....OUR FAMILY'S JOURNEY....

++ เที่ยวลอนดอน วันฝนพรำ 2 (พระราชวังบักกิ้งแฮม และสวนไฮด์ปาร์ค) ++

 



 
อ่านสองพ่อลูกขับรถตะลุยเกาะอังกฤษ : ตอนที่ 4 (ลอนดอนทาวเออร์ และหอนาฬิกา Big Ben)
อ่านสองพ่อลูกขับรถตะลุยเกาะอังกฤษ : ตอนที่ 6 (หอนาฬิกากรีนีช และจตุรัสทราฟัลการ์)



 
ล๊อกที่ผ่านมาเราพาเที่ยวกรุงลอนดอนในวันฝนพรำ มาบล๊อกนี้ฝนก็ยังลงต่อเนื่องอยู่ดี ฉะนั้นทั้งการเที่ยวและการถ่ายภาพมาฝากแฟนๆบล๊อกจึงทุรักทุเลพอประมาณ แต่ทั้งหลายทั้งมวลคือฝนในเกาะอังกฤษมันตกไม่นานเท่าไหร่ เดี๋ยวก็จากไป เดี๋ยวก็มาใหม่ คุณๆจึงเห็นทั้งภาพที่เมฆหนาสีเทา และบางครั้งก็เจอท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าบ้าง คงไม่แปลกสำหรับที่นี่ครับ...เวลาเราออกเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมเสื้อกันฝนหรือร่มรวมทั้งแจ๊คเก็ตกันหนาวไปด้วยละกัน


 

Buckingham Palace



 
สำหรับวันนี้เราจะพาเที่ต่อจากคราวที่แล้วที่เราล่องเรือแม่น้ำเทมส์แล้วไปขึ้นตรงหอนาฬิกาใหญ่ Big Ben และเดินเที่ยวแถวๆ Parliament's Square จากนั้นบ่ายคล้อยก็ขึ้นรถ Big Bus มาครับ

 



จุดต่อมาที่เรามาลงคือข้างๆพระราชวังบักกิ้งแฮม (Buckingham Palace) ซึ่งใครๆมาที่นี่ก็อยากจะเห็นทะหารเขาเปลี่ยนเวรยามกัน หรือที่เรียกว่า Changing the Gard นั่นและครับ แต่เขาจะทำกันในเวลาประมาณ 11 โมงครับ แต่ตอนที่เรามานี่คือเวลา บ่าย 2 โมงแล้วครับ


 

ด้านหน้าจะมี Victoria Memorial


 
เรามาถึงพระราชวังช่วงบ่ายๆ ก็เดินฝ่าสายฝนมานี่เลยที่ Victoria Memorial ด้านหน้าพระราชวัง ไปแอบถ่ายทหารยามนิดหน่อย .... แยกทางขวาจะมีถนนให้เดินไปข้าง St Jame's Park ไปเจอถนนดาวนิ่ง (Downing Street) ซึ่งจะมีจุดที่น่าสนใจคือ บ้านเลขที่ 10 Downing Street ซึ่งเป็นบ้านพักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ หรือ ศูนย์รวมอำนาจแห่งหนึ่งของโลก...ก่อนที่จะมาถึงถนนดาวนิ่ง จะมีทางแยกลงไปแม่น้ำเทมส์ ถ้าเราเดินตามลงไปเรื่อยๆจะเจอหอนาฬิกา Big Ben ครับ

ว่าไปแล้วถ้าเรานั่งรถมาลงแถวๆนี้แล้วเดินเที่ยวตาม Museum ต่างๆ วันหนึ่งก็เที่ยวไม่หมด เพราะมันคือหัวใจของลอนดอนเลยก็ว่าได้ครับ .... เราก็เอาแค่คร่าวๆไปก่อน พอได้รู้ครับ เพราะเวลาที่เราวางแผนอยู่ลอนดอนแค่ 3 วันคงไม่พอแน่ๆ .... ส่วนจุดนัดพบที่สำคัญอีกแห่งที่หน้า National Portrait Gallery เราจะพามาพรุ่งนี้พร้อมกับการไปชมหอนาฬิกา Greenwich ครับ


