ไม้บรรทัด
ผมมีความเชื่อว่า คนทุกคนมีไม้บรรทัดส่วนตัวของแต่ละคน
เป็นไม้บรรทัดที่เอาไว้ใช้ขีดเส้นตัดสินสิ่งที่เราเรียกว่า ถูก-ผิด

เรื่องบางเรื่อง อาจถูกต้องเหมาะควรสำหรับคนหนึ่ง
แต่อาจเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเข้าท่าเข้าทางสำหรับอีกคน

ครั้งหนึ่ง.. หลวงพ่อชาเคยถามลูกศิษย์ที่มากราบท่าน โดยการชูไม้เท้าของท่านขึ้นมา แล้วถามว่า
".. พวกเธอว่า ..ไม้เท้านี้มันสั้น หรือยาว.."

คำตอบที่ได้มีต่างกันไป ทั้งบอกว่า สั้นไป ที่บอกว่ายาวไป และที่บอกว่า พอดีๆ

หลวงพ่อชา ท่านจึงสอนว่า.. ไม้เท้ามันไม่ได้สั้น ไม่ได้ยาว ไม่ได้พอดีหรอก

มันก็เป็นของมันอย่างนั้นเอง..
คนเราต่างหากที่ไปให้ค่ามัน..

คนที่ชอบไม้เท้ายาวกว่านี้ ก็ว่ามันสั้นไป
คนที่ชอบไม้เท้าสั้นกว่านี้ ก็ว่ามันยาวไป
คนที่ชอบไม้เท้ายาวประมาณนี้ ก็ว่ามันพอดีแล้ว

ผมมีตัวอย่าง.. อีกกรณีครับ
ครั้งหนึ่ง ผมโทรเรียกรถแท็กซี่ มารับที่ออฟฟิศในนอร์ทพาร์ค

พอขึ้นปุ๊บ ผมรู้สึกว่าแอร์มันหนาวมาก ผมก็บอกโชเฟอร์ว่า
ช่วยเบาแอร์หน่อยครับ มันหนาว..

เขาก็หรี่ให้ แต่ก็บอกขำๆว่า.. "หนาวเหรอครับ นี่ผมยังว่ามันร้อนๆไปหน่อยเลยนะ"

ผมเลยนึกขึ้นได้ว่า.. เออนะ.. ที่จริง อากาศมันก็ไม่ได้ร้อนไปหรือเย็นไป
คนเราต่างหาก ที่ให้ค่าตามความชอบของตัวเอง

คนที่ชอบอากาศหนาวๆ ก็รู้สึกว่ามันร้อนไป
คนที่ชอบอากาศอุ่นๆ ก็รู้สึกว่ามันหนาวไป
คนที่ชอบอุณหภูมิประมาณนั้น ก็รู้สึกว่ามันพอดีแล้ว

ในชีวิตจริงหลายๆครั้ง .. สุขหรือทุกข์
มันก็เกิดจากการให้ค่ากับเหตุการณ์หนึ่งๆ

เราได้ยินคำพูดคนก็ดี เห็นสิ่งที่ใครทำก็ดี
เรามักใช้ไม้บรรทัดตัวเองเป็นเครื่องวัด ประเมินค่า ตีความ
และให้ผลเป็น ความ รัก ชอบ เกลียด ชัง เฉยๆ

แต่บางที ก็ลืมไปว่า เรากับเขา อาจจะมีไม้บรรทัดกันคนละอัน
ดีของเรา อาจจะไม่ใช่ดีของเขา
ดีของเขา ก็อาจจะไม่ใช่ดีของเรา

ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า.. ของดีจริงๆ มันมักจะอยู่เหนือดีเหนือชั่ว

ผมตีความเอาว่า..ท่านหมายถึงว่า..
ถ้าคนเรายังมองอะไร ตีค่าอะไร ด้วยอคติ
ก็จะไม่เห็นความจริง ของสิ่งที่เป็นไป

เหมือนใส่แว่นกันแดด สีๆ มองอะไร มันก็จะมีสีของแว่นเจืออยู่เสมอ

จั่วหัวว่าไม้บรรทัด ปิดท้ายกลายเป็นแว่นตา

ความคิดก็ไม่เที่ยงนะครับ :) 555



Create Date : 22 มีนาคม 2549
Last Update : 22 มีนาคม 2549 1:16:40 น.
Counter : 1273 Pageviews.

