++ ลอนดอน ในวันฝนพรำ ++

อ่านสองพ่อลูกขับรถตะลุยเกาะอังกฤษ : ตอนที่ 3 (นั่งรถไฟจากนิวคาสเซิ่ล - ลอนดอน King's Cross) อ่านสองพ่อลูกขับรถตะลุยเกาะอังกฤษ : ตอนที่ 5 (พระราชวังบัคคิ้งแฮม และสวนไฮด์ปาร์ค)   บล๊อกก่อนหน้านี้เราพาคุณๆเดินทางจากเมืองนิวคาสเซิ่ลทางตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่มหานครลอนดอนแล้วนะครับ .... เราคงจะไม่เล่าว่าลอนดอนเป็นมายังไงและใหญ่โตแค่ไหน เพราะเข้าใจว่าทุกท่านคงหาอ่านได้ไม่ยากนัก แต่บล๊อกเราจะเน้นเรื่องเที่ยวและให้ภาพอธิบายแทนตามสไตล์นายวิคเซอร์ครับ วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วที่เราอยู่ลอนดอน แต่ละตอนในการเที่ยวลอนดอนคงจะไม่ตัดภาพมาเป็นวันๆ เพราะภาพและเนื้อหาในการเที่ยวในลอนดอนค่อนข้างเยอะ แต่จะเน้นการให้ชมภาพเพื่อให้เกิดไอเดียในการเดินทางไปเที่ยว หรือ ให้นึกภาพถึงสถานที่นั้นๆได้จากการได้ชมภาพจากเราครับ   รอขึ้นรถ BIG BUS Tour   เช้าวันที่ 11 กรกฎาคม 2016 อากาศที่ลอนดอนขะมุกขะมัวมากๆ ฝนเหมือนจะมาแต่เช้า แต่เมืองที่อยู่บนเกาะแบบลอนดอนก็คงเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ฝนอยากจะมาก็มาและก็จากไปแบบไม่นานนัก ตามด้วยแดดประมาณนั้น การเดินทางท่องเที่ยวในเมืองลอนดอนหรือประเทศสหราชอาณาจักร ถ้าจะให้ดีต้องพกร่มและเสื้อแจ๊คเก็ตไปด้วยนั่นแหละดีที่สุด   English Breakfast จากที่พักเราเดินออกมาที่ป้ายรถเมล์ที่มีชื่อ Big Bus tour อยู่ด้วยไม่ไกลนัก ประมาณ 100 เมตรเท่านั้นเอง เราจัดแจงหาอาหารเช้าทานแถวๆนั้นก่อนเดินทาง ... พูดถึงเรื่องอาหารเช้าที่นี่จะเห็นมีแต่ English Breakfast เท่านั้น (ผมหาพวก American Breakfast ไม่เจอตามร้านอาหารทั่วไป) ... ทานอาหารเสร็จเราก็ไปรอขึ้นรถชมเมือง Big Bus London กัน   Big Bus London   เราจอง Big Bus Tour มาจากเมืองไทยแล้วทางเนท โดยเลือกเอาแบบ 48 ชั่วโมง ราคา 33 ปอนด์ซึ่งเขารวมเอาการล่องเรือแม่น้ำเทมส์หให้ด้วย ถ้าเป็นแบบวันเดียวหรือ 24 ชั่วโมง ราคาจะอยู่ที่ 22 ปอนด์ไม่รวมล่องเรือครับ ... Big Bus จะเป็นแบบ Hop on Hop off คือเราสามารถขึ้นรถไปลงเที่ยว ณ จุดใดๆได้ แล้วสามารถขึ้นรถอีกคันไปต่อได้เมื่อเราเที่ยวเสร็จ เหมือนที่เราเที่ยวในสวนสัตว์เชียงใหม่ประมาณนั้น เจ้า Big Bus นั้นจะมี 4 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางสายสีแดง มีคนบรรยายเป็นภาษาอังกฤษแบบสดๆ 2. เส้นทางสายสีน้ำเงิน มีหูฟังให้และสามารถเลือกฟังได้ 12 ภาษา (แต่ไม่ยักกะมีภาษาไทยแฮะ) 3. เส้นทางสายสีเขียว หูฟังเหมือนกัน และ 4. เส้นทางสีส้ม นี่ก็ใช้หูฟัง (ดูเพิ่มเติม Big Bus Route) การจองทัวร์กับ Big Bus นั้น เมื่อเขาตอบรับมาเขาจะส่ง Electronic Ticket มาให้เราด้วย เราต้องพิมพ์เอาใบนั้นไปให้เจ้าหน้าที่ขายตั๋วที่ยืนอยู่ตามป้ายก่อน แล้วเขาจะพิมพ์เป็นตั๋วที่ใช้บนรถให้อีกที เพื่อไว้แสดงให้คนขับดู เราต้องเก็บเจ้าตั๋วนั้นไว้ให้ดีอย่าทำหายเชียวนะ เพราะถ้าหายเราต้องจ่ายสะตังค์ซื้อใหม่เลยล่ะ ... หรือถ้าเราไม่ได้จองมาจากทางเนท ก็สามารถซื้อได้จากคนขายตามป้ายรถเมล์ได้ แต่ราคาไม่ทราบว่าแพงกว่าไหมนะ   ชั้นบนหลังคาเปิด มีที่เสียบหูฟังตาเบาะนั่งเลืกได้ 12 ภาษา   