรอก อย่าทำบาปแยกคู่คนอื่นเขาเลย ระวังกรรมจะตามสนอง”

อานนท์มีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้นไปอีก นิศากรขยิบตายิ้มให้ แม่หมอทำหน้างงๆแล้วขำ ส่ายหน้าน้อยๆ

“เรื่องการเรียนแล้วกัน วอกแวกไม่ค่อยสนใจเพราะมีเรื่องอื่นมาแทรก จึงทำให้เสียสมาธิ หากยังหมกมุ่นมากเกินไป ระวังจะสอบตก” แม่หมอทำเสียงคล้ายครูดุนักเรียน

“ระวัง เรื่องไม่คาดฝัน อาจเป็นอันตรายทั้งตัวเธอและคนที่จะไปกับเธอ”

เสียงกำไลกระทบกันกรุ๋งกริ๋งยามเอื้อมไปเก็บไพ่ แม่หมอลุกขึ้น คว้าลูกแก้วติดมือไปด้วย

“อ้าว ไม่ดูต่อเหรอคะ” นิศากรตั้งคำถาม

“ก็ไพ่มันบอกแค่นั้นนี่ ไปล่ะ ไม่ว่างแล้ว” แม่หมอสาวตาคมจากไป ไม่เหลียวหลังพร้อมเสียงกรุ๋งกริ๋งที่ดังทุกครั้งเมื่อขยับตัวก้าวเดิน

ทิ้งให้นิศากรมองตามไปจนลับตา ส่วนอานนท์ครุ่นคิด สองเสียงต่อต้านกันไปมาในหัวใจ ใจหนึ่งไม่อยากเชื่อ แต่อีกใจก็กลับยอมรับ เพราะแน่ในส่วนลึกที่ไม่อาจปฏิเสธ เจอของจริงเข้าแล้ว ท่าทางหมอดูคนนี้จะเป็นพวกเดียวกัน พวกมีสัมผัสที่หก



เสียงพูดคุยหน้าประตูดังลอดเข้ามา คนในห้องหาที่แอบกันพัลวัน กลัวแม้กระทั่งคนข้างนอกจะเห็นรอยเงาของตัว เจ้าของห้องก้าวพรวดเข้ามาโดยแง้มประตูให้น้อยที่สุด

“เฮ้อ...” นิศากรพิงประตู ถอนใจเฮือก ทุกคนมองมาเป็นตาเดียว ไล่ตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากสุดสองคน คือ พ่อและแม่ของอานนท์โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ รัญชิดาชะเง้อมาจากช่องว่างข้างเตียง

เสียงดังกุกกักจากในตู้ สร้างความสงสัยให้อีกสี่คนในห้องหันไปมอง เสียงกระซิบลอดไรฟันสองเสียงดังออกมาเบาๆ

“ออกไปไกลๆฉันเลย อย่ามาโดนตัวนะ”

“โอ๊ย ยัยเปี๊ยก เธอจะให้ฉันแทรกตัวไปในรอยแตกของตู้เลยไหมล่ะ”

“ก็ดี”

“บ้า นับวันจะยิ่งเพี้ยนเข้าไปใหญ่แล้วนะ”

“เรื่องของฉันย่ะ เอ๊ะ บอกว่าอย่ามาโดนตัวไงเล่า แล้วใครใช้ให้นายเข้ามาเบียดฉันหา”

“ยัยงก งกแม้กระทั่งที่แอบ เกินไปแล้วนะ แล้วตู้ก็แคบเท่าเนี้ย จะหลบไปไหนพ้น คิดดูซิ”

“ไม่รู้ แต่อย่ามาโดนได้ไหม อี๋ย์…”

“รังเกียจอะไรฉันนักหนาฮะ เธอโดนแน่!”

”กรี๊ด....”

เสียงวี๊ดดังลอดออกมาพร้อมเสียงดังปัง!จากภายใน นิศากรเปิดประตูตู้ผัวะออก พบแพรพรรณนั่งขดตัวลีบอยู่บนชั้นอเนกประสงค์ในตู้เสื้อผ้าเอามือข้างหนึ่งยันหน้าอกแข็งของธเนศซึ่งโน้มตัวเข้าหา สองแขนยันผนังตู้กักตัวแพรพรรณไว้กลายๆ หญิงสาวหน้าแดงแปร๊ด อีกคนหน้าบูดเป็นตูดลิง

“อุ๊ยตาย...” รัญชิดาอุทานยิ้มกริ่มๆชอบกล

ธเนศได้ยินเสียงคุ้นๆก็หันไปมอง ดวงตายังกรุ่นด้วยอารรมณ์แกมเก้อๆเขินๆ ผลุบออกจากตู้มา

