It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๐



บทที่ ๑๐

หลังจากคณะทัวร์ได้รับประทานอาหารเช้าที่เจ้าของสวนได้นำมาเตรียมต้อนรับเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางออกจากบ้านอนันตราก็มุ่งตรงไปสามพรานเพื่อให้ได้แวะเที่ยวชมซื้อกล้วยไม้ที่มีปลูกอยู่ดาษดื่น คณะทัวร์ชื่นชมกับกล้วยไม้นานาพันธุ์ที่ออกดอกบานสะพรั่งอยู่เต็มไปหมด กล้วยไม้ประจำวันเกิดก็มีให้เลือกมากมาย คุณช่างภาพลงไปเก็บภาพสวยๆ อยู่นาน

จนได้เวลาทั้งหมดก็เคลื่อนขบวนไปยังอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม จังหวัดราชบุรี ณ.ที่นี้มีหุ้นขี้ผึ้งให้ได้ชมละลานตาจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ เมื่อเดินเข้าไปในครั้งแรกจะเห็นศูนย์จัดแสดงอาคารเชิดชูเกียรติ ที่แสดงหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของคนดังๆ หลายคน

อนันตราพาลูกทัวร์ของเธอมายังลานพระสามสมัย ถ้ำพระชาดกที่แสดงเรื่องราวของพระเวชสันดรชาดก จัดแสดงตั้งแต่เริ่มนำตัวกัณหาและชาลีออกมาจนกระทั่งถึงชูชกท้องแตกตาย กุฏิพระอริยสงฆ์ที่ข้างบนนั้นจัดแสดงหุ่นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังไว้หลายท่าน เป็นที่พอใจของคุณป้าขี้ส่งสัยที่แอบไปลูบๆ คลำๆ หุ่นขี้ผึ้ง

“นี่หนูตาป้าจะบอกอะไรให้เมื่อตะกี้ป้าเห็นเลขเด็ดด้วยนะงวดนี้สงสัยจะรวยแล้วสิป้า” คุณป้าขี้สงสัยแอบมากระซิบกับอนันตรา

“เหรอคะคุณป้าดีใจด้วยนะคะขอให้รวยๆ สมกับที่ป้าต้องการ เดินไหวไหมคะเราจะไปอีกเรือนนึงทางโน้น” อนันตราพยุงคุณป้าขี้สงสัยให้เดินลงจากเรือนไม้หลังนั้น

“นี่ถ้างวดนี้ป้ารวยนะป้าจะพาหนูตาไปเลี้ยงข้าวเลยเชียว แล้วนี้ไอ้เจ้าหลานชายป้าหายไปไหนแล้วหล่ะนี่” คุณป้าขี้สงสัยมองหาหลานชายที่หายไปจากสายตา

“ตาเห็นเธอเดินไปกับเพื่อนเธอทางโน้นน่ะค่ะคุณป้า ไม่เป็นไรค่ะตาดูแลคุณป้าเองไม่ต้องห่วงนะคะ” แล้วอนันตราก็พาคุณป้าเดินขึ้นกุฎิหลังต่อไป

“คุณนิฉันถามอะไรคุณนิดสิ คุณเป็นแฟนคุณตาจริงๆ รึเปล่า” ช่างภาพที่เดินตามนิชาภัทรเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ

“อ่า คุณถามทำไมหรือคะ” นิชาภัทรรู้สึกงงกับคำถามที่ช่างภาพท่าทางห้าวๆ ในทริปนี้ถามทะลุกลางปล้องขึ้นมา

“ก็ถามไว้ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เรื่องจริงจะได้จีบเพราะฉันรู้สึกชอบคุณตาเค้าจริงๆ นะ ประทับใจตั้งแต่คราวไปเที่ยววัด ฉันยังแอบถ่ายรูปเธอไว้ตั้งหลายรูป นี่ว่าจะเอาให้เธอแต่ยังไม่มีโอกาสสักที แต่ไม่เป็นไรทริปต่อไปก็ให้ได้” พูดจบช่างภาพคนนั้นก็เดินไปเก็บรูปที่อื่นปล่อยให้นิชาภัทรยืนงงเป็นไก่ตาแตก นี่เธอจะมีคู่แข่งอีกแล้วหรือนี่แบบนี้ต้องเร่งทำคะแนนซะแล้วหล่ะสินี่นิเอ๊ย

......................................

