It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๔ ตัวประกัน

ตอนที่ ๔ ตัวประกัน

ระหว่างทางเดินไปห้องสมุดมัชวีและธัญชนกเดินคุยกันมาตลอดทาง และเรื่องที่ไม่น่าจะพบเจอก็เกิดขึ้น

“ว๊าย!!!!! คนบ้า” เสียงสาวๆ กลุ่มหนึ่งร้องตะโกนและวิ่งหนี

มัชวีมองไปที่ต้นเสียงก็พบหญิงสาววัยกลางคนท่าทางสกปรกนุ่งผ้าถุงเก่าๆ สะพายย่ามวิ่งไล่กลุ่มสาวๆ แถวนั้น เมื่อหญิงสาวที่หลายคนพากันเรียกว่าคนบ้าเห็นมัชวีและธัญชนกเดินมาทางเธอ หญิงสาวคนนั้นก็เดินรี่เข้าไปหาและคว้าข้อมือของมัชวีไปไว้ในมือของเธอ

มัชวีเกิดอาการงงและงง “อะไรกันนี่”

“มามะลูกแม่ มากับแม่เถอะ แม่คิดถึงลูกใจจะขาด” หญิงผู้ได้สมญานามว่าคนบ้าฉุดมัชวีและเรียกมัชวีว่าลูก

ฝ่ายธัญชนกได้แต่ยืนงงมองไปทางมัชวีและหญิงสาววัยกลางคนนั้นอย่างตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก แม้แต่จะเอ่ยปากเรียกมัชวีธัญชนกก็ขยับปากไม่ได้

ผู้คนได้แต่ตะลึงและงงกันไปทั่วบริเวณ รปภ.วิ่งเข้ามาเพื่อจะจับหญิงสาวกลางคนแยกออกจากมัชวี แต่มัชวีทำท่าทางเป็นการบอกกล่าวกับรปภ.ว่าไม่ต้องไม่เป็นอะไร

“ป้าคะหนูไม่ใช่ลูกของป้านะคะ หนูเป็นเด็กที่เรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ค่ะป้าปล่อยมือหนูนะคะ” มัชวีพยายามพูดด้วยถ้อยคำที่คิดว่าสุภาพและดีที่สุดในตอนนั้น

“เอาวะเป็นงัยเป็นกันสั่นสู้แหละมัชเอ๊ย” มัชวีบอกกับตัวเอง

“ไม่ใช่ได้ไงนี่หนูนะลูกแม่นะแม่จำได้ แม่จำรอยยิ้มของหนูได้ ทำไมนะลูกถึงจำแม่ไม่ได้ ฮือๆๆๆ ลูกใจร้าย หนีไปกับพ่อทิ้งแม่ไว้ ให้แม่อยู่คนเดียวทำไมลูกต้องทิ้งแม่หล่ะลูกจ๋า” หญิงสาววัยกลางคน ยกมือขึ้นลูบหัวและจับเส้นผมของมัชวีที่ตกลงมาปรกหน้าขึ้นอย่างเอ็นดู

มัชวีรู้สึกน้ำตาตัวเองพาลจะไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ธัญชนกมองภาพนั้นแล้วนึกสะท้อนใจ สงสารหญิงสาววัยกลางคนนั้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“แล้วลูกกับแฟนป้าไปไหนหล่ะคะ ทำไมปล่อยป้าอยู่คนเดียว” มัชวีเอ่ยด้วยเสียงอ่อน

“ลูกไม่ได้ไปไหนนี่จ๊ะ ลูกก็อยู่กับแม่ตรงนี้ไง ลูกแม่มาให้แม่หอมที่เถอะนะแม่คิดถึงหนูเหลือเกิน ลูกแม่” หญิงสาวสูงวัยท่าทางสกปรก โน้มหน้าผากมัชวีไปหอมฟอดใหญ่ และกอดมัชวีไว้ในอ้อมแขน

มัชวีรู้สึกแปลกใจที่ตัวเองไม่ได้ขัดขืนหรือออกจากอ้อมกอดของหญิงสูงวัยแปลกหน้าคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว กลับรู้สึกสงสารขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ

