ผมสังเกตเอาว่า .. วันไหนเขียนเรื่องรักๆ เรตติ้งจะดีเป็นพิเศษ
วันนี้เลยตั้งหัวข้อดึงคนอ่านไปงั้นแหละ อิอิอิ
ที่จริงก็อยากจะอธิบายที่มา ความหมายของคำนี้ เพราะหลังๆผมอ่านเจอคนใช้ผิดเป็น "รักสามเศร้า" กันบ่อยขึ้น
เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องไปบอกใคร เขาก็รู้ว่ามันเศร้านะท่าน
แต่ช่วยเขียนให้ถูกหน่อยก็จะดี
คำจริงๆเขาเขียนว่า "สามเส้า"
เคยมีคนบอกว่า ที่มา มาจากไอ้เครื่องมือช่างสมัยก่อนที่ใช้ตอกเสาเข็มด้วยมือที่เรียก "สามเกลอ"
เวลาจะใช้มันต้องช่วยกันจับสามคน ยกตอกๆๆ
ฟังดูความหมายมันออกไปทางสามัคคีมากกว่าจะแก่งแย่งกันนิ
ผมก็ไม่รู้ว่ามันแผลงมาเป็นความหมายอันนี้ได้ยังไง
หรือใครรู้ที่มาอื่นๆ ก็บอกทีนะครับ
ถ้าที่มาของเรื่องนี้เป็นจริง ก็เห็นจะต้องบอกว่า การตีความของผม คงไม่เหมือนคนที่เอามาใช้อย่างที่เป็นอยู่
เพราะผมมองว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของการร่วมแรงร่วมใจมากกว่า
ในขณะที่ รักสามเส้า มันดูเป็นลบๆ
หรือว่าคนสมัยก่อนเขาไม่รู้สึกว่า อันนี้เป็นเรื่องลบ ผมก็ไม่ทราบนะครับ
อาจจะเป็นได้ เพราะคนสมัยก่อน การมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน เป็นเรื่องยอมรับได้
เพราะเราเป็นพวกสังคมเกษตรกรรมที่อาศัยแรงคนในการสร้างผลผลิต
คนมากกว่าได้เปรียบ ว่างั้น
สัญลักษณ์ และการแปลความหมายมันเป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปได้ตามเวลา และบุคคลครับ
และผมว่ามันเป็นปัจจัยที่สำคัญเบอร์ต้นๆ ของชีวิตคู่ที่ราบรื่น
คู่ไหนมองตา ก็รู้ใจ พูดสองคำเข้าใจตรงกัน ถือว่าโชคดี
ไม่ใช่กลับตีสามภรรยาถือมีดเดินมา ก็ยังตีความไปว่าภรรยารักมากขนาดจะเอามีดมาให้ช่วยลับ เพราะจะทำลาบเลือดให้ทานตอนตีสาม
อันนั้น เป็นการตีความหมายพลาดชนิดอาจถึงตายได้
ใครดูตอนต้นๆเรื่องของ ดาวินชี่โค้ด เขาก็มีพูดเรื่องนี้
อย่างบางคนเห็นสามง่าม ก็อาจนึกถึงซาตาน บางคนนึกถึงปีศาจแดงของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ขณะที่คนสมัยก่อนโน้น จะนึกถึง เทพแห่งสมุทรที่ชื่อโพไซดอน
พูดถึงคำว่า โพไซดอน เชื่อว่าหลายคนนึกถึงอาบอบนวด แถวรัชดา
บางคนนึกถึงหนังของ วูฟว์กัง ปีเตอร์เสน ที่เพิ่งฉายไปหมาดๆ
บางคนจะนึกถึงเทพองค์ที่ว่า
คนตั้งชื่อชื่ออาบอบนวด นี่ก็ช่างสรรสร้างจินตนาการเหลือเกินนะครับ
อย่าง Emmanuelle เป็นชื่อนิยายอีโรติคสุดฮิตของฝรั่งเศส และกลายมาเป็นหนังโป๊ชื่อดัง ในเวลาต่อมา
ชื่อ Victoria Secret ก็มาจากชื่อชุดชั้นในราคาแพง
