Bloggang.com : weblog for you and your gang
It's not easy to be me
Group Blog
เรื่องสั้น
เรื่องเรื่อยเปื่อย
เรื่องภาพถ่าย
สำหรับ VIP
เรื่องยาว อรุณรุ่งในดวงใจ
เรื่องสั้น แนวยูริ ดำเนินทราย
เรื่องสั้นแนวยูริ : กาลนาน
เรื่องสั้น ความรักของฉัน ญรญ
นิยายเรื่องยาว มธุรดา (ยูริ,ญรญ)
กลกาล ยูริ yuri เรื่องยาว
All blogs
หนังสือสองเรื่องคลอดแล้ว
ปิดงานเขียนชั่วคราว
เรื่องสั้นแนวยูริ : นักเขียนเงา
เรื่องสั้นแนวยูริ : ช่วงชีวิตหนึ่ง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ภรรยาน้อย (ฉันไม่อยากเป็น)
เรื่องสั้นแนวยูริ : ตัวจริงที่ปวดใจ
เรื่องสั้น : นิราศสุขาวดี
เรื่องสั้นแนวยูริ : มุมกลับจากดวงดาว
เรื่องสั้น : ความในใจของรถอย่างฉัน
เรื่องสั้นแนวยูริ : เงา
เืรื่องสั้นแนวยูริ : ภาพเก่า
เรื่องสั้นแนวยูริ : สวมรอยเงาข้างใจ
เรื่องสั้น แนวยูริ : ประสบการณ์ (สปช.)
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๓๐ บทสุดท้าย
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๙
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๘
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๗
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๖
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๕
เรื่อแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๔
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๓
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๒
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๑
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๐
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๙
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๘
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๗
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๖
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๕
เรื่องแยวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๔
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๓
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๒
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๑
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๐
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๙
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๘
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๗
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๖
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๕
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๔
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ี ๓
เรื่องสั้น รองเท้ากับความรัก โดยผิงดาว
เรื่องแนวยูริ : ครั้งวันวาน บทที่ ๒
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑
เรื่องสั้น : บันทึกฝัน ของคุณต้นรัง (แนวยูริ)
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๒๐
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๙
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๑๘
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๗
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๖
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๕
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๔
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๓
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๒
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๑
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๐
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๙
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๘
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๗
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๖
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ิ ๕
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๔ เจิมซะ
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๓
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๒