22 comments
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)
  
รู้เหตุแห่งทุกข์...แต่ไม่พยายามก้าวออกจากตรงนั้น
ถ้าเป็นอย่างนี้...จะทำยังไงให้พ้นทุกข์ได้หนอ
พี่เอ๊ดแสดงธรรมให้ตาสว่างหน่อยค่ะ
โดย: ครูจี๊ด IP: 58.147.115.13 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:1:38:36 น.
  
เห็นด้วยกับการมองและประเมินคนด้วยอคติ
คนที่เราประเมิน ก้อจะมีแต่ข้อเสียทั้งนั้น ถ้าเรามองเขาในความคิดกลางๆ เราจะเห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย

เคยอกหักจากแฟนคนแรกซึ่งเราคิดว่าเรารักเขามากที่สุด เจอกันตั้งแต่เด็กๆ มีสิ่งดีๆที่เขาทำให้เรา เล่า 3 วันก้อยังไม่จบ
แต่พอรู้ว่าพี่เขามีคนอื่นใหม่ แรกๆก็ทำใจไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปหลายปี เราจึงค่อยๆมานั่งคิด พยายามนึกถึงแต่สิ่งดีๆที่พี่เขาทำให้เรา

ตอนนี้เราจึงอภัยให้พี่เขาได้แล้ว และขอให้พี่เขามีความสุขในชีวิตกับคนที่เขาเลือก

แค่นี้เราคงพ้นทุกข์นี้ได้แล้ว และสบายใจ พร้อมที่จะรับคนใหม่ที่เข้ามาในชีวิต
โดย: พี่หน้าเดียว IP: 58.11.72.252 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:8:18:32 น.
  
ขอบคุณค่ะ
ที่เอาแง่คิดดีดีมาฝาก
วันก่อนหนิง ADD คุณไป แล้วมันไม่ได้ ไม่รู้เป็นไง

จขบ.สบายดีนะคะ

ปล.แอบก๊อปเอาไปอ่านที่บ้านด้วย รวม ๆ กับหนังสือธรรมะนะคะ ชอบๆๆๆ
โดย: run to me วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:8:37:13 น.
  
คำถามของครูจี๊ด พี่เอาไปขึ้นเป็นหัวข้อใหม่
อยู่ในส่วนของ ถามปัญหาน่ะครับ

รบกวนคุณครูไปคลิกอ่านที่โน่นนะครับ :)

คุณหนิง หมายถึง add blog อันนี้ไม่ได้เหรอครับ ??

เอ.. อันนี้ก็ไม่ค่อยชำนาญเรื่องเทคนิคด้วยสิครับ

ผมเองกว่าจะคลำๆมาถึงตรงนี้ได้ ก็นานโขอยู่ 555
โดย: aston27 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:9:29:54 น.
  
เขียนได้ดีมาก ๆ ค่ะ เห็นด้วยทุกเรื่อง

"ในชีวิตจริงหลายๆครั้ง .. สุขหรือทุกข์
มันก็เกิดจากการให้ค่ากับเหตุการณ์หนึ่งๆ"

เรียกว่าแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
เราจะเอามุมมองของคนหนึ่งไปตัดสินอีกคนหนึ่งไม่ได้

ขอเป็นแฟนประจำบ้านธรรมะสักคนนะคะ
โดย: ซออู้ วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:9:31:55 น.
  
ใช่ค่ะ แต่เมล์ไปถามพันทิปแล้ว
เตรียมน้ำไว้เสริฟ์ดีดีนะ
เพราะหนิงคงมาบ่อย

ลืมบอก..วันนี้วันพระ
หนิงไปใส่บาตรมาด้วย 555
ระยะหลัง ๆ รู้สึกตัวเองจะห่างธรรมะ ห่างพระพุทธศาสนา
ก็เลยต้องนำพาตัวเองเข้าใกล้มั้ง...
ทำแล้วจิตใจปลดโปร่งนะ
โดย: run to me วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:10:07:00 น.
  
สาธุ....
มันก็เป็นเช่นนั้นแล
โดย: Psycho_Lady IP: 202.57.143.124 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:17:57:19 น.
  


ต่อไปขอเรียกพี่ว่าคุณดังตฤณ 2 ^__^

ดีแล้วค่ะที่พี่มาทำ blog อยากให้คนเข้ามาอ่านกันมากๆ เชื่อแน่ว่าแค่อ่านก็เกิดความสว่างความอบอุ่นขึ้นในใจได้

สาธุค่ะพี่...ช่วยคนเตรียมเสบียง
โดย: kittykitten IP: 58.8.199.193 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:22:44:46 น.
  
