อยากบังคับความคิดจัง ทำไงดี


วันนี้เป็นวันแรกในรอบ เกือบครึ่งปี ที่อยู่ๆ ก็มีเวลาว่างขึ้นมา
เลยมีเวลาเข้าไปเช็คเมล์ส่วนตัว และได้อ่านเมล์จากน้องที่ไม่เคยรู้จักกันคนนึง

อนุมานเอาว่า คงอ่านบล็อคผมแล้วก็อยากถามคำถาม

หวังว่าจะไม่ว่าอะไร ที่ผมเอามาแปะไว้ในบล็อคนี้
แต่ผมไม่ได้ลงชื่ออ่ะนะ ไม่มีใครรู้หรอกว่าน้องคนนี้เป็นใคร

น้องเขาเขียนมาแบบนี้ครับ

สวัสดีค่ะ คุณ.........
ขอเรียกว่าคุณผู้ชายก้อแล้วกันนะค่ะ

ตอนนี้เราอายุ 18 แล้ว
แต่ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่โตเลย
เวลาดูคนอื่นแล้วก้อคิดในใจว่า เค้าโตกันจัง
บางครั้งเราก้อเป็นเด็ก แต่บางครั้งเราก้อเป็นผู้ใหญ่
แต่สิ่งหนึ่งที่เราเป็นคือสับสนในชีวิต
ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่
ขนาดไม่กี่เดือนก้อจะเข้ามหาลัยอยู่แล้ว
แต่ก้อยังไม่แน่ใจในตัวเองซะที

เราเป็นคนที่มีความประพฤติดี แต่คิดไม่ดี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ชอบเอาเสียเลย
รู้ว่าความคิดนั้นมันไม่ดี
แต่ก้อไม่เคยจะห้ามมันได้เสียที
จนบางครั้งคิดว่า จะมีทางไหนที่จะไม่ทำให้เราคิดร้าย
หลายครั้งที่ชอบหลอกตัวเอง
แต่จริงๆในใจลึกๆแล้ว เรารู้ว่ามันไม่ใช่

เห็นคุณผู้ชายชอบธรรมะ
ตอนอายุเท่าไหร่ ที่เราจะปลงได้
หรือเข้าใจชีวิตได้จริงๆเสียที
อยากรู้อ่ะ
?????

ทำไมชาวพุทธตัวอย่างที่เคยๆเรียนมา
(คุณผู้ชายจะเคยเรียนหรือเปล่าไม่รู้)
เค้าเข้าใจธรรมะได้ง่ายจัง
ฟังแค่ครั้งสองครั้งก้อบรรลุแล้ว
แต่นี่ ฟังแล้ว รู้แล้ว แต่ใจก้อยังคิดไม่ได้เลย

กลุ้มเน๊อะ....... ชีวิต

(เล่าสู่กันฟัง)


อ่านแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ .. ว่าบางอย่างน้องเขาก็สงสัย เหมือนผมในวัยสิบกว่า เหมือนกัน

ผมตอบน้องเขาไปแบบนี้ครับ

สวัสดีครับ คุณน้องเล่าสู่กันฟัง :)

คุณเป็นเด็กช่างสังเกตนะ พี่ขอชม
คุณเข้าใจถูกแล้ว ว่าคนเราห้ามความคิดไม่ได้หรอก

ความคิดของมนุษย์ เป็นส่วนนึงของจิต
จิตเป็นสิ่งที่ทำงานเป็นอิสระ นอกเหนือการควบคุม

สิ่งที่เราคุมได้มีแค่ 2 อย่าง คือคำพูดและการกระทำ

พระพุทธเจ้า ท่านก็รู้แบบเนี้ย ว่าธรรมชาติของจิตเป็นยังไง
ท่านเลยกำหนดให้เรามีศีล อย่างศีล 5 ไว้เป็นรั้ว ที่กั้นเราไว้
ไม่ให้ความคิดไม่ดีที่ว่า มันล้นออกไปละเมิดคนอื่นเขา