“งั้นเอาแบบนี้นะคะป้า ป้ารอหนูอยู่ตรงนี้ หนูไปทำงานที่ห้องสมุดเดี๋ยวหนูกลับลงมาคุยกับป้านะคะ ป้านั่งรอที่ใต้ต้นไม้นะคะ อย่าไปไหนรอหนูนะ” มัชวีขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนของหญิงวัยกลางคนและเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองต้องไปทำรายงานที่ห้องสมุดกับธัญชนก

“แม่จะรอหนูไม่ไปไหน หนูอย่าทิ้งแม่อีกนะ แม่จะรอหนูอยู่ตรงนี้นะจ๊ะลูกรัก” หญิงวัยกลางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเครือและเหมือนจะตั้งใจรอมัชวีจริงๆ เธอเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อน โดยฉุดมัชวีเดินตามไปด้วยและปล่อยมือมัชวีในที่สุด

“ค่ะป้าหนูเสร็จธุระแล้วจะลงมานะคะ” มัชวีเอ่ยคำสัญญาแล้วเดินหันหลังกลับออกมาโดยมีสายตาของผู้คนรอบข้างเพ่งมองมาที่มัชวีเป็นตาเดียว

มัชวีถอนหายใจอย่างโล่งอก และหันไปมองหญิงกลางคนคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับไปมองธัญชนกที่ยืนนิ่งมองมายังเธอ

“เป็นอะไรคะพี่ธัญ ทำไมเงียบตะลึง ตึง ตึง โย่ว” มัชวีล้อเล่นกับธัญชนกเมื่อเดินมาถึงตัว

“งงค่ะ น้องมัชทำได้ไงล่ะคะ พี่กำลังงง” ธัญชนกบอกสาเหตุที่เธอยืนไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

ใครต่อใครเดินมาถามมัชวีว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่เว้นแม้แต่มานิตาและมานพ ที่ได้ยินข่าวเรื่องมัชวีโดนคนบ้าจับตัว

บางคนก็กล่าวว่าคนบ้าจับมัชวีเป็นตัวประกันอยู่ใต้ต้นไม้หน้าหอสมุด บ้างก็ว่ามัชวีเป็นลูกคนบ้า บ้างก็ว่า รปภ.เอามีดไล่ฟันคนบ้าแล้วคนบ้าเลยจับมัชวีเป็นตัวประกัน ข่าวลือทำให้คนวิ่งมาออกันที่หน้าหอสมุดเต็มไปหมด

มัชวีเห็นเพื่อนเธอหลายคนวิ่งหน้าตั้งลงมาจากหอสมุดมาที่ตัวเธอแล้วส่งเสียงร้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นรวมทั้งมานิตาและมานพด้วย

“เป็นไรเปล่ามัช นี่ฉันงงเลยนะมีคนบอกว่าแกโดนคนบ้าเมายาบ้าจับเอามีดขู่ ไหนดูสิ มีรอยแผลเปล่า แล้วคนบ้าอยู่ไหน ๆๆๆ” มานิตาถามมัชวีเสียงหลง

“เอ่อ... ไม่มีอะไรนี่นาเค้าแค่เข้าใจผิดว่าเราเป็นลูกเค้าก็เท่านั้น” มัชวีบอกเพื่อน

“เฮ้อ...โล่งอก นึกว่าโดนอะไร แล้วไปเดินอิท่าไหนหล่ะนั่นถึงได้โดนจับไป” มานิตายังยิงคำถามไม่เลิก

“ก็เดินมาดีดีนี่แหล่ะกับพี่ธัญจู่ๆ เค้าก็มาจับมือเราแล้วฉุดไปกอดไปหอม บอกว่าเราเป็นลูกเค้า ที่ทิ้งเค้าไป เรางงไปพักใหญ่ ดีนะ สติดีก็เลยพูดดีๆ กับเค้าเค้าก็ปล่อยเรามา” มัชวีอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ

“ต่อไปพี่คงต้องให้น้องมัชไปเป็นตัวแทนเจรจาแล้วค่ะ เพราะขนาดคนบ้ายังฟังแล้วคนดีๆ อย่างเราๆ จะไม่ฟังน้องมัชไม่ได้แล้วมั๊งนี่” ธัญชนกแซวมัชวี

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะประสานกันในกลุ่มคนเกิดขึ้นโดยที่มัชวีเองแอบค้อนคนเหล่านั้นที่ดูจะเป็นปี่เป็นขลุ่ยกันหมดก๊วน

...............................................................