ที่ใช้นางแบบระดับ ซุปเปอร์ โมเดลมาเดินแบบ ถ่ายปฎิทินทุกปี
คลีโอพัตรา โอ.. อันนี้ร้ายกาจ เพราะพวกชายหนุ่มมั่งแก่มั่ง ก็คงนึกว่า น้องๆทุกคนจะสวยเหมือนจักรพรรดินีแห่งไอยคุปต์ หรือ อลิซาเบท เทย์เลอร์
หมายถึงสมัยเธออายุ ยี่สิบต้นๆนะครับ ไม่ใช่หมายถึงตอนนี้ 555
จูเลียนา อันนี้ฟังดูงั้นๆ ก็นึกถึงสาวยุโรปแถวอิตาลี
อะไรอีกล่ะ .. the Plaza อันนี้ไม่เท่าไหร่ ฟังแล้วไม่ค่อยมีความหมาย
แต่บางคนเขาอาจจะนึกถึง ห้างที่มีของขายเยอะๆ มีให้เลือกได้มาก
เห็นมั้ยครับ ว่าถ้าจะตีความทางบวก มันก็ได้ทุกชื่อแหละ
แต่ถ้าสถานที่เดียวกันอย่างโฮโนลูลู ไปตั้งชื่อ ส.โบตั๋น ผมเชื่อว่าลูกค้าขี้เมื่อยก็จะตีความไปอีกทาง นึกภาพไปอีกอย่าง
ในทางการตลาด หรือโฆษณา เขาถึงเชื่อกันว่า
ชื่อสินค้านี่สำคัญเป็นเบอร์ต้นๆ
อย่างสมัยนี้ ถ้าคุณจะแจ้งเกิดเข้าวงการเป็นดารา
อยู่บ้านชื่อ จิ๋ม จะเข้าวงการ ก็ควรเปลี่ยนชื่อเล่นใหม่ ว่า เกรซ โลล่า เวลม่า อีฟ ถูถู ทาทา อะไรกันไป
ดาราชื่อจิ๋มแล้วดังคนหลังสุด ที่ผมนึกออกก็คือ คุณมยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช โน่น
อันนี้เว้นไว้เสียว่า คุณมีความงามชนิดหยุดหัวใจชายได้
อันนั้นจะชื่อหมู หมา กาไก่ ก็ไม่มีใครว่าอะไร
แล้วถ้าจะโกอินเตอร์ ก็ต้องคิดเผื่อ หรือเล็งไว้ให้เหมาะๆ
ว่าจะไปในซีกโลกไหน ส่วนไหนของโลก
เพราะภาษานี่ บางทีมันพ้องเสียง แต่เพี้ยนความหมายกันได้ชนิดขนลุกขนพองเลยนะ
อย่างคำว่า "หู" ในภาษาไทยน่ะ คนจีนแต๊จิ๋วเขาออกเสียงคำนี้เหมือนกันกับคำไทยพื้นๆ ที่แปลว่าอวัยวะเพศของสตรี
หรือคำว่า หอย ในภาษาจีน เขาแปลว่า ปู นะครับ
ดังนั้นเวลาสั่งหอยจ๊อ ก็อย่าสงสัยว่าทำไมมันรสชาติเหมือนปู
หรืออย่างใครชื่อคุณฟัก นี่ จะไปโชว์ตัวให้ฝรั่ง ยังไงก็ต้องเปลี่ยนชื่อให้สุภาพใหม่
จะเรียกว่า จอห์นนี่ ฟรานซ์ ทอม โทนี่ อย่างคุณจา พนมก็ตั้งไปเถอะ
ขอแค่อย่าเอาคำว่า Please ไปประกบชื่อคุณฟัก เพื่อให้สุภาพ ก็พอ
มันจะไปกันใหญ่

เรื่องนี้ พูดกันได้ยาวเป็นเอนไซโคลปีเดียเลยมั้ง
นอกจากความหมายของคำนั้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
คำหลายๆคำ มันบ่งบอกบางอย่างมากกว่านั้นนะครับ
อย่างคำว่า "เกรียน" หรือ "ปาหมอน" น่ะ
ผมน่ะฟังอยู่ตั้งนาน แล้วก็นึก ว่ามันแปลว่าอะไร
พอได้ความหมายแล้วก็ขำ .. มันน่ารักดี
แต่การฟังแล้วไม่เข้าใจ ก็แปลความหมายได้เหมือนกันนะครับ
มันแปลว่าเราเชย และแก่แล้วจริงๆ น่ะ
5555
ตั้งหัวข้อดึงคนอ่านจริงๆด้วย