It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : ตัวจริงที่ปวดใจ

ตัวจริงที่ปวดใจ เรื่องสั้นแนวยูริ โดยผิงดาว

มัลลิกาหญิงสาวที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างเธอกับคนรักตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ด้วยกันเมื่อสามปีก่อน

รัชนกคือคนรักของมัลลิกา ทั้งคู่รู้จักกันครั้งแรกเพราะเพื่อนของทั้งสองฝ่ายแนะนำให้รู้จักในงานเลี้ยงสังสรรศิษย์เก่าของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งที่ทั้งคู่เป็นศิษย์เก่ารุ่นเดียวกัน

มัลลิกาและรัชนกแลกเปลี่ยนนามบัตรของกันและกัน ไม่แปลกอะไรที่ศิษย์เก่าจะทำความรู้จักกันเอง มัลลิกาทำงานเกี่ยวกับการส่งออก ดังนั้นเธอจึงเข้ากับคนทั่วไปได้ง่าย ด้วยบุคลิกที่ดีหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ พร้อมกับฐานะทางสังคมที่เมื่อเอ่ยถึงนามสกุลของมัลลิกาใครๆ ในแวดวงก็ต้องรู้จักเป็นอย่างดี

รัชนกทำงานเป็นวิศวะกรในโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่เมื่อเอ่ยชื่อสินค้าเหล่านั้นประชาชนทั่วไปก็ต้องรู้จักเป็นอย่างดี รัชนกมีนิสัยร่าเริงเข้ากับคนได้ง่ายๆ แถมยังเป็นคนที่ชวนเพื่อนๆ ในวงพูดคุยได้อย่างสนุกสนาน ไม่แปลกอะไรเลยที่เมื่อคนที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับรัชนกจะตกหลุมรักทอมมาดดีแบบรัชนก

มัลลิกาเองก็เช่นกัน เมื่อได้พบกับรัชนกเป็นครั้งที่สอง ทั้งมัลลิกาและรัชนกที่มีบุคลิกท่าทางเข้ากับคนได้ง่ายด้วยกันทั้งคู่ก็กลายเป็นคนที่สนิทสนมกันได้อย่างง่ายดาย

มัลลิกาไม่เคยมองผู้ชายคนไหนทั้งๆ ที่ผู้ชายเหล่านั้นเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มัลลิกาก็ปฏิเสธไปโดยไม่สนใจว่าผู้ชายเหล่านั้นจะรู้สึกเช่นไร ทุกครั้งมัลลิกาจะมีข้ออ้างว่าเธอไม่พร้อมที่จะมีชีวิตคู่ เธอยังสนุกกับการทำงาน จนเวลาร่วงเลยมาจนมัลลิกามีวัยสามสิบต้นๆ

มัลลิกาพึ่งจะรู้ใจของตัวเองว่าสาเหตุที่เธอปฏิเสธผู้ชายเหล่านั้นก็เพราะว่าเธอรักผู้หญิงด้วยกันเอง รัชนกเป็นผู้หญิงคนแรกที่มัลลิกาตกลปลงใจที่จะคบหากันในฐานะแฟน แต่กับคนทั่วไปจะมองว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน

หลังจากที่ทั้งคู่คบหากันได้ไม่นานมัลลิกาก็ตัดสินใจซื้อคอนโดหลังใหม่ใกล้ๆ กับที่ทำงานโดยบอกกับทางครอบครัวของเธอว่าเธอขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอก เพราะไม่อยากที่จะเดินทางไกลๆ ไปทำงานทุกวัน เธอเริ่มเหนื่อยกับการเดินทาง ประกอบกับตัวเธอต้องทำงานดึกๆ ดื่นๆ เมื่อมีงานเข้ามา ดังนั้นครอบครัวของมัลลิกาจึงไม่แปลกใจอะไรที่ลูกสาวคนเดียวจะย้ายออกมาจากบ้านเพราะข้ออ้างในเรื่องการทำงาน

