ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข  ระดับความสปอยล์ 20% ครับ เพิ่งเขียนถึงเรื่องความสุขไปเมื่อวันก่อน เมื่อคืนเลยได้ไปดูรอบพรีวิวของหนังที่พูดเรื่องความสุขเข้าเต็มๆ ในคำประกาศอิสรภาพแห่งชาติของอเมริกา ร่างโดยโธมัส เจฟเฟอร์สัน มีความตอนนึงที่พูดถึงสิทธิ เสรีภาพ ขั้นพื้นฐานของปวงชน และใช้วลีว่า Life, Liberty, and the Pursuit of Happiness ในความหมายที่ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิในชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข ท่อนสุดท้ายนี่แหละครับ ที่กลายมาเป็นชื่อหนัง และแก่นใหญ่ใจความของหนัง หนังเรื่องนี้อาศัยแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ คริสโตเฟอร์ การ์ดเนอร์ อดีตเซลส์แมนตกอับ เมียทิ้ง ที่ฝันจะมีชีวิตที่ดีขึ้น และไม่ได้นั่งรอให้ฝันงอกขึ้นเองจากดิน แต่ออกเดินหน้าสร้างฝันให้เป็นจริง หากกว่าฝันของคริสโตเฟอร์จะเป็นจริง มันไม่ได้ง่ายเหมือนไปออกรายการของคุณไตรภพสมัยยังอยู่ช่อง 3 ที่ไปเล่าเรื่องแล้วบรีสก็แจกของให้หนึ่งซาเล้ง ให้เงินห้าหมื่นไปตั้งตัว ผมชอบที่เขาบอกว่า คำว่า pursuit of the happiness มันแปลว่า ไอ้ความสุข(ทางโลก)ของบางคนน่ะไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ หากแต่ต้องออกแรงตามล่ามัน ชนิดสายตัวแทบขาด เขาปากกัดตีนถีบ ต้องสู้สารพัด ทั้งหาเงินมาเลี้ยงลูก จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าอาหารประทังชีวิต ค่าปรับ ฯลฯ ในระหว่างที่การตามล่าหาฝัน ยังต้องดำเนินไป ถ้าคุณอยากรู้ว่าเงินสัก 5 บาท มันมีค่าขนาดไหน คุณจะซึ้งแก่ใจ ถ้าวันใดวันนึง คุณเหลือเงินในกระเป๋าแค่ ยี่สิบ แล้วจะต้องขึ้นรถเมล์ ต้องมีชีวิตอยู่อีกหลายวัน โดยที่คุณไม่ชอบออกปากรบกวนใคร คุณเคยต้องซื้อของอะไรที่จำเป็นในราคา 60 บาท แล้วทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ 59 บาทไหมครับ วันนั้นแหละ คุณจะรู้สึกว่า เงินบาทเดียวมันโคตรจะมีความหมายเลย วิล สมิธ เล่นบทพ่อได้สมจริง จนนึกไม่ออกว่าเขาเคยเป็นแร็พเปอร์มาก่อน สมราคาที่ได้เข้าชิงออสการ์ เหลือกำลัง คนที่เล่นเป็นลูกชายในเรื่อง ก็คือลูกชายในชีวิตจริงของวิล สมิธ เอง.. มิน่า.. เข้าขากันเหลือเกิน ผมเล่าแค่นี้แหละ..  ที่เหลือให้คุณไปตามดูเอาเอง หนังเป็นดราม่า ค่อนข้างบีบหัวใจ ใครบ่อน้ำตาตื้น ก็เตรียมทิชชู่ไว้สัก 2 แผ่น หนังเรื่องไหนผมเชียร์ให้ดู.. ก็รับรองว่าดูได้จริงๆ จะชอบไม่ชอบก็อีกเรื่อง แต่รับรองว่าคุณไม่เสียดายเงินแน่ๆ จะเชื่อไม่เชื่อจะดูไม่ดู ก็เป็นเสรีภาพอย่างนึงของคุณ แต่อย่าไปอุดหนุนแผ่นผีก็แล้วกัน  หนังเขาชื่อ pursuit of the happiness ไม่ใช่ pursuit of the pirates  ปิดท้ายด้วยเพลงนึงที่หนังเอาไปใช้ ฟังแล้วนึกถึงใครบางคน บังเอิญเป็นเพลงโปรดผมเสียด้วย ไม่เอามาให้ฟังได้ไง แต่ผมไม่มีฉบับในหนังนะ ผมมีแต่ต้นฉบับ เพลงนี้ชื่อ สะพานข้ามห้วงน้ำอันเชี่ยวกราก เป็นเพลงระดับรางวัลแกรมมี่ ในปี 1971 ของ ไซม่อน และ การ์ฟังเกิล ครับ ฟังไม่ถนัดวันเสาร์จะเอาไปเปิดให้ฟังอีกทีนะครับ ขอให้โชคดีกับการตามหาความสุขของคุณครับ
เคยดูหนังตัวอย่างจาก UBC แล้วค่ะ น่าไปดูพร้อมทิชชูอีก 1 กะบุง เพลงนี้ฟังมาตั้งแต่เด็กแล้ว ฟังทีไรน้ำตาซึมทุกทีเลย แง............
