ขนมชั้น ขนมอมตะ ขายได้ทุกๆเทศกาล


ขนมชั้น ขนมหวานนุ่ม ๆ เหนียว ๆ เป็นชั้น ๆ สลับสี
ขนมไทยชนิดนี้แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังคงดำรงอยู่คู่คนไทยอย่างเหนียวแน่น
ถาดขนมชั้นยังคงอยู่คู่ร้านขายขนมไทยเสมอมา...

วันนี้ทีมงาน ช่องทางทำกิน จะนำเสนอสูตรการทำ ขนมชั้น ซึ่งบางทีอาจจะมีคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า...
ทำไมขนมชนิดนี้ยังคงอยู่คู่กับคนไทยไม่เสื่อมคลาย...แฝงอยู่

บุญศรี พุ่มมาลี เป็นผู้ที่ทำขนมชั้น ขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว
ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านบุญศรีขนมชั้น ย่านวัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ
โดยเจ้าตัวเล่าว่า เดิมยึดอาชีพขายเฟอร์นิเจอร์อยู่กับบ้านแต่ช่วงปี 2538
เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงเฟอร์นิเจอร์ขายไม่ค่อยได้ จึงจำเป็นต้องหาอาชีพอื่นเสริม

ตอนนั้นไปปรึกษาญาติผู้ใหญ่ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับการทำขนมชั้น เป็นสูตรชาววัง
ก็ได้รับความรู้ในการทำขนมชั้นมา และเนื่องจากเป็นคนที่ชอบทานของหวานอยู่แล้ว จึงเรียนรู้ได้ไม่ยากนัก

บุญศรีเล่าต่อไปว่า สูตรขนมชั้นที่ได้มาในครั้งแรกเป็น ขนมชั้นใบเตย ต่อมาก็อาศัยความคิดสร้างสรรค์
ค่อย ๆ คิดเพิ่มเติมขนมชั้นที่แปลกใหม่ขึ้นอีก 4 สูตรคือ ขนมชั้นดอกคำฝอย ขนมชั้นกาแฟ ขนมชั้นดอกอัญชัน
และ ขนมชั้นสีชมพู ปรากฏว่าขายได้และขายดีด้วย
เพราะเป็นการเพิ่มรสชาติที่แปลกใหม่ เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
และต่อมายังได้ทำ ขนมทองเอก เพิ่มเติมขึ้นมาอีก 1 อย่างด้วย

สำหรับอุปกรณ์ในการทำขนมชั้นนั้น คุณบุญศรีบอกว่า ก็เป็นอุปกรณ์ที่หาได้ ในครัวเรือนทั่วไป
ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส กะละมังผสมแป้ง กระทะ ลังถึงนึ่งขนม หรืออาจจะประยุกต์ด้วยการใช้กระทะใบใหญ่รอง
ด้วยไม้ไผ่สานก็ได้ นอกจากนี้ก็ต้องมีแม่พิมพ์ขนมชั้น ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้แม่พิมพ์เป็นลักษณะใด
อาจจะเป็นถาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส วงกลม หรือแม่พิมพ์รูปสัตว์ หรือดอกไม้ ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบ

ที่ร้านคุณบุญศรีจะใช้ถาดพลาสติกสีขาวทนความร้อน ขนาด 5x5 นิ้ว เป็นแม่พิมพ์ขนมชั้น
ซึ่งลักษณะของแม่พิมพ์แบบนี้ก็มีจำหน่ายตามร้าน พลาสติกทั่วไป

ขั้นตอนการทำ ขนมชั้น ตามสูตรก็เริ่มจากนำแป้งมัน 2.5 กก. แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม มานวดกับหัวกะทิ 2 กก.
โดยขั้นตอนการนวดแป้งนี้คุณบุญศรียังคงยึดแนวทางดั้งเดิมไว้ คือ นวดด้วยมือ
ซึ่งรสชาติของขนมที่นวดด้วยมือนั้นจะอร่อยกว่าการนวดด้วยเครื่อง เพราะสามารถกะน้ำหนักมือ และจังหวะใน
การนวดได้ด้วยตัวเราเอง ทำให้แป้ง 2 อย่างและหัวกะทิเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างนุ่มนวล