รัชนกย้ายเข้ามาอยู่กับมัลลิกาหลังจากที่มัลลิกาเข้าไปอยู่ที่คอนโดแห่งนั้นได้ไม่นาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบคนรักทั่วไปอยู่รวมกัน งานเป็นสิ่งที่ดึงเอาเวลาของมัลลิกาไปจากรัชนก รัชนกเคยตัดพ้อต่อว่ามัลลิกาว่าไม่ค่อยจะมีเวลาให้ มัลลิกาสนใจแต่งาน งาน และงาน ทั้งๆ ที่รัชนกเองในบางครั้งก็ไม่ค่อยจะมีเวลาให้กับมัลลิกาเช่นเดียวกัน แต่มัลลิกาก็ไม่เคยที่จะบ่นรัชนกแบบที่รัชนกพบ่นเธอ

“ปอยวันนี้นกกลับบ้านดึกนะปอยไม่ต้องรอทานข้าวนะคะงานนกเร่งผลิตนิดหน่อย” รัชนกบอกกับมัลลิกาก่อนที่จะออกไปทำงาน

“ค่ะงั้นคืนนี้ปอยกลับบ้านดึกเหมือนกันนะนก ถ้านกกลับมาก่อนก็เข้านอนได้เลยไม่ต้องรอปอย พอดีที่ทำงานของปอยก็ยุ่งๆ เหมือนกัน” มัลลิกาตอบรับรัชนกเพราะงานของเธอเองก็ค่อนข้างจะยุ่ง มีงานหลายอย่างที่ต้องสะสางเช่นเดียวกัน

ไม่แปลกอะไรเลยที่ทั้งมัลลิกาและรัชนกจะบ้าทำงานกันทั้งคู่ เพราะทั้งสองคนเป็นผู้หญิงที่เห็นงานมาก่อนเป็นอันดับแรก พักหลังๆ มัลลิกาต้องทำงานกลับบ้านตีหนึ่งตีสองและเมื่อกลับมาถึงบ้านบางครั้งรัชนกก็หลับไปแล้ว หรือไม่บางทีรัชนกก็กลับมาหลังจากที่มัลลิกาเข้านอนแล้ว

“ไม่อาบน้ำหรือคะนก” มัลลิกาเห็นรัชนกเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เข้านอนเลยก็เลยถามคนรักของเธอ

“พอดีนกอาบน้ำมาจากที่ทำงานแล้วน่ะปอย มันเหนียวตัวตอนเข้าไปซ่อมเครื่อง ขอนอนก่อนแล้วกันนะเหนื่อยจังเลยซ่อมเครื่องทั้งวันเกเรไม่เลิก สงสัยต้องเสนอให้ Boss ซื้อเครื่องใหม่ ซ่อมบ่อยๆ แบบนี้คงไม่ไหว” รัชนกพูดจบก็คลี่ผ้านวมผืนหนามาปกคลุมร่างกายและหลับไปอย่างง่ายดาย

มัลลิกาหอมแก้มคนรักก่อนที่จะล้มตัวลงนอน

“กลิ่นไม่คุ้นเลยนะสงสัยใช้สบู่กลิ่นใหม่” มัลลิกาบ่นกับตัวเองเมื่อได้กลิ่นหอมแปลกไปจากที่เคยได้กลิ่นจากคนรัก

มัลลิกากลับมาจากที่ทำงานแล้วเห็นรถของรัชนกจอดอยู่ในที่จอดข้างๆ ที่จอดรถของเธอ วันนี้มัลลิกากลับบ้านเร็วเธอเคลียงานเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้ เมื่อเสร็จงานก็รีบกลับมาบ้าน เพราะนานๆ จะได้กลับบ้านเร็วสักครั้งหนึ่ง รัชนกคงกลับมาและรอเธออยู่ที่ห้อง

แต่เมื่อมัลลิกาเปิดประตูห้องก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมรัชนกไม่เปิดไฟเพราะปกติถ้ารัชนกอยู่บ้านรัชนกจะเปิดไฟสว่างไสว