 โดย: Nichaboon3000 IP: 203.118.66.251 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:09:10 น.
ไอ้ความรู้สึกที่ของมันหกสิบบาทแล้วมีเงินแค่ห้าสิบเก้าบาทนี่ มันคงแย่พิลึกนะคะ
เพลงนี้จริงๆเมื่อไม่นานมานี้เอง เพื่อนมาเยี่ยมจากอีกเมือง ก็เลยไปเที่ยวกัน กลับมาบ้านก็มึนๆด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ก็เลยจะนอนแล้ว เพื่อนก็เปิดเพลงนี้กล่อม แล้วเขาหิว ก็เลยปิ้งขนมปังกิน การได้ฟังเพลงนี้แล้วได้กลิ่นขนมปังหอมๆกล่อมจนหลับนี่วิเศษมากเลยค่ะ ยังจำโมเมนต์นั้นได้อยู่เลย :) โดย: DropAtearInMyWineGlass
 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:34:13 น.
เนื่องในวันแห่งความรัก โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four
) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:08:26 น.เห็นตัวอย่างหนังครั้งแรกอยากดูมากเลยค่ะ คิดว่าคงเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากๆ เรื่องนึง แต่เห็นพี่ขู่เรื่องซับน้ำตาขนาดนี้ สงสัยต้องไปทบทวนอีกรอบค่ะ
สมัยเด็ก...เคยมีนิสัยแย่อยู่อย่างนึงเหมือนกัน คือไม่เก็บเศษเหรียญให้เป็นที่เป็นทาง แม่เลยดุว่า เงินแม้จะแค่บาทเดียว แต่ในยามที่เราต้องการมัน มันจะมีค่ามากกว่า 1 บาทไม่รู้กี่สิบเท่าในความรู้สึก จนวันนึงที่กระเป๋าหาย ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่ 3 บาท แต่ต้องจ่ายค่ารถ 3.50 ก็เลยได้ซึ้งถึงคำสอนค่ะ  (ส่วนทุกวันนี้มีเศษเหรียญอยู่หลายจุด หลายกระเป๋ามาก เรียกใช้ได้ทุกสถานการณ์ ฮิฮิฮิ)ปล. เพลงนี้เป็นเพลงที่อ.เอามาสอนในวิชาภาษาอังกฤษสมัยม. 2 ชอบมากเหมือนกันค่ะ ความหมายดีเนอะ  โดย: 35kb IP: 58.8.191.72 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:12:55 น.