นวดแป้งได้ที่แล้ว จากนั้นก็นำแป้งที่นวดไปละลายกับหางกะทิ 3 กก. และน้ำตาลทราย 3.5 กก.
คอยใช้ตะบวยคนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

เมื่อละลายแป้งสำเร็จแล้ว ทำการแยกแป้งออกเป็นส่วน 5 ส่วน เท่า ๆ กัน
เริ่มต้นที่ส่วนแรก...นำ น้ำใบเตย สีเขียวลงไปผสม โดยน้ำใบเตยนั้นได้มาจากการนำใบเตยมาปั่น
จากนั้นบีบเอาแต่น้ำออกมากรอง

ส่วนที่สอง..นำสีเหลืองของดอกคำฝอยลงไปผสม ซึ่งได้จากการนำดอกคำฝอยแห้งไปแช่น้ำร้อน เพื่อให้สีเหลือง
ละลายออกมา แต่ไม่ควรละลายในน้ำเย็น เพราะสีของน้ำดอกคำฝอยจะไม่ค่อยละลาย
ส่วนที่สาม...สีกาแฟ คือการนำกาแฟผงมาชงกับน้ำร้อน แล้วเทผสมกับแป้ง
ส่วนที่สี่...สีชมพู ใช้สีผสมอาหารสีชมพูละลายกับน้ำอุ่น แล้วเทผสมกับแป้ง
แต่ละส่วนก็เพิ่มสีตามความเหมาะสม แต่สุดท้ายไม่ต้องผสมอะไรทั้งสิ้น

ต่อไปก็ถึงขั้นตอนการนึ่ง การนึ่งขนมชั้นนั้นเริ่มด้วยการใส่น้ำในลังถึงยกขึ้นตั้งไฟ
หรืออาจจะใส่น้ำลงกระทะใบใหญ่ที่รองด้วยไม้ไผ่สานก็ได้ เมื่อน้ำเดือดแล้วก็เรียงภาชนะที่จะใส่ขนมชั้นลงไป

ตักแป้งขนมชั้นส่วนที่เป็นสีขาวลงไปก่อนเป็นชั้นแรก ปิดฝานึ่งไว้ให้สุกประมาณ 5-7 นาที
จากนั้นค่อย ๆ หยอดแป้งชั้นที่สองซึ่งเป็นสีลงไปนึ่งต่อทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ จนครบ 8 ชั้น
ซึ่งชั้นสุดท้ายจะจบลงที่ส่วนของแป้งที่เป็นสีพอดี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

นำขึ้นมาปิดฝาให้สนิทเรียบร้อย พร้อมขายในราคาถาดละ 30 บาท
ซึ่งเมื่อมีลูกค้ามาซื้อก็ควรจะตัดแบ่งให้เป็นชิ้น ๆ ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสอีกครั้งก่อนจะถึงมือลูกค้า
และก็อย่างที่บอก จะเปลี่ยนเป็นพิมพ์ขนมชั้นรูปแบบอื่น อาทิ รูปหัวใจ รูปวงกลม ก็สามารถทำได้
ซึ่งอาจจะแต่งหน้าขนมชั้นด้วยการพับแผ่นแป้งเป็นรูปดอกไม้ประดับไว้ เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าสนใจ