“หรือว่ากลับบ้านเร็วเพราะไม่สบาย” มัลลิกาคิดได้ดังนั้นก็รีบเดินเข้าไปที่ห้องนอนของตัวเองแต่ก็พบกับความว่างเปล่าไม่มีรัชนกอยู่ในห้องนั้น

“หรือว่าจะลงไปหาซื้อะไรกิน แต่เอ เมื่อกี้เราก็แวะซื้อของทำไมไม่เห็นนก” มัลลิกาบ่นกับตัวเอง

มัลลิกาจัดการอาบน้ำอาบท่าและจัดเตรียมอาหารเย็น เธอรอรัชนกจนรอไม่ไหวจึงจัดการทานอาหารมื้อเย็นของเธอไปก่อนและเก็บแบ่งบางส่วนไว้ในตู่เย็นให้กับรัชนก มัลลิกาโทรเข้ามือถือของรัชนกหลายต่อหลายครั้งรัชนกก็ไม่รับสาย

“ไปไหนของเค้านะ สงสัยจะหนีเที่ยวคอยดูนะกลับมาจะเล่นงานซะหน่อยไปไหนไม่บอกไม่กล่าว”

มัลลิกานั่งทำงานของเธอได้สักพักก็มีโทรศัพท์ตามตัวเธอจากท่าเรือให้ไปดูสินค้าที่กำลังจะจัดส่งไปยังต่างประเทศ เนื่องจากมีรถบรรทุกถอยชนตู้เก็บสินค้าจนเกิดความเสียหาย

กว่ามัลลิกาจะกลับมาถึงบ้านอีกครั้งก็เกือบจะตีสามจอดรถที่เดิม เธอเดินเซไปเพราะความง่วงงุน จนไปเท้าฝากระโปรงรถของรัชนกอย่างแรง

“อุ้ยดีนะไม่ยุบ แล้วก็ไม่ร้อนไม่อย่างนั้นมือไหม้แน่เลย เป๋อจริงๆ ยัยปอยเอ๊ย เฮ้อ สงสัยคงจะง่วงจริงๆ แล้วเรา” มัลลิกาหาวจนน้ำตาไหล เธอง่วงจริงๆ นั่นแหละ

กลับมาถึงห้องก็ยังมืดแบบเดิม รัชนกยังไม่กลับมาถึงบ้าน มองเวลาที่นาฬิกาข้างฝาห้องครัว เกือบจะตีสีแล้ว รัชนกไปไหน ไม่นานนักรัชนกก็เปิดประตูห้องเข้ามา

“อ้าวปอยยังไม่นอนอีกเหรอนึกว่านอนไปแล้ว”

“อืมพึ่งกลับเข้ามาคะ เหนื่อยไหม”

“เหนื่อยสิขับรถกลัมาตาแทบปิดเกือบชนรถเมล์แล้วเมื่อกี้”

มัลลิกาฟังไม่ถนัดว่าเมื่อสักครู่รัชนกพูดว่าขับรถกลับมาตาแทบจะปิดอย่างนั้นหรือ แสดงว่ารัชนกพึ่งจะกลับมาถึงคอนโดนสินะ แล้วรถที่จอดอยู่ข้างๆ รถของเธอกระโปรงรถเย็นเฉียบนั้นมันรถของใครกัน มัลลิกาทำเป็นไม่รู้เรื่องแกล้งถามรัชนกกลับไปว่า

“นกพึ่งกลับมาเหรอคะแล้วจอดรถไว้ที่ไหนล่ะ”

“ก็จอดไว้ที่จอดรถของห้องเรานะสิข้างๆ รถปอยนั่นแหละ ไม่ไหวแล้วนกไปนอนก่อนนะปอยเหนื่อยมาทั้งวัน” รัชนกพูดจบก็เข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนโดยไม่อาบน้ำเหมือนกับหลายๆ คืนที่ผ่านมา