โห.... เธอ.. อย่าเอาพี่ไปเทียบชั้นครูสิ
ขนลุกไปหมดเลย..

เทียบกับพี่ตุลย์แล้ว.. พี่น่ะประมาณปลายผมเส้นนึงเอง

พี่ยังรู้น้อยมากๆ.. ยังต้องเรียนอีกเยอะ
แต่ก็หวังเล็กๆว่า วันนึงจะช่วยคนได้เยอะๆเหมือนพี่ตุลย์ หรือหลวงอาปราโมทย์นะ

สาธุด้วยจ้า
โดย: aston27 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:23:14:52 น.
  
ชอบที่คุณ aston เขียนครับ เข้าใจง่ายดี มีเหตุผลสนับสนุน ทำให้ต้องเก็บมาคิด

ปล. ผมดูวิธีแปะเพลงจากบล็อกคุณรำเพยครับ อาศัยเรียนๆ เอาจากบล็อกที่เขาสอน

//www.rumpuey.com/pantip/audio.htm

ข้างบนเป็น Link 1เพื่อไปยังหน้าเว็บเพจที่คุณรำเพยสอนวิธีใส่เพลงในบล็อกครับ
โดย: King Of Pain วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:15:38:07 น.
  
ชอบไปอ่านกระทู้ที่คุณตอบอยู่เสมอเลย บางทีไม่รู้ว่าคุณไปตอบอะไรไว้ที่กระทู้ไหนบ้าง เราก็ key ชื่อคุณ search เอาเลย 55555 บ้าไปเปล่าเนี่ยเรา


สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ
โดย: แม่สลิ่ม วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:6:41:41 น.
  
ถ้าสนใจแต่ง blog ให้สวยขึ้นลองไปอ่านที่นี่ค่ะ ป้ามดเขียนไว้เข้าใจง่ายมาก ๆ ค่ะ เพราะเราก็ไปศึกษาจากนั่นเหมือนกัน 2-3 วันทำเป็นเลยคะ เอาใจช่วยค่ะ


ทางไป blog ป้ามดค่ะ โค๊ดง่าย ๆ สำหรับ blog โดยป้ามด
โดย: แม่สลิ่ม วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:6:44:08 น.
  
ไม้บรรทัดของแต่ละคน ทำให้เท่ากันคงยาก

การอยู่ร่วมกันโดยถือไม้บรรทัดกันคนละอันก็ยากอีก

ดังนั้น ทางตรงกลาง คือทางที่นักถือไม้บรรทัดแต่ละคนจะอยู่ร่วมกันได้กระมัง

แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ
โดย: ภูติ IP: 161.200.26.178 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:7:15:50 น.
  
เข้ามาอีกรอบ ยังไม่มีเรื่องใหม่ให้อ่าน
ขอเขียนสมุดเยี่ยมต่อนะค่ะ

สองคน สองไม้บรรทัด
สามคน สามไม้บรรทัด
ทางที่ดีที่สุด เอาไม้บรรทัดมาไว้รวมกัน
เหมือนกับการอยู่ในสังคมเดียวกัน
แล้วค่อยๆปรับตัวเข้าหากัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
รุ้จักและเรียนรู้ที่จะให้อภัยในสิ่งที่คนทำผิด
แล้วก็จะสบายใจ แต่ไม่รุ้จะหมดทุกข์หรือไม่
ในเมื่อคนเรายังมีกิเลสอยู่

จากเรื่องของครูจิ๊ด 4 ข้อที่ว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
คนเราคงพ้นทุกข์ได้ แต่จะทำยังไงให้สมุทัยหายไปนี่คงยากค่ะ ตราบใดที่ยังอยู่ในโลกนี้ สังคมนี้

เหมือนกับการเวียนว่ายตายเกิดหรือเปล่า
โดย: พี่หน้าเดียว IP: 58.11.72.122 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:7:56:03 น.
  
ขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์แวะมาครับ :)

พี่หน้าเดียวครับ
ประเด็นของพี่น่าสนใจมากนะครับ
คือ.. อยากเรียนพี่ว่า คนเราจะพ้นทุกข์ได้ เมื่อละสมุทัยได้

ไม่มีใครพ้นทุกข์ โดยสมุทัยไม่หายไปนะครับ

ถามว่ามันเป็นไปได้ในทางปฏิบัติหรือเปล่า
เป็นไปได้แน่นอนครับ

นิพพานไม่ใช่สภาวะที่เข้าใจยากอะไรเลย
ในคนเริ่มปฏิบัติใหม่ๆ เราก็สัมผัสได้ในบางขณะจิต
ถึงจะไม่ใช่นิพพานจริงๆ ไม่ได้บรรลุธรรม

พระไตรปิฎกบอกว่า.. นิพพานมีลักษณะของมันเอง
คือวิราคะ ไม่อยาก วิสังขาร ไม่ปรุงแต่ง

ผมเดาเอาว่า .. พี่จะหมายถึงว่า คนเราต้องมีความอยาก
เพื่อดำรงชีวิตในโลก ใช่ไหมครับ :)
หลายคนเข้าใจว่า.. การจะทำอะไร ต้องทำด้วยความอยากนำหน้า

แต่พี่หน้าเดียว.. คงเคยช่วยใครสักคน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ไม่ได้อยากได้อะไร ไม่ได้อยากให้ใครรู้

พระอรหันต์ หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ที่พ้นแล้วจากสมุทัย
ท่านก็ขยันมากนะครับ ทุกวันมีแต่งานๆๆ
เสด็จไปโน่น โปรดสัตว์ที่นั่น ที่นี่

ไม่ได้ทำเพราะความอยากได้ อยากมี อยากเป็น
เหมือนที่พวกเราเป็นอยู่

สมุทัย ท่านมีสอนไว้ครับว่า คนเราละสมุทัยได้ ด้วยสติปัฏฐาน สี่

คือการเจริญสติ อย่างถูกต้อง เหมาะควร จนเกิดปัญญา
เป็นปัญญาจากการรู้แจ้งในธรรมชาติของกายและจิต
ไม่ใช่ปัญญาจากการอ่าน แล้วคิดเอา

บาลี ท่านเรียก ภาวนามยปัญญา ไม่ใช่สุตตะ หรือจินตา มยปัญญา

วิธีการเจริญสติ ตามพระสูตรเรื่อง มหาสติปัฏฐานสี่
ลองหาอ่านได้ ในหนังสือของพี่ดังตฤณครับ

ภาษาที่เราคุ้นเคย ได้ยินบ่อยๆ เขาเรียก วิปัสสนาน่ะครับ :)
โดย: aston27 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:8:15:59 น.
  
ขอบคุณที่มาตอบค่ะ

แต่เราก็ยังงงๆกับภาษีบาลียากๆอยู่ ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่

เราเข้าใจได้ว่า คนเราจะละวางสิ่งต่างๆได้ หรือบรรลุมรรคผลได้นั้น ไม่ใช่ว่าสักแต่อ่านคำภีร์ หรือเอาแต่คิดว่า ข้านั้นบรรลุแล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่การกระทำ การบำเพ็ญบุญประโยชน์นั้นด้วยใช่ไหม

ส่วนที่พี่ถามข้างบนคือ คนเราถ้ายังอยู่ในโลกนี้ ยังมีความอยากได้โน่น แยกได้นี่ มันก็เป็นเหตุแห่งทุกข์ และกิเลสทั้งปวง

ตัดอะไรตัดได้ แต่ตัดกิเลสยากสักหน่อย เพราะขนาดแค่คิดอยากได้ ก็ยังเป็นกิเลสเลย

โดย: พี่หน้าเดียว IP: 58.11.72.202 วันที่: 25 มีนาคม 2549 เวลา:13:04:43 น.
  
งั้นเราไม่คุยภาษีบาลีเลยก็ได้ครับ พี่หน้าเดียว :)

ที่พี่หน้าเดียวพูดมานั้น.. ถูกทุกอย่างเลยครับ

กิเลสนั้นมันเหมือน อะมีบา ตัดแล้วมันแยกหน่อได้ใหม่
ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด อะไรทำนองนั้น

ในทางพุทธ เราเชื่อกันว่า.. จิตของคนเรามันมีกิเลสเดิมเกาะ พอกหนาเตอะ
จนแนบเป็นเนื้อเดียว แยกแทบไม่ออกอยู่แล้ว
เพราะสะสมมาไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ

อันนี้ สมมติเอาว่า พี่หน้าเดียว หลวมตัวมาเชื่อผม.. ว่า..
การเวียนว่ายตายเกิดมีจริงนะครับ อิอิ