คุณเคยสังเกตไหมว่า ที่จริง นอกจากความคิดนึกแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างนะ
ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา อย่างความรู้สึก ความจำ การรับรู้

พี่เดาว่าคุณรู้จักพี่จากในบล็อค พี่เลยจะแนะนำว่า
ไอ้เรื่องที่คุณสงสัย ที่คุณกังวล ความรู้จากวิปัสสนาจะช่วยคุณได้

หัวใจหลักของวิปัสสนา เป็นเรื่องการเรียนรู้ความจริงของจิต
ถามว่ารู้อะไร.. ก็รู้เรื่องที่คุณเห็นๆอยู่นั่นแหละ
รู้ว่ามันสับสน รู้ว่ามันไม่แน่ใจ รู้ว่ามันคิดไม่ดี

แต่ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้เลย คือ ..
ขณะที่จิตคุณเป็นไปอย่างนั้น คุณรู้สึกยังไง ชอบไม่ชอบ
ไม่ชอบ แล้ว พอใจ หรืออยากให้มันหายๆไปซะที

ทุกข์ของคนเรา มันมักจะเริ่มจากการหลงไปในความคิดครับ
ที่พี่เขียนบล็อคเสมอๆ บอกให้หัดมีสติ รู้สึกตัวไว้นะ
ก็เพราะมีแต่ความมีสติของเราเท่านั้น
ที่สามารถจัดการกับความคิดได้ โดยไม่ต้อง "อยาก"

การที่ความคิดฟุ้งซ่านมันดับไปเพราะเรา"ได้สติ" รู้สึกตัว
กับดับไป เพราะข่มมัน กดมัน ด้วยแรงของความ "อยากดี"
มันต่างกันมากนะครับ

มีแต่การมีสติ รู้สึกตัว จากภาวะหลงคิดไป ที่จะทำให้เราตื่นขึ้นมาเห็นว่า
ความคิดดี หรือความคิดไม่ดี เป็นเพียงการทำงานอย่างนึงของธรรมชาติ
เหมือนลมพัดมาวูบหนึ่ง ไม่มีความหมายอะไร

ทำให้เราเดือดร้อนไม่ได้ ถ้าเรามีศีลคุ้มครอง
เหมือนลมฝนทำอะไรคนที่อยู่ในบ้านอันมั่นคง มิดชิด แข็งแรง ไม่ได้ฉันนั้น

เวลาที่ได้สติ รู้สึกตัว ถ้าเข้าใจ และมีสติเห็นบ่อยๆว่า
ความคิดดี คิดไม่ดี มันบังคับไม่ได้ มันเป็นอิสระ
มันต่างก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เสมอกัน

เราก็จะไม่เดือดร้อนวุ่นวาย กับความคิดมากเท่าเดิม
และยิ่งมีสติบ่อยขึ้น ก็จะเห็นว่า สติเกิดขึ้น เมื่อไหร่ ความคิดก็จะดับไปอัตโนมัติ

แทนที่คุณจะเดือดร้อนกับเรื่องที่คิดไม่ดี
เอาเวลาไปฝึก รู้สึกตัว รู้ทันจิต รู้ทันความคิด รู้ทันความรู้สึก ไว้บ่อยๆนะครับ

แล้วคิดดี คิดไม่ดี ก็ไม่ใช่ประเด็น
เหมือนฝนจะตก แดดจะออก ก็ไม่ใช่ประเด็น
จะกลางวัน หรือกลางคืน ก็ไม่ใช่ประเด็น

เพราะเราเข้าใจธรรมะ คือเข้าใจธรรมชาติ ว่ามันเป็นของมันอย่างนั้นเอง

เข้าใจธรรมะ เข้าใจธรรมชาติ ก็จะเข้าใจชีวิต
เรื่องความเข้าใจมันไม่ได้ขึ้นกับวัย เพศ ฐานะ หรืออะไรหรอกครับ

