It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 2

ฉันและแดงเป็นเด็กมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเรียนมัธยมต้น แดงเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารัก สุภาพอ่อนโยน(ในสายตาผู้อื่น) แต่เวลาอยู่กับฉันเธอเป็นเหมือนแม่เสือสาวดีๆนี่เอง ทั้งดุทั้งตีทั้งทุบหากเธองอนหรือโกรธ (เบาๆ แหละฮิ ฮิ) ด้วยความที่โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนหญิงล้วน และมีเด็กที่เรียนในชั้นมัธยมแต่ละชั้นไม่มากนักเธอกับฉันจึงได้รู้จักและสนิทสนมกัน จนเราเริ่มที่จะรักและเป็นคนรักกันในที่สุด แต่ด้วยความที่เธอเป็นสาวสวยฉันเองก็ใช่ย่อย(แฮะๆๆ) จึงทำให้เรามีเรื่องระหองระแหงกันบ่อยในเรื่องความเจ้าชู้ของฉัน เราเริ่มจะจีบกันตอนฉันอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้ตัวหรอกว่าชอบกันแค่เธอเดินผ่านฉันและเพื่อนๆ ที่นั่งกันอยู่หน้าตึกอาคารธุรการก็แซวเธอและกลุ่มเพื่อนๆ เท่านั้นเนื่องจากเราอยู่กันคนละห้องและเธอก็เป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปี แต่ด้วยความที่ฉันเป็นนักดนตรีของโรงเรียน เธอเป็นรองประธานนักเรียน ที่จะต้องติดต่อทำกิจกรรมกันบ่อยๆ เราจึงได้สนิทกันมากขึ้น จนเป็นที่กล่าวขานกันในโรงเรียนว่าเป็นคู่รักตัวอย่าง(ในทางที่ไม่ดี) แต่ฉันก็รู้ตัวเองว่าฉัน ไม่คู่ควรกับเธอเลยเพราะเธอทั้งเก่งทั้งสวย

“ซ้ายขวาซ้าย เอ๊า..ซ้ายขวาซ้าย เอ้า…ซ้ายขวาซ้าย” เสียงตะโกนแซวของเหล่าบรรดาเพื่อนๆ ในกลุ่มของฉันที่นั่งเรียงอยู่กันเป็นแพบริเวณทางเดินหน้าตึกธุรการซึ่งเราเรียกกันว่าสามแยกปากสุนัข (มีคนบอกว่าสุนัขแปลว่าผู้มีเล็ปงาม ฉะนั้นแถวนั้นจึงมีพวกทาเล็บโดยผิดกฎนั่งแซวคนเดินผ่านไปมาตลอด)

สาวๆ และเด็กเด็กที่เดินผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นทางเดินที่นักเรียนทุกคนจะต้องเดินผ่านจากตึกเรียนมายังโรงอาหาร หรือจากโรงอาหารกลับไปที่ตึกเรียนและสนามเด็กเล่นของโรงเรียนฉัน

“นี่พวกเธอนะไม่รู้หรืองัยว่าทำแบบนี้มันเสียมารยาทนะ อยู่ชั้นอะไร ห้องอะไรนี่ เดี๋ยวจะจดชื่อบอกอาจารย์ปกครองให้ทำโทษซะให้เข็ดเลย พวกเด็กปากเปราะ” เสียงของสาวน้อยคนหนึ่งหน้าตาสวย ผิวขาวปากบางเป็นสีชมพูเอ่ยขึ้นหลังจากได้ยินเสียแซวจากกลุ่มของพวกฉัน

“โอ๊ยพี่…….กลัวจังเลย กลั๊วกลัว ฮ่า ฮ่า ฮ่า โคตรกลัวเล๊ย” มีเสียงตอบกลับมาจากเด็กในกลุ่มของฉันเพราะรู้ตัวและรู้กิตติศัพท์ของเจ้าหล่อนว่าเป็นบุคคลประเภทที่แตะไม่ได้ เป็นระเบียบทุกกระเบียดนิ้วต้องถูกตามกฎ ไม่รู้ใครเลือกเธอให้เป็นรองประธานนักศึกษาสิ มันน่านัก