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๘ เวลาที่ตรงกัน
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๗ รักครั้งใหม่
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๕
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๔ ขอเป็นคนถัดไป
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๓ นี่หรือความรัก
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๒ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๑ ขุดคุ้ย
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๐ ต้อนรับสมาชิกใหม่
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๙ เรื่องวุ่นๆ ของสองเรา
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๘ ลงตัว
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๗ ทายาทป้าแจ่ม
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๖ ของฝากจากทะเล
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๕ ทะเล
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๔ ของขวัญวันเกิด
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๓ เขาดินวนา
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๒ พิซซ่ามาส่งคร๊าบ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๑ ฝันดีคะ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๐ โชดดีนะเพื่อน
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๙ ผ่านไปด้วยดี
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๘ ผะ...ผีหลอก
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๗ โกรธฉันหรือเปล่า
เรื่องสั้นแนวยูริ : รอยบากในหัวใจ
เรื่องสั้น : บนเส้นทางสายความรักของฉัน
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๖ ขัดจังหวะจริ๊ง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๕ ฉันนี่นะ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๔ ตัวประกัน
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑ เริ่มเดินทางบทเรียนแรก
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๓ น้ำมนต์หลวงพี่โป๊งเหน่ง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒ ไฟฟ้าสถิตทำเหตุ
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 8 ตอนจบ
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 7
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 6
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 5
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 4
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 3
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 2
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 1
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 10 ตอนจบ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 9
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 8
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 7
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 6
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 5
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 4
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 3
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 2
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 1
เรื่องสั้นแนวยูริ : เพื่อนกันตลอดไป
เรื่องสั้นแนวยูริ : บังเอิญ
เรื่องสั้นแนวยูริ เรื่องฟ้าดาวและทะเล
เรื่องสั้นแนวยูริ : เรื่อง วันเหงา
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๖
ครั้ง วัน วาน บทที่ ๖
น้องคนไหนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมให้มาลงชื่อได้เลยนะครับ น้องๆ คนสวยกลุ่มนั้นนะสนใจเข้าชมรมกิจกรรมหรือเปล่าจ๊ะ เสียงรุ่นพี่ที่คณะประกาศผ่านโทรโข่งเสียงดังไปทั่วสนามบอล
ฉันกับเพื่อนๆ พึ่งจะเดินลงมาจากตึกเรียนก็ต้องให้มาพบกับเหล่ารุ่นพี่ ที่มาตั้งเต็นท์ประกาศรับสมัครรุ่นน้องเข้าชมรมเยอะไปหมด
บางคนก็มาขายสมุดประจำคณะ
นี่เธอจะซื้อหรือเปล่า ไปรยาเพื่อนในกลุ่มของฉันเห็นฉันหยิบๆ วางๆ สมุดอยู่หลายหนก็ถามขึ้น
ไม่รู้สิกอล์ฟ เราก็ไม่แน่ใจ แต่เราก็ซื้อมาแล้วนะเราอยากได้เล่มที่บรรทัดถี่ๆ หน่อยนะ