หลังจากนั้นนิชาภัทรก็นำทุกคนมายืนรออยู่ที่บริเวณหน้าอุทยานโดนรอให้ลูกทัวร์ทั้ง ๙ คนที่มาพร้อมกับอนันตราเดินมาถึง นิชาภัทรเดินไปที่รถเพื่อนำมารับลูกทัวร์ทั้งหมดไปยังตลาดน้ำดำเนินสะดวก ที่นั่นลูกทัวร์จะได้ทานอาหารกลางวันบนเรือแจวเป็นการสร้างบรรยากาศ ให้กับอาหารมื้อนั้นไปด้วย คณะทัวร์ต้องแบ่งลงเรือสองลำ เพราะถ้าหากไปลำเดียวอาจจะคว่ำลงกลางทางได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะมีคนไม่มากก็ตามที แต่เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไว้ก่อน

คุณป้ากับหลานชายและเพื่อนดูจะสนุกเป็นพิเศษ ลูกทัวร์คนอื่นๆ ก็ซื้ออาหารบนเรือ หาของกินใส่ท้องจนอิ่มหน่ำสำราญ แม่ค้าส่งเสียงร้องเรียกลูกค้าบอกขายของให้ตะเบงเซ็งแซ่ บรรยากาศของการขายของที่ตลาดน้ำดูคึกคัก ทัวร์หลายๆ คณะมุ่งตรงมาที่นี่ เนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ สองข้างคลองเต็มไปด้วยสวนมากมาย ร่มรื่นถึงแม้แดดจะแรงแต่ก็ไม่ทำให้ทุกคนในคณะรู้สึกร้อนมากนัก

วิถีชีวิตชนบทของไทยที่มีมาแต่โบราณกาลขึ้นอยู่กับสายน้ำ น้ำเป็นแหล่งกำเนิดสรรพชิวิตน้ำในคลองดำเนินสะดวกถึงจะไม่ใสแต่ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเหมือนกับคลองแสนแสบของกรุงเทพที่เกินจะเยียวยารักษาให้หายดี มีคนเคยบอกว่าหากจะต้องการมาดูตลาดน้ำจริงๆ ต้องมาแต่เช้า เพราะชาวสวนจะออกมาแลกเปลี่ยนสินค้ากันจริงๆ ก็เวลานั้น หากมาเวลาอื่นก็จะเป็นแม่ค้าที่รับของมาขายอีกต่อหนึ่ง

ที่ปลายจุดพักเรือมีร้านขายของที่ระลึกและมีการโชว์การทำน้ำตาลปึกให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณนั้น สักพักได้ยินเสียงคนร้องตะโกน

“ช่วยด้วยลูกฉันตกน้ำ” เสียงหญิงคนหนึ่งที่ตะโกนออกมาให้ช่วยเหลือบุตรสาวของเธอที่ผลัดตกลงไปในคลองร้องลั่น

ไวกว่าความคิดนิชาภัทรวิ่งไปยังต้นเสียงกระโดดลงน้ำเพื่อช่วยเด็กที่ตกลงไปในคลอง ท่าทางของเด็กหญิงคนนั้นจะตกใจอยู่ไม่น้อยแต่ที่สำคัญเด็กหญิงคนนั้นรอดเพราะนิชาภัทรได้ช่วยเธอไว้

“ขอบคุณนะคะคุณที่ช่วยลูกของฉัน” มารดาของเด็กหญิงกอดลูกของเธอไว้กับอกและกล่าวของคุณนิชาภัทรที่ได้ช่วยชีวิตบุตรสาวของเธอให้พ้นจากเงื้อมมือพญามัจจุราช