มัลลิกานั่งคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่ารัชนกไม่ได้เอารถไปทำงาน จะว่าไม่ได้เอาไปก็ไม่ได้เพราะเมื่อเช้าก่อนที่เธอจะขับรถออกไปรถของรัชนกก็ไม่อยู่แล้ว เหลือเพียงแค่รถของเธอคันเดียวเท่านั้นที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถชั้นที่เธอจอดอยู่ หรือรัชนกจะกลับมาบ้านเอารถมาจอดทิ้งไว้และออกไปอีกรอบ

รุ่งขึ้นเช้า มัลลิกาออกไปทำงานก่อนรัชนกเพราะเรื่องเมื่อคืนที่เธอทำค้างไว้ยังจัดการไม่เรียบร้อย เธอต้องติดต่อกับบริษัทประกัน เพื่อจัดการกับสินค้าในตู้ที่เสียหายไปหลายบาท จะไม่รีบก็ไม่ได้ ไหนจะลูกค้าที่รอของที่จะต้องส่งไป ไหนจะความเสียหายจากการที่บริษัทของเธอจัดส่งล่าช้า และโดนค่าปรับอีกหลายเท่าของความล่าช้านั้นเธอก็เลยต้องรีบๆ และรีบเพื่อไปจัดการงานให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำให้บริษัทของตระกูลเสียหายไปมากกว่านี้

มัลลิกายังคงเห็นรอยมือของเธอปรากฏบนฝากระโปรงรถของรัชนก มัลลิกาไม่มั่นใจเดินไปดูทะเบียนรถ ก็ยังเห็นเป็นทะเบียนรถของรัชนก แล้วรัชนกมาโกหกเธอทำไม แล้วเมื่อคืนหรือหลายๆ คืนที่ผ่านมารัชนกหายไปไหน

มัลลิกาตัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากสมองของเธอ ในตอนนี้สิ่งที่ต้องคิดเพียงอย่างเดียวคือทำอย่างไรไม่ให้บริษัทเสียหาย

........................

มัลลิกากลับมาคอนโดเร็วกว่าทุกวันที่เคยผ่านมา กลับมาถึงก็ยังไม่มืด เธอเห็นรถของรัชนกเล่นเข้าไปที่คอนโดก่อนรถของเธอเพียงไม่กี่คัน จะว่าตาฝาดก็ไม่น่าจะใช่ เพราะรถของรัชนกเป็นรถสีเหลือง เห็นเมื่อไหร่ก็จำได้เมื่อนั้น ไม่มีทางที่จะเป็นรถของคนอื่นไปได้ แต่ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดกว่าที่มัลลิกาจะเลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดของเธอได้ก็ใช้เวลาหลายนาที

เมื่อมาถึงที่จอดรถมัลลิกาก็เห็นรถของรัชนกจอดอยู่ก่อนหน้าเธอแล้ว ลองจับฝากระโปรงรถคันสีเหลืองที่มีรอยฝ่ามือของเธอเมื่อวานและเมื่อเช้าดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก็ถึงกับสะดุ้งโหยง

“อุ้ยร้อน หาเรื่องจริงๆ เล๊ยเรา” มัลลิกาสะบัดมือของตัวเอง เธอแน่ใจแล้วว่ารัชนกพึ่งจะกลับมาถึงคอนโดก่อนหน้าเธอได้ไม่นานนัก

ด้วยความเคยชินของมัลลิกาที่จะต้องแวะซื้อของในร้านสะดวกซื้อก่อนที่จะขึ้นห้องของตัวเอง และสายตาก็เห็นรัชนกหิ้วถุงบรรจุขวดสีเขียวๆ ออกมาจากร้าน อารามดีใจเธอกะจะเข้าไปทักทายคนรักให้แปลกใจเล่นว่าวันนี้เธอกลับบ้านเร็ว แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีคนเดินเข้ามาควงแขนคนรักของเธอต่อหน้าต่อตา