อ่อเหรอ เล่มนี้สิถี่หน่อย ว่าแต่จะเอาแบบถี่ๆ ไปทำไมกัน
เราเขียนเว้นบรรทัดไง จะได้เอามาจดอะไรตอนที่เราอ่านอีกรอบเหมือนเราโน้ตเองน่ะ
อ่อแบบนี้นี่เอง งั้นเราเอาแบบแป๊ดบ้างดีกว่า ไปรยาหยิบสมุดที่มีบรรทัดถี่ๆ ให้ฉันสองเล่มลำหรับเธอเองอีกสองเล่ม
เท่าไหร่คะพี่ ไปรยาถามรุ่นพี่
เล่มละสิบห้า สี่เล่มพี่คิดไปห้าสิบแล้วกันน้อง รุ่นพี่ที่นั่งตั้งโต๊ะขายสมุดตอบพวกเรา เมื่อเราจ่ายเงินเสร็จแล้วก็เดินไปหอสมุด เพราะวันนี้อาจารย์ที่สอนให้ไปหาหนังสือประกอบการเรียน
แยกกันไปหาหนังสือนะกอล์ฟ แล้วมาเจอกันที่นี่ ฉันบอกกับไปรยาเพราะหนังสือที่ต้องหามีมากเหลือเกิน
ได้ แล้วมาเจอกันได้เล่มไหนขอเราด้วยหยิบมาอย่างละสองเล่มเลยแล้วกันเราหารายชื่อหนังสือกันก่อนแล้วค่อยแยกย้ายกันไปแล้วกันนะแป๊ด
ฉันยืนค้นรายชื่อหนังสือและจดลงกระดาษไว้เพื่อที่จะเดินไปยังชั้นหนังสือพอได้ครบแล้วฉันกับไปรยาก็แยกย้ายกันไปหาฉันได้หนังสือมาบ้างแต่ก็ไม่ครบพอลงมาเพื่อที่จะรอไปรยาที่ด้านล่างก็เห็นชนกพรเดินเข้ามาเหมือนกัน
อ้าวนกมายืมหนังสือเหรอ
อืมใช่อาจารย์ให้หาหนังสือเยอะเลยอะไรนักหนาก็ไม่รู้แล้วแป๊ดหละ
พอกันแหละเราก็รอเพื่อนเหมือนกันนกไปเถอะเดี๋ยวไม่ทันมือดีมาฉกเอาไปก่อน ฉันบอกกับเพื่อนเพราะฉันเองก็มายืมไม่ทันเหมือนกัน
ได้เลยไปก่อนนะแป๊ด ชนกพรรีบมาค้นหาหนังสือและฉันก็ยืนช่วยชนกพรเช่นกัน เพราะว่าตอนนี้ไปรยายังไม่ลงมา
แป๊ดยังหาไม่เสร็จอีกเหรอ ไปรยาเข้ามาโอบเอวฉันจากทางด้านหลัง ทำเอาฉันสะดุ้ง
เสร็จแล้ว เราช่วยเพื่อนหาน่ะกอล์ฟ ฉันรีบจับมือของไปรยาที่โอบตัวฉันออกอย่างรวดเร็วกลัวว่าชนกพรจะหันมาเห็นเข้าแต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะตอนนี้ชนกพรจ้องหน้าฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
ฉันได้แต่ทำหน้าตาบอกชนกพรว่าไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะฉันเปล่า
ดูเหมือนชนกพรจะเข้าใจฉันและรีบทักขึ้นมาว่า
จะไม่แนะนำให้รู้จักกันหน่อยเหรอแป๊ดว่าคนสวยคนนี้คือใคร
อ่อลืมไป นี่กอล์ฟเพื่อนที่คณะเราและนี่นกเพื่อนโรงเรียนเก่าเรา ฉันแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน และแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตอนนี้ไปรยาปล่อยมือออกไปจากเอวของฉันได้
ยินดีที่ได้รู้จะนะกอล์ฟ แล้วเราคงได้พบกันใหม่แต่ตอนนี้เราคงต้องไปตามล่าหาหนังสือก่อนแล้วพบกันนะจ๊ะคนสวย ชนกพูดจบก็หยิบเอากระดาษหมายเลขหนังสือจากมือฉันไปหน้าตาเฉย และรีบเดินจากไป
เพื่อนตัวนี่ไปเร็วมาเร็วดีนะแป๊ด
อืม
ได้มาครบหรือเปล่า
ห๊ะอะไรนะ ฉันที่ยืนมองเหม่อตามหลังชนกพรไปหันกลับไปถามไปรยาอีกครั้ง
ถามว่าได้หนังสือมาครบหรือเปล่า
ไม่ครบหรอก เดี๋ยวว่าจะไปที่ศูนย์หนังสือไปดูหนังสือที่จะต้องใช้ประจำเผื่อจะต้องใช้ เราไปยืมกันก่อนดีกว่าแล้วก็ไปเขียนจองหนังสือไว้ด้วย อาทิตย์หน้าจะได้มายืม ฉันเดินนำไปรยามาที่เค้าเต้อร์ยืมหนังสือ และจัดแจงแบ่งหนังสือที่หามาได้เป็นสองตั้ง
จากนั้นก็นำเอาหนังสือที่ยืมมาไปฝากไว้ที่ห้องฝากของเพราะเราสองคนคงไม่หอบเอาหนังสือทั้งหมดไปที่ศูนย์หนังสือแน่ๆ
ศูนย์หนังสือวันนี้คนเยอะมากจนแทบล้นออกมานอกศูนย์
คนเยอะจังเลยนะแป๊ด
นั่นสิจะแหวกเข้าไปได้หรือเปล่านี่ แล้วนี่หนังสือจะมีเหลือหรือเปล่าก็ไม่รู้สิกอล์ฟ ฉันบ่นเพราะเห็นสภาพแล้วไม่น่าจะหาทางเข้าไปได้เลย
ตามเรามาแป๊ด ไปรยาจูงมือฉันเข้าไปในศูนย์และแหวกผู้คนจำนวนมากเข้าไปในนั้น ทำเอาฉันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
ช้าๆ หน่อยกอล์ฟ เราเดินไม่ทัน
เร็วๆ สิแป๊ด เดี๋ยวก็โดนเบียดออกไปหรอก
นี่จะมาซื้อหนังสือหรือจะไปดูคอนเสิร์ตกันแน่นี่ คนแน่นอย่างกะแจกหนังสือฟรี ฉันเคยไปเบียดซื้อตั๋วคอนเสิร์ตพี่ปุ๊มาบ้างแต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดแบบนี้มาก่อน
เอาน่าช่วงคนกำลังต้องการก็งี้แหละนึกไปว่าเรามาซื้อตั๋วดูคอนเสิร์ตก็แล้วกัน
แล้วไปรยาก็พาฉันเข้ามาข้างในได้อย่างที่เราต้องการแต่การเดินเลือกดูหนังสือก็ต้องมีอุปสรรคอีกตามเคย เพราะกว่าจะแทรกตัวเข้าไปในชั้นวางที่เราต้องการได้ก็แทบจะเหยียบกันตายไปข้างนึง
ฉันกับไปรยาได้หนังสือที่ต้องการมากันจนครบแต่ก็ต้องมาพบกับการต่อคิวเพื่อจ่ายเงินค่าหนังสือแบบหฤโหดอีกรอบ
ตัวออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้กอล์ฟ เรารอจ่ายเงินเอง
ไม่เป็นไรแป๊ดเราอยู่ด้วยแล้วกันออกไปก็ร้อนอยู่ในนี้ยังพอมีแอร์บ้าง
อืม แต่เราว่าไปรอที่หน้าตึกก่อนก็ได้นะที่นั่นลมเย็นดีตัวอยู่แบบนี้ก็ยืนเบียดคนอื่นเปล่าๆ
เอางั้นเหรอก็ได้งั้นตัวเสร็จแล้วออกไปหาเราที่หน้าตึกแล้วกัน
ได้เลยรอเราด้วยแล้วกัน หาซื้ออะให้เรากินด้วยหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว ฉันบอกไปรยาไปเพราะว่าตอนนี้ท้องของฉันร้องโครกครากจนกลัวว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ จะได้ยินเสียงท้องร้องของฉัน
ได้เลยแป๊ด งั้นเราออกไปหาซื้อผลไม้แถวท่าพระจันทร์เสร็จแล้วจะมารอตัวแล้วกัน ไปรยาเดินเบียดผู้คนออกไปแบบยากลำบากเหมือนกับขาที่เข้ามา
กว่าฉันจะจ่ายเงินค่าหนังสือได้ก็กินเวลาอยู่นานเหมือนกันเรียกว่ายืนรอจนเมื่อย
ฉันเดินออกมาหาไปรยาที่หน้าตึกและเห็นเธอถือถุงผลไม้ถุงใหญ่อยู่ในมือ
ซื้ออะไรมาหละ
ฝรั่งน่ะอะกินสิเดี๋ยวเป็นลมตายพอดี
ฉันรับถุงผลไม้มาและรีบเอาไม้มาจิ้มฝรั่งในถุงเพื่อจะเอาเข้าปากก็มีเสียงห้ามมาว่า
ระวังเม็ดนะ
อืม ฉันเคี้ยวฝรั่งอยู่จึงตอบไปรยาได้เพียงแค่นั้น
เดินไปท่าพระจันทร์กันไม๊มีร้านอร่อยอยู่หลายร้านเลยไปกินไอติมน้อยหน่ากัน
ไปสิ นี่เราหิวจนจะกินวัวได้ทั้งตัวแล้ว เราสองคนเดินไปหาร้านอาหารสำหรับใส่ท้องที่ร้องจนน่ารำคาญของฉันและเลือกนั่งที่โต๊ะใกล้ๆ กับทางออก
ไปรยาเป็นผู้หญิงที่รูปร่างสูงโปร่งออกจะไปทางผอมสูงมากว่า เธอบอกว่าเธอมาจากโรงเรียนหญิงล้วนแถวฝั่งธน ฉันก็ไม่รู้หรอกคะว่าเธอมาจากโรงเรียนไหน แต่ก็คิดว่าคงเป็นโรงเรียนในเครือแบบเดียวกับฉัน เพราะเธอเรียกอธิการว่าซิสเตอร์แบบเดียวกับฉันเหมือนกัน
เธอเล่าว่าวีรกรรมของเธอตอนที่อยู่ที่โรงเรียนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกฉันเท่าใดนัก จะว่าไปโรงเรียนหญิงล้วนก็มีออกจะเกลื่อนประเทศ ฉันรู้มาแต่ว่าแฟนของไปรยาไปเรียนต่อต่างประเทศเมื่อเรียนจบ เธอมักจะเล่าเรื่องแฟนของเธอให้ฉันฟังบ่อยๆ และใช้สรรพนามแทนแฟนของเธอว่าเค้า ซึ่งฉันก็คิดไปเองว่าแฟนของเธอคงน่ารักน่าดูที่เดียว
น่าจะไม่ต่างกับที่ฉันชอบกับภัทรทราภรณ์ไม่รู้ทำไมเมื่อไหร่ที่ไปรยาพูดถึงแฟนของเธอ ฉันก็มักมีใบหน้าของภัทรทราภรณ์ลอยเด่นให้เห็นอยู่เป็นประจำ และตอนนี้ฉันก็คิดถึงเธอเหลือเกิน เราไม่ได้พบกันมาเกือบสองสัปดาห์เพราะภัทรทราภรณ์บอกว่าเธอมีสอบเก็บคะแนน
ฉันก็ไม่รู้เรื่องราวของคณะแพทย์กับใครเขาสักเท่าไหร่ รู้แต่ว่าภัทรทราภรณ์เรียนค่อนข้างหนัก เพราะเมื่อเธอกลับมาที่บ้านเช่าวันไหนเธอก็จะหอบเอาหนังสือติดกระเป๋ามาด้วยมากมายและมักจะพูดว่า
เราเรียนหนักจริงๆ นะแป๊ดไม่เชื่อลองหิ้วหนังสือเราดูสิ ภัทรทราภรณ์มักจะพูดติดตลกแบบนี้เสมอ
ฉันนั่งยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อนึกถึงภัทรทราภรณ์จนคนตรงหน้าเห็นหน้าฉันแล้วก็อดถามไม่ได้
ยิ้มอะไรคนเดียวนะแป๊ด
ไม่มีอะไรหรอกนึกถึงเพื่อนแล้วก็เลยยิ้มนะ
เพื่อนคนนี้คงน่ารักมาหเลยสินะแป๊ดถึงได้นึกถึงแล้วก็ขำอยู่คนเดียว
อืมน่ารักมากเลยแหละเป็นเพื่อนที่เรารักมากๆ เลยนะ ฉันรู้สึกภูมืใจที่มีภัทรทราภรณ์เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด
เพื่อนหรือแฟนกันแน่แป๊ด
เพื่อนจริงๆ กอล์ฟเราไม่ได้ฮ็อตแบบกอล์ฟนี่จะได้มีแฟนมาเกทับเรา
เกย์ไม่เคยทับเรานะแป๊ด
? เครื่องหมายคำถามปรากฏบนหน้าของฉันขึ้นมาทันที ไปรยาคงเข้าใจความหมายชนใบหน้าฉัน
ก็เราบอกว่าเกย์ไม่เคยทับเรามีแต่ทอมทับไง ฮ่าๆๆๆ ไปรยาพูดไปก็หัวเราะไป
อ้าวนี่กอล์ฟเป็น...เหรอ
ใช้แล้ว อ้าวนี่ไม่รู้เหรอ เราพูดถึงแฟนของเราบ่อยๆ นะแฟนเราเป็นผู้หญิงนะ
ฉันส่ายหน้าไปมา
เวรกรรม นึกว่ารู้ซะอีกขอโทษทีที่พูดไม่ศรัญยู
ศรัญยูอะไรกอล์ฟ
ก็ไม่วงศ์กระจ่างไง ฮ่าๆๆ เชยจริงๆ ไปรยาขำฉันอีกรอบ
ฉันว่ากรรมคงสนองกรรมรวดเร็วทันตาเห็นเพราะฉันพึ่งจะว่าภัทรทราภรณ์ไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าไม่ค่อยจะเข้าใจคำอะไรกับเขาเลย และตอนนี้ฉันเองก็โดนเพื่อนใหม่ที่กำลังจะสนิทกันเมื่อไม่นานมาเล่นคำกับฉันเข้าให้แล้วสิ
.......................................
ฉันหอบหิ้วหนังสือทั้งหมดใส่เป้ไว้และขึ้นรถเมล์ที่ต้นสายกลับไปบ้านเช่า วันนี้รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่นัก เพราะฉันอยู่ซ้อมเพลงเชียร์จนเย็นมากแล้ว ฉันไม่ได้นัดกับชนกพรและจินตนาเพราะเราเคยนัดกันแล้วแต่ก็คลาดกัน เนื่องจากรุ่นพี่จะปล่อยพวกเราไม่ตรงตามเวลา