วิธีฆ่ากิเลส จึงไม่ใช่การ"ตัด" แต่เป็นการฉีดสารอะไรสักอย่างเข้าไปให้จิตตื่น

ให้จิตเริ่มกระบวนการสั่งสมปัญญา และค่อยหลั่งสารออกมาละลายกิเลส ให้เบาบางลงเรื่อยๆ

ทุกข์นั้นเริ่มที่จิต ก็ต้องดับที่จิต
ดับที่ความคิด ไม่ได้ครับ คิดเมื่อไหร่ ก็คืออยากเมื่อนั้น

พระพุทธองค์ ถึงทรงสอนให้ "รู้สึก" เอา อย่าคิด
รู้สึกตัว รู้ทันความคิด อารมณ์ของตัวเองบ่อยๆ
คือการปลุก สติตัวผู้รู้ข้างใน ให้ตื่น
ตื่นมามองความจริงแห่งธรรมชาติ ของกายและจิต

ให้จิตเขารู้ เขาเห็นว่า.. ตัวเราไม่มี จิตของเรา ก็ไม่มี
สิ่งที่เราเห็น เราเชื่อว่าเป็น "ตัวเรา" มันคือเนื้อก้อนนึง
ที่ทำงานตามกลไกของธรรมชาติ ภายใต้การดูแล ของจิต

ที่บอกว่า มันไม่ใช่ของเรา .. ก็เพราะมันมีธรรมชาติของมัน
เราบังคับให้มันสุขสบายกาย ตลอดเวลา ไม่เจ็บไม่ไข้ ไม่ได้
บังคับให้มันเต่งตึง ผมดำ ผมบลอนด์ ตาดำ ตาน้ำตาล ตาเขียว ตาฟ้า ตามใจเรา ...ไม่ได้..

ถึงเวลามันจะแตก จะดับ จะเหี่ยว จะย่น จะเน่า
เราก็บังคับมันไม่ได้..

แล้วจะเรียกว่าเป็นของเราได้ยังไง ตายแล้วก็ต่างคนต่างไป
เหมือนรถยนต์เลยครับ

จิตของเราก็เหมือนกัน.. อันนี้เข้าใจยากหน่อยนะครับ
ที่จะต้องบอกว่า.. จิตก็ไม่ใช่ของเรา .. ที่เราคิดว่า นี่คือตัวเรานั้น จริงๆไม่มี

เราเป็นแค่ธาตุต่างๆ รวมกันเป็นก้อนหนึ่ง
แล้วมีจิตดวงหนึ่งอาศัยอยู่

แต่จิตก็ไม่ใช่ของเรา.. เพราะเขาจะสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ
ตามเหตุและปัจจัย ไม่ใช่เพราะเราสั่ง

ไม่งั้น ทุกคนคงไม่มีปัญหาชีวิตหรอกครับ
เราโปรแกรมมันอย่างเดียว ว่าให้ร่าเริง เป็นสุขทุกวัน ทุกเวลา ทุกโอกาส

555

อย่างพี่หน้าเดียวอ่านมาถึงตรงนี้..
ถ้าเข้าใจ หรือ ไม่เข้าใจ ก็บังคับไม่ได้ ถูกไหมครับ

อ่านแล้วชอบใจ ไม่ชอบใจ ก็บังคับมันไม่ได้อีก
บังคับไม่ได้.. แต่ "รู้สึกตัว" ได้นะครับ

:)
โดย: aston27 วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:12:09:08 น.
  
เอ่อออ สาธุค่ะ


แล้วก็จากไปอย่างงงๆ ภาษีแต่ละคำป้าไม่รู้จักเลย เง้อ
โดย: ป้าพานดาว (สะพานดาว ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:52:57 น.
  
เอ้อเบลอ จะบอกว่าภาษาบาลี ไงมันเป็นภาษีซะล่ะ
แสดงว่า ป้างง และ ยิ่งกว่างงจริงๆ ผสมคำเค้าซะงั้น

โดย: สะพานดาว วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:54:21 น.
  
อันนั้นก็ถูกค่ะ
การที่เราเห็นไม้เท้าสั้นไปหรือยาวไปมันอยู่ที่จิตนึกคิดของเราเอง
การมองเห็นว่าอะไรดีเกินไปหรือเลวเกินไปก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นแค่ความคิดเห็น

แต่คนบางคนขาดศีลธรรม เห็นแก่ประโยชส่วนตน ทำอะไรไม่นึกถึงคนอื่น ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วก็มาพูดว่าที่เค้าทำไม่ผิด เพราะเค้าใช้มาตรฐานของตัวเอง เรามีศีล 5 มีศีล 8 คนก็ยังแยกแยะไม่ได้อีก เราถึงต้องมีกฏมีเกณ

การมีกฏเกณก็เหมือนเรามีไม้บรรทัดที่มีมาตรฐานน่ะค่ะ
โดย: T IP: 203.144.130.176 วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:12:00 น.
  