“ไม่เป็นไรค่ะลูกคุณปลอดภัยก็ดีแล้ว” นิชาภัทรยิ้มให้กับสองแม่ลูก

“พี่นิเปียกไปหมดแล้วนะหาซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนก่อนดีไหมเดี๋ยวจะไม่สบาย” อนันตราเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสดงความห่วงใยคนตัวสูงตรงหน้าเธอที่ตอนนี้เปียกปอนไปหมดทั้งตัว

“อืมก็ดีแต่ว่าตอนนี้ตาช่วยเอามือถือพี่ไปดูหน่อยสิว่ามันยังใช้การอะไรได้หรือเปล่า ตอนโดดลงไปลืมคิดว่ามีมือถือด้วย สงสัยไม่รอดแล้วมั๊ง เฮ้อ...คุ้มกันไหมนี่นิชภัทร” นิชาภัทรเริ่มบ่นตัวเองที่บัดนี้มือถือราคาแพงลิบของเธอคนต้องพังไปด้วยน้ำมือของตัวเอง

“มือถือพังก็ซื้อใหม่ได้พี่นิ แต่ถ้าเด็กตายไปต่อหน้าซื้อจากไหนมาคืนแม่เค้าก็ไม่ได้หรอกพี่” อนันตราบอกกับนิชาภัทรเพราะเธอคิดเช่นนั้นจริงๆ

“อืมก็จริง ปะเราไปหาซื้อเสื้อผ้ากันก่อนดีกว่าพี่ชักหนาวแล้ว” จากนั้นทั้งสองก็เดินหาซื้อเสื้อยืดและกางเกงเลมาอย่างละตัว ใส่แบบนี้ไปก่อนก็ยังดีกว่าเดินเปียกไปตลอดทาง

ลูกทัวร์ทั้งหมดยืนตะลึงดูนิชาภัทรที่กระโดดลงน้ำเพื่อช่วยชีวิตเด็กหญิงคนนั้นและก็ต่างสรรเสริญเยินยอนิชาภัทรต่างๆ นาๆ เพราะไม่เคยเห็นใครที่จะมีน้ำใจได้อย่างนิชาภัทร

“ป้าว่าคุณนินี่นิสัยดีนะพ่อพี แต่เสียดายเนอะที่ไม่ชอบผู้ชายไม่อย่างนั้นจะให้พ่อพีจีบเสียหน่อย” คุณป้าขี้สงสัยบอกกับหลานชายของเธอ

“นั่นสิป้าแบบนี้เราก็ผูกขาดเที่ยวทัวร์กับบริษัทนี่ไปเลยก็แล้วกันเน๊อะป้า เวลาป้ามากับคุณนิคุณตาผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะคิดว่าเค้าต้องดูแลป้าได้แน่ๆ เลย” พีรพัฒน์บอกกับป้าของเขาเพราะเขาคิดว่าทัวร์ของนิชาภัทรต้องเป็นทัวร์ที่เต็มไปด้วยน้ำใจ

ความไว้ใจในบริษัททัวร์ของแบบนี้ซื้อหากันไม่ได้ง่ายๆ และเขาเองจะเป็นคนบอกต่อไปเรื่อยๆ เพราะภาพที่นิชาภัทรกระโดดลงไปช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นเขาได้เก็บภาพไว้แล้วและจะเอาไปโพสลงในกระทู้ท่องเที่ยวที่เขาก็เป็นสมาชิกอยู่ คนทำความดีต้องได้รับผลดีตอบแทนบ้างสิน่า

