No. 551 บล๊อกประจำวันจันทร์ - พฤหัสบดี |
|
ตอน น้ำตกที่ประทับใจที่สุด หัวเราะ อิ อิ นิดหน่อยก่อน |
|
|
เคยเป็นเด็กเชียงใหม่ 14 ปี พออายุ 15 เริ่มโตเป็น นาย ใช้คำนำหน้าเด็กไม่ได้แล้ว |
ที่บ้านใช้น้ำบ่อ ในบ้าน ตอนที่จำได้ ก็ไม่รู้ใครขุดบ่อน้ำลึก 10 เมตร ก่ออิฐแดงจาก |
จากก้นบ่อขึ้นมาเป็น วงกลม |
นานเข้าอากาศเย็น ความชื้นสูง อิฐแดงถูกตะใคร่น้ำจับกลายเป็นสีเขียว |
|
เวลาตักน้ำ เราจะใช้เชือกผูกน้ำถุ้ง หย่อนลง ถึงน้ำ ตัวน้ำถุ้งเอียง น้ำเข้าก็สาวเชือกขึ้นมา |
น้ำที่หล่น ตกใส่น้ำข้างล่าง แหะ ๆ กลายเป็นน้ำตก เสียงไพเราะ |
เอ..จบดีหรือไม่จบดี ยังหรอกครับ ขอเพียงเพื่อนเข้ามาอ่านอีกหน่อย....
|
|
มีอยู่ปีหนึ่ง น้ำในบ่อลดระดับไปเยอะ เราต้องเก็บไว้เป็น น้ำอาบ น้ำดื่ม ส่วน |
น้ำรดสวนผักหลังบ้าน ต้องใช้น้ำในคูที่ยังพอมี
|
ที่บ้านคนเยอะ แม่เลยให้ นำผ้าใส่ท้ายจักรยาน ไปซักผ้าที่ น้ำตกห้วยแก้ว ที่นั่นน้ำไหล
|
เราซักผ้าแล้วตัก น้ำราด ก้อนหินใหญ่ให้สะอาด เอาผ้าที่ซักแล้วตาก
|
ส่วนเราก็ไปนอนใต้ต้น ชมภู่ป่า มองใบที่หนา ไม่ค่อยร่วง บางครั้งก็เห็น ดอกชมภู่สี |
ม่วงแดง ร่วงหล่น สวย..
|
เรามีชีวิตกันเรียบง่าย ปั้นข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกหนุ่ม กับจิ้นปิ้ง(หมูปิ้ง) คนละหนุบหนับ |
ก็อิ่มสบาย...ล้างมือในลำห้วยเสร็จ
ก็เก็บผ้าใส่ตระกร้าท้ายจักรยาน |
แล้วอาบน้ำปั่นกลับบ้าน แถวคูเมืองประตูช้างเผือก |
|
ให้บังเอิญ ฝั่งตรงข้ามบ้าน ข้างคูเมือง มีสำนักพิมพ์ |
หนังสือรายหวยออกมั้ง มีนักข่าว กับนักแต่งเพลง "วังบัวบาน" อยู่ด้วย |
พวกน้า ๆ นักหนังสือพิมพ์มาเที่ยวบ้าน รู้ข่าว เลยสัมภาษณ์ |
การช่วยตัวเอง หมายถึง ไม่ต้องรอน้ำแจกจาก ราชการ นะครับ นำผ้าไปซัก |
ที่น้ำตกห้วยแก้ว ลงหนังสือพิมพ์ |
เพื่อน ๆ เข้ามาถาม คนเชียงใหม่หลายคน ก็นำผ้าไปซักที่นั่นบ้าง เลยกลายเป็นที่ |
พบปะของหนุ่มสาวไป เลยเดินยืด ไปได้หลายวัน 555 |
|
โตมา ได้ไปเที่ยวน้ำตกเยอะ น้ำตกแม่กลาง
น้ำวชิรธาร
น้ำตก พลิ้ว จันทบุรี
น้ำตก แก่งโสภา พิษณุโลก น่าจะเรียกว่า แก่งมหึมา คือ ใหญ่โตมาก
|
เรียกว่าไปจนเบื่อ เพื่อน ๆ บางคนยังไม่เคยไปก็ขอให้พาไป |
จนบางครั้ง คิดว่า
ตรู จะไม่ทำอาชีพไกด์เด็ดขาด 555
แต่มีทางแก้ไข... และใช้วิธีที่ไม่ทำให้เบื่อ...เชิญอ่านต่อไปข้างล่างครับ แก้ได้จริง ๆ |
......
