พุดดิ้งมะม่วง ของหวานแสนอร่อยที่ทำได้ไม่ยาก เหมาะแก่อากาศร้อนๆ ในบ้านเรา
ยิ่งช่วงไหนมีมะม่วงสุก ลองเข้าครัวมาแปรรูปมะม่วงของเราให้เป็นพุดดิ้งแสนอร่อยกันครับ
ทำได้ง่ายๆ สนุกและสวยงามด้วยครับ
ส่วนผสม (สำหรับ 6-7 ที่)
1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 1 ลูก (300 ก.)
2. แผ่นเจลาติน 6 แผ่น
3. นมข้นหวาน 80 ก.
4. วิปปิ้งครีม 200 มล.
5. น้ำเปล่า 120 มล.
6. ใบสะระแหน่
วิธีทำ1. แช่แผ่นเจลาตินกับน้ำเย็น(
ใช้น้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง) ให้นิ่ม ประมาณ 10 นาที
(
ไม่ควรวางแผ่นเจลาตินทั้งหมดลงไปทีเดียว เพราะจะทำให้แผ่นติดกันแล้วแกะออกยาก
ให้วางแผ่นไขว้สลับกันเป็นกากบาท)
2. ปอกเปลือกมะม่วงครึ่งลูกใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นแล้วเทลงหม้อ ตามด้วยวิปปิ้งครีม นมข้นหวาน (ใช้ไฟอ่อน)
คนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมเริ่มเดือด แล้วใส่แผ่นเจลาตินลงไป คนให้เข้ากันจนกระทั่งเจลาตินละลาย
4. ปอกเปลือกมะม่วงที่เหลือครึ่งลูก จากนั้นหั่นเต๋าขนาด 1 ซม. x 1 ซม.
วางเรียงมะม่วงใส่พิมพ์ด้านล่าง 3-4 ชิ้น ต่อ 1 ถ้วย ราดส่วนผสมที่ต้มจนเดือดดีแล้วใส่พิมพ์จนเต็ม
นำไปแช่ในตู้เย็นนาน 1 ชม. จากนั้นนำมาแต่งหน้าพุดดิ้งด้วยชิ้นมะม่วงและใบสะระแหน่ 1 ใบ
(
สำหรับมะม่วง เมื่อจะใช้ถึงจะปอกเปลือก จะไม่ปอกเปลือกมะม่วงทิ้งไว้เพราะจะทำให้มะม่วงดำ)
พุดดิ้งมะม่วง สูตรจาก นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 246
ถ้าให้นึกถึงเมนูที่ทำจากมะม่วงสุก หลายคนคงนึกไปถึงข้าวเหนียวมะม่วงแสนอร่อย
แต่ถ้ากินบ่อยๆ คงอ้วนแน่ๆ เพราะมีทั้งข้าวเหนียวและกะทิ
วันนี้จึงขอแนะนำ
พุดดิ้งมะม่วง เมนูที่ทำจากมะม่วงสุกที่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน
วิธีทำก็แสนจะง่ายดาย เพียงมีมะม่วงสุกปั่นละเอียดกับผงเจลาตินและน้ำเต้าหู้
เพิ่มความอร่อยด้วยจมูกข้าวที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และยังช่วยบำรุงสมองอีกด้วย
เพียงเท่านี้ก็ได้ขนมแสนอร่อยและดีต่อสุขภาพไว้กินระหว่างมื้อ
ส่วนผสมน้ำเต้าหู้ 2 กล่อง
เจลาติน 4 ช้อนชา
น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
จมูกข้าว ¼ ถ้วย
มะม่วงสุกหั่นเต๋า 1 ลูก
มะม่วงสุกปั่นละเอียด 1 ลูก
น้ำตาลทรายไม่ขัดขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่ 4-5 ใบ
วิธีทำ1. ผสมเจลาตินกับน้ำ คนจนละลาย
2. เทน้ำเต้าหู้และเจลาตินที่ละลายน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟ คนเรื่อยๆ จนเดือด
3. เทมะม่วงสุกปั่นละเอียด มะม่วงสุกหั่นเต๋า และจมูกข้าวคนให้เข้ากัน พักไว้ให้อุ่น
แล้วจึงเทส่วนผสมใส่ถ้วย นำไปเข้าตู้เย็น แช่ทิ้งไว้จนแข็งตัว
4. ก่อนเสิร์ฟแต่งหน้าด้วยมะม่วงชิ้นและใบสะระแหน่
ที่มาข้อมูล:
//www.foodtravel.tv
//www.cheewajit.com
https://www.youtube.com