 

ถ่ายไว้เป็นที่ระลึก



 
พระราชวังบักกิงแฮม

พระราชวังบักกิงแฮมแต่เดิมชื่อ “คฤหาสน์บักกิงแฮม” (Buckingham House) สิ่งก่อสร้างเดิมเป็นคฤหาสน์ที่สร้างสำหรับจอห์น เชฟฟิลด์ ดยุคแห่งบักกิงแฮมในปี ค.ศ. 1703 ในปี ค.ศ. 1761 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 ทรงซื้อจากดยุคแห่งบักกิงแฮมเพื่อเป็นพระราชฐานส่วนพระองค์ ที่รู้จักกันในชื่อ “วังพระราชินี” (The Queen's House) ระยะ 75 ปีต่อมาเป็นเวลาที่มีการขยายต่อเติมพระราชวังโดยสถาปนิกจอห์น แนช (John Nash) และ เอ็ดเวิร์ด บลอร์ (Edward Blore) เป็นสามปีรอบลานกลาง

พระราชวังบักกิงแฮมกลายมาเป็นพระราชฐานที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียขึ้นครองราชย์เมื่อปี ค.ศ. 1837 การต่อเติมครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายทำในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งรวมทั้งด้านหน้าที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน บางครั้งพระราชวังบักกิงแฮมก็เรียกกันเล่นๆ ว่า “บักเฮาส์”


 

เดอะมอลล์ ที่สามารถเดินทะลุไปสู่ National Gallery ได้




 

ถนนด้านหลังพระราชวังมีรถม้าด้วย



 
ออกจากหน้าพระราชวังฯ เราเดินอ้อมกลับมาด้านหลังเพื่อรอรถ Big Bus เที่ยวต่อไปเพื่อจะเดินทางกลับที่พัก ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ... ภาพจากนี้ไปเราถ่ายบนชั้น 2 ของรถเที่ยวเมืองแบบหลังคาเปิดทั้งหมดครับ ชัดบ้าง เบลอบ้าง เพราะถ่ายผ่านอากาศที่มืดมัวและมีฝนเล็กๆ ... เชิญชมภาพเลยละกันครับ


 




 
ถนนลอนดอนไม่ได้กว้างมากมาย (เหมือนบ้านเราด้วยซ้ำ) แต่รถไม่ค่อยติดครับ เพราะ
 
1. เขาจัดระบบโซนนิ่ง คือเริ่มตั้งแต่ โซน 1 อยู่ในสุด จนถึงโซน 6 นอกสุด ใครที่ขับเข้าชั้นในของเมืองจะต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ
2. ระบบขนส่งสาธารณะเขาดี คือมีทั้งรถเมล์ รถไฟใต้ดินที่เรียกว่า tube รถไฟบนดินในบางโซน
3. จักรยาน ถนนในลอนดอนเกือบทั้งหมดจะแบ่งช่องจักรยานไว้ด้วย (ถนนบางสายจะระบายสีเป็นสีแดงหรือเลือดหมูไว้ อยู่ในเลนส์ในสุดเติดฟุตบาท เหลือช่องให้รถวิ่งแค่ช่องเดียวหรือไม่เกิน 2 ช่องเที่นั้น ส่วนทางข้ามหรือทางม้าลายก็จะมีช่องให้จักรยานด้วยเช่นกัน) อีกอย่างรถในเมืองเขาจำกัดความเร็วไว้ 30 ไมล์และ 20 ไมล์ต่อชั่วโมง จึึงไม่มีใครวิ่งปรู๊ดปร๊าด ซิ่งแหลกแบบบ้านเรา เพราะคนที่นี่เขาเคร่งคัดในวนัยจราจรมาก


