เรื่องเล่าจากแม่ และความสุขของคนแพ้




ผมพาแม่ไปทานข้าวก่อนวันแม่หนึ่งวัน
เพราะวันนี้ตอนเย็น ผมต้องทำงาน

ผมกับแม่ไม่ค่อยสนิทกันนัก เพราะแม่ไปอยู่ต่างจังหวัด
และต่างประเทศตั้งแต่ผมเล็กๆ
แต่ดูท่าทางผมจะได้นิสัย และความคิดหลายอย่างผ่านโครโมโซมที่แม่ให้

เพราะผมกับแม่มีบางอย่างคล้ายกัน มากกว่ารูปร่าง หน้าตา

เมื่อวานแม่เล่าอะไรให้ฟัง สองสามเรื่อง ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน
อย่างเรื่องชื่อ เรื่องความเป็นไปในวัยเด็กของผม

ในปีที่ผมจะอายุ 39 ผมเพิ่งจะรู้ว่า ตอนคลอดผมเพิ่งอยู่ในท้องแม่ได้ 7 เดือน
ผมเป็นเด็กคลอดก่อนกำหนดนี่เอง.. มิน่า เพี้ยนๆ 555

ผมถึงอายุห่างจากพี่สาวแค่ 10 เดือน

แม่บอกว่า ตอนผมอยู่ในท้อง ผมเจียนอยู่เจียนไปหลายที
แม่ต้องไปหาหมอ ต้องไปฉีดยาบำรุงครรภ์กันแท้งบ่อยๆ
แต่ประคองไว้ได้ 7 เดือน ก็ต้องปล่อยให้คลอดออกมา

โชคดี ที่ผมรอดมาได้ และไม่สร้างปัญหาให้แม่
แม่บอกว่า พอคลอดแล้ว ผมเลี้ยงง่ายตั้งแต่เล็ก
เป็นเด็กดี ไม่โยเย ไม่สร้างปัญหา และเรียนดีโดยไม่มีใครบังคับ

ฟังแล้วก็ดีใจ ที่แม่ภูมิใจในตัวเรา เอิกกก...
ตอนขับรถไป เจอเด็กขายพวงมาลัยที่เคยซื้อประจำตรงทางออกทางด่วนพระราม 4
ซื้อจนจำหน้าได้ น้องเขาทำหน้าดีใจระคนขำ ที่เจอผม

ถามไถ่ ได้ความว่าย้ายบ้านมาอยู่ละแวกวัดเสมียนนารี
เลยได้พวงมาลัยมาไหว้แม่เสียเลย

ผมรู้สึกได้ว่า.. แม่ผมมักจะรู้สึกผิด ว่าไม่ค่อยได้เลี้ยงผม
แม่เลยบอกว่า เอาไปไหว้พระก่อนเถอะ

ผมเลยบอกว่าแม่ว่า.. ก็พ่อแม่นี่แหละ พระอรหันต์ของลูก

หมดเรื่องแม่.. มาเรื่องที่สอง

เคยไหมครับ.. ที่รู้สึกเจ็บปวดเพราะไม่สมหวังกับอะไรบางอย่าง
รู้สึกเหมือนเป็นผู้พ่ายแพ้ เป็นคนที่เทพีแห่งโชคหันหลังให้
ยิ่งหวังมาก ก็ยิ่งเจ็บมาก ยิ่งตั้งใจมาก ก็เสียใจมาก

ในฐานะมนุษย์ธรรมดา ผมว่าเรามีเวลาเป็นแบบนั้นกันทุกคนนะ
แต่ถ้าใครที่อ่านถึงบรรทัดนี้ แล้วคุณรู้สึกว่า เฮ้ย.. ชั้นไม่เคยเสียใจ
อันนั้น ผมก็ยินดีกับคุณด้วย ที่โชคดีเป็นบ้า

ผมสังเกตว่า โลกนี้มีโอกาสให้เราพ่ายแพ้ได้บ่อยกว่าเป็นผู้ชนะ
เพราะไม่ว่าจะแข่งกีฬา จะสอบ จะประกวดประขันอะไร
มันมีที่ให้คนที่สอบตก คนที่พลาดหวัง มากกว่าที่ของผู้ชนะเสมอ