“เน๊ะ ยังมีหน้ามาล้อชั้นอีกเหรอ พวกเธอนี่ยังงัยไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” เธอต่อว่ากลับมาอย่างไม่ลดละ

“ใครเป็นหัวโจกบอกมาซิ เป็นรุ่นน้องได้งัยกันไม่มีสัมมาคารวะ … ออกมาเลย”

“เราเองแหละ มีอะไรรึเปล่า” ฉันลุกขึ้นหลังจากที่นังทนฟังเธอต่อว่าพวกเรามานานจนทนไม่ได้

“เธอเองเหรอ ไม่มีอะไรทำกันหรือยังงัยนะ อ๋อหรือคิดว่าเป็นพวกศิลปินนักร้องนักดนตรีของโรงเรียนแล้วมีสิทธิพิเศษเหรอฝันไปเถอะโธ่เอ๋ย ชั้นละสงสารพวกน้องๆ ที่มานั่งชื่นชมพวกเธอเวลาแสดงในงานโรงเรียนจังเลย พวกหลงตัวเอง”

“โธ่เอ๋ย……. ใครกันแน่หลงตัวเอง แล้วเธอคิดว่าเธอใหญ่มาจากไหน เป็นแค่รองประธานนักเรียน โห่ ถ้าพวกเราไม่เลือกคิดเหรอว่าจะได้เป็นไอ้ตำแหน่งรองประธานอะไรนี่นะเหรอโด่เอ๊ย ทีก่อนจะเลือกตั้งนะ ทำมาเป็นหาเสียงว่าพี่ดีอย่างงั้น พี่ดีอย่างงี้ อี่โธ่ มันก็แค่ลมปากละว๊า” ฉันยังเถียงเธอไม่ลดละด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เด็กนักเรียนที่เดินผ่านมาทางนั้นต้องหยุดดูกันเพราะเหมือนเรากำลังจะเปิดศึกสองนางพญาอะไรปานนั้น

แล้วการปะทะลมปากของพวกเราก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงนกหวีดของอาจารย์

“ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด”

“พวกเธอทะเลาะอะไรกันฮะ ลาวัลย์บอกครูสิเกิดอะไรขึ้น” อาจารย์ถามไปที่เธออย่างสงสัย

“ก็พวกเด็กพวกนี้สิคะอาจารย์ แซวพวกหนู พวกเรากำลังเดินกลับจากทานอาหารกลางวัน ก็ได้ยินเสียงเด็กพวกนี้แซวพวกหนู จนหนูทนไม่ได้” เธอรีบรายงานความประพฤติของฉันและพวกอย่างรวดเร็วโดยที่พวกฉันไม่ทันตั้งตัว

“ไม่จริงค่ะอาจารย์ พวกหนูแค่พูดเล่นๆ กันเท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไร แต่พี่เค้าสิคะว่าพวกหนูซะลืมทางกลับบ้านกันไปเลยค่ะอาจารย์”

“จริงค่ะอาจารย์ ใช่ไม๊พวกเธอ” แล้วพวกรุ่นพี่ในกลุ่มพวกเธอก็สนับสนุนแม่สาวน้อยคนนั้นกันยกใหญ่

“เอาหละ เอาหละ ไม่ต้องเถียงกัน เดี๋ยวครูจะตัดสินเอง ปัทมา ลาวัลย์ เธอสองคนตามครูไปที่ห้องพักครู”

“เฮ้ยเรื่องใหญ่เลยหวะ” เพื่อนคนหนึ่งกระซิบบอกฉัน

“นั่นดิ พี่แกเอาเรื่องอยู่นะโว๊ย” มีเสียงกระซิบสำทับมาอีก

“ไม่ต้องห่วงหรอก เราจัดการได้คอยดูนะเราจะเอาให้อยู่หมัดเลย ใจเย็นเพื่อน” ฉันกัดฟันพูดแบบกระซิบให้เพื่อนในกลุ่มได้ยิน

…………..

