++ หอนาฬิกากรีนิช & พอร์ตเทรตแกลเลอรี ลอนดอน ++

อ่านสองพ่อลูกขับรถตะลุยเกาะอังกฤษ : ตอนที่ 5 (พระราชวังบัคคิ้งแฮม และสวนไฮด์ปาร์ค) อ่านสองพ่อลูกขับรถตะลุยเกาะอังกฤษ : ตอนที่ 7 (สโตนเฮนจ์ บาธ และบริสโตล) กลับมาเจอกันอีกครับสำหรับบล๊อกเที่ยวลอนดอน สำหรับบล๊อกนี้เราจะอยู่ในลอนดอนเป็นบล๊อกสุดท้ายแล้วนะครับ จากบล๊อกหน้าเราก็จะเดินทางไปตามหัวเมืองต่างๆในอังกฤษกัน ไปหลายเมืองครับ จากวันที่ 13 กรกฎาคม 2016 ถึง 25 กรกฎาคม 2016 คงได้เขียนกันอีกหลายตอนครับ คราวที่แล้วเราพาท่านเดินทางไปพระราชวังบัคคิ้งแฮม และเดินเล่นที่สวนไฮด์ปาร์คกันมา พร้อมๆกับการนั่งรถ Big Bus Tour แบบชั้นบนเปิดเพื่อชมเมืองลอนดอนในบางพื้นที่ไปแล้วนะครับ .... สำหรับบล๊อกนี้เราจะพาไปชม หอดูดาวหลวงกรีนีช (Royal observatory Greenwich) ที่ๆมีเส้น Meridian สำหรับแบ่งเวลาระหว่างตะวันออกและตะวันตกของโลกนั่นและครับ และอีกที่หนึ่งที่เป็น Land Mark จุดนัดหมายของผู้คนในลอนดอนคือจตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar Square) อาหารเช้าแบบอังกฤษ ตื่นเช้าตามปกติคือ 7.00 น. แต่รู้สึกเหมือนว่า 9 โมงเช้ายังไงยังงั้น เพราะหน้าร้อนที่อังกฤษท้องฟ้าจะเริ่มสว่างตั้งแต่ประมาณ 4 นาฬิกาแล้ว จัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จก็เดินออกมารอรถ Big Bus Tour สำหรับนั่งชมเมืองแบบ Hop on, Hop off ที่เราซื้อตั๋วไว้เแบบ 48 ชั่วโมง แต่เวลาที่รถจะมาถึงป้ายเราก็โน่น 8.30 น - 9.00 น. เราเลยต้องหาอะไรทานตอนเช้ากันก่อน สิ่งที่ดีที่สุดที่หาได้ในระแวกนั้นและในยามเช้าเช่นนี้ก็คือนี่แหละ English Breakfast ส่วนราคาก็อยู่ที่ 7.50 ปอนด์ กาแฟอีก 1.5 ปอนด์ กินเสร็จก็คิดถึงราคาอาหารบ้านเราทันทีทันใดครับ ลงเรือที่ใกล้ๆ Tower Bridge เรานั่งรถไปลงที่เดิมเมื่อวานนี้ คือ Tower of London เพื่อที่จะลงเรือ City Cruise ไปที่ Greenwich เพื่อไปดูเส้นเมริเดียน (Meridian) และเจ้านาฬิกา Greenwich ที่เราเคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็กๆนั่นแหละครับ วันนี้ฝนมาตั้งแต่เช้าเลย ลงเรือไปว่าจะนั่งชมวิวอยู่ด้านบนซะหน่อยฝนก็ตกซะงั้น (เรือ City Cruise ที่เรานั่งไปเป็นเรือแบบ 2 ชั้น ด้านบนเปิดโล่ง มีที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิว ติดลำโพงไว้รอบๆเพื่อห้นักท่องเที่ยวฟังคำบรรยายขณะเรือแล่นผ่านสถานที่ต่างๆ ... แต่ถ้าอยากนั่งอยู่ชั้นล่างก็ได้ มีอาหารขายด้วย เรือค่อนข้างลำใหญ่) เรือพาเราล่องตามแม่น้ำเทมส์ลอด Tower Bridge ออกไปทางตะวันออก ช่วงที่เราล่องเรือไปเป็นช่วงที่น้ำลงพอดี จึงเห็นน้ำไม่เต็มฝั่งนัก .... ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีก็ถึงท่าเทียบเรือ ก่อนลงจากเรือเราไม่ลืมที่จะถามเจ้าหน้าที่ว่า เรือเที่ยวสุดท้ายหมดกี่โมง เผื่อกันเหนียวครับ ชั้นบน City Cruise ลอดทาวเออร์บริดจ์ City Cruise ลำเล็กที่ไม่มีชั้นบนหรือดาดฟ้า บางช่วงผ่านร้านอาหารริมแม่น้ำเทมส์ ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ที่น้ำกำลังลง บริเวณที่เราขึ้นไปเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกกรีนีช สิ่งแรกที่เจอขึ้นจากท่าเรือ คือพิพิธภัณฑ์ที่เป็เรือใหญ่ที่เรียกว่า Cutty Sark ถ้าอยากเข้าไปดูด้านใน ก็ต้องจ่ายเงินเข้าครับ ออกจากตรงนั้นเราควรเดินไปหาข้อมูลที่ Tourist