วันนี้ก็เช่นกันฉันเดินผ่านคณะของจินตนาแล้วก็เห็นเธอยังคงนั่งซ้อมเชียร์อยู่ก็เลยโบกมือให้สัญาณว่าฉันกลับบ้านก่อนแล้วกัน เธอพยักหน้ารับรู้แล้วฉันก็เดินมาที่รถเมล์นั่งรอให้รถเคลื่อนออกไปตามเวลา
กรุงเทพเมืองแห่งแสงสีในเวลานี้ที่บ้านของฉันผู้คนคงหลับใหลกันไปหมดแล้ว แต่ที่นี่รถยังติดไปเรื่อยๆ สายฝนก็ยังคงเทลงมาไม่ได้ขาด รองเท้าผ้าใบของฉันตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนที่นองอยู่บนพื้นถนน กว่าฉันจะฝ่าสายฝนเข้ามาที่บ้านได้ก็เล่นเอาเปียกไปหมดทั้งตัว
รตีกับธิติมากลับมาถึงบ้านก่อนฉัน และทำกับข้าวไว้รออยู่แล้ว
ถึงนานแล้วเหรอตีแล้วธิหละ
ธิอาบน้ำอยู่ เราโชคดีไงมออยู่ใกล้กว่าแป๊ดแล้วอีกสองคนหละ
ยังซ้อมเชียร์ไม่เสร็จเลยเราเลยกลับมาก่อนเหนื่อยนะเลยไม่ได้รอ งั้นเราไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนนะเปียกไปหมดแล้วเดี๋ยวเป็นหวัด
อืมไปเถอะ แล้วเรารอสองคนนั่นก่อนแล้วกันค่อยกินข้าว
ฉันเอารองเท้าผ้าใบไปวางตั้งไว้ให้น้ำที่เปียกเข้าไปในรองเท้าไหลออกมาบ้างและเอากระดาษหนังสือพิมพ์จับอัดลงไปในรองเท้า ถ้าไม่ทำแบบนี้พรุ่งนี้คงจะมีกลิ่นตุๆ มาจากรองเท่าฉันแน่ๆ วันหยุดนี้คงต้องไปซื้อรองเท้าผ้าใบใหม่อีกสักคู่เพราะถ้าเป็นแบบนี้ทุกๆ วันคงไม่ดีแน่ๆ
ฉันขึ้นมาที่ห้องและไม่ลืมแยกเสื้อผ้าออกมาต่างหาก เพราะคงต้องซักเสื้อเองน้ำจากการโดยสารรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยแระเด็นเปื้อนเสื้อนักศึกษาฉันเต็มไปหมด หากเอาไปซักกับเครื่องซักผ้าก็คงจะซักไม่ออกกว่าฉันจะเสร็จเรียบร้อยรตีก็เตรียมกับข้าวมื้อเย็นเสร็จพอดีเช่นกัน
ฉันลงมาก็เห็นชนกพรกับจินตนากลับมาถึงบ้านพร้อมๆ กัน ก็เลยไล่เพื่อนทั้งสองคนไปอาบน้ำ และบอกให้เอาเสื้อมาซักแยกต่างหาก และฉันเองก็ทำหน้าที่ซักให้ เนื่องจากฉันเข้าใจเพื่อนๆ ดีว่าไม่ชอบทำงานประเภทนี้ หากจะซักของฉันคนเดียวก็สิ้นเปลืองทรัพยากรแฟ๊บมากไปหน่อย ฉันว่าการอยู่ร่วมกันก็ต้องถ้อยที่ถ้อยอาศัยกันไปบ้างตามแต่เราจะทำได้
อาหารมื้อค่ำของพวกเราหกคนเป็นไปอย่างง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตองอะไร เพราะว่าเราอยู่กันแบบเพื่อนฝูง หากก็แค่รอครบองค์ประชุมแล้วก็ลงมือลุยแค่นั้น
คิดถึงกิ่งกับปุ๊กเน๊อะป่านนี้คงกินข้าวนอนหลับฝันดีไปแล้ว รตีที่กำลังเก็บจานไปล้างเพราะว่าวันนี้เป็นหน้าที่ของเธอพูดเหมือนบ่นๆ
ก็ว่างั้นแหละ เราสิกว่าจะถึงบ้านกว่าจะกินเสร็จ กว่าจะนอนเฮ้อ จินตนาบ่นพึมพำเหมือนกับจะพูดคนเดียว
บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปได้เชียงใหม่มีก็ดันไม่เลือกดันมาเลือกกรุงเทพก็งี้แหละทำใจ รตีหันมาแขวะเข้าให้
แม่บอกแล้วอย่ามาเรียนกอทอมอเฮ้อ.... ธิติมาถอนหายใจออกมายาวเหยีด ราวกับว่ามีอะไรหนักอกของเธออยู่เป็นตัน
และพวกเราที่เหลืออีกห้าคนก็พลอยถอนหายใจตามๆ กันไปด้วย นี่แหละเขาเรียกว่าไม่ลองไม่รู้ หรือสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่ามาเจอะกับตัวเอง
......................
ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปฉันกับภัทรทราภรณ์แทบไม่ได้พบปะหน้าตากันในวันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันตัดสินใจนั่งรถไปที่มหาวิทยาลัยของภัทรทราภรณ์ เธอคงอยู่ที่หอพักไปถามหาคงจะง่ายกว่า
เมื่อมาถึงก็บอกกับผู้ดูแลหอพักว่าจะมาพบนิสิตและฉันก็ยืนรออยู่หน้าหอพักนานมาก สักพักฉันก็เห็นภัทรทราภรณ์เดินมากับกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่
แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่ได้ทำให้ฉันเบิกบานใจอย่างที่ได้คิดไว้ภัทรทราภรณ์มีคนถือหนังสือเดินตามเธอมาด้วย ผู้ชายใส่แว่นผิวขาวแบบพวกแพทย์ทั่วไป หน้าตาหมดจดเกลี้ยงเกลา
โอ๊ยนี่ฉันมาทำอะไรที่นี่ ฉันได้แต่พูดกับตัวเองอยากจะแทรกตัวหายไปจากพื้นที่ตรงนี้แต่ขาเจ้ากรรมมันกลับก้าวไม่ออก ยืนนิ่งไม่ไหวติง
แป๊ด มาได้ไง เสียงของภัทรทราภรณ์ร้องเรียกฉันดังๆ ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์
ดีใจจังเลยที่แป๊ดมาเราคิดถึงแป๊ดที่สุดในโลกเลยนะ ภัทรทราภรณ์แทบจะกระโดกกอดคอฉันแล้วในตอนนี้