การเรียนในโลกส่วนมาก ก็จะสอน HOW TO ให้คนเป็นผู้ชนะ
มากกว่าจะสอนว่า เราควรจะอยู่กับความพ่ายแพ้ยังไง

ถ้าอนุมานว่า คนเรามีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ
ไอ้ความคิดประเภทว่า ฉันจะมีความสุข ก็ต่อเมื่อเป็นผู้ชนะ
จึงเป็นความคิดที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ในสายตาผม

เราอาจไปถึงป้ายรถเมล์รถไฟฟ้าช้าไปสองก้าว
เราอาจตกเครื่องบิน เราอาจจะทำข้อสอบผิดมากกว่าคนอื่นไปสองข้อ
เราอาจจะเจอเขาช้าไปเดือนนึง อาจจะเจอเร็วไปสองปี
อาจจะเพราะเคยหย่ามา มีลูกติดมาสองคน
หรืออาจจะเป็นคนที่ไม่ดีพอในสายตาใครบางคน
และอีกมากหลายความน่าจะเป็น

แต่ไม่ได้มีตรงไหนเลยที่บอกว่า เราจะเป็นสุขไม่ได้

ผมชอบใจบทสัมภาษณ์พี่ดี้ นิติพงษ์ ในนิตยสารเล่มไหนสักเล่มเมื่อเร็วๆนี้
(ที่จำไม่ได้ เพราะช่วงนี้พี่ท่านฮอตเหลือเกิน เปิดเล่มไหนเป็นเจอ)

แกพูดไว้เหมือนเตะโดนใจผมโครมใหญ่

แกบอกว่า.. แกอยากเปิดโรงเรียนสอนคนแพ้
เพราะว่าคนเราควรจะแพ้ให้เป็น ชีวิตมันถึงจะมีความสุข

ถ้าลองไคร่ครวญดูให้ดี ให้ถ้วนถี่ ..
ความสุขมันไม่ได้เกิดเพราะเราชนะหรือแพ้หรอก

มันเกิดเพราะเรา "พอใจ" หรือ "ไม่พอใจ" ต่างหาก

ต่อให้คุณเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก เข้าที่หนึ่งในโอลิมปิค
แต่คุณก็อาจจะไม่มีความสุขได้
เพราะคุณอาจต้องการทำลายสถิติโลก แต่คุณทำเวลาเกินไปเสี้ยววินาที

ชัยชนะเองบางที ก็เหมือนของหวาน
ทานบ้างนิดหน่อย ก็ชูใจดี แต่ทานมากเกินไปก็อันตราย

ความพ่ายแพ้เอง บางทีก็กลับเหมือนวัคซีน
มันสอนอะไรเราหลายอย่าง ให้เรามีภูมิต้านทาน ไม่ป่วยง่าย ไม่อ่อนแอ

และอาจบางที .. ในวันที่เราพ่ายแพ้ เราก็แค่ถามตัวเองว่า
เราพยายามดีที่สุดแล้วหรือยัง ถ้าได้คำตอบว่า.. ใช่
ผมว่า เราก็ภูมิใจกับตัวเองได้แล้วนะ

ชื่อล็อคอินผม มาจากทีมฟุตบอลที่ผมเชียร์มายี่สิบกว่าปี
เป็นทีมระดับกลางๆ งั้นๆ ครับ ไม่เคยได้แชมป์อะไรกับชาวบ้านเขามานานแล้ว

นี่เมื่อคืนก็เพิ่งเล่นนัดแรกของฤดูกาลใหม่ แพ้ลิเว่อพรุนไป

เชียร์ทีมแบบผมให้เป็นสุข ต้องแพ้ให้เป็น
เพราะปีนึงเราอาจจะชนะแค่ไม่กี่นัด ที่เหลือโชคดีก็เสมอ
แต่โชคร้ายก็จะแพ้ ที่แน่ๆเราแพ้บ่อยกว่าทีมอย่าง แมนยู เชลซี ลิเวอร์พูล

แต่ผมเห็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ บางคน เชียร์ทีมยักษ์ใหญ่
แล้วคิดแต่เรื่องว่า ต้องชนะ พอแพ้ที แทบจะรากเลือก

