ก่อนจะเข้าเรื่อง .. ขอแถลงอะไรหน่อยนะครับ
สิ่งที่ผมเขียนไม่ว่าจะในกระทู้ หรือในบล็อคไหน
โปรดใช้วิจารณญาน บนพื้นฐานว่า คนเรามีสภาพแวดล้อมและปัจจัยเกื้อหนุนต่างกัน
อย่างเรื่องลาออกจากงานที่เขียนไปคราวก่อน
ถ้าจะลาออก ก็อย่าออก เพราะพยายามคิดแบบเดียวกับผม
เพราะบ่อยครั้ง มุมมองบางอย่าง มันเป็นกลไกในการคิดเพื่อเข้าข้างตัวเอง
เพื่อให้เราทุกข์น้อยลง ด้วยการเติมความเห็นดีๆ สวยๆ เข้าไปไว้ในหัว
ถ้าคุณทำตามผม แล้วเวลามีทุกข์ คุณรับมือไม่ได้อย่างผม ผมจะบาป
คราวนี้เข้าเรื่อง ..
ชื่อเรื่องคราวนี้ ดูหวาดเสียวหน่อยนะครับ
ไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่อง Sex Shop ที่หมายถึงร้านจำหน่ายสินค้าว่าด้วยเรื่องเพศนะ
แต่ผมสังเกตเห็นกระทู้ในสวนลุมฯ หลังๆมีเรื่องแบบนี้บ่อย
คือมีเชื้อสายฝ่าย อีฟ หรือ อีวา หลายท่านไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้ชายหรือหน่อเนื้อของ อาดัมให้ความสำคัญกับ sex มาก
ส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อนะครับ ว่าผู้หญิงจำนวนมาก สามารถแต่งงานมีชีวิตคู่ที่เป็นสุขกับคนรักได้ โดยไม่ต้องมี sex เลย
แต่ผมก็เชื่ออีกว่า มีผู้หญิงน้อยคน ที่จะมีชีวิตอย่างเป็นสุขได้ โดยปราศจากการ Shopping
ผมอาจจะไม่สามารถอธิบายได้ว่า พระเจ้า หรือธรรมชาติเล่นกลอะไรกับมนุษย์
ทำไมกลไกอวัยวะของสองเพศ ถึงได้ผลิตฮอร์โมนที่ต่างกัน
ทำไมสมองผู้ชายถึงโดนสร้างพิมพ์เขียว ให้เป็นฝ่ายกระตือรือร้นในการเจริญพันธุ์ มากกว่าฝ่ายหญิง
เหมือนกับที่ผมบอกไม่ได้ว่า ทำไมช็อคโกแลต ดอกไม้ ความสวยงาม และการช้อปปิ้ง ถึงมีอิทธิพลกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ผมบอกได้แต่ว่า.. ถ้าจะพูดว่าผู้ชายไม่สนใจอะไรนอกจาก Sex Sex Sex
ก็คงพูดได้ว่า ผู้หญิงไม่สนใจอะไร นอกจาก Shop Shop Shop
มันเป็นความต่าง ที่ไม่ต้องการเหตุผลว่าทำไม เท่ากับต้องการการยอมรับ และประนีประนอม
เรื่อง Shop ผมไม่มีคำแนะนำ เพราะผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องจิตใจสตรีมากนัก
แต่ลองไปอ่านหนังสือพวก คำสารภาพของสาวนักช้อปดูได้
ส่วนเรื่อง sex ผมไปตอบกระทู้ไว้อันนึง แบบนี้ครับ..
~ Sex จำเป็นสำหรับชีวิตคู่ ? ~
คิดว่าเรื่อง Sex มีความจำเป็นกับการใช้ชีวิตคู่หรือป่าวค่ะ
ที่ถามเพราะเห็นเพื่อนคนหนึ่ง บอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้มี
ความสำคัญสำหรับเค้าซักเท่าไหร่ เค้าและแฟนอยู่
ด้วยกันเหมือนเพื่อน ไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องนี้เท่าไร
อยู่ด้วยกันที่ความเข้าใจม๊ากกว่า
แต่เมื่อคุยกับเพื่อนอีกคน เขาก็จะบอกว่า จำเป็น
สำหรับเค้าม๊ากๆ แล้วเพื่อนๆ หล่ะค่ะ มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ( ถามเป็นความรู้นะค่ะ )
ไม่ได้ทะลึ่งนะค่ะ..