มันขึ้นกับการสะสมปัญญา จากวิปัสสนานี่แหละ

สมัยพุทธกาล คนบรรลุธรรมได้ไว เพราะเขาสะสมปัญญามาไม่รู้กี่ชาติแล้ว
แค่เจอพระพุทธเจ้ามาช่วยนำทางอีกนิดเดียว บัวก็บานได้

กลุ้ม ก็รู้ว่ากลุ้มสิครับ :)

คุณผู้ชาย


ต้องขอบคุณน้องท่านนี้อีกที ที่เมล์มาถาม
เพราะทำให้ผมมีเรื่องอัพบล็อคไปได้อีกหนึ่งบล็อค ...เย้..

ดีใจ รู้ว่าดีใจ..
แค่นี้ก็ได้เจริญสติครั้งนึงแล้ว.. ง่ายนิดเดียวครับ

สุขสันต์หลังเลิกงานครับ



Create Date : 13 มิถุนายน 2550
Last Update : 13 มิถุนายน 2550 18:02:43 น.
Counter : 1453 Pageviews.

27 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชัมบาลา : กะว่าก๋า
(11 ม.ค. 2568 05:42:07 น.)
Re dell'abisso affrettati from UN BALLO IN MASCHERA by Giuseppe Verdi ปรศุราม
(8 ม.ค. 2568 11:03:55 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันแวนด้าหลายสี ทนายอ้วน
(6 ม.ค. 2568 15:58:07 น.)
รวมธรรม14 นาฬิกาสีชมพู
(12 ม.ค. 2568 07:41:17 น.)
  
"คุณผู้ชาย"
น้องเขาเรียกพี่ได้น่ารักดีจัง :D:D

ว่าแต่ปกติพี่ไม่เช็คเมลเหรอคะ
เป็นโชคดีของน้องเขาจริงๆ เลย
ที่จู่ๆ พี่ก็ว่างขึ้นมา

ส่วนเรื่องความคิดก็เข้าใจว่า
ความคิดของเรามันก็เป็นเช่นนี้แล
^^
โดย: I am just fine^^ วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:18:06:32 น.
  

โดย: aston27 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:18:07:27 น.
  
บังคับความคิด กำลังทำอยู่เลยเนี่ย ทั้งๆ ที่รู้ (แบบไม่รู้จริง คือจำเขามา) ว่ามันบังคับไม่ได้ ท้อจริงๆ เฮ้อ รู้ตัวมั้ยเนี่ย ว่าท้อ
โดย: Together In 80s Dream วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:18:11:38 น.
  
"..ทุกข์ของคนเรา มันมักจะเริ่มจากการหลงไปในความคิดครับ
ที่พี่เขียนบล็อคเสมอๆ บอกให้หัดมีสติ รู้สึกตัวไว้นะ
ก็เพราะมีแต่ความมีสติของเราเท่านั้น
ที่สามารถจัดการกับความคิดได้ โดยไม่ต้อง "อยาก" .."

ชอบบล็อกวันนี้จังค่ะ และก็ไม่รู้จะเขียนอะไรตอบ-เสริม-หรือต่อยอดใด ๆ เลย
เพราะรู้สึกว่าสมบูรณ์ครบถ้วนในตัวเองแล้วจริง ๆ
มีคนเคยพูดว่ามีแต่ความคิดของเราเท่านั้นจึงจะมีอิสระที่สุด
เพราะว่าคิดอะไรก็ได้ ไม่ต้องถูกจำกัดขอบเขตความเป็นไปของชีวิตหลาย ๆ อย่าง
แต่แท้จริงแล้ว การที่คิดไปไม่มีที่สิ้นสุด ก็กลับมาทำร้ายตัวเราได้เหมือนกัน
ถ้าเราให้ความคิดนั้นมามีอิทธิพลเหนือเรา ถ้าเราเจ็บปวด เสียใจ
และให้ความรู้สึกด้านลบทั้งหลายมาอยู่ที่ตัวเรา

สติจึงสำคัญ และปัญญาจึงสำคัญนะคะ
อย่างแรกทำให้เรารู้ตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และอย่างหลังช่วยให้เราคิดได้

ขอให้เรามีสติ และมีปัญญากันมาก ๆ เย้ (ด้วยคน)
โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:18:13:35 น.
  
