It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๓ น้ำมนต์หลวงพี่โป๊งเหน่ง

ตอนที่ ๓ น้ำมนต์หลวงพี่โป๊งเหน่ง

เมื่อเดินมาถึงห้องเรียน มัชวีกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเดินไปนั่งข้างธัญชนก เพราะอะไรนะรึ ก็เพราะเสียงหัวใจของมัชวีเต้นแรงจนคิดว่าใครต่อใครที่นั่งข้างๆ จะได้ยินเสียงเต้นนั้นน่ะสิ

แต่จนแล้วจนรอดมานิตาแม่สื่อที่แสนจะดีของเธอก็ลากมัชวีให้ไปนั่งข้างๆ ธัญชนก และทำหน้าตาเฉย

“พี่ธัญคะ ให้พวกหนูนั่งด้วยคนนะคะพี่ แบบว่าที่อื่นมันเต็มแล้วนะค่ะ” เอาหล่ะสิมานิตาเริ่มปูทางให้เพื่อนและหันมาสบตามัชวี

“นั่งสิมัชพี่เค้าไม่ว่าอะไรหรอก โด่เอ๊ยพวกขี้ขลาด” มานิตาหันมากระซิบกับมัชและส่งสายตาดูถูกมาให้อย่างจัง

มัชวีได้แต่ส่งสายตาผ่านแว่นหนาของเธอเป็นคำพูดว่าฝากไว้ก่อนเถอะแล้วจะเอาคืน ไม่นานแผนการเอาคืนของมัชวีก็ได้เริ่มกระทำการ

“มานพ ทางนี้” มัชวีตะโกนเรียกมานพและยกมือขึ้นโบกไหวไหว เพื่อให้มานพที่เข้ามาทีหลังได้เห็นและเรียกมานพมานั่งข้างๆ มานิตา

มัชวีแอบหัวเราะและหันไปยักคิ้วข้างเดียวให้กับมานิตาและส่งสายตาไปให้เป็นการบอกว่า ฉันเอาคืนสำเร็จแล้วนะขอบอก

มานพเดินมานั่งข้างๆ มานิตาโดยที่ไม่รู้ความนัยของเพื่อนทั้งสอง

“มาเร็วกันจังเลยนะพวกเธอนี่ เรานึกว่ายังไม่มีใครมา” มานพพูดขึ้นเมื่อนั่งลงข้างๆ มานิตา

“ไม่เร็วหรอกดูสิ คนเยอะอย่างกับอะไร ไม่มาเร็วแบบนี้ก็ไม่มีที่นั่งกันพอดี เอางี้ดินพวันหลังเราจองที่ให้นายนะโอเคมะ แล้วจะได้นั่งเรียนด้วยกัน” มัชวีเสนอความคิดเห็น

“ดีเลยมัชเราจะได้มีเพื่อนนั่งเรียนคราวก่อนโน่นนั่งหัวโด่อยู่หน้าห้อง กำลังจะหลับซะหน่อยดูบอลดึกๆ ที่ไหนได้มาถึงไร้ที่พักพิง” มานพเห็นดีเห็นงามกับมัชวี

มานิตานั้นนั่งทำหน้าเอ๋อเหรออยู่ตรงนั้น สายตามองไปที่มัชวีพร้อมฝากรอยแค้นไว้ว่า ฝากไว้ก่อนเถอะเพื่อน ทีฮูทีอิด

ธัญชนกที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับการกระทำของสองสาวก็เอ่ยขึ้นว่า “อืมดีจังแล้วฝากจองที่ให้พี่ด้วยเลยสิคะ พี่จะได้มีเพื่อนนั่งเรียนด้วย พี่ก็ไม่อยากนั่งหน้าห้องเท่าไหร่หรอก อาจารย์ชิตแกชอบพรมน้ำมนต์ทุกชั่วโมง”