เส้นทางสีน้ำเงินที่เราลือกจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ หมายถึงเรานั่งบนรถนั่นตลอดทางนะ ส่วนเส้นทางที่ผ่าน ก็จะมีเช่น ย่านถนน Regent, Soho, National Gallery, Tower of London, Tower bridge, Big Ben & Parliament, Buckingham Palace เป็นต้น ... ซึ่งในบล๊อกนี้เราจะเลือลงที่ Tower of London และล่องเรือ City Cruise ไปขึ้นที่ Big Ben ก่อนครับ นั่งเจ้า Big Bus แบบด้านบนหลังคาเปิดและเราเลือกนั่งด้านบนเพื่อจะได้ชมเมืองได้สะดวก การใช้บริการแบบนี้ เราว่าเหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยๆนะ เพราะเราสามารถแวะชมและถ่ายภาพได้หลายๆที่ สำหรับการนับเวลาคือครบรอบเวลาเลย เช่น เริ่มออกเดินทางเลา 10.00 น. วันที่ 11 ในตั๋ว 48 ชั่วโมงก็จะหมดเวลที่ 10.00 น. ของวันที่ 13 ครับ แต่ข้อสำคัญคือต้องถามคนขับรถด้วยนะว่า รถเขาหมดกี่โมง เดี๋ยวจะตกรถ และค่าแท๊กซี่แพงด้วยสิ   จอดตามป้ารถเมล์   ผ่าน Madame Tussauds London   เราลงที่หน้า Tower of London ซึ่งเป็นเหมือนปราสาทโบราณ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ด้านข้างเป็น Tower Bridge สะพานที่เป็นสัญลักษณ์ของลอนดอน ฝนเริ่มลงเม็ดพรำๆ เราเดินหลบไปตามชายคาตึก (ซึ่งแทบจะไม่มีชายคาเลย) เพื่อไปเข้าห้องน้ำที่ต้องหยอดเหรียญ 50 เพน ประมาณ 25 บาท (แพงมากๆ) สถานที่ท่องเที่ยวในอังกฤษมีห้องน้ำไม่มากนักและต้องจ่ายค่าเข้าทุกที่ แพงด้วย แต่สะอาด เห็นคนเข้าคิวยาวเหยียดกลางสายฝนเพื่อซื้อตั๋วเข้าชม Tower of London แล้วเราท้อเลย คิดว่าถ้ารอคิวคงไม่ได้ไปที่อื่นหรอกกระมัง เลยตัดสินใจเดินชมเฉพาะรอบๆ เก็บภาพแล้วเดินขึ้น Tower Bridge ต่อ   Tower of London ด้าน Tower Bridge   Tower of London หอคอยแห่งลอนดอนก่อตั้งโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษในปี ค.ศ. 1078 เมื่อมีพระราชโองการให้สร้างหอขาวภายในกำแพงเมืองด้านตะวันออกเฉียงใต้บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ การสร้างหอเป็นทั้งการป้องกันการโจมตีของชาวเมืองที่ต้องต้านชาวนอร์มันและการป้องกันลอนดอนจากการรุกรานของข้าศึกจากภายนอก พระเจ้าวิลเลียมทรงสั่งให้ใช้หินจากแคนในฝรั่งเศสสร้างและทรงแต่งตั้งกันดัลฟ์บาทหลวงแห่งรอเชสเตอร์เป็นสถาปนิก ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 พระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ ทรงสร้างกำแพงรอบหอขาวและเริ่มการขุดคูรอบปราสาทโดยใช้น้ำจากแม่น้ำเทมส์แต่ไม่สำเร็จจนกระทั่งในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยทรงจ้างสถาปนิกชาวดัตช์ผู้เชื่ยวชาญในการขุดคู นอกจากนั้นก็ยังทรงเสริมสร้างกำแพงให้แข็งแรงขึ้นและทรงทำให้หอคอยเป็นที่ประทับสำคัญโดยทรงสร้างพระราชวังแบบที่อยู่อาศัย (palatial buildings) ภายในกำแพงหอคอย การเสริมสร้างเสร็จสิ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1275 ถึงปี ค.