จากคุณ : หวังดีเสมอ ความคิดเห็นที่ 22
ถามแบบนี้ เหมือนถามว่าคนเราจำเป็นต้องมีโทรทัศน์ไหม
ถ้าตอบแบบคนธรรมดากลุ่มใหญ่ทั่วไป ก็ต้องบอกว่าจำเป็น
แต่ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่บ้านไม่มีโทรทัศน์ เขาก็อยู่ได้
เพียงแต่ชีวิตก็จะไม่มีอะไรให้เสพอย่างที่คนมีโทรทัศน์เขามี
ไม่ได้บอกว่า อะไรดีกว่าอะไร อะไรผิดอะไรถูกนะครับ
sex เป็นเรื่องความสมดุลย์ของความต้องการของคนสองคน
ยิ่งเป็นคู่สมรส ยิ่งไม่มีคำว่า ถูก หรือผิด จำเป็นหรือไม่จำเป็น
ถ้าสองฝ่ายต่างก็มีความต้องการ ก็ต้องบอกว่า จำเป็น
ถ้าทั้งคู่ ไม่มีใครต้องการเลย ก็ตอบได้ว่า ไม่จำเป็น
ในรายละเอียด ของกรณีที่มีความต้องการ ก็มีข้อปลีกย่อยออกไป
เช่นฝ่ายนึงชอบมาก อีกฝ่ายชอบน้อย ก็มีปัญหา
ฝ่ายนึงชอบแบบปกติ ฝ่ายนึงชอบพิสดาร ก็มีปัญหา
แต่ถึงจะอย่างไร .. จะจำเป็นแค่ไหน
โทรทัศน์ก็เป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนึงของบ้าน
ไม่ใช่ทั้งหมดของบ้าน
ถ้าทั้งบ้านมีองค์ประกอบที่น่าอยู่ ลงตัว สุขสบาย
ไม่มี โทรทัศน์ไปอย่างนึง ผมว่ามันก็หาอย่างอื่นชดเชยได้นะ
มันสำคัญ จำเป็น แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่ตาย แต่อาจจะหงุดหงิด :)
บางที ..ผมยังอยากไปอยู่บนดอย หรืออยู่ริมทะเลไกลๆเลย
จากคุณ : aston27 ชีวิตคู่ต้องการอะไรมากกว่า sex เหมือนที่บ้านก็จำเป็นต้องมีอย่างอื่นนอกจากโทรทัศน์น่ะครับ
จะว่าไป โทรทัศน์ อาจดูเป็นตัวเลือกอันดับแรกเวลาซื้อของเข้าบ้าน
แต่มันไม่ใช่ของสำคัญที่สุดอย่างเดียวหรอก
sex ก็เหมือนกัน
เที่ยวหน้า ถ้าจะไปเดทกับผู้ชายสักคน
ถ้าสงสัยว่า เขาให้ความสำคัญกับเรื่อง sex ไหม
ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า เรื่องช็อปปิ้ง สำคัญกับเราไหม
อันนี้ผมจับคู่เอาเองนะครับ
บางคนอาจจะบอกว่า ของผู้หญิงเอาเรื่องความสวยความงามดีกว่าไหม
เพราะธรรมชาติสร้างผู้หญิงให้ทำตัวสวยๆ เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม โดยเจตนาบ้าง ไม่เจตนาบ้าง
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ แกถึงบอกว่า กิจกรรมทั้งหมดของคนเรา นำไปสู่เรื่องๆเดียวกัน คือ sex
ไม่ต้องเห็นด้วยกับแกหรอกนะครับ แค่ลองคิดดูเล่นๆ
มันมีส่วนจริงบ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด
พูดถึงเรื่อง sex บางท่านอาจจะสงสัยว่า
ดูผมธรรมะ ธรรมโม สนใจเรื่องนี้ด้วยหรือ
อันนี้ก็เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของหลายท่าน
บางคนบอกผมว่า อยากจะเข้ามาศึกษา เข้ามาปฏิบัติ
แต่ก็เข้าใจว่า คนปฏิบัติธรรมนี่ ต้องใช้ชีวิตอีกอย่างนึง
ต้องไม่แต่งงาน ต้องไม่มี sex ต้องไม่เที่ยว ไม่ช้อปปิ้ง ต้องเป็นคนดีทุกวินาที ทำงานเพื่อการกุศลไปหมด หวังกำไรไม่ได้ เพราะต้องไม่มีความโลภ
ก็เลยไม่ยอมศึกษาธรรมะ เพราะคิดว่า ธรรมะเป็นเรื่องของคนอยู่วัดเท่านั้น
ไม่ใช่กิจของคนอยู่บ้าน
ที่จริง เขาเข้าใจถูกต้องแค่ข้อแรก ข้อเดียว ที่ว่า.. คนปฏิบัติธรรมนี่ ต้องใช้ชีวิตอีกอย่างนึง
ชีวิตอีกอย่างที่ว่า.. คือชีวิตที่มีสติครับ
ที่เหลือยังเป็นธรรมดา ได้ทุกอย่าง..
เน้นคำว่า ธรรมดา นะครับ ชีวิตคนธรรมดาจริงๆ
ไม่ใช่เป็นโจร ปล้นฆ่า ข่มขืน แล้วบอกว่านี่ธรรมดาของผม
ไม่ใช่ไปเป็นชู้กับสามีภรรยาคนอื่น แล้วบอกว่านี่ธรรมดา
แต่หมายถึงการดำรงชีวิตแบบปกติ ที่มนุษย์ทั่วๆไป ธรรมดา ควรจะเป็น
เรียนหนังสือ ทำงาน ดูแลตัวเอง ดูแลบุพพการี มีคนรัก แต่งงาน มีครอบครัว มีลูก ทำได้หมด
ในศีล 5 ไม่ได้มีข้อไหน ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ห้ามมีความรัก ห้ามช้อปปิ้ง นะครับ
แต่ถ้าคุณปฏิบัติไปเรื่อยๆ.. แบบถูกแนวนะ
คุณจะเห็นความสำคัญของเรื่องพวกนี้น้อยลงๆเอง เมื่อถึงเวลา
คุณจะเห็นมันเป็นภาระ เห็นมันเป็นส่วนเกินอย่างนึง ไม่ใช่สิ่งที่ขาดไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ
ใครจะ sex จะ shop อะไร ก็ตามอัธยาศัย นะครับ
มันเป็นงานอดิเรกนะคะ
ถึงปฏิบัติถูกแนวยังไง
ก็ไม่น่าจะน้อยลงได้ไปซักเท่าไหร่
จั่วหัวหวือหวา
แต่เนื้อหาลึกซึ้งเช่นเคยนะคะ