ฟุตบอลมันมีดีอย่างนึง คือมันสอนให้เราเห็นว่า
ชีวิตมันแบ่งเป็นส่วนๆ เป็นครึ่งๆ เป็นช่วงเวลา
บางวันเล่นเข้าฟอร์ม ก็อย่างเทพ
บางวันเล่นห่วยๆ ไปเตะกะเด็กอนุบาล ก็อาจแพ้ได้

ชีวิตก็เป็นแบบนั้น .. บางวันที่อะไรมันเป็นใจ ทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด
แต่บางวันที่อะไรๆ มันผิดที่ผิดทาง เราก็อาจจะทำอะไรพลาดแบบง่ายๆ โง่ๆ

ความผิดแบบเดียวกับเวลาศูนย์หน้าได้บอลหน้าประตูโล่งๆ แต่ยิงออกนั่นแหละ
คือให้กลับไปยิงแบบเดิม ท่าเดิม อีกร้อยหน ก็ไม่พลาด

เพราะฉะนั้น.. ไม่มีใครชนะไปตลอดเวลา
และไม่มีใครแพ้ตลอดไป ถ้ายังมีไฟอยู่นะ

เรายอมรับความพ่ายแพ้ได้ แต่ต้องไม่ยอมแพ้ที่จะพยายามใหม่
อย่าคิดว่า ถ้าเมื่อวานนี้แพ้ พรุ่งนี้ก็ต้องแพ้อีกแหง๋ๆ

ต้องเชื่อว่า ชีวิต..มันว่ากันคราวละ 24 ชั่วโมง
วันนี้แพ้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

แต่ตัวผมเอง ขอยกเว้นเรื่องแฟนไว้เรื่องนะครับ
ผมค่อนข้างทำใจ และมีบทเรียนว่า รักทีไรเสียใจทุกที

เอาแค่มีคนไว้ให้รัก ให้คิดถึง ให้คอยเป็นห่วงบ้างก็พอ
เอาน่า.. ขอผมเป็นแบบเพลงนี้ดีกว่า ผมพอใจแล้ว

"วันที่เธอไม่สบาย.."
เป็นแค่เพียงคนคอยให้คำปรึกษา
เป็นแค่เพียงคน คอยห่วงใยทุกเวลา
เมื่อเธอหายดี ฉันอาจดูไม่มีค่า
ถึงรู้แต่ฉันก็มีความสุข

อืมม์.. คนเขียนเพลงนี้ เขาอัจฉริยะจริงๆ

(ขออนุญาต และขอบคุณคุณหมอพิยะดา เจ้าของเพลงมา ณ ที่นี้นะครับ)

สุขสันต์วันนี้ วันแม่ครับ



Create Date : 12 สิงหาคม 2550
Last Update : 15 สิงหาคม 2550 9:49:31 น.
Counter : 1823 Pageviews.

20 comments
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)
  
น้องแอสตันเอ๋ย...ปีที่แล้วเสมอตั้ง11นัด

ทีมของพี่แพ้ทีมน้องแฟรงค์

เซ็งเป็ดอย่างแรง
ป่านนี้ไปกินเป็ดย่างโซโหล๊ะม๊าง
เป็นเด็ก7เดือนนี่เอง...ถึงเรียนหนังสือเก่ง ใช้ชีวิตเป็น
ขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ
โดย: แฟนผี กิ๊กค้อน... (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:11:02:05 น.
  
แฟนหงส์มาเยี่ยมบล็อกครับ
ผมเป็นคนใจเสาะ เลยคงจะต้องหัดทั้งหัดชนะ และหัดแพ้เลย
และอยากเห็นหลักสูตรของรร.สอนคนให้แพ้ให้เป็นจัง

เคยคิดเหมือนกันนะครับว่าน่าจะมีวิชาที่สอนการใช้ชีวิต
เพื่อนผมบอกว่าก็วิชาพุทธศาสนาไง
ก็เห็นด้วยนะครับแต่ช่วยย่อยให้เด็กม.ต้น ม.ปลายดูดซึมไปใช้ได้ง่ายๆหน่อยก็ดีนะครับ
ไม่งั้นกว่าจะดูดซึมเข้าสมองได้ เด็กกรีดข้อมือ กินยาล้างห้องน้ำ โดดตึกไปซะก่อนพอดี
โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:11:56:32 น.
  