………………………………

คณะทัวร์ทั้ง ๑๑ คนออกจากตลาดน้ำดำเนินในเวลาบ่ายแก่ๆ นิชภัทรนำคณะทัวร์ไปที่อุทยานร.๒ ที่อัมพวา เพื่อเดินดูเรือนไทยหลังงามสมัยรัชการที่สอง เพื่อให้ทุกคนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยเฉพาะช่างภาพที่ดูจะติดอกติดใจถ่ายเรือนไทยเป็นพิเศษ หลังจากนั้นนิชาภัทรพาคณะทัวร์ของเธอเดินลัดเลาะไปยังตลาดน้ำอัมพวาที่ดูคึกคักเช่นเดียวกับตลาดน้ำดำเนินสะดวก ปล่อยให้เดินเที่ยวกันตามอัธยาศัย เพราะหลังจากนี้เมื่อใกล้เวลาพลบค่ำจะเป็นการล่องเรือชมหิ่งห้อยใต้ต้นลำพูตลอดเส้นทางคลองผีหลอกที่อัพวาแห่งนี้

ตลาดน้ำอัมพวาสองข้างทางเต็มไปด้วยขนมและอาหารที่เป็นของโบราณ ใครที่ชื่นชอบของเก่าๆ หรือจะรำลึกถึงความหลัง ตลาดน้ำแห่งนี้ก็จะมีสิ่งที่ให้นึกถึง ของเล่นเก่าๆ ที่หาได้ยากในสมัยนี้ ขนมบราณเช่นรังไรที่ขายอยู่ริมสะพานติดคลอง ร้านขายโปสการ์ดทำมือ สินค้าที่เป็นหัตถกรรม

คณะทัวร์ของนิชาภัทรเดินเรื่อยไปจนได้เวลาที่จะต้องขึ้นเรือชมหิ่งห้อยที่ครั้งหนึ่งบางลำพูในกรุงเทพเคยมีแต่ตอนนี้ได้หายไปหมดแล้ว เพราะในสมัยนั้นโรงงานสุราได้นำเอารากของต้นลำพูไปทำจุกขวดเหล้าจนหมด หลงเหลือเพียงต้นสุดท้ายที่ป้อมพระสุเมรุ ตรงสวนสันติชัยปราการเท่านั้น

แต่ที่นี่อัมพวาเต็มไปด้วยต้นลำพู หิ่งห้อยที่ทอแสงเรืองรองส่องแสงราวกับว่ามีใครเอาไฟมาประดับบนต้นไม้เหล่านั้น แสงวับวาวทำให้บริเวณนั้นสว่างไสวงดงาม คณะทัวร์ชี้ชวนกันดูภาพแห่งความประทับใจที่ใครก็ไม่สามารถสร้างได้ หรือแม้แต่กล้องของคุณตากล้องก็ไม่สามารถที่จะเก็บภาพเหล่านั้นไว้ได้ มีเพียงภาพในความทรงจำที่ดี และก็ยังแอบมีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าสักวันจะได้กลับมายังอัมพวา ดินแดนแห่งหิ้งห้อยทองแสงแห่งนี้อีกสักครั้ง

......................................

เมื่อส่งคณะทัวร์ถึงยังที่หมายก็ล่วงเลยเวลาไปดึกโขแล้ว นิชาภัทรส่งอนันตราถึงบ้านและเธอเองก็ขอนั่งพักอยู่ที่โซฟาด้านล่างจนเผลอหลับไป

อนันตราที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้วเดินลงมาเห็นนิชาภัทรที่หลับอยู่จึงถามมารดาว่า

“พี่นิหลับไปนานแล้วหรือคะแม่”

“นานแล้วลูก แม่เห็นว่าคงเพลียก็เลยปล่อยให้หลับไป” คุณกฤติกาตอบบุตรสาว

“ก็น่าจะเพลียอยู่หรอกค่ะแม่วันนี้พี่นิโดดลงไปในน้ำช่วยน้องที่ตกน้ำนี่ตาว่าจะดูพี่นิซะหน่อยว่าเป็นไข้หรือเปล่าเห็นหน้าเซียวๆ มาตั้งแต่เมื่อเย็น”

“ไปดูพี่เค้าหน่อยก็ดีลูก ใครรู้จะหาว่าเราไม่มีน้ำใจ”