Information ก่อนจะเลยเข้าไปที่ Old Royal Navy College ซึ่งอยู่รั้วติดกัน หลายๆท่านชอบไปยืนเก็บภาพที่หน้า The Painted Hall, Old Royal Navy College ซึ่งจะมี Queen's House ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางภาพพอดี และด้านหลังของ Queen's House จะมองเห็นหอดูดาวหลวงอยู่บนเนินเขา Cr. https://accesstolondon.co.uk/listing/cutty-sark/ Royal Navy College Chapel The Painted Hall, Old Royal Navy College ไกลสุดของภาพคือ Royal observatory Greenwich หรือ หอดูดาวหลวงกรีนีช ส่วนอาคารตรงกลางภาพคือ The Queen's House จากตรงนี้เราต้องเดินผ่านสวน Greenwich Park และขึ้นเนินเขาไปอีกประมาณ 1.5 กม. ฝ่าสายฝนที่กำลังลงเบาๆที่ฝรั่งบอกว่า Shower Rain นั่นแหละครับ ... ระยะทางประมาณนั้นถ้าเป็นพื้นราบถือว่าจิ๊บๆ แต่นี้ขึ้นเขาไปด้วย เหนื่อยเลยล่ะ เดินขึ้นเนินเขา Greenwich Park เพื่อไปที่หอดูดาวหลวงกรีนีช จากบนเนินจะมองเห็นมหานครลอนดอนแบบนี้ เจอแล้วนาฬิกากรีนีช ... ถ่ายภาพไว้ กรีนิช (Greenwich) เป็นเขตการปกครองของลอนดอน สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เป็นที่ตั้งของหอดูดาวหลวงกรีนิชระหว่างปี ค.ศ. 1675-1950 เส้นเมริเดียนทีผ่านกรีนิชถือเป็นฐานของเวลามาตรฐานตลอดทั่วทั้งโลกและใช้ในการคำนวณลองจิจูดของสถานที่ต่าง ๆ กรีนิชเป็นที่ตั้งของพระราชวังพลาเซ็นเทียตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นสถานที่พระราชสมภพของเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์ทิวดอร์ หลายพระองค์เช่น พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ เป็นต้น Statue of General James Wolfe หอดูดาวหลวงกรีนิช ในกรุงลอนดอน แคว้นอังกฤษ มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์และการเดินเรือ และเป็นที่ทราบกันว่าเป็นตำแหน่งของเส้นเมริเดียนแรก ตั้งอยู่บนเขาแห่งนี้ในกรีนิชพาร์ก มองลงไปเห็นแม่น้ำเทมส์ หอดูดาวหลวงกรีนีช เมื่อเข้าไปด้านในบริเวณหอดูดาวหลวงกรีนีชแล้ว จะได้ชมห้องนิทัศน์การต่างๆ ที่ชอบมากคือห้องแสดงนาฬิกา (ที่เกี่ยวกับการเดินเรือ) มีไล่มาตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบันครับ .... หลังจากนั้นเราสามารถขึ้นไปบนโดมเพื่อชมกล้องดูดาวใหญ่ได้ วันนั้นที่ไปกล้องกำลังจับไปที่ดาวพฤหัสฯอยู่ ได้ภาพออกมาก็ฉายไปที่จอทีวีใหญ่ แต่เพราะมีฝนการเห็นภาพเลยไม่ค่อยดีนัก พิพิธภัณฑ์นาฬิกา เส้นแบ่งเขตตะวันออกและตะวันตก (Meridian) ขากลับเราเดินลงเขามาและแวะชม National Maritime Museum ซึ่งด้านในมีห้องนิทัศน์การหลายห้อง รวมทั้งห้องแสดงความเป็นมาของเรือแบบต่างๆ ตลอดจนเรือรบของกองทัพเรืออังกฤษด้วย .... ที่ขาดไม่ได้คือ Gift Shop ที่เกี่ยวกับ Marine ทั้งหมด แต่ จขบ. ได้มาคือนาฬิกาดาราศาตร์ครับ ออกจาก National Maritime Museum ไม่ไก จะเป็น Greenwich Market ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปเดินชม เพราะต้องการไปที่อื่นต่อครับ National Maritime Museum Nelson’s Ship in a Bottle อยู่ทางเข้าอีกด้าน บางส่วนจาก National Maritime Museum หลังจากเดินชมใน National Maritime Museum เราก็กลับไปขึ้นเรือ City Cruise เพื่อเดินทางกลับไปที่ท่าใกล้ๆกับ Tower of London และรอรถ Big Bus เดินทางไปที่ Trafalgar Square ต่อ Royal Court of Justice จัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar Square) เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอนุสรณ์สถานของยุทธนาวีทราฟัลการ์ และสงครามวอเตอร์ลู ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1805 มีเสาเนลสัน ล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โบสถ์เซนต์มาร์ตินอินเดอะฟีลด์ นอกจากนี้จัตุรัสทราฟัลการ์ เป็นสถานที่ที่ใช้ในการประท้วงและงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ หลายหน หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery, London) จัตุรัสใจกลางกรุงลอนดอน จุดนัดพบ แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง เนืองแน่นด้วยนักท่องเที่ยวมหาศาล จัตุรัสทราฟัลการ์แห่งนี้ ออกแบบโดย จอห์น แนช ในปี ค.ศ.1812 สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ลอร์ดเนลสัน วีรบุรษที่ถูกยิงสูญเสียดวงตา 1 ดวงและแขนหนึ่งข้างและเสียชีวิตในสงครามระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสที่แหลมทราฟัลการ์ โดยท่านเป็นผู้นำการรบที่ทำให้อังกฤษชนะสงครามทางเรือครั้งนี้ ตุรัสทราฟัลการ์ สร้างขึ้นในปีค.ศ.1830 โดย Sir Charls Beary ส่วนเสาหินเนลสัน สร้างขึ้นทีหลังในปี ค.ศ.1840 Nelson Column @ Trafalgar Square Major General Sir Henry Havelock Trafalgar Square หนูน้อยกับรูปปั้นสิงห์ที่ทราฟัลการ์สแควร์ St.Martin-in-the-fields เคยใช้เป็นสถานีที่หลบภัยของชาวเมืองช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Admiralty Arch ประตูโค้งหน้าจัตุรัส ที่เมื่อเดินผ่านเข้าไปแล้ว จะทะลุไปยังถนน The Mall ที่ตัดสู่หน้าพระราชวัง Buckingham Temple Bar Memorial @ Fleet street, London ออกจากจตุรัสทราฟัลการ์เราพ่อลูกชวนกันไปนั่ง Big Bus Tour อีกสายคือสายสีเขียว ซึ่งจะวิ่งไปถึงสถานีรถไฟ King's Cross ซึ่งที่นั่นจะเป็นสถานีรถไฟที่จะขึ้นไปทางเหนือเลียบฝั่งตะวันออกไปจนถึง Edinburgh สก๊อตแลนด์ และที่ข้างๆกันจะมีสถานีรถไฟระหว่างประเทศ St Pancras International ด้วย ... จุดสำคัญๆที่รถจะจอดก็มี เช่น British Museum, St Thomas Hospital (รพ.ที่ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ทำงาน) ดูเพิ่มเติมที่ Big Bus Tour London สถานีรถไฟระหว่างประเทศ St Pancras International @ King's Cross Station St Pancras International @ King's Cross Station นั่งรถ Big Bus Tour สายสีเขียวเพื่อชมเมืองจนครบรอบ แล้วเราก็มาต่อสายสีน้ำเงินกลับไปที่ Hyde Park Conner เพื่อต่อสายสีน้ำเงินอีกสาย อ้อมไปทาง Kensington Park ซึ่งสายนี้มีจุดที่น่าสนใจหลายป้าย เช่น ห้างแฮร้อด Kensington Palace เป็นต้น เราไปลงป้ายสุดท้ายแถวๆ Paddington ที่เราพักครับ วันนี้พาไปเยอะพอควรจนกลับเข้าที่พักเกือบ 3 ทุ่ม พักเอาแรงเพราะพรุ่งนี้เรามีคิวไปรับรถที่ Sheraton Skyline Hotel แถวๆสนามบิน Heathrow เพื่อเดินทางสู่สถานที่ต่างๆนอกมหานครลอนดอน โดยพรุ่งนี้เราจะพาท่านไปชม Stonehenge เมือง Bath และ Bristol กัน .... คอยติดตามนะครับ ขอบคุณที่ตามอ่านครับ ลาด้วยภาพมหาวิหารเซ็นต์พอล (St Paul Cathedral) ภาพนี้ครับ ______________

Create Date : 14 กันยายน 2559		6 comments
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2565 9:22:08 น.
Counter : 4129 Pageviews.
Share Tweet