ชัยชนะเหมือนของหวาน
ทานนิดหน่อยดี
ทานเยอะ..อันตราย

เปรียบเทียบได้ดีจังค่ะ




... รักแม่ค่ะ .....

.. แวะไประบายความรู้สึกที่มีต่อแม่

ที่บล็อกได้นะคะ




คลิก



โดย: โสดในซอย วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:11:59:09 น.
  
สุขสันต์วันแม่เช่นกันครับพี่เอ๊ด

ความพ่ายแพ้ เป็นเรื่องปกติของชีวิตครับ คิดให้มันเป็นบวกก็ได้นี่เนอะ ถ้าเราเปลี่ยนมุมมอง

คิดซะว่าการพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นได้ทกวันทุกเวลา ถ้าพ่ายแพ้ก็ถือว่าเท่าทุน แต่ถ้าชนะขึ้นมาก็ถือว่าเป็นกำไร อิอิอิ

ว่าแต่เรื่องโรงเรียนสอนคนพ่ายแพ้นี่ แนวคิดดีนะเนี่ย :-D

บาหลี...ดูจาก Blog ที่แล้ว น่าไปอย่างแรง ฮ่าๆๆ

ปล.ขอบคุณที่เปิดเพลง Those were the day นะครับ รีบเรียกคุณแม่มาฟังทันทีที่ได้ยิน
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:12:19:25 น.
  
บางทีชนะมาหลายครั้งติด
มันก็แอบหลงระเริงไปเหมือนกันนะคะ
เป็นเหตุให้รับความพ่ายแพ้ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวไม่ไหว

ชอบบล็อกนี้ค่ะ
อ่านแล้วเตือนใจดี
โดย: MaRiMeKKo วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:14:07:09 น.
  
เรื่องบอล แพ้ชนะไม่สำคัญครับ
แต่ก็ขอบคุณสำหรับสามแต้มสำหรับนัดเปิดฤดูกาลครับพี่

เรื่องโรงเรียนสอนคนแพ้นี่ ถ้าพี่เอ๊ดไปเป็นวิทยากร
ผมจะขอไปลงเรียนหรืออบรมสักคอร์สทันทีครับ

เรื่องแฟน ถ้ามีแฟนใหม่ก็ขอให้เป็นรักที่สดใสครับ
ถ้าผมเป็นผู้หญิงนี่ ผมคงชอบผู้ชายแบบพี่เอ๊ด
อบอุ่น ดูธรรมะธัมโมดี ชวนเข้าวัดตลอด

เรื่องเพลง ตกใจนิดหน่อยที่เจอเพลงไทยในบล็อกพี่ แต่เพราะจริงๆ

เรื่องวันแม่ สุขสันต์วันแม่ รักแม่กันถ้วนหน้าครับ
โดย: getterTu วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:14:16:29 น.
  
โดนใจกับเรื่องที่สองค่ะ
เคยรักคนๆหนึ่งมาก แล้วเราก็เป็นผู้หญิงที่ขอผู้ชายคนนั้นแต่งงานค่ะ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เค้าก็ปฏิเสธเราค่ะ แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองแพ้นะคะ คิดแค่ว่าเป็นคำถามที่เราได้คำตอบแน่ชัดแล้ว ถ้าเราจะตัดสินใจเดินออกมา วันที่เราตัดใจจากเค้าเราก็จะไม่เสียใจ และแล้ววันที่เราเดินออกมาจากเค้าแล้ว เค้ากลับรับรู้ถึงความดีที่เราเคยทำให้ค่ะ แล้วเค้าก็มาขอเราแต่งงาน ชีวิตคนเรานี่ตลกนะคะ วันนี้ที่เค้าขอเราแต่งงาน แต่ใจเรามันเข้มแข็งเกินกว่าจะกลับไปอยู่กับคำถามเดิมค่ะ แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเราเป็นผู้ชนะ แล้วไม่ได้คิดว่าเค้าเป็นผู้แพ้ วันนี้ก็แค่สงสารเค้าที่เห็นเค้ายังฟูมฟาย
จะบอกคุณแอสตันค่ะว่า ยกเลิกเป็นสมาชิกพันธ์ทิพย์ไปแล้วค่ะด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ความเป็นยาเขียวหายไป แต่ก็ขอเข้ามาอ่านบล็อคคุณต่อไปนะคะ ถึงจะไม่ได้คอมเมนต์แล้ว แค่อยากให้คุณรู้ว่ายังมีอีกหนึ่งคนที่ตามอ่านแต่ไม่ได้ลงชื่อค่ะ
ขออวยพรให้คุณเจอความรักที่ดีดีนะคะ
โดย: ยาเขียว วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:17:30:54 น.
  