ฉันพยายามปรับสีหน้าให้ดูแช่มชื่นกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาก่อน ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแต่ในหัวใจเปื้อนคราบน้ำตา
ฉันไปนั่งกินขนมเล่นที่โรงอาหารกับภัทรทราภรณ์พยายามชวนเธอคุยโน่นนี่ไปเรื่อยๆ
กิ่งเรียนหนักมากเลยเหรอ
อืมใช่หนักจนแทบจะบ้าเลยหละ
ทำไมหละ
ก็คิดดูแล้วกันนะ ข้อสอบมาร้อยคะแนนคนทำได้คะแนนสูงสุดนะร้อยเต็ม เราได้แปดสิบห้านี่ตกมีน
หาอะไรนะแปดสิบห้าตกมีนนี่นะ ถ้าเป็นของเราได้เอไปแล้ว ฉันที่พอรู้เรื่องการเรียนของภัทรทราภรณ์ก็ยิ่งกลายเป็นพวกเด็กๆ ที่นั่งฟังแล้วอ้าปากหวอ
ก็ใช่นะสิตกมีนแบบที่เรียกว่าจะต่ำที่สุดเลยหละดีนะที่ประณตมาช่วยติวให้ค่อยไปได้ดีกับเค้าหน่อย
อืมประณตเหรอคนที่ถือหนังสือให้กิ่งนะเหรอ
ใช่แล้วคนนั้นแหละเพื่อนสนิทคนใหม่ของเราเลยหละทั้งใจดีทั้งเรียนเก่ง น่ารักด้วยนะพาเราไปกินข้าวข้างนอกอยู่บ่อยๆ ภัทรทราภรณ์ทำท่าทางชื่นชมเพื่อนใหม่ของเธอจนออกนอกหน้า
ยิ่งภัทรทราภรณ์ชื่นชมเพื่อนใหม่มากแค่ไหนฉันเองก็ยิ่งปวดร้าวมากขึ้นเท่านั้น แล้วจะอยู่ให้เค้าชื่นชมกันอีกทำไมหละนี่กลับดีกว่ามั๊งอรุณวิลัย
ประณตถือพวงน้ำอัดลมและน้ำแข็งเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าฉันกับภัทรทราภรณ์ และรินใส่แก้วให้จนเรียบร้อย
อะสาวๆ ดื่มน้ำก่อนให้ชื่นใจ
ขอบใจนะประณตอ่อนี่ลืมแนะนำไปนี่แป๊ดเพื่อนสนิทเราเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่ยังละอ่อน แล้วนี่ประณตเพื่อนเราที่คณะหละแป๊ด ภัทรทราภรณ์ช่างไม่รู้อะไรเลยมาแนะนำหนามยอกอกให้ฉันรู้จักซะงั้น
ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณแป๊ด ประณตยื่นมือมาให้ฉันจับอย่างเป็นมิตร
ฉันก็ยื่นมือจับกลับไปและรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีฝ่ามือที่นิ่มมากๆ นี่กระมังมือหมอที่ใครๆ เค้าก็บอกว่าเป็นมือสะอาดปราศจากเชื้อโรคและผิวที่ขาวก็ยิ่งทำให้ประณตดูดีมากๆ ในสายตาของฉัน ฉันว่าภัทรทราภรณ์เลือกผู้ชายได้ถูกคนแล้ว
เราสามคนนั่งคุยกันได้อีกสักพักใหญ่ฉันก็ขอตัวกลับบ้านโดยอ้างว่าฉันต้องกลับไปอ่านหนังสือต่อที่บ้าน เพราะขืนอยู่ไปหัวใจของฉันก็คงบอบช้ำไปมากว่านี้ ฉันนั่งรถเมล์กลับไปพร้อมกับน้ำตาที่จะไหลออกมาอยู่เรื่อยๆ ลมที่ปะทะใบหน้าของฉันมันยังไม่แรงพอที่จะทำให้ใบหน้านี้ไร้ความรู้สึกหรือด้านชากับเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้เลย
.................
คนที่จับสังเกตได้ว่าฉันเปลี่ยนไปก็เห็นจะมีแต่ไปรยาเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เห็นฉันซึมไปถนัดตาตั้งแต่กลับมาเรียนฉันก็ไม่ค่อยพูดอะไรมากมายนัก ตั้งหน้าตั้งตาเรียนๆ ไปวันๆ
แป๊ดเป็นอะไรบอกเราสิเราช่วยได้หรือเปล่า
ไม่ได้เป็นอะไรหรอกกอล์ฟ เราคงเหนื่อยๆ กับเรื่องเรียนน่ะ ฉันพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่พูดเรื่องที่เกิดกับตัวเองกับไปรยามากนัก
ขอให้จริงเถอะแต่อาการของแป๊ดเหมือนคนอกหักนะนี่
เป็นแม่หมอข้างสนามหลวงตั้งแต่เมื่อไหร่กันกอล์ฟ ฉันเย้าเธอเพราะเธอเดาได้แม่นยำกว่าที่ฉันคิดไว้ หรือว่าใบหน้าฉันมันบ่งบอกว่ากำลังอกหักหรืออย่างไร
ก็ตั้งแต่เห็นอาการแปลกๆ ของแป๊ดนะแหละ
อะเหรองั้นเย็นนี้เราเอาเสื่อไปปูใต้ต้นมะขามแล้ววางป้ายไว้ว่าแม่หมอดูแม่นๆ ได้เลยสิ
อะแสดงว่าอกหักมาจริง
ก็ไม่เชิงหรอกจริงๆ ก็แค่ถากๆ ไม่ถึงกับหักดังเป๊ะ เพราะว่ายังไม่เคยตกลงใจเป็นแฟนกันจริงๆ
อืมเหรอผิดกับเราเลยนะเค้าบอกเราว่าเรานะไกลกันเกินไป แล้วก็ขอเลิกกับเราทั้งๆ ที่เราสองคนสัญญาว่าจะรักกันไปนานๆ ไม่นอกใจ แต่ก็อย่างว่านะเราเข้าใจว่ารักแท้แพ้ระยะทางไกลกันข้ามโลกคนละซีกโลกเค้าหลับเราตื่นเค้าตื่นเราหลับ ไปรยาเริ่มเล่าเรื่องของเธอบ้าง เพราะหมู่นี้เธอเองก็ไม่ได้แตกต่างไปจากฉันเหมือนกัน
อืมนั่นสินะบางครั้งคนเราเวลาอะไรที่มันห่างกันมากๆ แล้วยังดันทุรังอยู่สุดท้ายมันก็จบอย่างไม่เป็นท่าเลยนะจริงไม๊กอล์ฟ
เราก็ว่างั้นแหละ
เราสองคนมองหน้ากันไปมาแล้วก็อดขำท่าทางเศร้าของเราทั้งสองคนไม่ได้ จากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่ เหมือนกับว่าเราทั้งคู่ผ่านศึกหนักหนาสาหัสมาด้วยกันและมาพบทางเดินที่จะต้องมีคนคอยช่วยรักษาบาดแผลที่เจ็บหนักของเราทั้งสองคน
พยาบาลทางใจที่มีเพื่อนใหม่มาคอยช่วยเยียวยาสำหรับฉันแล้วช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเสมอ
.....................