ในห้องพักครู

“พวกเธอทะเลาะกันด้วยเรื่องแค่นี้เองเหรอฮึ” อาจารย์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ฉันและคู่อริเดินเข้าไปในห้องพักครูเรียบร้อยแล้ว

“แล้วเรื่องแค่นี้ ทำให้รองประธานต้องทำตัวแบบนี้เลยเหรอ เธอก็เหมือนกันปัทมา ครูไม่นึกเลยว่าพวกเธอจะทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างไม่ดีให้กับรุ่นน้อง พวกเธอรู้ไม๊ว่าเรื่องที่เธอทะเละกันนะเค้าเห็นกันเกือบทั้งโรงเรียนแล้วนะ เธอสองคนจะให้ครูทำโทษเธอยังงัยฮึ” ครูถามฉันและคูรอริ

“ว่างัยทีเมื่อกี้ละเถียงกันเอาเป็นเอาตาย ตอนนี้ทำไมเงียบ”

“………….” ไม่มีเสียงตอบเพราะฉันและคู่อริได้แต่นั่งก้มหน้างุดเพราะกลัวไม้เรียวในมือของอาจารย์ที่ยังคงถืออยู่และเคาะอยู่บนโต๊ะ

“ไม่ตอบ งั้นครูจะทำโทษพวกเธอด้วยการให้ไปล้างห้องน้ำชั้นมัธยมทั้งหมดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จะยอมไม๊ แล้วเธอสองคนต้องมารายงานตัวกับครูทุกเช้า กลางวัน และเย็น เป็นเวลา 1 สัปดาห์ตกลงตามนี้เริ่มพรุ่งนี้เลยเข้าใจไม๊”

“เข้าใจค่ะ” เสียงตอบจากเด็กสองคนที่นั่งมองหน้ากันอย่างเคียดแค้นในใจแต่ทำอะไรไม่ได้

……………..

“เฮ้ยตั๊กครูว่างัยบ้าง” เพื่อนในกลุ่มถามฉันด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ฉันกลับมาจากหัองพักครู

“ว่างัยหละก็ให้เรากับยัยปากร้ายนั่นขัดห้องน้ำน่ะสิ แล้วแถมไม่พอนะให้เรากับยัยนั่นไปรายงานตัวพร้อมกัน ทั้งเช้ากลางวัน เย็น เลย คิดดูสิทั้งๆที่ไม่อยากเจอเลยให้ตายสิ” ฉันบ่นออกมาด้วยอารมณ์โมโหอย่างที่สุด

“จริงๆด้วย ยัยนั่นไม่น่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลยให้ตายสิ”

“เราก็ว่างั้นแหละ” บรรดาเพื่อนๆของฉันต่างช่วยกันลงความเห็นเป็นการใหญ่

“คอยดูนะพวกนาย เราจะแก้เผ็ดยัยตัวแสบนั่นให้มันสาสมกับที่มันทำกับพวกเรา” ฉันเอ่ยด้วยวาจาอาฆาตแค้น

…………..

ห้องน้ำของโรงเรียนเราจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ ห้องมัธยมจะแยกออกมาต่างหากจากห้องน้ำของชั้นอื่นๆ เนื่องจากโรงเรียนของเรามีชั้นเรียนหลายห้อง แต่ละห้องจะมีห้องน้ำที่ระบุว่าเป็นห้องน้ำของชั้นอะไรทับอะไรระบุอยู่หน้าห้องน้ำทุกห้อง ฉะนั้นการลงโทษโดยการให้ล้างห้องน้ำนี้ฉันและคู่อริจะต้องล้างห้องน้ำถึงสิบสองห้องในแต่ละวัน แล้วกลิ่นของห้องน้ำมันก็น่าอภิรมณ์เสียนี่กระไร