เคยพูดกับพี่คนหนึ่งที่สนิทกันว่า รู้สึกว่าตัวเองโชคดีค่ะ
ไม่ใช่เพราะชนะมาตลอด
แต่เพราะรู้จักความพ่ายแพ้
ก็เลยมีภูมิต้านทานในชีวิต
โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:21:09:55 น.
  

*** สวัสดีคะ แวะมาเยี่ยม วันนี้..หน่อยอิง...มาส่งความสุขวันแม่ ดอกมะลินี้แทนใจฝากมอบให้คุณแม่ด้วย ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ตลอดไปคะ ***

โดย: หน่อยอิง วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:22:10:59 น.
  
..
ถ้าเราไม่ไปอยู่บนสนามแข่ง
ก็จะไม่มีคำว่าแพ้หรือชนะ
ใช่ไหมคะ?
..
แล้วคำว่าสุขกับทุกข์
มันจะเบาลงนิดนึง
รึเปล่าคะ?
..
..
สุขสันต์วันนี้ วันแม่เช่นกันนะคะพี่แอสตัน
โดย: azamiya วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:0:16:29 น.
  
เราเหมือนกันอยู่เรื่องนึงค่ะ
คือน่าจะเป็นเด็กดื้อ
คุณดื้อที่อยากออกมาดูโลกก่อน
ส่วนฉัน
ดื้อที่ครบกำหนดแล้วไม่ยอมออก
หมอต้องเอาคีมดึงออกมา


แวะมาเยี่ยมค่ะ
โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:15:41:35 น.
  
ผมว่าเกมนั้น ถ้าลูกยิงฟรีคิกของเจอร์ราดไม่เข้าตรงสามเหลี่ยมพอดี โกล์คงปัดได้ และเกมนั้นคงแบ่งแต้มกันไปทั้งสองทีม

แต่ก็อีกนั่นแหละครับ ผู้แพ้ในเกมอาจเป็นผู้ชนะสักครั้งในวันข้างหน้า ถ้าผู้แพ้รู้จักใช้บทเรียนในเกมนั้นให้เป็นประโยชน์นั่นก็คือไม่ควรทำฟาว์ลในระยะแบบนั้นหน้ากรอบเขตโทษบ่อยๆตอนใกล้จะหมดเวลา

(ปล. ผมแฟนหงส์ครับ)
โดย: Takeaway วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:21:25:13 น.
  
กำลังมึนๆมาตั้งแต่เช้า
อ่านจบแล้วรู้สึกดีขึ้นนะคะ :-)

..
รวมไปถึงบล็อกบาหลีด้วย


สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังด้วยนะคะ
โดย: SevenDaffodils วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:0:52:00 น.
  
แอบมาหากำลังใจจากบล๊อค
ไม่ว่ากันนะคะ
ความสุขอยู่กับเราไม่นาน
ทุกข์ก็จะอยู่กับเราไม่นาน
สู้ สู้ค่ะ (หุ หุ บอกตัวเองนะคะ)
โดย: ยาเขียว วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:7:39:59 น.
  
ขอโทษแทนพี่เจิดของผมด้วยครับ
เมื่อวันเสาร์

ดันยิงลูกมหัศจรรย์ซะได้

(แอบเฮดังลั่น)
โดย: Oakyman วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:12:10:17 น.
  