วันนี้ได้อ่านเรื่องเล่าดีๆของคุณแอสตันตั้ง 2 เรื่องแน่ะค่ะ เอ!หรือว่าวันนี้ต้องเรียกว่าคุณผู้ชายผู้เป็นที่พึ่งของคนทุกเพศวัย รู้มั้ยคะ ในเดือนพค. บล็อคของคุณผู้ชายมีผู้เข้าชม 14791 คนแน่ะค่ะ ติดท็อปด้วยล่ะ
วันนี้ต้องค่อยๆคิดตามไปทีละย่อหน้า เพราะนอกจากตามสติตัวเองไม่ค่อยทันแล้ว ยังคิดตามคุณผู้ชายไม่ค่อยทันเลยค่ะemo
โดย: ยาเขียว วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:19:41:46 น.
  
สรรพนามน่ารักจริงๆ

หลายๆครั้งที่สติและศีลเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรามีความยับยั้งชั่งใจ
ไม่ลุแก่ความอยาก

เรื่องแย่ๆหลายเรื่องเป็นสิ่งที่ใครๆก็สามารถจะคิดได้
แต่ทำไมถึงมีบางคนเท่านั้นที่ลงมือทำจริงๆได้

ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:20:03:16 น.
  
สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย

สิ่งที่ห้ามยากที่สุดคือความคิดของเรานี่แหละ

เฮ้อออออ~
โดย: random-4 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:20:31:38 น.
  
ก่อนอื่นขอชมว่า แต่งบล็อกได้สวยดีครับ

ได้ยินชื่อคุณมานานแล้ว แต่รู้สึกสนิทมากขึ้น
(ฟังแล้วอาจรู้สึกแปลกๆ) ตอนอ่านงานเขียนของคุณในเว็บดังตฤณ

ขอให้เจริญในธรรมเช่นกัน หวังว่าคงได้คุยกันอีกนะครับ

โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:22:54:48 น.
  
ชอบที่คุณตอบจังค่ะ อ่านแล้วหายสงสัยไปเยอะ

ยังเหลืออีกข้อหนึ่งคือสงสัยว่า ถ้าเรามีสติรู้ทันว่าเราความคิดที่ไม่ดีแล้วนั้น มโนกรรมยังเกิดอยู่หรือเปล่าคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ"คุณผู้ชาย"

โดย: SevenDaffodils วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:23:46:22 น.
  
ชอบคำถามของคุณน้องช่างคิดคนนั้น ผมว่าเค้าถามได้ตรงและจริงใจดีมากๆเลยครับ

ไม่รู้ก็กล้าถาม ไม่วางฟอร์มว่าเก่งหรือเข้าใจมาจากไหน น่ารักจริงๆ แถมคำถามยังเป็นประโยชน์ ทำให้คนอ่านอื่นๆได้อานิสงค์อีก

ปรบมือให้น้องคนนั้นและคุณผู้ชายที่ตอบได้ชัดเจนจริงๆ

ปล.ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ เนี่ยตัวลอยแล้ว (ที่เขียนได้ดีขึ้น เพราะอ่าน Blog พี่บ่อยๆนะครับ)
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:0:02:19 น.
  
อ่า ถามเรื่องอะไรกันอะ รู้น๊า อิอิ


ขอบคุณมาคะที่ไปอวยพรวันเกิดให้และขอบคุณอีกครั้งที่ขอให้คุณทวดแข็งแรงขึ้น
โดย: bagarbu วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:0:42:31 น.
  