พึ่งทราบจากบล็อกพี่ล่ะครับว่าเด็กผู้ชายที่เล่นประกบกับวิล สมิธ คือลูกในไส้ของเขา
เรื่องนี้ผมดูหนังตัวอย่าง ก็ตั้งใจว่าจะไปดูแน่นอนครับ เรื่องค่าของเงิน ผมรู้ซึ้งดีเลยล่ะ มาระยะหลังๆ ผมเริ่มจดบันทึกว่าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ปล. ไม่ได้ชอบแค่เพลงเดียวในรายการนะครับ แต่เพลงสุดท้าย มักติดหู และอยู่ในความทรงจำนานที่สุด โดย: King Of Pain
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:46:30 น.ตอนแรกกะว่าคงไม่ดู
แต่พอได้อ่าน Blog นี้แล้ว มีเปลี่ยนใจ ช่วงนี้หนังน่าดูเยอะมากเลยครับ ชักจะจัดเวลาไปดูไม่ถูกแล้ว เรื่องนั้นก็อยาก เรื่องนี้ก็อยาก อิอิอิ ปล.เพลงนี้ตอนที่ได้ยินครั้งแรก ขนลุกเกรียวเลยล่ะครับ โดย: Tony KooN (tk_station
) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:47:37 น.ดีครับดี เรื่องคลิก เรื่องน้ำหอม เรื่องนี้เรื่องนั้น ผมก็ดูไปพอสมควรตามที่คุณพี่บอกแล้ว ซึ่งก็ดีทั้งนั้นครับ
แวะมาดูว่าคุณพี่แนะนำอะไรอีก จะได้ตั้งใจสนใจเรื่องนั้นเป็นพิเศษ  โดย: ดำรงเฮฮา
 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:20:30 น.พี่ดำรงครับ.. ผมแนะนำหนังเรื่องคลิก เรื่องน้ำหอม แต่ไม่เคยแนะนำ เรื่องนี้เรื่องนั้น นะครับ
ไม่ต้องใช้ถึง 1 กระบุงหรอกคุณปูน ประมาณ 2 แผ่น ผมกะแล้ว  คุณอาย.. อ่านแล้วอยากไปมนต์นมสดขึ้นมาเลยนะนี่  ป้าหู้ ขอบคุณสำหรับไอเดียสีชมพู ที่อิ่มท้องด้วยนะครับ 35 kb พี่ขู่ไปงั้นแหละ แค่น้ำตาซึมๆ ไม่ถึงกับโฮๆๆ เรื่องเศษเหรียญ พี่ใช้หยอดกระปุกออมสินเอา หยอดมาหยอดไป มันเริ่มจะเต็ม เลยเทกระปุกมานับ ได้เงินมาเกือบ 3 พัน หย่อนไป 90 บาท พี่หยอดเฉพาะเหรียญ 5 กับเหรียญ 10 น่ะครับ ไอ้เหรียญบาทพี่เอาไปวนใช้ เผื่อซื้อของมีเศษ 2 บาท 3 บาท  คุณขาม.. พี่แซวเล่นครับ เรื่องเพลง แค่ฟัง ผมก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องชอบเลยสักเพลง แต่แวะมาฟัง ก็เจ๋งแล้ว โทนี่คูณ อย่าไปดูที่ฮ่องกงล่ะ บัตรแพงกว่าเมืองไทยเยอะเลย สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับ โดย: aston27
 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:23:20 น.วันวาเลนไทน์นี้ไม่มีอะไรพิเศษจะมอบให้ นอกจากดอกไม้สีหวานช่อนี้ โดย: Susie
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:06:35 น.อยากดูฝีมือของวิล สมิทครับ
สุขสันต์วันแห่งความรักคับ โดย: tpipe
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:16:33 น.
ขอให้มีแต่ความหวาน โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four
) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:47:03 น.คิดถึงบล็อกนี้เลยแวะมาอ่านซะหน่อย
เพิ่งได้ดูพรีวิวเมื่อวานนี้เองค่ะ ตั้งใจว่าจะไปดูเรื่องนี้ ท่าทางจะบีบหัวใจพอสมควร ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น แต่ก็คงสร้างแรงบันดาลใจเช่นเดียวกัน ถ้าได้ดูจะมาเล่าให้ฟังค่า อ้อ มีเรื่องสงสัยว่าทำไมเขาถึงจงใจใช้คำว่า HAPPYNESS ไม่ใช้ HAPPINESS ^^ โดย: I am just fine^^
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:57:53 น.ดอกไม้คุณ susie สวยจังเลย
 ขนมป้าหู้ก็น่าทาน  โฮ่ๆๆ ขอแจมด้วยคนค่า สุขสันต์วันวาเลนไทน์กะพี่เอ๊ดและแฟนๆ blog นี้ด้วยนะคะ โดย: sunny IP: 203.150.233.178 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:12:34 น.
ขอให้มีความสุขกับวันแห่งความรักนะคะ
โดย: นักรักโลกมายา IP: 58.9.190.187 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:16:55 น.
ส่วนตัวแล้ว พยายามเลี่ยงหนังที่ทำให้เสียน้ำตามากๆ แต่อยากเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้ค่ะ  โดย: jengly IP: 203.156.44.86 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:32:09 น.
ahhhh เพลงเพราะมากจริงๆ ด้วย
โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:33:47 น.
