ถ้ารักเป็นทุกข์ .. แล้วจะรักไปทำไม
เคยได้ยินคำถามนี้กันบ่อยๆใช่ไหมครับ :)
คำถามอีกอัน ที่ผมเคยเจอคือ..
ถ้าพี่ย้อนเวลากลับไปได้.. พี่ยังจะเลือกมีความรักอีกไหม?
ที่ผมตอบไป.. คือ..
ถ้าเลือกได้ ผมคงจะเลือกให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเหมือนเดิม
หมายความว่า.. ผมคงจะไม่ไปกำหนดว่า ผมต้องมี หรือไม่มีความรัก
เพราะผมเชื่อว่า ความรักเป็นของแปลกจำพวกหนึ่ง
คือมันเหมือนเป็นสิ่งที่เราเลือกได้ เพราะมันน่าจะขึ้นกับใจของเรา.. ใช่ไหมครับ
แต่เชื่อเถอะครับ ว่ามันบังคับไม่ได้ ไม่มีตัวตน แค่รู้สึกได้
เพราะผมไม่รู้ว่าคุณๆสังเกตกันไหม ..ว่าใจคนเราเนี่ย มันก็ไม่ใช่ของๆเรา บังคับไม่ได้
เขาทำงานกันเป็นอิสระ เวลาตาเห็นสาวสวย สมองรับรู้ความดีงามที่เธอทำ เสียงเพราะๆ ที่เธอพูด
จิตมันก็แล่นปรู๊ดไปพร้อมความชอบใจ ยินดี พอใจ
ต่อให้คุณจะพร่ำบอกว่า.. คุณอยากเป็นโสดๆๆๆ
มันก็ไม่ฟังคุณหรอก
เราทำได้แค่ห้ามใจ ไม่ให้เกิดการกระทำสืบต่อ
แต่ห้ามไม่ให้ใจเกิดความชอบ ความรัก เห็นจะไม่ได้
เพราะฉะนั้น.. ถ้าคำถามคือ.. ถ้ารักเป็นทุกข์ แล้วจะรักไปทำไม
ผมคงจะตอบว่า.. เพราะรักมันบังคับไม่ได้
เหมือนที่หลายท่านมีคนที่ดีแสนดี มารัก แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกกับเขามากกว่าเพื่อน หรือน้อง
ถ้าคำถามคือว่า.. ถ้าย้อนเวลา กลับไปได้.. ยังจะเลือกมีความรักหรือเปล่า
คำตอบจึงต้องเป็น.. ผมไม่ทราบ.. เพราะไม่รู้ว่าย้อนเวลากลับไปแล้ว ผมจะยังเดินไปตกหลุมรักของใครเข้าอีกไหม
ถ้าถามใหม่ว่า.. เลือกจะสานต่อความรักให้มันเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ผ่านมาไหม
จะตอบว่า.. ไม่แล้ว
ไม่ใช่เพราะรักไม่ดี ไม่ใช่เพราะกลัวทุกข์
แต่เพราะเห็นว่า ความสมบูรณ์ในคนเรา มันไม่มี
เพระเห็นว่า ความคาดหวังที่เรามีต่อตัวเอง และคนรัก เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงได้ยาก
เพราะเห็นว่า.. ทุกข์ที่เกิดกับคนที่เรารัก เพราะความไม่สมบูรณ์ของเรา มันน่าเศร้า
เพราะเห็นว่า.. การมีคนรักที่ไม่ดี ก็เป็นทุกข์แบบหนึ่ง
การมีคนรักที่ดีพร้อม ก็เป็นทุกข์อีกแบบหนึ่ง
วันนี้อ่านแล้ว ต้องมีสติดีๆนะครับ..
มันจะออกเป็นไดอารี่ ส่วนตัวสักหน่อย ไม่ใช่คำแนะนำ ไม่ใช่ข้อคิดที่อยากให้ใครเชื่อตามผม
เป็นแต่การพยายามคลี่ความคิดในหัวของตัวเอง ออกมาตีแผ่ ให้เห็นอะไรชัดขึ้น
กรุณาอย่าเอาไปใช้อ้างอิงเพื่อตัดสินใจอะไรเป็นอันขาด
เพราะอีกสิบวัน ผมอาจจะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนทัศนคติใหม่
และกลับมาคืนดีกับความรัก ไม่มองมันในแง่ร้ายเหมือนเดิม
ใครจะไปรู้ล่ะครับ..
สุขสันต์วันฉัตรมงคลครับ