It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 8

ความหลัง ตอนที่ 8

เมื่อ ฉันและพี่แมวทำความเข้าใจกันแล้ว เราก็ไม่ยอมคุยเรื่องที่เคยหมางใจกันอีกเลย เพราะว่าเราคิดว่า ฝังกลบ ความทรงจำที่เลวร้ายของเราทิ้งไปดีกว่า เมื่อไม่รื้อฟื้นก็ไม่มีเรื่องที่ต้องคิดมากแต่เราไม่มีใครรู้เลยว่า คลื่นใต้น้ำนั้นรุนแรงกว่า คลื่นที่เราเห็นกันซะอีก

ฉันรอวันที่พี่แมวจะรับปริญญา เพราะเราสัญญากันว่าจะ ไปทำในสิ่งที่เราอยากทำและอยากไป เรา สองคน ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่าเปิดเผย เหมือนคู่รักที่ใช้ชีวิตร่วมกันโดยทั่วไป ไม่ปิดบังอีกต่อไปฉันรับจ้างสอนพิเศษเด็กเล็กๆ หลังจากเลิกเรียน พี่แมวได้ทำงานในบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง เรา สองคนไม่ได้รบกวนทางบ้านอีกเลยหลังจากที่เรา เลือกที่จะทำตามใจเราต้องการ ฉันเหลืออีกเทอมเดียวเท่านั้นก็จะเรียนจบ ฉันพยายามเรียนให้จบ 3 ปีครึ่ง เพื่อจะได้ออกมาหางานทำ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับ ชีวิตคู่ของฉันกับพี่แมว

สำหรับชีวิตเด็กบ้านนอกอย่างฉันที่ต้องดิ้นรนทำงานนั้น ฉันถือว่ ไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก แต่สำหรับพี่แมวที่เป็นคุณหนูมาโดยตลอดไม่เคยลำบาก ฉันเข้าใจว่าพี่แมวคงอึดอัดใจที่จะบอกฉันพี่แมวยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ มีแต่คอยให้กำลังใจฉันเสมอมา พี่แมวเคยพูดว่า “คนเรานะหนุ่ย ชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นกันไปพี่เลือกแล้วเลือกที่จะเดินทางนี้ พี่จะพิสูจน์ให้ได้ว่าเราสองคนเลือกทางไม่ผิด” นั่นเป็นคำที่พี่แมวพูดเสมอๆ เมื่อฉันรู้สึกท้อแท้กับ ชีวิต

แล้ววันรับปริญญาของพี่แมวก็มาถึงเราสองคนออกจากบ้านแต่เช้า เพราะว่ากลัวรถติด เมื่อไปถึงพี่แมวก็ต้อง ทำผม แต่งหน้า ที่ร้านเสริมสวยที่จองคิวไว้ข้างๆ มหาวิทยาลัยนั่นเอง ส่วนฉันก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าร้าน สักพักหนึ่ง มีนักศึกษาเข้ามาในร้านอีกเสียงจ๊อกแจ๊คจอแจก็เริ่มทำลายความเงียบสงบของร้านเสริมสวยลงอย่างรวดเร็ว

ฉันรับอาสาเป็นตากล้องและเป็นเด็กรับใช้ตลอดงานรับปริญญานั้นด้วยความเต็มใจ พ่อและแม่ของพี่แมวมาในงานนี้ด้วย ท่านยังคงทักทายฉันเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อาม่าของพี่แมวสิแม้แต่ตายังไม่มองฉันเลย และฉันก็ได้เห็น เค้าคนนั้น หนามยอกอกของฉันมากับอาม่า คอยดูแลประหนึ่งว่าอาม่าเป็นเทวาดก็ไม่ปาน แทบไม่ต้องลุกเดิน นี่ท่าหากว่าเค้าคนนั้นอุ้มอาม่าได้คงอุ้มเดินรอบงานแล้วกระมัง ฉันรู้สึกหมั่นใส่อย่างบอกไม่ถูก พี่แมวเห็นสายตาของฉันแล้วเดินเข้ามาคุยด้วย

“หนุ่ย พี่ว่า เรานะใจเย็นๆ นิดนะเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้วอดทนอีกหน่อยนะที่รัก” พี่แมวกระสิบข้างหูฉัน ทำให้ฉันลด ความร้อนแรงในอารมณ์ ลงได้เล็กน้อย

“ค่ะพี่ หนุ่ยจะพยายาม ทำตามที่พี่บอก”