แอม.. ปกติเช็คเมล์ครับ
แต่ไม่เช็คเวลางาน เพราะไม่ค่อยว่าง

Together In 80s Dream
เวลาบังคับแล้วรู้ว่าบังคับอยู่
แล้วก็ยังบังคับต่อ ทั้งๆที่รู้ว่าบังคับไม่ได้

เพราะเราไม่ได้รู้ทันความ"อยากเลิกบังคับ" นี่ครับ

ทุกข์ เป็นผล สมุทัย คือความอยากเป็นเหตุ
เหตุยังมี ผลก็ยังอยู่สิครับ

คุณหมาเลี้ยงแกะ เขาเรียก สติ สัมปชัญญะ ครับ

สัมปชัญญะ เป็นตัวปัญญาเบื้องต้น เป็นภาวะความรู้สึกตัว หลังจากสติเกิด

คุณยาเขียว เคยได้ยินไหมครับ ที่เคยมีคำพูดว่า "หยุดคิดเมื่อไหร่ ก็รู้ได้เมื่อนั้น"

อย่าพยายามคิดตามสิ่งที่ผมเขียนเลยครับ
แต่ให้พยายาม "รู้" ว่ากำลังคิด

ยิ่งคิด ก็ยิ่งไม่รู้ นะ

งง รู้ว่า งง.. สงสัย รู้ว่า สงสัย
สงสัยแล้วพยายามคิดต่อ รู้ว่า หลงไปคิดนะครับ

HoneyLemonSoda "เรื่องแย่ๆหลายเรื่องเป็นสิ่งที่ใครๆก็สามารถจะคิดได้
แต่ทำไมถึงมีบางคนเท่านั้นที่ลงมือทำจริงๆได้"

เพราะเขายัง "คิด" เอาน่ะครับ
ความคิด มันอาจจะคิดดี คิดร้าย พลิกไป พลิกมา

แต่ถ้าเป็นจิตที่เจริญด้วย ศีลและประกอบด้วยปัญญา
ก็จะเห็นทุกข์ เห็นโทษของการทำชั่ว ว่าน่ากลัว
และเห็นคุณ ของการมีชีวิตด้วยความดี ว่าเป็นทางเจริญ ทางสว่าง

random-4 อ้าว... ตกลงที่อ่านมานี่ ไม่ช่วยเลยเหรอครับ

อยากห้าม รู้ว่า อยาก นะครับ

Mint@da{-"-} สวัสดีครับ
บล็อคผมสวยด้วยน้ำใจและฝีมือเพื่อนน่ะครับ ไม่ใช่ฝีมือผมเลย

เจริญในธรรมเช่นกันครับ

SevenDaffodils เรื่องนี้พี่ขอออกตัวว่า ไม่เชี่ยวชาญนัก

คือถ้าถามว่า มโนกรรม เกิดขึ้นไหม ถ้าคิดไปแล้ว ก็เกิดไปแล้วล่ะครับ

แต่ถามว่าบาปไหม

เคยมีคนอธิบายว่า กรรมจะสมบูรณ์ได้
ต้องประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ
คือ
1 เจตนา
2 การลงมือกระทำ
3 ความสำเร็จสมบูรณ์ของการกระทำ จนเกิดผล

มโนกรรม เป็นกรรมเบานะผมว่า..
ถ้าคิดในหลัก Action - reaction
ถ้าเราคิดไม่ดี แต่ไม่ลงมือกระทำ

ผลอย่างมาก ก็ทำให้จิตหมองลง
หรือคิดไม่ดี กับคนอื่น กรรมจะสนองคืน ก็แค่คนอื่นคิดไม่ดีกับเรา

อย่าไปกังวลมากเลยครับ
ที่น่าห่วงมากกว่า คือ รู้ทันหรือเปล่า ว่าตอนนี้คิดอยู่จน ลืมกาย ลืมใจ

Tony KooN เอ้า.. มัวแต่อวยกันเอง ไปมา

อิอิอิ

bagarbu ง่า..... รู้ว่าถามเรื่องอะไรกันเหรอครับ
โดย: aston27 วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:11:17:03 น.
  