“มองอะไรกัน!” เสียงห้าวแหวใส่ แล้วหนีออกจากห้องไปซะอย่างงั้น

ปล่อยเกาะแพรพรรณที่หน้าแดงแปร๊ด คล้ายคนจับไข้ให้เผชิญสายตาอยากรู้อยากเห็นไว้แต่เพียงผู้เดียว



ธเนศผลักประตูออกไป พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ กุมขมับส่ายหัวซุนไปข้างหน้า ก้าวพรวดๆไม่มองใคร

“ไอ้ธเนศ ไอ้บ้าเอ๊ย ทำอะไรไปวะเนี่ย”

ภูดิสสวนทางมา ยกมือทักค้าง เพราะเพื่อนมองไม่เห็นแม้แต่น้อย คล้ายเป็นเพียงรูปปั้นข้างทางอยย่างนั้น ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

หน้าบ้านพักหลังเล็กหญิงวัยกลางคนๆหนึ่งเยี่ยมหน้าเข้ามาก่อนตัว นุ่งกระโปรงยาวกรอมเท้ากับเสื้อผ้าบาติก มีผ้าโพกหัวยืนเคาะประตูอยู่ นิศากรเปิดประตูออกมา

“ใช่ห้องคุณรันหรือเปล่าคะ” หญิงคนนั้นถาม รัญชิดาได้ยินเสียงจึงโผล่หน้าออกมาบ้าง

“อ๋อ คนที่เล่นเป็นหมอดูน่ะเอง อ้อ ภู ไปแอบดูถึงไหนมาล่ะ เข้ามาด้านในดีกว่า” ภูดิสก้าวตามหลังหญิงผู้นั้นเข้ามา คิ้วเข้มย่นเข้าหากัน ดูคนที่บอกว่าเป็นแม่หมออย่างพิจารณา

“คือว่า อิฮั้นจะมาบอกว่าอิฮั้นรอตั้งนานแล้ว แต่ไม่เห็นมีใครผ่านมาตรงกระโจมสักคน ดิฮั้นเลยมาถามฮ่า”

“อ้าว...? แล้ว” รัญชิดาร้อง หันมาหานิศากรหน้าเหลอ นิศากรงงเช่นเดียวกัน

“แล้วแม่หมอคนนั้นใครล่ะ...” นิศากรถามเสียงดัง

ไม่มีใครตอบได้สักคน หญิงสาวปริศนาผู้นั้นเป็นใคร งานนี้เอ่อกันเป็นแถว ปวดเฮดไปตามๆกัน


-----------โปรดติดตามตอนต่อไป-------------



*;...คุยกันนิดหน่อยกับฟ้าริน...;*

นิ - เอามาให้แล้วค่ะ กำลังจะจบแล้วนะคะ เอาใจช่วยให้ฟ้ารินเขียนตอนจบได้ดีๆด้วยนะคะ

ห.จ.ม.ต. - ใช่ค่ะ เรียนฝรั่งเศสค่ะ ยินดีต้อนรับสู่บ้านนิยายหลังเล็กกระจ้อยร่อยนะคะ ว่าแต่ว่า ห.จ.ม.ต. ย่อมาจากอะไรเอ่ย

เด็กดอยซาส์ - จบเดือนนี้ค่ะ จบๆๆๆๆๆ ซะทีนะคะ นานเหรอเกินแล้วนะคะ

โอเ่ล่รสส้ม - ไม่เป็นไรค่ะ ทวงๆๆได้เลยนะคะ ดีค่ะ ช่วยกระตุ้นๆให้เอ็นโดรฟินมันหลั่งซะบ้าง หัวจะได้ลื่นๆนะคะ แล้วก็ดีใจจัง ที่มีคนตามอ่านอยางนี้




Create Date : 26 มกราคม 2551
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 16:00:14 น.
Counter : 265 Pageviews.

2 comments
  
นายดำ แกทำอะไร อายเขามั้ยนั่น

หมอดูจริงโผล่มาทักแน่เลย เหอๆๆ

สุดท้าย...คิดถึงพี่จัง

นานๆ เข้ามาที ไม่ว่ากันเน้อ แหะๆ (ไม่ว่าเจงๆ)
โดย: kakok_riwkiw(ไม่ได้ล็อคอิน) IP: 203.113.36.14 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:18:26:55 น.
  
ตอนนี้สนุกดี ชอบ ๆ ขำ ๆ
ออกแนวลึกลับนิด ๆ
โดย: โอเ่ล่รสส้ม IP: 203.156.68.7 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:22:39:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปั้นน้ำกะฟ้าริน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








  • งานเขียนใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอก หรือ ดัดแปลงเนื้อหา นำไปเผยแพร่ต่อที่อื่นๆ ทุกรูปแบบ

  • Thanks design by freepik


Designed by Freepik