อนันตราเดินมาถึงคนตัวสูงที่นอนสลบไสลไม่ได้สติ เอื้อมมาจับที่แขนของนิชาภัทรหมายจะปลุกให้ลุกขึ้นมาทานอะไรสักนิด แต่เมื่อมือนั้นแตะถูกตัวก็ต้องตกใจเพราะนิชาภัทรตัวร้อนจัด

“ตายแล้วแม่ พี่นิเป็นไข้ตัวร้อนจี๋เลยทำไงดีคะ” อนันตราอุทานด้วยความตกใจ ร้องเรียกมารดาที่นั่งอยู่ที่จักรเย็ยผ้าให้รีบลุกมาดู

สองแม่ลูกช่วยกันพยุงนิชาภัทรให้ขึ้นไปพักบนห้องของอนันตราด้วยความทุลักทุเล เมื่อถึงยังห้องพักอนันตราก็รีบไปหาน้ำอุ่นและผ้ามาเช็ดเนื้อตัวให้กับนิชาภัทร

“ไม่เป็นไรค่ะตาดูแลพี่นิเองแม่ไปนอนเถอะ”

“งั้นฝันดีนะลูก ถ้าคุณนิตื่นตาก็เอายาแก้ไข้ให้คุณนิกินสักสองเม็ดก็แล้วกัน” คุณกฤติกาวางยาแก้ไข้ที่เธอหยิบมาให้กับบุตรสาวไว้บนหัวเตียงที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาของบุตรสาวเธอ

“ค่ะแม่”

จากนั้นอนันตราก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับนิชาภัทร เธอหลับตาปี๋เพราะไม่อยากเห็นอะไรตรงหน้า แต่เมื่อผ้าที่ชุบน้ำเช็ดตัวนั้นผ่านไปยังแผ่นหลังที่ร้อนเป็นไฟของนิชาภัทร อนันตราก็ต้องสะดุ้งเพราะเนื้อนุ่มเนียนละมุนมือของนิชาภัทรที่เธอได้สัมผัสช่างน่าลูบไล้เสียเหลือเกิน

อนันตราสะบัดหน้าตนเองให้ความคิดประหลาดหลุดไปจากหัวสมองของเธอ นี่เธอกำลังหลงรักเจ้านายตัวเองหรือนี่

เป็นไปไม่ได้ !!!!

เธอไม่ได้หลงรักนิชาภัทรหรอกนะ ก็เธอไม่ได้ชอบผู้หญิงนี่นาจะเป็นไปได้อย่างไร สมองยังคงวนเวียนอยู่อย่างนั้น จนได้ยินเสียงนิชาภัทรครางเบาๆ อนันตราก้มลงไปเพื่อจะฟังเสียงนั้น

“น้ำหิวน้ำ” นิชาภัทรพูดเหมือนละเมอ

อนันตราวิ่งลงบันไดไปเพื่อจะหยิบน้ำในตู้เย็น แต่เอ๊ะ...คนป่วยต้องดื่มน้ำอุ่นนี่นา เธอจึงเปลี่ยนใจไปหยิบกระติกน้ำร้อน นำน้ำมาผสมให้อุ่นแล้วจึงรีบวิ่งขึ้นไปอีกครั้ง ยกตัวของนิชาภัทรขึ้นมาและป้อนน้ำอุ่นในแก้วให้กับนิชาภัทรได้ดื่ม

“พี่นิดื่มน้ำสักนิดนะคะ”

นิชาภัทรดื่มน้ำไปจนหมดแก้ว อนันตราคิดว่านิชาภัทรคงกระหายน้ำ จากนั้นเธอจึงนำยาที่มารดานำมาวางไว้ให้มาป้อนนิชาภัทร

“พี่นิทานยาหน่อยนะจะได้หายไข้” อนันตราจัดการป้อนยาให้กับนิชาภัทรและจัดแจงให้นิชาภัทรนอนลง เธอปิดไฟในห้องเหลือไว้แต่ไฟหัวเตียง