“เอาเรื่องนี้ดีกว่าค่ะพี่ธัญมัชว่าน่าสนใจ” มัชวีหยิบหนังสือเกี่ยวกับการตลาดให้กับธัญชนกดู หลังจากที่ทั้งสองค้นหาเอกสารอ้างอิงเพื่อทำรายงานกันอยู่หลายชั่วโมง

“ตกลงอันนี้เอาไว้ทำงานเดี่ยว ส่วนอีกเรื่องทำงานกลุ่ม เรื่องคล้องจองกันต่อยอดได้ง่าย ว่างัยว่าตามกันค่ะ” ธัญชนกตกลงตามที่มัชวีเลือก

“อืมพี่คะงั้นเรารีบไปเถอะค่ะ มัชจะลงไปดูป้าเค้าว่ายังรออยู่รึเปล่า” มัชวีเริ่มมีแววตาครุ่นคิดและห่วงใยหญิงวัยกลางคนขึ้นมาด้วยกลัวว่าเธอจะยังคงนั่งรอมัชวีอยู่ใต้ต้นไม้ และนี่ก็เวลาเย็นมากแล้ว

“งั้นมัชไปล้างหน้าล้างตาแล้วลงไปค่ะ พี่ก็จะเข้าห้องน้ำด้วยเหมือนกัน” ธัญชนกบิดตัวยกมือขึ้นบิดขี้เกียจเป็นการสลัดความเมื่อยออกจากตัว

มัชวีมองท่าทางกริยาของธัญชนกที่เป็นกันเองสบายๆ แล้วเธอรู้สึกสบายตาตามไปด้วย

ทั้งสองกลับมาเก็บหนังสือที่ช่วยกันรื้อมาวางกองบนโต๊ะเต็มไปหมดไปวางไว้ที่วางหนังสือใช้แล้วและหอบเอาหนังสือที่ต้องการใช้ติดมือไปเข้าห้องน้ำด้วย

มัชวีถอดแว่นตาออกล้างหน้าและทำความสะอาดแว่นด้วยน้ำสะอาด ธัญชนกเมื่อเห็นมัชวีที่ไม่ได้สวมแว่นตาแล้วถึงกับตะลึง เด็กคนนี้สวยไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ หากไร้ซึ่งกรอบแว่นและแว่นหนาๆ คงสวยกว่าใครอีกหลายๆ คน โดยเฉพาะเธอเอง

มัชวีเห็นข้อมือตัวเองมีรอยเปื้อนสีดำติดอยู่ “คงเป็นรอยมือป้าคนนั้นสินะ นี่ยังจะรอเราอยู่รึเปล่าหนอ” ความคิดของมัชวีเกิดขึ้นในสมอง และล้างมือล้างหน้าเรียบร้อย มัชวีรู้สึกสดชื่น

ธัญชนกออกมาจากห้องน้ำเดินมาล้างมือและทำธุระแบบสาวทั่วไปด้วยการทาแป้ง เติมลิปมันเสร็จก็หันไปเอ่ยกับมัชวีว่า

“เดี๋ยวพี่ไปใต้คณะนะคะ ต้องไปดูซ้อมเชียร์ มัชจะตามพี่ไปไหม” ธัญชนกเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามัชวีเงียบไป

“ค่ะพี่ แต่มัชขอไปดูป้าเค้าก่อนนะคะ” มัชวีบอกธัญชนกและก็รู้ว่าธัญชนกต้องตามใจเธอแน่นอน