เราไม่มีคำถาม
อาศัยตามอ่านไปเรื่อย ๆ ได้ประโยชน์มั่กมาก
โดย: ไหมจันท์ วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:13:53:59 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย ^-^

อย่างที่พี่เอ๊ดบอกนะคะ ว่าคนเราบังคับความคิดไม่ได้
แค่รู้สึกตัว มีสติว่าเราคิดอะไร และจัดการกับสิ่งที่คิดไม่ให้ก่อความเสียหายกับผู้อื่นและตนเอง ก็เก่งแล้วนะคะ :)

วันนี้ อารมณ์ดี ก็รู้ว่าอารมณ์ดีค่ะ
โดย: ยิ้มหวานฯ (joyaccy ) วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:14:41:52 น.
  
สาธุ นั่นสิคะ "สติ สัมปชัญญะ"
หลัง ๆ ความรู้วิชาจริยศึกษาหายไปหมดเลย
ต้องกลับไปทนทวนใหม่แล้ว หน้าที่ชาวพุทธและหน้าที่มนุษย์จะได้ไม่บกพร่อง

ขอบคุณค่ะ
โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:21:10:36 น.
  
จะไม่อวยให้คุณพี่ได้ยิน
เกรงจะลอยไปไกลเกิน
..
..
ร้อน รู้ว่าร้อน
กลุ้ม รู้ว่ากลุ้ม
เหนื่อย รู้ว่าเหนื่อย
ฟุ้ง รู้ว่าฟุ้ง
ไม่อยาก รู้ว่าไม่อยาก
..
หยุดค่ะ
..
ปล1 ต้องขอขอบคุณทั้งคุณพี่และคุณน้องสำหรับเรื่องดีๆวันนี้ค่ะ
ปล2 รู้ว่าเผลออวยไปแล้วจนได้
โดย: azamiya วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:0:26:40 น.
  
มันยากนา
ความคิด
หัวจิต
หัวใจ
ห้ามได้

พี่ว่าไม่ใช่ปุถุชนคนธรรมดา

ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง

ทำได้ก้อแค่ ยั้งยั้ง อย่าพลั้งมือ
โดย: พี่แหม๋ว...ฟ้าสั่ง:) (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:10:46:35 น.
  
อืม...

จะพยายามตั้งสติรู้ให้เร็วเวลาที่คิดเหลวไหลตามที่คุณแนะนำนะคะ

รู้ทั้งรู้...แต่ก็เป็นบ่อยทุกที ลองทำแบบที่ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ ก็จะรู้สึกผ่อนคลายไปสักพัก แล้วความคิดมันก็กลับมาที่เดิมที่เป็นทุกข์

555 แต่บางทีเราก็ชอบนะ มันเป็นบทเรียนที่ดีที่ทำให้เราเข้าใจ และเข้มแข็งขึ้นนะ

ขอบคุณ นะที่เขียน blog ให้เราได้เข้ามาอ่าน ได้คิดได้เห็นคนอื่นๆ ว่าเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง
บางเวลาก็มีประโยชน์มากเลย ช่วยเตือนใจให้รู้ และระมัดระวังความคิด

ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณ MyMeLoDy ด้วยจ้ะ
โดย: myouzhny วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:13:25:51 น.
  
สวัสดีค่ะ....

ตามมาจากบล็อคคุณ
พลทหาร
เรื่องเล่าน่่าสนใจ
ขอ add นะค่ะ
emo
โดย: iamorange วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:16:52:24 น.
  
สวัสดีครับ คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง อิอิ
emo
โดย: Takeaway วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:22:30:50 น.
  
