คืนวันเสาร์คุณทำอะไรกันบ้างครับ?
สำหรับคนไม่เที่ยวกลางคืนอย่างผม
ปกติ ถ้าผมไม่ไปดูหนัง .. ก็จะอยู่บ้านดู ดีวีดี ดูฟุตบอลครับ
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ผมสนใจมาตั้งแต่เล็กจนโต
หลายคนบอกว่า.. มองเผินๆ ฟุตบอลเหมือนกีฬาของผู้ชายบ้าๆกลุ่มนึง
มีคนยี่สิบคนไปวิ่งไล่เตะลูกกลมๆไปทั่วสนาม
ปล่อยให้คนอีกสองคน คอยกันไม่ให้ไอ้ยี่สิบคนที่ว่า เตะเข้าประตู
ใครที่พอจะสนใจอ่านข่าวฟุตบอลอังกฤษอยู่บ้าง คงจะเดาได้ไม่ยากว่าผมเชียร์ทีม aston villa
ทีมที่มี ปีเตอร์ วิธ อดีตโค้ชทีมชาติไทย เคยเล่นเป็นศูนย์หน้า ในชุดที่เอาชนะบาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยุโรปไปครอง ในปี 1982
แอสตัน วิลล่า ปัจจุบัน ไม่ค่อยเหลือวี่แววของอดีตแชมป์ยุโรปแล้วครับ
กลายเป็นทีมกลางๆ แถมปีนี้ต้องดิ้นรนตกชั้น อีกต่างหาก
ที่จริงก็เป็นแบบนี้มาหลายปีดีดัก แต่ปีนี้หนักหน่อย เพราะผลงานการเล่นในบ้านไม่ดีเอาเลย
ส่วนหนึ่ง เพราะแฟนๆของวิลล่า คาดหวังกับทีมไว้สูงมาก
พอไม่ได้อย่างใจแฟนๆก็เริ่มส่งเสียงโห่ไล่ผู้จัดการทีมเสียเอง
รวมถึงนัดไหนถ้าเล่นไม่ดี แทนที่จะให้กำลังใจกลับโห่ทีมตัวเองซะงั้น
ตอนนี้ศรัทธาในทีมค่อนข้างมีต่ำ คนดูแต่ละนัดก็น้อยลงๆ
เรื่องที่น่าแปลกก็คือ มีทีมบางทีมที่อยู่ก้นตาราง อันดับต่ำกว่าวิลล่า
แต่เล่นนัดไหนคนเป็นเต็มสนาม แถมส่งเสียงเชียร์กันอึกทึก
ส่วนนึงผมเชื่อว่า มันคือผลจาก "ความคาดหวัง" ที่ต่างกัน
ในขณะที่คนกลุ่มนึง ประเมินว่า ตัวเองเป็นทีมเล็ก
เพียงแต่ประคองตัวให้อยู่รอดในลีกสูงสุดของประเทศ
ก็เป็นความสุขอย่างยิ่งแล้ว
คนอีกกลุ่ม อย่างแฟนวิลล่า กลับยึดมั่นในอดีตอันยิ่งใหญ่
และตั้งความคาดหวังไว้สูง
เมื่อผลที่ได้ต่ำกว่าที่คาด จึงเกิดอาการผิดหวังอย่างแรง
มนุษย์เรามักจะตกหลุมพรางของความสำเร็จในอดีตบ่อยๆนะครับ
แต่เราลืมไปว่า.. ที่จริงแล้ว ความสำเร็จมันไม่ใช่ของยืนยง เที่ยงแท้ ถาวร
ก็เหมือนกับความล้มเหลวนั่นแหละ มันไม่ได้แปลว่า วันนี้ล้มเหลว ก็จะล้มเหลวไปตลอด
เพียงแต่การพลิกผัน จากล้มเหลว ไปสู่ความสำเร็จ มันยาก
แต่จะพลิกผันจากสำเร็จ ไปสู่ความล้มเหลว มันง่ายกว่าเยอะ
สิ่งนึง ที่ช่วยให้คนที่เคยประสบความสำเร็จ ล้มเหลวได้ง่ายๆ
ก็คือการตั้งความคาดหวังไว้กับตัวเองนี่แหละครับ
ทั้งที่ลืมไปว่า ก่อนหน้านี้ เคยทำอะไรได้สำเร็จ เพราะไม่ได้คาดหวัง ไม่มีอะไรกดดัน
ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆทำไปตามความสามารถและโอกาส
หลุมพรางของความสำเร็จ จึงไม่ได้เกิดจากใคร นอกจากตัวเอง
แม้แต่ ผู้ปฏิบัติหลายคนก็เป็นอย่างนี้นะครับ
บางคน จากที่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยปฏิบัติธรรมเลย ไม่รู้ว่า ปฏิบัติน่ะเขาทำอะไรกัน
พอเริ่มลงมือ เริ่มทำเป็น เริ่มเห็นผลนิดๆหน่อยๆ
ก็เริ่มคาดหวัง เริ่มกดดันตัวเอง เริ่มอยากก้าวหน้า อยากได้ผลดีๆ อยากเก่ง อยากเห็นโน่น อยากได้นี่
จากจิตที่เป็นกุศล ก็เริ่มกลายเป็นอกุศลไป โดนความอยากมันครอบเอา
หลักการเรื่องหลุมพราง กับความคาดหวังนี่ อธิบายได้ แม้แต่กับเรื่อง ความรัก และชีวิตคู่ครับ
เริ่มจากเรื่องฟุตบอล จบด้วยเรื่องธรรมะ
เขียนได้ไงเนี่ย..
สุขสันต์คืนวันเสาร์ครับ