จงให้สิ่งที่ดีที่สุด..เพื่อคนอื่น ตอนที่ ๓
ความเดิม - -> จงให้สิ่งที่ดีที่สุด..เพื่อคนอื่น ตอนที่ ๑ และ จงให้สิ่งที่ดีที่สุด..เพื่อคนอื่น ตอนที่ ๒
เกือบสองปีที่ผมได้เขียนบล็อคในเรื่อง จงให้สิ่งที่ดีที่สุด...เพื่อคนอื่น รวมสองตอนด้วยกัน ซึ่งตัวเองก็คิดว่าคงพอแค่นั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้เองกลับมาเหตุการณ์ให้ผมต้องหวนกลับมาเขียนในตอนที่ ๓ อีกครั้ง
ร้านผักของผมยังคงเหมือนเดิม เหมือนเดิมในที่นี้คือ ไปขายสายเหมือนเดิม ด้วยเหตุผลที่เก็บผักสด ๆเหมือนเดิม ราคาเหมือนเดิม และมีลูกค้ามาอุดหนุนเหมือนเดิม แม้ไม่ใช่คนกลุ่มเดิมเสียทั้งหมดแต่ก็หมุนเวียนเปลี่ยนมาบ้างและสามารถขายได้ ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ที่ตั้งของร้าน ซึ่งแปรเปลี่ยนไปตามการจัดตลาด แปรผันไปตามแรงโน้นถ่วงของเส้นสาย ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับทำเล เพราะที่ผ่านมาผมถูกย้ายมาหลายครั้งและได้ที่ตั้งแบบที่ไม่น่าจะขายได้ ผมก็สามารถฟันฝ่ามาได้ ด้วยจุดยืนที่มั่นคง คือ ผักต้องสด ปลอดสารพิษมากที่สุด ราคาไม่แพง และผักทุกชนิดจะต้องปลูกเองเพื่อสามารถรับผิดชอบสินค้าได้
หลายปีผ่านมีอะไรมากมายเกิดขึ้นกับการขายของ การได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆกับสังคมที่แตกต่างไปจากสังคมการทำงานปกติทำให้เรารู้และเข้าใจและพร้อมที่จะปรับสภาพร่างกายและจิตใจของเราให้อยู่อย่างมีความทุกข์ให้น้อยที่สุด
ทุกสังคมมีคนหลายประเภทอยู่ร่วมกัน สังคมที่ดีก็เพราะมีคนดีจำนวนมากกว่าคนไม่ดีและช่วยกันสร้างสิ่งดีเป็นเรื่องปกติ และสังคมนั้นจะเจริญขึ้นได้ก็เพราะคนในสังคมนั้น ๆเองที่ช่วยกันจรรโลงสังคมที่ตนเองอาศัยอยู่ได้อันนี้คือหลักสำคัญ
นอกจากผักต่าง ๆที่ถือว่าเป็นสินค้าของผมแล้ว สินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นสินค้าขายดี คือ เห็ดนางฟ้าภูฏาณ อาจเพราะความสดและราคาไม่แพง เพราะถุงละ ๒๐ บาทก็ประมาณ ๓ - ๔ ขีด ไม่ว่าจะเทศกาลใดใด กินเจหรือไม่ ผมเองก็ขายในราคานี้ เพราะอย่างที่ผมบอกไว้ในตอนแรกว่าผมมีจุดยืน ซึ่งก็ไม่พอที่จะขายจนลูกค้าต้องสั่งจองไว้ล่วงหน้าเสมอ
ด้วยเหตุที่เห็ดที่ผมขายเมื่อเทียบกับราคา ๒๐ บาทที่ดูเสมือนถูกมากทำให้มีแม่ค้ารายหนึ่งซึ่งอยู่ถัดไปประมาณสามสี่ร้าน เดินมาเพื่อขอซื้อไปแบบเอาหมด ผมเองก็ขายให้ไปด้วยไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าการขายของเช่นทุกวัน
เมื่อแม่ค้ารายดังกล่าวซื้อเห็ดของผมไปแล้วกลับนำเห็ดดังกล่าวไปวางขายร้านของตน โดยเขียนราคาติดถุงไว้ ๓๐ บาท เมื่อลูกค้าของผมมาซื้อที่ร้านผมไม่มีเลยเดินไปพบเข้าและซื้อมาในราคาที่สูงกว่าแต่ลักษณะถุงคล้ายของร้านผมมาก ลูกค้าจึงเดินย้อนมาถามผมว่ามันเป็นของที่ร้านผมหรือไม่ จึงได้ความกระจ่าง
"ทำไมทำกันแบบนี้" นี่คือเสียงของลูกค้าที่รำพึงออกมาจากความรู้สึก
การค้าขาย ... ผลกำไรอาจไม่ได้เป็นที่ตั้งหรือจุดสูงสุดที่เราต้องไปให้ถึง การค้าขายยังมีอะไรมากมายไปกว่านั้นมากนัก เพราะการค้าขายไม่ได้ทำเพื่อการค้าขายเพียงครั้งเดียวแล้วเลิกราไป พ่อค้าแม่ค้าจะต้องยึดหลักที่ว่าจะทำอย่างไรให้ตลาดที่ตนเองขายของอยู่นั้นอยู่ได้ การอยู่ได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ลูกค้า และจุดดึงดูดลูกค้านั้นนอกจากตัวสินค้าแล้ว พ่อค้าแม่ค้าเองจะต้องมีความซื่อสัตย์ เห็นแก่ตัวน้อยที่สุด หากถามผมว่าผมสามารถขาย ๓๐ บาทได้ไหม ผมตอบได้เลยว่าสามารถขายได้ และทำไมผมถึงไม่ทำเช่นนั้น?
มีคำถามดังจากความคิดผมมากมายให้ได้ขบคิดและตัดสินใจ "ผมจะทำอย่างไร" และการกระทำจากความคิดของผมใครจะเข้าใจและรับรู้ความรู้สึกได้อย่างแท้จริง "จงให้สิ่งที่ดีที่สุด...เพื่อคนอื่น"
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555 |
|
24 comments |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2555 14:21:28 น. |
Counter : 2460 Pageviews. |
|
|
|
เดี๋ยวมาต่อนะ โดนเรียกตัวซะแล้ว