ตะกี๋แอบได้ยินคุณผู้ชายจัดรายการแล้วบอกว่ามีเพลง ลำดวน ทองดี ด้วย.

หามาจากไหนอ่ะ ตามหามานานแล้ว ขอได้มะ :)
โดย: LittleTiger (LittleTiger ) วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:15:19:17 น.
  
อ่านแล้วเข้าใจ ธรรมะ เข้าใจธรรมชาติยิ่งขึ้นครับคุณผู้ชาย

ผมมาเรียนต่อที่รพ.จุฬาลงกรณ์ในกทม.นี่แหละครับ
โดย: tpipe วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:19:39:26 น.
  
จะมาบอกว่าไม่ได้ฟังเพลง Dyer Maker ของ Led Zeppelin มานานมากแล้วค่ะ
ดีจังที่ได้ฟังวันนี้
โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:21:08:49 น.
  
พนักงานเอาเวลาทำงานไปรับจ๊อบข้างนอกหมด TT
ไม่มีใครสนใจพัฒนา ดูแลบริษัทเลย
โอ้ ต้องจับพนักงานมาอบรม training ทำ LO กันหมดแล้วนะคะ
โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:22:57:15 น.
  
เข้ามาแอบอ่านบ่อยแต่ไม่ได้เม้นท์ค่ะ แสดงตัวซะหน่อย
โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:14:42:19 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ....

ตอนนี้ยังไม่มีเวลาทำ blog นะคะ ไว้ทำเสร็จเสร็จแล้ว จะเชิญคุณไปเยี่ยมนะคะ ต้องขอโทษจริงๆ
โดย: myouzhny วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:12:44:20 น.
  
myouzhny
: เวลาสติเกิดหลังจากหลงคิดไป มันจะให้ผลเป็นความผ่อนคลาย สบาย

แต่ความมีสติ รู้สึกตัว ก็ไม่ถาวร เขาก็แสดงธรรมชาติให้เราดูเหมือนกัน
ว่าอย่ามาบังคับ อย่าคาดหวัง ว่าเขาจะอยู่ยืนยง
ว่าจิตตื่นแค่ครั้งสองครั้ง แล้วจะไม่หลง ไม่เผลอ ไม่คิด ไม่ใช่นะครับ

เราไม่ได้ฝึกเจริญสติ เพื่อบังคับให้มันตื่นตลอดเวลา
แต่เพื่อให้รู้ ให้เห็นความจริงว่า ทุกอย่างในโลกนี้
ไม่มีสักอย่างเดียว ที่คงที่ ถาวร แน่นอน
มันมาแล้วมันก็ไป มันเริ่ม แล้วมันก็สิ้นสุด
มันเกิด แล้วมันก็ดับ

จะความคิดไหน จะอารมณ์ไหน หรือสติรู้สึกตัว
ทุกอย่างก็เสมอกัน ในกฏนั้น

ไม่มีอะไรให้ยึดมั่นถือมั่นได้สักอย่าง แม้แต่ตัวจิตที่ตื่น ที่รู้ เอง

ปลายทางของผู้ปฏิบัติ คือปัญญา ระดับที่ทำให้จิตมันเห็นความจริงตรงนี้
มากพอที่จะละวาง การยึดถือ ตัวตน ยึดถือว่าจิตนี้ กายนี้ เป็นของเรา เป็นตัวเรา

แต่ไอ้การวางนี่ มันต้องวางของจิตมันเองด้วยปัญญาจากวิปัสสนา
ไม่ใช่อ่านปุ๊บ แล้วไปคิดต่อจนเข้าใจ อันนั้นปัญญาเหมือนกัน แต่คนละตัว คนละระดับ

เข้าใจ กับเข้าถึง บางทีมันอยู่ริมฝั่งเสมอกัน
แต่ห่างกันคนละฟากแม่น้ำ น่ะครับ
โดย: aston27 วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:9:30:57 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Aston27.BlogGang.com

aston27
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]

บทความทั้งหมด