ศ. 1285 โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ผู้ทรงสร้างกำแพงรอบนอกและสร้างกำแพงรอบในเสร็จ ทำให้เป็นกำแพงสองชั้น และทรงถมคูเดิมและขุดคูใหม่รอบกำแพงรอบนอก หอคอยแห่งลอนดอนใช้เป็นพระราชฐานมาจนถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 เมื่อโอลิเวอร์ ครอมเวลล์สั่งให้รื้อส่วนที่เป็นพระราชวังทิ้ง ที่มา : วิกิพีเดีย   ฝั่งทางเข้า   ถ่ายจาก Tower Bridge     ตรงโค้งถนน   เดินถ่ายภาพรอบๆ Tower of London จนถึงท่าขึ้นเรือแล้ววนกลับเพื่อขึ้นไปชมสะพาน หรือ Tower Bridge ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน โดยที่ Tower of London ตั้งอยู่เชิงสะพาน รถท่องเที่ยวชมเมืองแบบเดียวกับ Big Bus Tour จะมาจอดป้ายตรงหัวโค้งเชิงพานกันเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมบริเวณนี้   Tower Bridge   ทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge) คือ สะพานที่มีรูปแบบของสะพานยกและสะพานแขวนอยู่รวมกัน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สร้างขึ้นในระหว่าง ค.ศ. 1886-1894 เพื่อเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหอคอยแห่งลอนดอน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสะพานว่า "ทาวเวอร์บริดจ์" หรือ "สะพานหอคอย" และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน สะพานแห่งนี้ ประกอบด้วยหอคอย 2 หอ ซึ่งเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับทางเดินคู่ขนานด้านบน โดยออกแบบให้ทนต่อแรงดึงตามแนวนอน ซึ่งเป็นแรงโน้มถ่วงในส่วนของสะพานแขวน องค์ประกอบแนวตั้งของส่วนสะพานแขวนแขวนไว้โดยหอคอย 2 หอที่มีความมั่นคง ส่วนแกนหมุนของสะพานยกและเครื่องจักรซ่อนไว้ในฐานของแต่ละหอคอย สะพานเคยทาสีแดง ขาว และน้ำเงินเพื่อเฉลิมฉลองพระราชพิธีรัชดาภิเษก (Silver Jubilee) ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ใน ค.ศ. 1977 โดยสีดั้งเดิมคือสีฟ้าอมเขียว   ทางเข้า   Tower Bridge ใช้เวลาสร้าง 8 ปี สร้างเสร็จเมื่อ 1894 เพื่อการสัญจรข้ามแม่น้ำเทมส์ ออกแบบสไตล์วิกตอเรียนโกธิก เป็นสะพานแบบเปิดปิดได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก .... สะพานทาวเวอร์บริดจใช้ไอน้ำมาเป็นพลังงานขับดันปั๊มเพื่อให้ไฮดรอลิกยกเปิดปิดได้ แต่เมื่อปี 1976 ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากน้ำมันและไฟฟ้าแทนไอน้ำ ทางเชื่อมต่อระหว่างหอคอยนั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเรื่องราวความเป็นมา พร้อมทั้งเห็นทัศนียภาพลอนดอนอย่างชัดเจน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 6 ปอนด์ ผู้สูงอายุและนักเรียน 4.25 ปอนด์ สถานีรถไฟใกล้ๆ คือ สถานี Tower Hill   ใกล้ๆ   ข้อมูลจำเพาะ : ออกแบบเป็นสะพานแขวน ( Suspension Bridge ) ยาว 801 ฟุต หรือ 244 เมตร ความยาวช่วง (span) 270 ฟุต หรือ 82.3 เมตร สูง 213 ฟุต หรือ 65 เมตร ความสูงจากพื้นน้ำ 28 ฟุต หรือ 8.6 เมตร ถ้าสะพานเปิดจะสูง 139 ฟุต หรือ 32.5 เมตร เพื่อให้เรือผ่าน ใช้ระบบไฮดรอลิคช่วยในการเปิด-ปิด สะพานเปิดใช้งานเมื่อ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1894   สะพานกำลังเปิด   เราเดินลงจาก Tower Bridge แล้วอ้อมไปท่าเรือเพื่อขึ้นเรือ City Cruise ซึ่งดำเนินการร่วมกันกับ Big Bus Tour ที่เราซื้อตั๋วมา (ที่จะใช้บริการร่วมได้ก็เฉพาะตั๋วแบบ 48 ชั่วโมงนะครับ แบบ 24 ชั่วโมงไม่สามารถใช้ได้) เพื่อล่องไปขึ้นที่เชิงสะพาน