|
มีน้ำตกอยู่แห่งหนึ่ง เราปั่นจักรยานไปเที่ยว กันเป็นกลุ่มเกือบ 10 คน ไม่ไกล.. |
พอถึงสี่แยก คลองชลประทาน เลยไปอีกนิดก่อนถึง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีถนนขวามือเลี้ยว
|
เข้าไป ถนนลดเลี้ยวขึ้นเนินบ้าง ผ่านบ้านเสา 100 ต้นของนายอำเภอเมืองเชียงใหม่คนเก่า |
เก่า ไปอีกไกล หน่อยมีสวนลำใย ไร่มะม่วง มีลำห้วยพาดผ่าน
|
ขึ้นไปอีกหน่อย ก็ถึงดอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ ต้นไม้ร่มครึ้ม มีน้ำตกห้วยช่างเคี่ยนอยู่
ข้างล่างเป็นภาพน้ำตกที่ คล้ายกันมาก.. เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง(ภาพแทน)
เรียกกันในระยะนั้นว่า น้ำตก ห้วยช่างเคี่ยน
|
พวกเราแก้ผ้าเหลือแต่ กกน.ลงอาบน้ำตกเล็ก ๆ ใต้ต้นไม้ร่มครึ้ม |
พอหิว ก็งัดข้าวเหนียว เนื้อทอด น้ำพริก แบ่งกันกิน แล้วล้างมือ นอนเล่นบนก้อนหิน
|
ตื่นมาก็ลงเล่นน้ำต่อ ตะวันคล้อยลงก็ชวนกันปั่นจักรยานกลับบ้านในตัวเมือง |
เป็นน้ำตกที่ตรึงจิต ชอบมาก คือสภาพป่าดี แต่เสียดายจัง สภาพป่า น้ำตกค่อย ๆ หายไป |
กลายเป็น
ดูป้ายข้างล่าง..... เขาพยายามทำดีที่สุดแล้ว คงจะมาหลังจากที่น้ำข้างบน หายไป
เพราะ "คน"
แห้งแล้ง แต่ยังพอไหวอยู่ เพราะไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าใด ขอเพียงรักษาสภาพป่าไว้ให้มากที่สุด
|
|
แต่น้ำตกที่ชอบที่สุด ต้องนี่ครับ แหะ ๆ
|
|
|
เวลาทำ นำเนื้อติดมัน เป็นก้อนหนา ย่างเตาถ่าน ความร้อนทำให้เนื้อร้อนระอุ |
น้ำและน้ำมันค่อย ๆ เดือดหยด ถูกถ่านไฟ ลุกแล้วดับเป็นควัน ส่งกลิ่นหอม สุด ๆ |
ใช้คีมหนีบมาหั่นเป็นชิ้นหนาพอคำ คลุกเคล้าเครื่องปรุง แล้วเป็นแบบข้างนี้
|
|
|
กินกับข้าวเหนียวขาว หรือข้าวเหนียมดำอุ่น ๆ อร่อยสุดยอด
|
|
หมูย่างน้ำตก ร้อน ๆ |
ชอบมากกว่า น้ำตกใด ๆ ในเมืองไทย |
|
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
|
end |
st.visit 757,613 |
1,634 |
|
งานเขียนประเภท Diarist |
|
น้ำตกในดอยสุเทพตอนนี้
แทบไม่เหลือน้ำแล้วครับ
กลายเป็นอดีตไป
แต่ทางอินทนนท์น้ำยังแรงและสวยอยู่
ผมอยู่เชียงใหม่มานาน
แต่เที่ยวน้ำตกน้อยมากครับ
ไปไม่กี่ที่เอง