การขับที่เป็นระบียนบก็ทำให้การจราจรเลื่อนไหลได้ดี....กรุงเทพฯน่าจะลองบ้างนะครับ (แต่ก็คงยากมากๆ เพราะอภิสิทธิชนบ้านเราเยอะมากๆ อีกอย่างวินัยการขับของเราด้วยล่ะ) ... ฉะนั้นคนมากมายในลอนดอนจึงนิยมเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะกัน เพราะสะดวกกว่าเยอะเลย จขบ.ลองมาแล้วเยี่ยมจริงๆครับ


 
















หอนาฬิกา Big Ben



 

Marble Arch


ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย


 
ซุ้มประตูโค้ง Marble Arch ซึ่งออกแบบโดย John Nash ในปี ค.ศ. 1827 พื้นฐานการออกแบบมาจาก Arch of Constantine ในกรุงโรมและประตูชัยในกรุงปารีส ในอดีตก็มีแต่สมาชิกของราชวงศ์และกองทัพของกษัตริย์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านซุ้มประตูนี้ได้ ซึ่งส่วนมากก็ใช้ในวาระเฉลิมฉลองต่างๆ .... เราสามารถเดินทางไปชมได้โดยรถไฟใต้ดินสาย Central Line ไปลงที่สถานี Marble Arch ครับ


 

statue of a giant horses head อยู่ใกล้ๆสวน



 
เรานั่งรถชมเมืองลอนดอนไปเรื่อยครับ ผ่านย่านสำคัญๆ เช่นย่านถนน Regent, Soho..และอีกมากมาย... ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนเพราะเป็นย่าน shopping และสถานที่สำคัญๆตั้งอยู่ จนมาถึงหัวมุมของสวน Hyde Park ตรงมุมที่เรียกว่า Marble Arch ใกล้ๆกับมุม Speaker's Conner ภายในสวน .... จากนั้นเราเดินเข้าไปด้านในของสวน ซึ่งมีผู้คนมากมายมาเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย ถึงแม้ว่าขณะนั้นจะเป็นเวลาทุ่มกว่าแล้วก็ตาม (หน้าร้อนจะมืดช้า คือจะมืดเอาประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ)

ถ้าเราเดินลึกเข้าไปจะเป็น Lake ขวางอยู่ ชื่อ The Serpentine ซึ่งจะแบ่งสวนใหญ่นี้ออกเป็นสองสวน ด้านล่างจะเป็น Kensington Garden ส่วนด้านบนืี่เราเดินเข้าไปจะเป็น Hyde Park ครับ .... ในสวนจะมีต้นเมเปิ้ลขนาดใหญ่อยู่มากมาย ดูยังไงๆก็เป็นป่าดีๆนี่เอง ว่ากันว่าที่นี่เป็นที่ล่าสัตว์ของเจ้าเขาในอดีตครับ


 



 



 



 



 
Hyde Park London

สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คถูกโอนย้ายมาอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กร Royal Park ซึ่งเป็นของราชวงศ์อังกฤษเมื่อปีค.ศ. 1536 โดยสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงเล็งเห็นว่าที่ดินแห่งนี้มีลักษณะเหมาะสำหรับการล่าสัตว์ ผ่านมาหลายปีสวนสาธารณะไฮด์ปาร์คได้มีการพัฒนาเพื่อเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานเทศกาลต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทั้งนี้คุณลักษณะที่โดดเด่นมากที่สุดสองอย่างของสวนแห่งนี้คือ ทะเลสาบเชอร์เพนไทน์ (Serpentine) ขนาดใหญ่ใช้สำหรับพายเรือและว่ายน้ำ และถนนสำหรับรถม้า (Rotten Row) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเป็นถนนสาธารณะแห่งแรกของอังกฤษที่มีแสงไฟในเวลากลางคืน