ในเย็นวันนั้นฉันและคู่อริก็ต้องมาล้างห้องน้ำด้วยกันหลังเลิกเรียน

“เนี่ย เธอล้างห้อง ม.3 นะเราจะล้างห้องม.2 กับ ม.1 เอง” เสียงเธอสั่ง

“ก็ได้” ฉันตอบนึกในใจว่าก็ดีนะที่ไม่กินแรงกันอย่างน้อยฉันก็ล้างห้องน้ำน้อยกว่าเธอ

แล้วพวกเราก็ลงมือขัดห้องน้ำโดยมีพวกนักเรียนที่เลิกเรียนแล้วและต้องการที่จะเข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้านมาเดินมองๆดูแล้วก็เดินจากไป มีเสียงแซวว่า

“พวกเธอจะล้างกันอีกนานไม๊พวกเราจะได้สบายไม่ต้องทำเวรล้างห้องน้ำกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“ไม่นานหรอก 1 สัปดาห์” เสียงคู่อริฉันตอบออกไป

“ว๊า นึกว่าจะสักเทอมนึงโธ่ วัยรุ่นเซ็งเลย”

“ให้น้อยหน่อยแกแค่นี้เราก็จะแย่แล้ว” ฉันพูดเหมือนบ่นให้เธอและคนที่แซวเราสองคนได้ยินแล้วก็ก้มหน้าก้มตาลงมือล้างห้องน้ำต่อไปจนเสร็จภาระกิจในวันนั้น

…………………….
“เป็นงัยสนุกไม๊ ล้างห้องน้ำ” เสียงอาจารย์ถามขึ้นเมื่อฉันและลาวัลย์เข้าไปรายงานตัวกับท่านหลังจากที่ล้างห้องน้ำเสร็จแล้ว

“หนุกงัยได้คะอาจารย์ หนูละเหนื่อยจะแย่” ฉันบ่นออกไปทั้งๆที่รู้ว่าถึงอย่างไรก็คงต้องล้างห้องน้ำอยู่ดีส่วนเธอไม่พูดไม่บ่นสักคำทั้งๆที่ยังคงเห็นเหงื่อผุดขึ้นอยู่เต็มใบหน้าของเธอและจังหวะหายใจที่ถี่ๆเพราะความเหนื่อยในการขัดห้องน้ำของเธอ

“แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมมารายงานตัวหละตอนเช้าครูมาถึง 7 โมง OK. ไปได้”

“ขอบพระคุณค่ะอาจารย์” เราสองคนกล่าวลาและเดินออกมาจากห้องพักครู

“เธอ เหนื่อยไม๊” เสียงเธอถามฉันหลังจากที่เดินออกมาอยู่หน้าห้องและกำลังจะใส่รองเท้าที่ถอดวางไว้ด้วยกัน

“ไม่หรอก เธอสิเหนื่อย เราขอโทษนะที่เราหาเรื่องเธอเมื่อวาน แล้วอีกอย่างเธอก็ล้างห้องน้ำมากกว่าเราอีก เอางี้พรุ่งนี้เราล้างมากกว่าเธอ แล้ววันมะรืนเราล้างเท่าๆกันนะ ดีไม๊” ฉันยื่นข้อเสนอเพราะเห็นว่ามันไม่สมควรที่เธอจะเสียสละมาทำงานที่มากกว่าฉันทั้งๆ ที่เราก็มีสองแขนสองขาเท่ากัน และนึกขอบคุณในน้ำใจของเธอที่มีต่อฉันทั้งๆที่เราเป็นคู่อริกัน

“ตกลง ตามที่เธอว่านะแล้วพรุ่งนี้เจอกัน บายจ๊า” แล้วเธอก็รับข้อเสนอของฉันอย่างง่ายดาย

“บาย”

และในคืนนั้นฉันก็ฝันถึงสาวน้อยหน้าตาสดใสที่ไปล้างห้องน้ำกับฉัน ตลอดทั้งคืน

…………..



Create Date : 02 ธันวาคม 2550
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 15:44:31 น. 0 comments
Counter : 293 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.