มัลลิกาถึงกับตัวชาเมื่อเห็นภาพนั้น ทั้งสองคนเดินกระหนุงกระหนิงกันกดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นบน เธอไม่ได้เข้าไปซื้อสินค้าอะไรอีก เดินตามคนรักและผู้หญิงคนนั้นไป แต่ลิฟท์ก็ปิดไปแล้ว มองไปยังชั้นที่ลิฟท์จอดนิ่งสนิทก็รู้ว่าเป็นชั้นเดียวกับชั้นของเธอ

มัลลิกาคิดเข้าข้างตัวเองว่าทั้งสองคนคงจะเป็นเพื่อนของรัชนกที่มาดื่มอะไรกันที่ห้อง แต่เพื่อนก็ไม่น่าที่จะสนิมสนมกันจนต้องเดินควงแขนกันแบบนั้น ประตูลิฟท์เปิดออกมัลลิการ้อนรน กว่าลิฟท์จะมาถึงชั้น ยี่สิบสี่ก็ใช้เวลานานโข

มัลลิกาเดินออกจากลิฟท์และมองหาว่ารัชนกอยู่ที่ไหน เธอได้ยินเสียงปิดประตูและเสียงหัวร่อต่อกระซิกของผู้หญิงสองคน จำได้ว่าเสียงหนึ่งเป็นของรัชนกคนรักของเธอ เธอเดินตามเสียงนั้นไป มันไม่ใช่ทางไปห้องของเธอ ชั้นบนนี้มีห้องอยู่เพียงสี่ห้อง มันไม่ยากอะไรเลยที่จะทำให้มัลลิการู้ว่าต้นกำเนิดของเสียงมาจากห้องไหน

เมื่อมัลลิกามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องอีกปีกหนึ่งของตัวตึกเธอก็ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะนั้น มัลลิกาหน้าซีด เดินกลับไปยังห้องของเธอ หัวใจของเธอแทบจะสลาย นั่งอยู่กับความมืดรอให้คนรักของเธอกลับมา

เวลาผ่านไปอย่างเชื่อช้า มัลลิกานั่งนิ่งไม่ไหวติงตีสีกว่าๆ รัชนกกลับเข้ามาที่ห้อง

“อ้าวปอย” ท่าทางของรัชนกตกใจที่เห็นมัลลิกานั่งอยู่และไม่เปิดไฟ

“ทำไมมานั่งมืดๆ ฟืนไฟก็ไม่เปิด เหนื่อยไหมคนดีวันนี้นกเหนื่อยจังเลยขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะเหนียวตัวชะมัด” น้ำเสียงของรัชนกดูอ่อนเพลียหมดแรงที่จะพูด

มัลลิกานั่งน้ำตาไหลทำไมเธอจะไม่รู้ว่ารัชนกไปทำอะไรมา สิ่งที่เธอรู้มันทำให้เธอกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป ความอดทนของผู้หญิงคนหนึ่งก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน มัลลิกานั่งร้องไห้อยู่นานรัชนกก็ไม่สนใจเธอที่ไม่ได้เดินตามเข้าไปในห้อง

มัลลิกาอาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนก่อนนอนเธอก้มตัวลงหอมแก้มรัชนก ถึงอย่างไรสถานภาพของรัชนกก็คือคนรักของเธอ กลิ่นเบียร์ยังคงออกมาทางลมหายใจของรัชนก

“คงจะดื่มมาเยอะล่ะสิท่าถึงได้นอนสลบแบบนี้” มัลลิกาบ่นกับตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรัชนกที่นอนหลับตาอยู่ส่งเสียงลอดออกมาดังๆ

“ไม่เอาน่านิดพี่จะนอนอย่าพึ่งกวนพี่นะคนดี” ถ้อยคำที่มัลลิกาได้ยินมันชั่งบาดลึกลงไปในหัวใจของเธอยิ่งนัก เธอจะทนกับการกระทำของรัชนกได้อีกสักเท่าไหร่กันนะ

มัลลิกาปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเธอทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่รัชนกทำ แต่มันกลับเป็นการตอกย้ำให้เธอต้องเจ็บปวด