“ฮ่า ๆๆๆ” เสียงหัวเราะของสามเพื่อนเกลอก็ดังขึ้นหลังจากที่ธัญชนกพูดจบ

“ก็จริงนะคะพี่ อาจารย์ชิตแกพรมน้ำมนต์ไม่หยุดเลยทั้งชั่วโมง แหม!!! นึกแล้วอยากถามแกจังว่า เวลาแกสอนเสร็จแกหิวน้ำบ้างรึเปล่าน้อ” มัชวีร่วมแสดงความคิดเห็นอีกคน และก็ต้องหยุดไปเมื่อคนที่ทั้งหมดกำลังนินทาเดินสะท้อนแสงเข้ามาในห้อง

แต่ความคิดของทั้ง ๔ คนที่จะหาที่นั่งห่างไกลการพรมน้ำมนต์ก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กันเนื่องจาก อาจารย์ชิตของพวกเธอเดินไต่ถามนักศึกษาทั่วทั้งห้อง ต้องขอบคุณวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ทำให้มีไมค์ลอย จะขอบคุณไปทำไมนี่ ก็เจ้าไมค์ลอยตัวนี้นี่แหละที่ทำให้อาจารย์ชิตเดินร่อนไปมา และมาหยุดคำถามที่มัชวี

“อะนักศึกษาตอบหน่อยสิ” อาจารย์ชิตไม่พูดเปล่า ยื่นไมค์ให้มัชวีเพื่อตอบคำถาม แต่มัชวีทำท่าอึกอัก ตอบไม่ได้ จะตอบได้อย่างไรในเมื่อทั้งชั่วโมงมัชวีเอาแต่มองหน้าพี่ธัญของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจฟังอาจารย์ชิต หรือหลวงพี่โป๊งเหน่งเลยสักคำ

“อ้าวไม่มีความเห็นซะแล้ว อะไม่เป็นไร คุณแล้วกัน” อาจารย์ชิตยื่นไมค์ให้ธัญชนกเพื่อตอบคำถามแทน

“อืม ดิฉันคิดว่าการตลาดที่ดีต้องอยู่ในกรอบของ ๔ P ค่ะ แต่หลายๆ ตำรากล่าวไว้ว่าทั้งผลิตภัณฑ์ ราคา สถานที่จัดจำหน่าย และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ นั้นยังไม่เพียงพอ จะต้องมีการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยคะ ถ้าผู้บริโภคไม่มีอุปสงค์ที่จะซื้อสินค้าไม่มีความชื่นชอบพิเศษในตัวสินค้าหรือที่เราเรียกว่า Royalty อุปทานที่ออกมาก็จะไม่มี ถ้าตลาดไม่มีความต้องการผู้ผลิตก็ไม่รู้จะขายให้ใคร ดิฉันคิดว่าการใช้ความผสมผสานกันของการตลาดน่าจะช่วยได้ค่ะ”

“Exactly!!!!! อืม ดีๆ นักศึกษาคนต่อไป” แล้วหลวงพี่โป๊งเหน่งก็เดินไปอีกฝั่งเพื่อถามคำถามนักศึกษาที่อยู่อีกฝั่ง

“โห... ไอ้เอ๊ก แซ๊กกกกกกกกกก ลี่ ของพี่เหน่งแกกระเด็นมาถึงนี่แหนะ” มานิตาโวยวายน้ำมนต์อาจารย์ชิตที่กระเด็นมาอยู่บนสมุดจดของเธอ

แต่มัชวีกลับอึ้งในตัวธัญชนกและนั่งมองคนสวยของเธอ ที่หันไปหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋า สิ่งที่ธัญชนกหยิบออกมาก็คือกระดาษทิชชู่และหันมาทางมัชวี เอื้อมมือที่มีกระดาษทิชชู่นั่นเช็ดที่ศีรษะของมัชวี อากัปกริยาที่นุ่มนวล ทำให้มัชวีถึงกับตะลึง

