เรื่องของพรสวรรค์ เป็นอะไรที่สวรรค์เขาให้มา ต่อให้ไม่ต้องไปร่ำเรียนก็สามารถทำได้สบายมาก
เหมือนสาวบุคลิกนุ่มนิ่มรายนี้ คุณอิน-อินทุกานต์ คชเสนี สิริสันต์ ผู้สนใจการทำอาหารมาตั้งแต่เด็กๆ
โดยเป็นลูกมือให้คุณแม่ แต่เพิ่งจะได้ลงมืออย่างเต็มตัว ก็หลังจากแต่งงาน
เพราะแยกบ้านมาอยู่เป็นครอบครัวของตัวเองกับสามี (อาทิตย์ สิริสันต์)
คุณอินเล่าว่า เธอเริ่มหัดทำอาหารจากตำรา ไม่ว่าจะอาหารไทยหรืออาหารฝรั่ง ลองผิดลองถูกไปเรื่อย
พอเริ่มทำเป็นก็รู้สึกสนุก และยังคว้ารางวัลที่ 1 มาแล้ว
จากการประกวดสูตรอาหาร นานาชาติจากข้าวหอมมะลิ ของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อปี 2543
ส่วนผสม : เนยสดที่อุณหภูมิห้อง 1/2 ถ้วย
ครีมชีส 225 กรัม
น้ำมะนาว 2 ชต.
ซอสทาบัสโก 5 หยด
ซอส Worcestershire 1/2 ชช.
เกลือ 1/2 ชช.
พริกไทยขาวบุบใหม่ๆ 1/4 ชช.
เนยแข็งเชดดาขูด 225 กรัม
ชัดนี่ 2 ชต.
แคลนเบอรี่แห้งสับละเอียด 3/4 ถ้วย
เนยแข็ง Roquefort 170 กรัม
หอมแดงสับละ-เอียด 1 ชต.
บรั่นดี 2 ชช.
วอลนัทอบสับหยาบ 1 ถ้วย
เนยแข็งจากนมแพะ 225 กรัม
ต้นหอมซอยละเอียด 2 ชต.
ใบพาสลี่สับละเอียด 1/3 ถ้วย
แตงกวาหั่นเป็นแว่นบางๆ 1 ผล
ข้าวเกรียบชนิดต่างๆ
วอเตอร์แครกเกอร์
วิธีทำ 1) เตรียมส่วนผสมหลัก ด้วยการนำเนย ครีมชีส น้ำมะนาว ซอส Worcestershire ซอสทาบัสโก เกลือ และพริกไทย
ใส่ลงในโถของเครื่องผสมอาหาร โดยใช้หัวชนิดพัด (paddle) ตีให้เข้ากัน ด้วยความเร็วปานกลาง
จนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี แบ่งส่วนผสมออกเป็น 3 ส่วน และแยกใส่ในโถผสมอาหารขนาดกลาง 3 โถ พักไว้
2) ถ้าต้องการ "ชีส ดิป" แบบเชดดาชีสและแคลนเบอรี่ชีสบอล
ก็นำเชดดาชีสและชัดนี่ผสมลงในส่วนผสมหลักโถแรก ผสมให้เข้ากัน
ก่อนจัดเสิร์ฟ ก็โรยหน้าด้วยแคลนเบอรี่สับที่ด้านบนของชีสให้ทั่ว และเสิร์ฟพร้อมวอเตอร์แครกเกอร์
3) ถ้าต้องการ "ชีสดิป" แบบชีส Roquefort และวอลนัทชีสบอล ;
ก็นำชีส Roquefort และหอมแดงสับผสมลงในส่วนผสมหลักโถที่สอง ผสมให้เข้ากันดี
และเติมบรั่นดีลงผสมให้เข้ากัน ก่อนจัดเสิร์ฟก็โรยด้านบนด้วยวอลนัทสับ เสิร์ฟพร้อมข้าวเกรียบชนิดต่างๆ
4) ถ้าต้องการ "ชีสดิป" แบบชีสนมแพะและต้นหอมชีสบอล ;
ก็ผสมชีสนมแพะและต้นหอมลงในส่วนผสมหลักโถที่สามให้เข้ากันดี
แล้วค่อยโรยหน้าด้วยพาสลี่สับด้านบนให้ทั่ว เสิร์ฟพร้อมแตงกวาหั่นบางๆ
ชี สดิปที่ผสมไว้เป็นส่วนผสมหลัก สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วัน
หรือเก็บเข้าช่องแข็งได้ ประมาณ 1 เดือน จึงสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าได้สบาย.
ที่มา //www.thairath.co.th
คนอะไรทั้งเก่งทั้งสวยเนอะ
ใครเห็นด้วยยกมือตามเลยคะ