“ค่ะ อย่าอารมณ์เสียนะค่ะ เดี๋ยวไม่หล่อไม่รู้ด้วยน้าาา” แล้วสายตากลุ้มกริ่มของพี่แมวก็มองมาที่ฉัน

ฉันอยากจับพี่แมว มาจูบตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไปมาส่งสายตาแบบนี้ หุหุ ไม่อยากเชื่อเล๊ยยยว่ากลางที่สาธารณะพี่แมวจะกล้ามายั่ ฉันถึงเพียงนี้แต่ ช่างเถอะฉันได้แต่พึมพำว่า

“ฝากไว้ก่อนเถอะที่รัก !!!!!! ”

“อะ ฝากไว้นะไม่มีดอกเบี้ยนะรีบมาเอาคืนหละเดี๋ยวที่ฝากไว้นะจะเน่าหมด อิอิ”

“ยังอีก นะที่รักรีบๆ เถอะ เค้าเรียกเข้าห้องประชุมแล้ว เดี๋ยวเจอกันนะค่ะหนุ่ยรออยู่ที่หน้า ตึกนะพี่ พวกคุณพ่อคุณแม่พี่คงกลับแล้วหละ เห็นอาม่า บ่นๆ นะว่าเหนื่อย แต่ไม่ได้ บ่นกะหนุ่ยหรอกนะบ่นกะพี่ อั๋นนะพี่ “

“ค่ะ พี่รู้แล้ว ไปก่อนนะค่ะที่รัก เดี๋ยวออกมาแล้วไปทานข้าวด้วยกันนะ” พูดจบพี่แมวก็เดินเข้าไปในแถว ของเหล่าบัณฑิตทั้งหลาย และหายกลืนเข้าไปในกลุ่มคลเหล่านั้น ส่วนฉันก็ถ่ายรูปเก็บรายละเอียดไปตลอดจนพี่แมวเดินเข้าหอประชุมและปลีกตัวออกมา รออยู่ที่หน้าตึก

…………………………………………………

“ไอ้หนุ่ย เฮ้ย…. ทางนี้” เสียงต้องรียกฉันโหวกแหวกโวยวายอยู่หน้าตึก

“พี่แมวเข้าหอประชุมแล้วเหรอ หนุ่ย”

“อืมเข้าไปแล้ว มีอะไรเหรอ”

“ไม่มีอะไรหรอก เราเอาของมาให้พี่เค้านะ มาแสดงความยินดีกะพี่เค้าหน่อยในฐานะแฟนเพื่อนเอ๊ยเพื่อนแฟนนะ เข้าใจไม๊” แล้วเจ้าต้อก็ลอยหน้าลอยตาอันยียวนกวนประสาทฉันอีกตามเคย

“เออ รู้แล้วโว๊ยเดี๋ยวปั๊ด จะมาเอาแฟนเพื่อนทำแฟนซะนี่ เออ…ต้อ เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันสิเผื่อ พี่เค้าไม่ไปกะอาม่านะ ราจะได้ไปกัน 3 คน งัยดีไม๊พี่เค้าจะได้ไม่เหงามากแล้วฉันมีอะไรจะเซอร์ไพรส์พี่เค้าด้วยนะให้แกเป็นพยานนะต้อได้ไม๊”

“อะไรของแกวะ เล่นอะไรพิเรนอีกรึเปล่านี่ไม่เอานะโว๊ย คราวนี้ไม่ได้โดนซิสเตอร์หรือครูจับแล้วนะโว๊ย ติดคุกนะ ตำรวจจะจับเอานะสิไอ้หนุ่ย” ต้อโวยวาย

“น่านะ เพื่อนเป็นพยานให้เราหน่อยจริงๆ นะเพื่อนเราจองห้องไว้แล้วรบกวนหน่อยนะ”

แล้วฉันก็บอกต้อทุกอย่างว่าฉันจะทำอะไร

…………………………………………………..