รัชนกกลับบ้านดึกทุกวันและวันไหนที่เป็นวันหยุด รัชนกก็จะรับโทรศัทพ์และออกไปคุยนอกระเบียงห้อง จากนั้นก็บอกว่าที่ทำงานมีปัญหาและก็หายไปกลับมาอีกทีก็เกือบรุ่งสาง

เวลาผ่านไปหลายเดือนจนสุดท้ายมัลลิกาทนต่อการคบกันแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้ เธอตัดสินใจขายคอนโดและย้ายออก

“ทำไมปอยต้องขายคอนโดเราซื้อต่อเองก็ได้ถ้าปอยมีปัญหาเรื่องเงิน”

“เงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกนก”

“แล้วขายทำไมในเมื่อไม่ต้องการใช้เงิน”

“ขายเพราะเราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วนะสิ”

“ทำไมมันไม่สะดวกเหรอแล้วจะไปอยู่ที่ไหนละปอย”

“สนใจด้วยเหรอนกว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็ในเมื่อนกกลับบ้านสว่างทุกวัน”

“สนใจสิก็ปอยเป็นคนรักของเรานี่”

“คนรักเหรอนก คนรักเค้าทำกันแบบนี้เหรอ รักกันแล้วไปนอนกับผู้หญิงอื่นทิ้งให้เรานอนคนเดียวทุกคืนแบบนี้เหรอ”

“ปอยเอาที่ไหนมาพูดเรานี่นะไปมีคนอื่น บ้าไปแล้ว”

มัลลิกาหยิบรูปที่เธอขอมาจากฝ่ายดูแลอาคาร มันเป็นรูปที่ได้มาจากโทรทัศน์วงจรปิด รูปของรัชนกที่เดินควงแขนกับเด็กสาวห้องปีกซ้าย หลายๆ รูป หลายๆ วัน หลายๆ เวลา รัชนกดูรูปนั้นแล้วก็หน้าซีด

“ปอยนกขอโทษนะถึงนกจะไปมีใครที่ไหนปอยก็ยังเป็นตัวจริงของนกอยู่วันยังค่ำ”

“เป็นตัวจริงแล้วมีประโยชน์อะไรนก ปอยว่าเราสองคนแยกทางกันเถอะอยู่ต่อไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา อีกสองวันเจ้าของใหม่จะย้ายมาอยู่แล้วนะนก นกก็ย้ายออกไปก่อนเค้าจะเข้ามาอยู่ก็แล้วกัน”

“เรารักปอยนะปอยอย่าจากเราไปเลย”

“มันสายไปแล้วนก ถ้านกบอกเราตั้งแต่เมื่อสามเดือนที่แล้วมันยังทัน แต่ตอนนี้มันสายไปแล้วจริงๆ เราไม่อยากเป็นตัวจริงที่ต้องมานั่งปวดใจอีกแล้ว ลาก่อนนะนก”

มัลลิกาลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบสุดท้ายของเธอออกจากประตูห้องนั้นไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองรัชนกที่นั่งน้ำตาคลอ

สุดท้ายของความรักสำหรับเธอทั้งสองคนไม่หลงเหลือสิ่งดีๆ ให้จดจำ

ความทรงจำสุดท้ายของมัลลิกาสำหรับความรักครั้งนี้

เธอจำได้เพียงว่า เธอคือ “ตัวจริงที่ปวดใจ” เท่านั้นเอง

... จบ ...






Create Date : 27 กรกฎาคม 2551
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 18:47:50 น. 2 comments
Counter : 433 Pageviews.

 
T^T
ปวดจี๊ดดดดดดดดดดดดดด
แทงแผลเก่าจังๆเลยแงๆ


โดย: หมอก IP: 124.121.65.211 วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:04:11 น.  

 
แทงใจ เผลาเก่า ให้หมองหม่น

เจ็บสุดทนเหลือเกินแล้วใจเอ๋ย

ยามคิดถึง ยามรัก ยามคุ้นเคย

ยามแมื่อร้าง ลาเลย ใจจึงตรม


อิอิ แอบมาแซวคุณหมอกจ้า


โดย: รันหณ์ วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:47:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.