นอกจากขนมชั้นแล้ว คุณบุญศรียังพูดถึงขนมทองเอกว่า เป็นการผสมให้เข้ากันระหว่างไข่แดง น้ำตาลทราย
และหัวกะทิ นำลงไปเคี่ยวในกระทะกับแป้งสาลี ซึ่งการเคี่ยวขนมทองเอกนี้ให้ใช้ไฟแรงปานกลางเท่านั้น
อย่าใช้ไฟแรงมากหรืออ่อนไป เพราะขนมจะออกมาไม่นุ่มนวล รสชาติไม่กลมกล่อม ไม่นุ่มลิ้น
เมื่อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันแล้ว ก็ตักพักไว้ แล้วนำมาใส่แม่พิมพ์ทองเอก ซึ่งเป็นรูปร่างต่าง ๆ อาทิ รูปสัตว์ หรือ
ดอกไม้ และขั้นตอนสุดท้ายของการทำขนมทองเอกจะจบด้วยการใช้ไม้จิ้มฟันเกลี่ยแผ่นทองคำเปลวนิดหน่อยลง
บนหน้าขนม เท่านี้ก็ขายได้ราคาชิ้นละ 3 บาท

ขนมชั้น-ขนมทองเอก เป็นขนมหวานของไทยโบราณ ที่ถึงวันนี้ยังมีคนนิยมรับประทานกันอยู่
รวมถึงซื้อเพื่อใช้เป็นของฝากในเทศกาลหรือโอกาสสำคัญต่าง ๆ ด้วย

บุญศรี ขนมชั้น กลายเป็นชื่อที่ติดปากของคนย่านบางพลี และยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เมื่อได้กลายเป็นสินค้า
ระดับโอทอปและนำไปขายในงานแสดงสินค้าระดับประเทศ ด้วยรสชาติที่หอมหวาน สีสันที่หลากหลาย
ทั้งจากใบเตย ดอกอัญชัน กาแฟ ดอกคำฝอย หรือกลิ่นสละ
ซึ่งนอกจากจะขายในรูปแบบถาดเล็ก ราคาเพียง 30 บาทแล้ว
คุณบุญศรี ยังสร้างสรรค์เค้กขนมชั้นรูปกลม และเค้กรูปหัวใจในราคาปอนด์ละ 120 บาท อีกด้วย

ใครสนใจอยากชิมหรือสอบถามข้อมูลเรื่องขนมชั้นกับคุณบุญศรี ก็ติดต่อไปได้ที่...103 ตลาดบางพลีใหญ่
อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โทร. 0-2337-3717 และ 08-1398-8667

อนาคตของขนมไทยโบราณยังมีแนวโน้มที่สดใสไปอีกนาน...

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล รายงาน
เดลินิวส์



Create Date : 26 พฤษภาคม 2552
Last Update : 26 พฤษภาคม 2552 9:44:15 น.
Counter : 13321 Pageviews.

6 comments
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
น่ากินน่ากิน แงแงคิดถึงอาหารไทย
โดย: หนูดำจำมัย (หนูดำจำมัย ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:48:51 น.
  
สวยจัง น่าทานมาก ๆ ขอบคุณน่ะค่ะ
โดย: Baked by PonG วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:52:31 น.
  
อยากได้ที่มามากกว่าอะแย่จัง
โดย: LUKKET น่ารักคร้า IP: 124.121.128.196 วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:27:51 น.
  
ขอบคุณค่ะ
โดย: น้องมุ้งมิ้ง IP: 113.53.77.4 วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:8:50:15 น.
  
ดีมาก ขอบคุงคับ
โดย: doysup IP: 119.31.75.204 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:14:56:56 น.
  
สนใจรับขนมกงไว้ขายไหมคะสนใจรับขนมกงไว้ขายไหมคะ สนใจโทรมาสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ 0895348733 แม่ค้าชื่ออ้อมค่ะ
ขนมกงชื่อดังวัดป่าคา ขนมกง แม่แถบ จ.อยุธยา และปทุมธานีค่ะ
กงละ 5 บาท 1 พันกงขึ้นไป กงละ 4.50 บาท ไม่รวมค่าส่งค่ะ
โดย: อ้อม IP: 125.26.136.36 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:56:15 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Anotherside.BlogGang.com

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]

บทความทั้งหมด