ขอบคุณสำหรับ ดอกไม้ทุกช่อเลยครับ
ผมแบ่งให้ทุกท่านที่มาอ่านเลยละกัน  ขอบคุณเป็นพิเศษ สำหรับสลิ่มครับป้า โอ้ว ดีใจ คุณปืนกลชอบเพลงของผมด้วย คุณเจ็งลี่ .. จริงๆ ผมก็อาจจะเว่อไปนิดนึงนะ บางคนดูก็อาจจะไม่มีอะไรต้องเสียน้ำตาก็ได้ คุณ sunny ทานเยอะๆเลยครับ ขนมบล็อคนี้ ทานไม่มีวันหมด  สุขสันต์วันแห่งความรักให้ทุกท่าน คุณเนเจอร์ คุณหมอรูปหล่อ คุณพรหล้า คุณนักรักโลกมายา ซูซี่ ไอ แอม จัส ฟาย (เขียนเป็นไทยแล้ว แหม่งๆนะ)  ในเรื่องเขามีฉากนึงพูดเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าบอกไปตอนนี้แล้วอาจจะไม่ได้ตีความเอง ไปดูก่อนละกันนะ โดย: aston27
วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:19:37 น.โอว เพลงเพราะขาดใจครับพี่
ขออภัยครับช่วงนี้ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมบล็อกพี่ (ขนาดบล็อกผมเองยังไม่ค่อยได้ไปปัดกวาดเลย) พี่หายป่วยแล้วหรือยังครับ แต่คิดว่าน่าจะดีขึ้นมากแล้วใช่มั้ยครับ 55 ไม่รู้จะคุยอะไรเกี่ยวกับหนัง เห็นพี่บอกสปอยล์เลยไม่กล้าอ่าน  โดย: สตรอเบอร์รี่บางวัน IP: 124.120.190.139 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:21:35 น.
ครั้งแรกที่เห็นวิล สมิธบนโปสเตอร์นึกว่าเป็นหนังตลกซะอีก ถึงว่าบรรยากาศอบอุ่นพิกล
ประทับใจคำว่าิสิทธิในการแสวงหาความสุขเป็นพิเศษ ไม่มีเหตุผล... สุขสันต์ัวันวาเลนไทน์ย้อนหลังนะคะพี่แอสตัน ปล. นุ่นเองค่า ได้ร่างใหม่แล้ว โดย: คุณม้าฮาหลุดโลก
วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:59:56 น.เรานึกว่าเพลงนี้แปลว่าสะพานข้ามน้ำเน่ามาตลอดเลยนะเนี่ย
เห็นบอกว่า troubled อ่ะ.. ขอให้พี่เอ๊ดหายหวัดเร็วๆ นะคะ (พูดหลายรอบหลายหน้า) เป็นหวัดนานๆ อันตราย ถ้านานกว่านี้ไปหาหมอดีมั๊ยคะ? ปล. ขอโทษอีกทีที่วันนั้นไปนัดช้าค่ะ โดย: อรุ IP: 58.9.26.197 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:20:29 น.
ได้ไปดูหนังเรื่องนึง แล้วเห็นหนังโปรโมทเรื่องนี้
หละค่ะ .. ไม่ดูไม่ได้ซะแล้ว จริงๆ ชอบวิล สมิธ ได้ดูแต่ละฉาก (แค่หนังตัวอย่าง) รู้สึกเศร้ามาก แต่คำที่เค้าพูดกับลูกชาย ทำให้คนฮึกเหิมได้ดี เชียวละ .. ความสุข ความใฝ่ฝัน ยังมีแรงก็ยังต้อง ฝ่าฟันมันไปอย่างนั้นสินะ น้ำตาร่วงแน่ๆ เลย ถ้าถึงเวลาไปดูเรื่องนี้เต็มๆ โดย: moodee IP: 124.120.226.3 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:34:45 น.
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [
When youre weary, feeling small,
When tears are in your eyes, I will dry them all;
I'm on your side. when times get rough
And friends just can't be found,
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
When you're down and out,
When you're on the street,
When evening falls so hard
I will comfort you.
I'll take your part.
When darkness comes
And pains is all around,
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Sail on silvergirl,
Sail on by.
Your time has come to shine.
All your dreams are on their way.
See how they shine.
If you need a friend
I'm sailing right behind.
Like a bridge over troubled water
I will ease your mind.
Like a bridge over troubled water
I will ease your mind.