ภัทรทราภรณ์กลับมาบ้างในอาทิตย์นี้โดยมีประณตขับรถมาส่งถึงบ้านเพื่อนๆ ต่างก็มองหน้าฉันสลับกับหน้าของภัทรทราภรณ์ไปมา แต่ฉันก็ไม่ได้แสดงการอะไรออกมาให้ทุกคนได้เห็น เพราะตอนนี้ฉันเริ่มทำใจได้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ภัทรทราภรณ์ยังคงปฏิบัติตัวเช่นเดิมหยอกล้อกับฉันและเพื่อนๆ แบบเดิมเพียงแต่วันนี้ฉันบอกว่าฉันจะไปซื้อรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่เธอก็กุลีกุจอโทรบอกให้ประณตมารับฉันกับเธอไปเดินห้างแถวๆ ชิดลมทันที
ประณตมารับพวกเราสองคนในเวลาบ่ายแล้วฉันจำใจต้องไปเดินห้างและให้ภัทรทราภรณ์เลือกซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ จะว่าไปประณตพิถีพิถันกับเรื่องเครื่องแต่งกายมากว่าฉันที่เป็นผู้หญิงด้วยซ้ำไป พอบอกงบประมาณไปว่าฉันมีสำหรับซื้อรองเท้าคู่ใหม่เท่าไหร่
ประณตก็เดินไปหยิบรองเท้าที่ราคาพอๆ กับงบที่ฉันมี ฉันเสียอีกที่เรียนบัญชีกลับทำไม่ได้แบบเขา เราเดินเลือกรองเท้ากันอยู่ไม่นานมากก็ได้รองเท้าใหม่ของฉันมาอยู่ในมือของประณตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันจะเอามาถือเองประณตก็บอกว่าไม่ต้องหรอกเขาเป็นผู้ชายถือให้สาวๆ แบบพวกฉันจะดีกว่า
เมื่อประณตแสดงเจตนาเช่นนั้นฉันก็ไม่อยากจะขัดใจ เพราะการเดินตัวเปล่าเลือกซื้อของดูจะสบายกว่าที่ต้องเดินถือของไปด้วยเลือกของไปด้วย ประณตเลือกเสื้อและกางเกงให้กับภัทรทราภรณ์ อยู่สองสามชุด ฉันว่าสไตล์การเลือกของประณตดูดีเข้ากับภัทรทราภรณ์เป็นอย่างมาก นี่ถ้าไม่บอกว่าประณตเรียนหมอฉันคงคิดว่าเขาเป็นสไตล์ลีสเลยหละ
กว่าเราจะออกมาจากห้างก็เวลาค่ำมืด ประณตมาส่งฉันและภัทรทราภรณ์กลับบ้าน ฉันก็กลับมาทำเป็นนั่งอ่านหนังสือต่อที่โต๊ะกินข้าวร่วมกับเพื่อนๆ ที่นั่งทำรายงานส่งอาจารย์กันอยู่เสียงพิมพ์ดีดของธิติมาก็ดังเป็นเสียงข้าวตอกแตกอยู่เป็นระยะ คนอื่นๆ ก็นั่งอ่านหนังสือกันไปเรื่อยๆ
ฉันได้แต่แอบมองภัทรทราภรณ์อยู่เป็นระยะๆ เธอยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จนเวลาล่วงเลยมาเกือบจะตีสอง
ยังไม่นอนอีกเหรอแป๊ดเราง่วงแล้วไปนอนกันเถอะ ภัทรทราภรณ์ชวนฉันที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อ
เรายังไม่ง่วงเลยกิ่งกิ่งง่วงก็ไปนอนก่อนเถอะ ฉันบอกปัดไปเพราะฉันไม่อยากที่จะเข้านอนพร้อมเธอ
ไม่ง่วงก็ต้องไปนอน
ถ้าไปก็กลัวดิ ฉันเริ่มจะเถียงแล้ว
ถ้าแป๊ดไม่ไปเราก็ไม่ไปเหมือนกัน ภัทรทราภรณ์ยังคงดื้อดึงจนฉันใจอ่อนยอมทำตามที่เธอบงการ
เมื่อถึงเวลาเข้านอนภัทรทราภรณ์ก็ยังคงใช้แขนของฉันหนุนต่างหมอนเหมือนเช่นเคยและเราสองคนก็ยังคงนอนกอดกันแบบที่เราเคยทำทุกคืนเมื่อได้อยู่ด้วยกัน ฉันได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบาของภัทรทราภรณ์ออกมาเป็นระยะๆ
ฉันก้มลงสูดดมกลิ่นแชมพูจางๆ จากเรือนผมของเธอ และน้ำตาที่ฉันพยายามจะกลั้นไว้อยู่นานก็ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย ตอนนี้ทำนบที่กักกันน้ำตาของฉันได้พังครืนลงมาอย่างไม่มีทางที่จะปิดกั้นไว้ได้ ฉันร้องไห้ออกมาโดยปราศจากเสียงรบกวนหญิงสาวที่ฉันรักปานดวงใจ
และฉันก็รู้แล้วว่าความเป็นไปไม่ได้ระหว่างเรา และช่องว่างที่เราสองคนกำลังสร้างขึ้นมานั้นมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมากขึ้นทุกทีๆ จนเราสองคนแทบจะไม่มีอะไรที่จะมาเชื่อมใจเอาไว้ด้วยกันอีกต่อไปแล้ว
.. จบบทที่ ๖......
Create Date : 21 พฤษภาคม 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 18:12:27 น.
13 comments
Counter : 303 Pageviews.
Share
Tweet
มาแล้วค่ะ แต่ใครน้า มาก่อนเราได้เนี่ย
ช่องว่างที่สร้างขึ้นบางทีมันไม่รู้ตัวหรอก จริงไหมค่ะ บางทีมันเป็นจิตใต้สำนึกกระตุ้นให้ปฏิบัติ
คอยติดตามเหมือนเดิมค่ะ แต่วันศุกร์นี้ว่าจะเดินทางไปเชียงใหม่ค่ะ ไปเชียงดาว น่าจะไปหลายวัน แต่กำหนดการยังไม่แน่นอน เป็นกำลังใจให้คุณผิงดาวนะคะ
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.167.32 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:13:51 น.
คุณต้นรังเร็วกว่าอีกแล้ว เซงเลย กะจะมาเป็นที่หนึ่งซักหน่อย
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:51:47 น.