ฉันกับต้อรอพี่แมวอยู่จนกระทั่งเย็นจึงออกจากหอประชุมตามที่ฉันเดาไม่ผิดครอบครัวของพี่แมว ไม่ได้อยู่ตอนเย็นฉันและต้อจึงพาพี่แมวมาทานอาหารที่ร้านที่ฉันจองไว้ ฉันปิดตาพี่แมวแล้วพาเดินเข้าห้องนั้นอย่างใจเย็น

“ค่อยๆ เดินเข้ามานะค่ะที่รัก อะซ้ายคะ ตรงมาเลยคะอีกนิดนะคะ” แล้วพี่แมวก็เดินเซมาชนฉันอย่างจัง

“โอ๊ย นี่หนุ่ยจะเล่นอะไรกันนักหนาฮะ พอได้แล้วหละพี่ไม่เล่นแล้วนะ” พี่แมวเสียงเริ่มฉุน ก็จะไม่ให้ฉุนได้งัยฉันให้พี่แมว ปิดตามาตลอดทางที่เรามา โดยให้ต้อเป็นคนขับรถให้ แล้วฉันก็ไม่ให้พี่แมวเปิดตาจนถึงที่นี่น่าจะฉุนอยู่หรอก

“อะอีกนิดเดียวค่ะ ที่รักนะคะ เดินซ้ายคะ โอเค ต้อ ปิดไฟอะพี่เปิดตาได้ค่ะ” ฉันเอื้อมมือไปดึงผ้าปิดตาพี่แมวออกและก็พบกับ โต๊ะหารที่จัดว่าอย่างสวยหรูล้วนแล้วแต่อาหารโปรดของพี่แมวทั้งสิ้น

“เซอร์ไพรส์คะที่รัก” ฉันก้มลงจูบ ที่รักของฉันโดยไม่อายเจ้าต้อเลยแม้แต่น้อย

“ยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วยนะค่ะพี่ บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแบบนี้ น่ายินดีคะพี่” ต้อพูดเอาใจพี่แมวจนฉันหมั่นไส้

“เฮ้ย ไอ้ต้อ ให้มันรู้บ้างว่าแฟนใครนะรู้ซะบ้างโว๊ยเนอะที่รักเนอะ”

“บ้าน่าหนุ่ยนี่ต้อนะเพื่อนหนุ่ยนะค่ะ คิดมากไปได้”

“ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ไอ้หนุ่ยเอ้ยแม้แต่แฟนแกยังไม่เข้าข้างเล๊ยยย ฮ่า ๆ ๆ ๆ “

“เออ เรื่องของข้ากะแฟนข้าแกมะเกี่ยวถอย ปายยยย “

“จำไว้นะโว๊ย แล้วอย่ามาขอร้องเราอีกก็แล้วกานนน หุหุ” แล้วเสียงหัวเราะสนุกสนานก็ ดังขึ้นทั่วห้องในบรรยากาศที่ มีแต่ความสุขนั้น

…………………………………………….

เมื่อพวกเราทางอาหารเรียบร้อยแล้ว ฉันนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าพี่แมว จับมือพี่แมวมาไว้ในมือฉัน และหยิบ แหวนวงน้อย ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของฉัน

“ที่รักค่ะ แหวนวงนี้อาจไม่ได้มีราคามากมายในด้านวัตถุ แต่มันมีราคา มากสำหรับจิตใจ ของหนุ่ยนะค่ะ ที่รักจะรับหมั้นหนุ่ยได้ไม๊ค่ะ” ฉันจ้องไปในดวงตาของสุดที่รักของฉันอย่างค้นหาคำตอบและ ฉันเห็นน้ำตาแห่งความปิติ ของพี่แมวล้นออกมา

“ได้สิค่ะที่รักของแมวทำไมจะไม่ได้หละ แมวนะรักคุณนานมากแล้วนะนานจนคิดว่าไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว นอกจากคุณ รู้ไม๊” ฉันจับมือซ้ายของพี่แมวเอาไว้บรรจงสวมแหวนหมั้นให้กับพี่แมว และจูบบนนิ้วนั้น และพูดว่า

“เป็นของหนุ่ยคนเดียวนะค่ะที่รักหนุ่ยมัดจำไว้แล้วนะ อย่าเป็นของใครอีกหละรู้ไม๊” แล้วฉันก็โอบกอดเอวของที่รักอย่างรักใคร่

ฉันเห็นต้อมีน้ำตา ฉันรู้ว่าเพื่อนดีใจกับฉันด้วยที่ฉันได้มีวันนี้ และฉันเองก็ดีใจที่พี่แมวเป็นบัณฑิต และฉันก็รอวันนี้เพื่อที่จะได้หมั้นเธออันเป็นที่รักของฉัน โดยมีเพื่อนของฉันเป็นพยานในความรักครั้งนี้

………………………………………….



Create Date : 02 ธันวาคม 2550
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 11:32:06 น. 0 comments
Counter : 333 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.