Westminster Bridge ถ้าเราดูตามแผนที่ลอนดอนจะอยู่ทางตะวันตกของ Tower of London ... ตรงเชิงสะพานจะเป็นที่ตั้งของรัฐสภาอังกฤษและหอนาฬิกา Big Ben แลวเราจะไปเดินเที่ยวต่อกันที่นั่น บนเรือจะมีลำโพงเสียงตามสายอธิบายสถานที่จ่างๆที่เรือแล่นผ่านไป ถ้านั่งชั้นบนหรือดาดฟ้าก็เลือกใกล้ๆลำโพงหน่อยจะได้ฟังบรรยายชัดๆ   ล่องเรือแม่น้ำเทมส์   ชั้นบนเรือชมวิว     London Eye       เราลงเรือที่เชิงสะพาน Westminster Bridge แล้วเดินข้ามถนนไปข้างๆรัฐสภา เพื่ออ้อมไปสวนด้านหน้า ซึ่งบริเวณนั้นจะเป็นสวนสาธารณะมีรูปปั้นบุคคลสำคัญหลายคนตั้งอยู่รวมทั้งท่านมหาตะมะคานธี ท่าน Winston Churchill, Nelson Mandela ด้วย ด้านหนึ่งของสวนจะเป็นวัด หรือ โบสถ์ Westminster Abbey และรอบๆนั้นยังมีสถานที่สำคัญอีกมากมายให้เราได้ชมกัน ส่วนมากจะมีค่าเข้าชมครับ     Big Ben & Parliament   มาขึ้นท่าเรือใกล้ๆ Big Ben   คานธีและเชอร์ชิล   จาก Parliament Square Garden   หน้ารัฐสภา จาก Parliament Square Garden   หอนาฬิกา Big Ben อีกมุม   Westminster Abbey   เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (Westminster Abbey) เดิมเป็นแอบบีย์ แต่ปัจจุบันเป็นโบสถ์ในนิกายแองกลิคันที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ในนครเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบสถาปัตยกรรมกอทิกเป็นส่วนใหญ่นอกจากหอคอยที่เป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอทิก เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและที่ฝังพระบรมศพพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ระหว่างปี ค.ศ. 1546 ถึง 1556 แอบบีย์ได้รับเลื่อนฐานะขึ้นเป็นอาสนวิหาร ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แอบบีย์นี้ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวง (Royal Peculiar) (อ่านเพิ่มเติม)   Westminster Abbey   โบสถ์เวสมินส์เตอร์     ที่ลอนดอนวันนี้เราใช้เวลากับ 2-3 สถานที่เกือบทั้งวัน พอตกบ่ายเราขึ้นรถ Big Bus Tour ไปลงที่ป้ายแถวๆ Mable Art ใกล้ๆสวน Hyde Park แล้วขึ้นรถ Big Bus อีกสายหนึ่งเพื่อจะไปลงที่ Paddington โดยสายนี้เป็นสายสีส้ม (ในแผนที่เขาเป็นสีน้ำเงิน) วิ่งอ้อมไปทางสวน Kensington มีผ่านเลดี้ไดอาน่า พาเลซ ห้างแฮร้อด และสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง ก่อนจะเข้าไปย่าน Paddington ที่เราพัก   วันนี้เดินเที่ยวแบบสุดๆ มีทั้งฝน ทั้งแดด ปนเปกันไป เหนื่อยและสนุก ได้ใช้เวลาอยู่กับสถานที่ต่างๆอย่างเหมาะสม ที่ว่าเหมาะสมเพราะเรายังไม่เจาะลึกนัก เอาไว้ถ้าอยากหารายละเอียดมากกว่าที่เห็นค่อยมาใหม่ (ถ้ามีโอกาส) ... ก่อนเข้าที่พักเราแวะร้านขายของแบบสโตร์หรือขายของชำแบบบ้านเรา เพื่อซื้อน้ำและเครื่องดื่มและแวะทานอาหารกล่องของญี่ปุ่นที่ร้านใกล้ๆกันกับที่พัก และกลับโรงแรมนอนพักแบบรวดเดียวจบ...พรุ่งนี้ค่อยลุยลอนดอนต่อ   ขอบคุณที่ตามอ่านครับ   ลาบล๊อกนี้ด้วยภาพมุมกว้างภาพนี้ครับ   _______________

Create Date : 30 สิงหาคม 2559		1 comments
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2565 9:19:36 น.
Counter : 5534 Pageviews.
Share Tweet