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังค่ะ ขอให้พี่มีความสุขมากๆ นะคะ emo

อ่านบล๊อกวันนี้แล้วรู้สึกสุขใจจังค่ะ ทั้งเรื่องแม่ แล้วก็เรื่องของคนแพ้
วันแม่ก็พาแม่ไปทานข้าวเหมือนกันค่ะ โอ้โห คนเยอะเป็นล้านเลย นี่เป็นการสื่อได้อย่างนึงว่าคนไทยให้ความสำคัญกับวันแม่กันมากๆ เหมือนกันนะคะ

ปล. เป็นครั้งแรกนะคะ ที่ได้ยินพี่เอ๊ด เปิดเพลงไทยในบล๊อก emo
เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก เพลงอบอุ่นดีค่ะemo
โดย: Melody of You วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:13:28:23 น.
  
เดินตามมาขายใบบัวบกค่ะ

มักน้อยจังน้อ จขบ.คนนี้ emo ใส่แพ๊ดดิ้งไว้ตามจุดสําคัญนะคะ ล้มจะได้ไม่เจ็บ
โดย: เป๋อน้อย วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:17:41:11 น.
  
วันแม่ แต่จอยไม่ได้พาแม่ไปกินข้าวล่ะ
เลือกที่จะอยู่บ้าน นั่งเล่นกับหมาตามประสาสองแม่ลูก.. ^___^


อ่านๆไป เออ.. พี่เอ๊ดนี่ เกิด 7 เดือนเหมือนกันเลย
แถมจะรอดมิรอดแหล่เหมือนกันด้วย
ถึงว่า... ต๊องพอกัน 5555


โดย: ยิ้มหวานฯ (joyaccy ) วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:20:24:15 น.
  
เริ่มต้น-กลางเรื่องออกแนวซึ้ง
อ่านไป-อ่านมา
กลายมาเป็นเรื่องบอล


ง๊านได้เลย...
เด็กหงส์...
ก็มาบอกเลยว่า ฤดูกาล นึง
ลิ้มรสความสุขแค่ไม่กี่ครั้งเอง
เดี๋ยวนี้ฝีมือถดถอยไปเยอะ
คราวนี้ได้ตัวใหม่ๆมาเยอะ
คงดีกว่าคราวที่แล้ว ซักนิดก็ยังดี

เรื่องแพ้ - ชนะ
ก็เหมือน ดำ - ขาว
มืด - สว่าง
รัฐบาล - ฝ่ายค้าน

ของคู่กัน
ชนะอะไรก็คงไม่เท่าชนะใจตัวเอง
ทุกอย่างเกิดจาก จิตปรุงแต่งทั้งนั้น
โดย: snpk วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:7:28:58 น.
  
555+
ขำคุณฟ้าคงสั่งมา
พี่เอ๊ดกลายเป็นเด็กเจ็ดเดือนไปซะแล้ว
วันแม่ปีนี้ รู้สึกเหมือนสุขสันต์วันพ่อ
เพราะระหว่างรอแม่ทำธุระที่สวนอัมพร
เลยได้หอบน้องๆ และพาพ่อไปเดินเล่นที่เขาดิน
นึกแล้วก็สนุกและอดขำไม่ได้

เรื่องเสียใจ หนูว่าทุกคนน่าจะ เคย นะคะ
คนที่ว่าไม่เคยอาจจะเป็นเพราะเสียใจแค่แป๊บๆ เรื่องเล็กๆ เลยลืมไปแล้ว
ถ้าให้นึกตอนนี้จำได้เรื่องสอบตกกับสอบไม่ติดม.4 โรงเรียนเดิม
ทั้งที่เมื่อมองย้อนไปก็ไม่เห็นจะร้ายแรงเลยนี่นา
แต่ก็เป็นธรรมดาใช่ไหมคะที่ตอนนั้นจะมีเรื่องอะไรที่จะใหญ่ไปกว่าเรื่องเรียน
อีกเรื่องที่นึกถึงแล้วได้แม่นถึงความเสียใจก็คือตอนอาเสีย
นึกกี่ครั้งก็ซึมๆ แต่ก็ทำให้เข้าใจถึงความไม่เที่ยงในชีวิตได้ดีขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงค่ะ
^^
โดย: I am just fine^^ วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:15:33:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Aston27.BlogGang.com

aston27
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]

บทความทั้งหมด