:)
โดย: aston27 วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:19:16 น.
  
สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้า สปาชา sparsha A Moment of Bride เจ้าสาว เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก สลายไขมันด้วยความเย็น ลดเซลลูไลท์ Leg Squeezing ผิวเปลือกส้ม FIS หน้าท้องใหญ่ ตัวเล็กแต่มีพุง Body Contouring ลดสัดส่วนทั้งตัว ลดปีกด้านหลัง เนื้อปลิ้นรักแร้ เนื้อปลิ้น Build Muscle สร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหน้าท้อง สลายไขมันหนา สลายไขมัน ลดไขมัน Lock Shape รักษารูปร่าง สลายไขมัน ลดสัดส่วน Oxy Peel ทำความสะอาดหน้า ทำความสะอาดหน้าแบบล้ำลึก ยกกระชับ Ulthera ปรับรูปหน้า ปัญหาผิวหย่อนคล้อย Beauty Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม สลายไขมันสะโพก กระชับผิว Sexy Mama แม่หลังคลอด รอยแตกลาย ปรับรูปร่าง กำจัดขน Hair Removal กำจัดขนถาวร สลายไขมันเหนียงด้วยความเย็น สลายไขมัน สลายไขมันเหนียง IV Drip ฟื้นฟูร่างกาย เสริมภูมิต้านทาน Bye Bye Panda Eye ลดรอยหมองคล้ำใต้ดวงตา ลดริ้วรอยใต้ตา นวดกระชับหน้าอก หน้าอกกระชับ อกหย่อนคล้อย Beauty Breast Lifting Enlarge Beauty Breast นวดอกเล็กให้ใหญ่ หน้าอกเล็ก ยกกระชับหน้า รักแร้ขาว รักแร้ดำ เลเซอร์รักแร้ขาว ผิวใต้วงแขน Love Fit กระชับช่องคลอด เลเซอร์กระชับช่องคลอด แก้ไขปัสสาวะเล็ด Meso Shine ผลักวิตามิน บำรุงผิว สวยด้วยเลือด รักษาผิว หนวดเครา กำจัดขนหนวด กำจัดขน กำจัดขนเครา เลเซอร์ขน เลเซอร์ขนถาวร กำจัดขนถาวร เลเซอร์เครา เลเซอร์หนวด กำจัดขน ยกกระชับ ร้อยไหม Thread Lift การดูดไขมัน ดูดไขมัน ศัลยกรรมตา 2 ชั้น ตา 2 ชั้น ศัลยกรรมตา สปาน้ำนม เพิ่มความชุ่มชื่น แก้ผิวแห้ง นวดผ่อนคลาย การนวดผ่อนคลาย Rest Time Aroma Massage Aroma Massage Acne Body Mist ลดรอยสิว ลดจุดด่างดำ ลดรอยดำ ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก เสริมจมูก Cellulysis สลายไขมัน ulthera ยกกระชับ Acne Clear รักแร้ขาวเนียน เลเซอร์กำจัดขนถาวร กำจัดขน ร้อยไหม Freeze V Lift กำจัดไขมันด้วยความเย็น PRP ผิวหน้า PRP ผมบาง ผมร่วง เลเซอร์กระชับช่องคลอด กระชับช่องคลอด Love Fit สลายไขมันด้วยความเย็น Cell Repair ผิวขาวใส ลดสัดส่วน ปรับรูปร่าง Perfect Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ฟิลเลอร์ Filler รักษาหลุมสิว Dual Yellow เลเซอร์หน้าใส Love Fit ปัญหาปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะเล็ด Oxy Bright ทำความสะอาดรูขุมขน Bye Bye Fat ลดไขมัน Luminous แสงสีฟ้า รักษาสิว ฆ่าเชื้อสิว ABO Active 3D Toxin IV Drip เพื่อสุขภาพและความงาม ยกกระชับผิว hifu ให้ใจ สุขภาพ
โดย: สมาชิกหมายเลข 6161573 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา:15:26:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aston27.BlogGang.com

aston27
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]

บทความทั้งหมด