ไหงเส้าจังเลยครับแต่งเพื่อข้าวยังไงก้ดูแลสุขภาพด้วยน้า เป็นห่วงครับผม
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:03:00 น.
คุณต้นรัง
ไปเชียงดาวทำงานหรือไปเที่ยวคะ ไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะ หายหยูกยาเอาพกติดตัวไปด้วย เกิดไม่สบายจะไม่ดีนะค่ะ
พูดเหมือนเชียงดาวห่างไกลความเจริญเหลือเกินนะฉัน
แอบดีใจที่คุณกลับมาอ่านอีกครั้งก็เรามันแฟนพันธุ์แท้กันนี่เน๊อะคุณจริงปะ อิอิ
คุณข้าวขา
พอคุณทวงเรื่องฉันก็นึกขึ้นได้เลยคะว่าลืมเรื่องนี้ไปเลย ฉันก็เลยรีบปั่นจนหัวหมุนเพื่อคุณโดยเฉพาะ หุหุ
ไงก็อย่าไปโดนฝนมากนักนะคะม่ายดีแน่ๆ ถ้าจามฟิดฟัด
เป็นห่วงเด้อค่า
โดย:
รันหณ์
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:30:25 น.
โถ ยังไงก็เข้ามาอ่านค่ะ ดเห็นคุณกว่าจะอัพตอนใหม่นี้ใช่เวลานานเหมือนกันนะคะ แต่ช่วงนี้เดินทางบ่อย ก็อย่างนี้แหละค่ะคนตกงาน เลยไม่อยู่กับที่ ก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกค่ะ "วัด" เหมือนเดิม สบายใจดี ไปเชียงดาวนี่ก็ไปวัดค่ะ ไปกราบนมัสการหลวงปู่ หลวงตาที่เชียงดาว แล้วคงอยู่หลายวันเหมือนกัน
แล้วจะเอาบุญกลับมาฝากนะคะ ทั้งคุณผิงดาว คนที่คุณรัก (โดยเฉพาะคุณแฟน) แล้วก็แฟนคลับของคุณ จะเป็นคนที่มีแต่ความสุขค่ะ (เพราะได้อ่านเรื่องของคุณ) อวยพรไว้ก่อนเลย แต่เดินทางจริงก็คงวันศุกร์
แล้วก็จะเตรียหยุกยากไปอย่างดีเลยค่ะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ๆ ด้วยไปป่าไปเขาก็เตรียมไปค่ะ ขอบคุณนะคะไม่งั้นคงลืมไปแล้ว
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.167.162 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:48:53 น.
คุณต้นรังคะ
พอดีฉันบ้านะคะเขียนทีสองเรื่องควบก็เลยอัพบางเรื่องช้าไปหน่อย เพราะหากว่าเขียนเรื่องไหนแล้วก็จะเกาะติดเรื่องนั้นจนกว่าจะหมดเทียน
เอาควินินไปด้วยนะคะ ฝนตกๆ แบบนี้มาลาเรียระบาดดีนักเชียว หายาทากันยุงไปด้วยก็ดีคะ ไข้เลือดออกเดี๋ยวนี้มีหลายสายพันธุ์
อนุโมทนาบุญล่วงหน้าคะคุณ ขอความสุขความเจริญจงเกิดแก่ผู้ปฏิบัติธรรมเช่นคุณ
โดย:
รันหณ์
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:18:48 น.
อ้ะนะมีดองยังงี้จะงอนดีไหมเนี้ยครับ
แต่ยังไงคุณรันหณ์ก้แต่งออกมาแล้ว ยังไงตอนหน้ามาลงเร็วนะครับคุณรันหณ์
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:44:26 น.
ขอร้องสักคำได้ปะคะ
จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แค่่นี้อะคะคุณข้าว
โดย:
รันหณ์
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:03:10 น.
ขอร้อง ได้โปรด พลีสสสสส
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:18:14 น.
ขอโทษนะครับ พอดีรีบพิมพ์ไปหน่อยเลยตกหล่น คำว่าขอร้องไป อภัยให้กันนะครับ ข้าน้อยยอมรับผิด ณ ที่นี้ครับ
ไม่เคืองกันน้าครับคุณรันหณ์
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:36:31 น.
อย่าเข้าใจผิดค่ะที่ขอร้องหมายถึงฉันขอกรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
นะค่ะคุณข้าวขา
อย่าเข้าใจผิดนะค่ะ
คือฉํนอายกกรี๊ดนะคะ
โดย:
รันหณ์
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:51:54 น.
ไม่ได้คิดโกรธเคืองคุณแต่อย่างใดคะ แค่อยากกรี๊ด ลั่นๆ เท่านั้นเอง
โทษทีค่ะที่ทำให้คุณเข้าใจผิดไปกันใหญ่
โดย:
รันหณ์
วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:53:20 น.
อ่อครับ เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด นึกว่ารันหณ์จะเคืองกันซะอีกโล่งใจมากมาย
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:02:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน
คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา
เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
ปิงฟ้าวิลันดา
ฟ้าพิงดาว
ดวงตะวัน
วินทร์ เลียววาริณ
ชุมนุมคนรักเพชรพระอุมา
วรรณวรรธน์
ประภัสสร เสวิกุล
คีตาญชลี
น้องหัวฟู
น้องนิค
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ช่องว่างที่สร้างขึ้นบางทีมันไม่รู้ตัวหรอก จริงไหมค่ะ บางทีมันเป็นจิตใต้สำนึกกระตุ้นให้ปฏิบัติ
คอยติดตามเหมือนเดิมค่ะ แต่วันศุกร์นี้ว่าจะเดินทางไปเชียงใหม่ค่ะ ไปเชียงดาว น่าจะไปหลายวัน แต่กำหนดการยังไม่แน่นอน เป็นกำลังใจให้คุณผิงดาวนะคะ