ด้วยความยาวของเส้นทางกว่า 6 กิโลเมตร คุณสามารถขี่ม้า ปั่นจักรยาน วิ่งจ็อกกิ้ง และเล่นสเก็ต ส่วนในวันอาทิตย์ที่ ‘ลานเสรีสำหรับนักพูด’ (Speaker's Corner) ซึ่งตั้งอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสวนสาธารณะมีความคึกคักและชีวิตชีวาอีกครั้ง บริเวณนี้เปิดให้เสรีแก่ประชาชนในการพูดตั้งแต่ปีค.ศ. 1872 โดยอนุญาตให้ใช้พื้นที่เป็นที่ปราศัยทุกหัวข้อ ชุมนุมทางด้านการเมืองและการพูดแสดงความคิดเห็นเรื่องต่างๆ ต่อสาธารณชนอย่างเสรี ส่วนทางฝั่งตะวันตกของสวนมีจุดเชื่อมต่อไปยังสวนเคนซิงตัน (Kensington Garden) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังเคนซิงตัน



 



 

ภายในสวน Hyde Park



 



 


 
เดินถ่ายภาพในสวนไปเรื่อยจนเหนื่อย และใกล้เวลาจะมืดแล้ว เราเลยเดินออกเพื่อกลับที่พัก ในย่าน Paddington ใกล้ๆกับ St Marry Hospital ... ดูในแผนที่เห็นใกล้ๆอย่างนั้น เดินเมื่อยเหมือนกันนะครับ

วันนี้พาคุณๆไปกันหลายที่ เที่ยวทั้งวัน เน้นเที่ยว ไม่ค่อยเน้นกินเท่าไหร่ ภาพอาหารน่าทานอย่างบล๊อกคนอื่นเขาจึงไม่ค่อยเห็น .... บล๊อกหน้าจะเป็นบล๊อกสุดท้ายที่จะเขียนถึงสถานที่ต่างๆในลอนดอน ที่ไปเที่ยวมา ซึ่งก็จะมี National Portrait Gallery & Trafalgar Square ตามด้วยหอนาฬิกา Greenwich.



 
ขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอดครับ


 

ลาด้วยภาพด้านหลังรัฐสภาครับ



 
_______________





 




 

Create Date : 07 กันยายน 2559
6 comments
Last Update : 21 มกราคม 2567 7:10:53 น.
Counter : 4021 Pageviews.

 

London เป็นเมืองที่สวยงาม น่าไปเที่ยวคะ
อยากมีสักครั้งต้องได้ไป ...ภาพบรรยากาศสวยไปหมดทั้งสถานที่ วิว และธรรมชาติ
ถ่ายทอดผ่านเลนส์ไว้ได้น่าชื่นชม มุมกล้องสวยด้วยคะ ขอบคุณคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog

 

โดย: Tui Laksi 7 กันยายน 2559 21:53:54 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำชมคร้่า
มาบล๊อกนี้ เราก็ชอบฝีมือเนี๊ยบ ในการถ่ายภาพของ จขบ.เช่นกันคร้า

 

โดย: Tui Laksi 8 กันยายน 2559 22:08:26 น.  

 

ยังไม่เห็นภาพเบลอเลยค่ะ สวย ๆ ทั้งนั้น

ภาพฟ้าแจ่ม สวย ฟ้าเป็นฟ้าเลยค่ะ

ฝันไว้ว่า บ้านเราจะมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ทันสมัย จูงใจให้คนมาใช้รถสาธารณะกันมากขึ้น (เผื่อรถราจะติดน้อยลง)


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
ปลาแห้งนอกกรอบ Travel Blog ดู Blog
ลอยละล่อง บล็อกแกงค์ Travel Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 9 กันยายน 2559 14:02:21 น.  

 

สวยจังเลย ชอบรูปนาฬิกาบิกเบนที่สุด สวยมาก

 

โดย: sawkitty 9 กันยายน 2559 20:09:20 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 10 กันยายน 2559 3:30:05 น.  

 

คนแยะนะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 12 กันยายน 2559 12:28:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
7 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.