“หนาว...” เสียงเหมือนคนละเมอ

“อะไรนะพี่นิ” ท่าทางนิชาภัทรที่สั่นเป็นลูกนกบ่งบอกถึงอาการไข้ที่ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ บ่นหนาวแต่เหงื่อโทรมกาย

อนันตราเช็ดตัวให้กับนิชาภัทรอีกรอบเพื่อลดไข้ ล้มตัวลงนอนกอดคนตรงหน้าเธอเพราะท่าทางสั่นนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงได้เลย จนอนันตราเผลอหลับไปพร้อมกับอ้อมกอดของเธอที่กอดนิชาภัทรไว้อย่างหลวมๆ

.......จบทที่ ๑๐.......



Create Date : 20 มีนาคม 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 18:37:09 น. 8 comments
Counter : 334 Pageviews.

 
ว้าว 2 ตอน คนเขียนใจดีจังครับ

อิอิ คนอ่านเป็นปลื้ม


รักคุณรันหณ์จังเลย


โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:14:13:07 น.  

 
คุณข้าว

ฉันชดเชยให้ค่ะ ที่ต้องให้รอนาน



โดย: รันหณ์ วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:14:16:09 น.  

 
เร็วดีนะคะ วันนี้ได้อ่านสองตอนเลย นี่คุณทายหายไปไหนอะ หนูตากำลังจะปล้ำพี่นิเอ๊ย!! หนูตาเริ่มคิดลึกกับพี่นิแล้วนา อย่างนี้หนูตาเริ่มติดยา (ใจ) ที่พี่นิคอยป้อนให้แล้วใช่ป่าวค่ะคุณผิงดาว
ตอนนี้น่ารักดีค่ะ มีตัวกระตุ้นมาให้พี่นิตกใจเล่นด้วย (คุณตากล้อง)


โดย: ต้นรัง IP: 202.29.52.252 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:17:02:49 น.  

 
ฉันชดเชยให้ค่ะคุณต้นรัง เพราะว่าให้แฟนพันธุ์แท้แบบคุณต้องรอนานไปสักนิด

ตอนต่อไปคงช้าอีกสักหน่อย เด้อนางเด่อ

นั่นสิเนอะคุณทายเธอหายไปไหนน้อ


โดย: รันหณ์ วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:17:08:21 น.  

 
อุ้ย นานนิด ๆ หน่อย ก็จะรอค้าคุณคนเขียนที่น่ารัก (โดยเฉพาะกับแฟนคุณ) แฟน (นิยาย) อย่างต้นรังน่ะรออยู่แล้ว แต่ก็จะเข้ามาดูบ่อย ๆ แล้วกันค่ะ กลัวพลาด


โดย: ต้นรัง IP: 118.172.165.182 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:19:48:17 น.  

 
งั้นวันนี้อัพให้อีกตอนดีเปล่่่าน้อ สมองกำลังแล่นฉิว ฟิ้วววววววววววว


โดย: รันหณ์ วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:19:54:27 น.  

 
มาแล้วค่ะ ไม่ได้หายไปไหน
ไม่มาได้ไงคะ พี่รันหณ์ ใจดีขนาดนี้....
ทริปนี้ ที่บริษัททายกำลังจะพาไปตอนปลายเดือนพฤษเลยนะคะ...ดีจังได้มาชิมลางกับพี่นิและน้องอนันตราก่อน....

คุณต้นรังคะ...ยา(ใจ) ได้ผลจริงๆค่ะ เดี๋ยว น้องอนันตรา ต้องตกหลุม พี่นิแน่ๆ
ว่าแต่พี่นิต้องรีบทำคะแนนแล้วนะคะ คู่แข่งเริ่มแสดงตัวหลายคน เย้ พี่นิสู้ๆ


โดย: ทาย IP: 117.47.28.171 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:21:13:50 น.  

 
คุณทายคู่แข่งพี่นิมาแรงแซงทางโค้งปาดเข้าวงใน บุกถึงถิ่นอีกต่างหากนะขอบอกจ๊ะขอบอก


โดย: รันหณ์ วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:12:03:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.