“ค่ะแต่อย่าให้ป้าเค้าจับไว้อีกหล่ะเดี๋ยวมีข่าวใหญ่อีก พี่ไม่อยากแก้ข่าวให้นะขอบอกแม่ดาราจำเป็น” ธัญชนกพูดติดขำนิดๆ

แต่มัชวีสิงงบนหน้าเหมือนมีเครื่องหมายคำถามติดหน้าผากเลยก็ว่าได้ อะไรคือดาราจำเป็นไม่เข้าใจคำพูดของธัญชนกอยู่ดี

ธัญชนกดูเหมือนจะเข้าใจกริยานั้นของมัชวีแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเป็นการแก้ข้อข้องใจของมัชวีสักนิด

“อะไรคือดาราจำเป็นคะพี่” มัชวีอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับธัญชนก

“ก็ใครหล่ะคะ ทำวีรกรรมไว้กับป้าเค้า คนนั้นแหละค่ะดาราจำเป็น เรื่องของมัชไม่ใช่แต่ในคณะเรานะคะ ตอนนี้ออกไปนอกมหาวิทยาลัยแล้ว” ธัญชนกอธิบาย

“อ้าวไหงงั้นหล่ะคะ” มัชวีเกาหัวจนยุ่งไปหมด

“ไม่ต้องสงสัยค่ะ ไปเถอะลงไปดูป้าเค้ากัน” ธัญชนกดันข้อศอกมัชวีเดินเข้าลิฟต์เพื่อไปยืมหนังสือและลงไปหาหญิงวัยกลางคน ที่คิดว่ายังคงรอมัชวีอยู่ แปลกไฟฟ้าสถิตไม่ดูดเราแล้วนะนี่ธัญชนกอดแปลกใจไม่ได้เมื่อไม่โดนไฟฟ้าดูดแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา

เมื่อทั้งสองทำธุระเสร็จก็รีบเดินไปใต้ต้นไม้มองหาญิงวัยกลางคนผู้นั้นแต่ก็ไร้วี่แวว จึงเดินไปถามรปภ.ที่อยู่บริเวณนั้น

“พี่คะป้าคนที่นั่งตรงนี้ไปไหนแล้วคะ” มัชวีเอ่ยถาม รปภ.

“อ่อเค้าให้โรงพยาบาลมาเอาตัวไปตั้งแต่บ่ายแก่ๆ แล้วหล่ะ แกก็อดทนนะบอกว่าจะรอลูก ลูกแกให้รอ แกไม่ไปท่าเดียว พวกโรงพยาบาลเลยว่าลูกบอกให้มารับแกเลยยอมไปโดยดี แต่กว่าจะกล่อมได้นะนานโขอยู่หล่ะน้อง พี่ว่าแกบ้ามานานแล้ว ป้าสมคนนี้นะ สามีแกทิ้งแล้วก็หอบเอาลูกไปด้วย ทิ้งแกไว้กับหนี้ที่สามีแกก่อไว้ สามีแกเล่นพนัน ก่อนแต่งก็ดีหรอกอยู่ไปอยู่มาก็เล่นพนันหมดเนื้อหมดตัว แถมยังเอาลูกไปด้วย แกก็ตามหาลูกแก เห็นหามา ๑๐ กว่าปีแล้ว หาไงก็ไม่เจอะร๊อกป่านนี้” พี่ รปภ.เล่าเรื่องหญิงกลางคนที่ชื่อป้าสมยาวยืดจนมัชวีอดนึกสงสารไม่ได้ ถึงแม้ว่ามัชวีจะมีครบทั้งพ่อและแม่แต่มัชวีก็เข้าใจความรู้สึกของป้าสมอยู่เหมือนกัน การพลัดพรากจากคนที่ตัวเองรักมันเป็นทุกข์แบบนี้นี่เอง มัชวีพึ่งเข้าใจในวันนี้

................... จบตอนที่ ๔.............



Create Date : 09 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 มีนาคม 2551 9:22:21 น. 0 comments
Counter : 303 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.