“เอ่อ...อะไรคะพี่” มัชวีเริ่มงง

“อืม น้ำมนต์อาจารย์ชิตนะสิ ติดอยู่ที่ผมน้องมัชนะค่ะ” ธัญชนกบอกพร้อมกับเช็ดน้ำมนต์หลวงพี่โป๊งเหน่งออกให้อย่างเบามือ

“ฮ๊า...อะไรนะพี่ ตายๆๆ วันนี้มัชต้องไปสระผมอีกหล่ะสิ แหวะๆๆ นี่ขนาดหนีมานั่งตรงนี้พี่แกยังตามมารังควานไม่เลิก” มัชวีถึงกับอุทานตกใจ เพราะเธอพึ่งสระผมมาเมื่อเช้านี้

“โสน้าน่าเพื่อนเลิฟ กร๊ากๆๆๆ” มานิตาได้แต่ขำเพื่อนที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ ส่วนมานพนั้นหลังจากที่ตกใจตื่นเมื่ออาจารย์ชิตมาถามคำถามก็ได้แต่นั่งงงมองเพื่อนๆ ที่นั่งเรียนบริเวณนั้นขำกันกระจาย

.........................................................

เมื่อเรียนจนจบชั่วโมงทุกคนก็ต้องออกไปหารายงานเพราะอาจารย์ชิตแจกให้ทำงานทั้งเดี่ยว ทั้งคู่ ทั้งกลุ่มและแผนกามเทพก็แผลงศรมาอีกจนได้

“พี่ธัญคู่กับมัช ส่วนแหม่มคู่กับนพ โอเคมะ” มานิตาเริ่มเดินเรื่อง

มัชวีเดินไปสะกิดมานิตา “จะดีเหรอแหม่มไอ้นพนะมันทำอะไรที่ไหนกันเดี๋ยวตัวก็ทำงานคนเดียวหรอก”

“ไม่เป็นไรเพื่อหัวใจอะไรก็ยอมได้” มานิตากระซิบกลับ

“ซุบซิบอะไรกันจ๊ะสองสาว” ธัญชนกเห็นท่าทางของน้องทั้งสองแล้วเกิดนึกสงสัย

“ไม่มีอะไรค่ะพี่ ฝากเพื่อนแหม่มด้วยแล้วกันนะคะพี่ ไว้แหม่มมาเอาคืน” แล้วคนพูดก็เดินไปดันหลังมานพออกไปจากห้องเรียน

“อะไรอีกหล่ะแหม่ม” มานพได้แต่งง

“เออน่า ไปห้องสมุดกับเราก่อน แล้วจะเล่าให้ฟัง” มานิตาพูดได้แค่นั้นก็เดินลิ่วโดยมีมานพเดินตามไปติดๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ส่วนธัญชนกและมัชวีได้แต่มองหน้ากัน จนธัญชนกอดทนกับความเงียบไม่ได้เอ่ยขึ้นก่อนว่า

“ตกลงเราจะทำรายงานอะไรดีคะน้องมัช พี่ว่าเราไปหาข้อมูลที่ห้องสมุดกันก่อนดีรึเปล่าแล้วเราค่อยคิดว่า รายงานจะเอางัย”

“ค่ะพี่ งัยก็ได้มัชได้เสมอ เอาชีทพี่มาก็ได้ค่ะมัชถือให้” มัชวียื่นมือไปรับของในมือธัญชนกแต่กลับเห็นธัญชนกหดมือกลับ

“เป็นอะไรคะพี่” มัชวีถามเสียงตกใจ

“เอ่อ คือว่า..... พี่กลัวไฟดูดค่ะ” แล้วเสียงฮาก็ออกมาจากปากของทั้งสองคนอีกครั้ง เป็นการทำลายความเงียบที่ดีที่สุดเท่าที่มัชวีเคยรู้สึก

......................จบตอนที่ ๓.......................



Create Date : 03 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 มีนาคม 2551 9:21:38 น. 0 comments
Counter : 406 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.