Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
23 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 

ธารลาวา ๓๕ (ธัญรัตน์)




ตอน ๓๕

คณินเดินเข้าออฟฟิศด้วยความอารมณ์ดีกว่าหลาย ๆ วัน บรรพตเองก็ไม่แพ้เจ้านาย เพราะข่าวดีที่กำลังจะได้รับทำให้รู้สึกอิ่มเอมจิตใจไปด้วย แม้ที่ผ่านมาจะเหน็ดเหนื่อยเพราะงานนี้ไม่น้อยเลย มือถือดังขึ้นในเวลาสิบเอ็ดโมงพบว่าเป็นคุณลุงคณินรีบรับสายแทบจะทันที

“ครับคุณลุงผมกำลังรออยู่”
รับสายด้วยความอารมณ์ดีเป็นที่สุด แต่ไม่ถึงอึดใจทุกอย่างกลับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที
“อะไรนะครับคุณลุง มันเป็นไปได้ยังไงครับ ก็คุณลุงมั่นใจขนาดนั้น มันพลาดไปได้ยังไงครับ”
ไม่ถึงสิบนาทีคณินก็รีบออกจากห้อง ตรงไปหาคุณกัมปนาทที่บ้านอย่างคนหัวเสีย

“ลุงพยายามติดต่อเพื่อนแล้ว แต่ยังติดไม่ไม่ได้ เลขาฯ บอกลุงว่ามันไปสิงคโปร์ เรื่องทั้งหมดที่มันออกมาเป็นแบบนี้ เพราะลูกชายมันเป็นคนเลือกบริษัทนายปรเมศแทนบริษัทณินคนเดียว ไม่ได้ขอความเห็นพ่อมันเลย” คุณกัมปนาทให้ความกระจ่าง เมื่อเขามาถึงบ้านได้ไม่นาน
“แล้วจะทำยังไงดีครับคุณลุง นี่ผมลงทุนสั่งซื้อของไปบางส่วนแล้วนะครับ เป็นเงินไม่น้อยเลย เพราะของจะขึ้นราคาก็เลยซื้อล่วงหน้าเอาไว้ก่อน พอดีผมเห็นคุณลุงมั่นใจว่าจะได้งานนี้ด้วย” ไม่ได้มีน้ำเสียงติติงผู้อาวุโสแต่อย่างใด

“ในเย็น ๆ นะณิน ตอนนี้ลุงกำลังรอคำตอบจากเลขาฯ เพื่อนลุงอยู่ว่ามันพักอยู่ที่ไหน ณินจะไปหาเพื่อนกับลุงมั้ย ถ้าไปก็รีบกลับไปเตรียมตัวเลย เราจะออกเดินทางทันทีที่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
และนั่นก็คือข้อสรุปของสองหลานลุง คณินกลับเข้าออฟฟิศอีกครั้งในเวลาบ่าย แต่ก็ไม่มีอารมณ์จะทำงานเลยสักนิด มือถือดังขึ้นหลายสิบครั้งแต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจเลยสักนิดเดียว เมื่อรู้ว่าน้องโทรเข้ามาหา โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น แม้ไม่อยากรับแต่ก็ตอบไปตามสาย

“พี่บอกว่าพี่ยังไม่ว่างไงมิน ทำไมจะต้องมาคาดคั้นกับพี่ตอนนี้ด้วย แค่นี้ก่อนนะเพราะมีปัญหาให้แก้ไขมากพออยู่แล้ว”
เพียงเท่านั้นเขาก็ผลุนผลันออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด แหม่มกับบรรพตไม่รู้ว่าเจ้านายมีอะไรให้ขบคิด แต่ทั้งสองเดาเอาว่าคงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ ครูสาวถูกดึงตัวออกจากห้องทำงาน ขณะที่เตรียมตัวจะเข้าสอน กระทั่งไปถึงคอนโดฯ ประณาลีก็ไม่ปริปากถามอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียว เพราะรู้ดีว่าอะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ คนที่เอาแต่ทำหน้าเครียดก็ไม่คิดจะปริปากพูดอะไร นอกจากจะล้มตัวลงนอนหนุนตักคนรักอยู่บนชุดรับแขก

แม้ใจจะพยายามบอกตัวเอง ว่าเกลียดชังสายเลือดของผู้ให้กำเนิด ที่ถ่ายทอดมายังเขามากแค่ไหน แต่ส่วนลึกในหัวใจนั้นช่างสงสารท่าทีที่อิดโรยของเขาไม่น้อย มือบางถูกเขากอดเอาไว้ ส่วนอีกข้างเอื้อมไปลูบศีรษะเขาอย่างแผ่วเบา ยังความรู้สึกอบอุ่นให้คนที่นอนหลับตาลงหากยังรับรู้ทุกการกระทำของหญิงสาวได้ดีทีเดียว แค่มือบาง ๆ นุ่ม ๆ ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

“หิวหรือยังคะ ลีจะทำอะไรให้กิน” น้ำเสียงอ่อนนุ่มกว่าทุก ๆ ครั้ง ประหนึ่งจะเป็นการขอโทษเขาก็ไม่ปาน
“หิว แต่สั่งข้างล่างมาดีกว่า ผมอยากนอนหนุนตักลีแบบนี้ไปนาน ๆ”
ส่งมือถือในกระเป๋ากางเกงของเขามาให้หญิงสาว ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ได้ลืมตาขึ้นเลยสักนิด เมื่ออาหารเสร็จสิ้นไป เจ้าของห้องไม่คิดที่จะเอ่ยปากบอกให้เขากลับบ้านด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกห่วงเขาอย่างบอกไม่ถูก

“ผมจะกลับแล้วนะ”
นั่นคือสิ่งที่หญิงสาวไม่คาดคิดมาก่อน แต่ก็ไม่ถามอะไรเขา ได้แต่ยิ้มให้อย่างต้องการให้กำลังใจเขาจริง ๆ
‘ถ้าคุณฮึดสู้จนชนะเกมนี้ได้ ฉันจะไม่ทำร้ายคุณอีก’ บอกเขาเอาไว้ในใจ

คณินกลับถึงบ้านได้ก็ตรงไปหาแม่ในห้อง เมื่อรู้ว่าหลับไปแล้วเขาก็ไม่คิดจะปลุกแต่อย่างใด พี่สาวที่นอนค้างที่บ้านตั้งแต่วันนั้นก็หลับไปแล้ว ‘คุณณิไม่ยอมกินอะไรเลยค่ะ หรือถ้ากินก็แทบจะดม’ ป้าแป้นบอกไว้แต่แรกเมื่อเขาถามถึง หลาน ๆ ยังคนเล่นเกมอยู่อย่างสนุกสนาน ช่างไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าพ่อกับแม่กำลังทำสงครามกันอยู่

น้องสาวก็อีกคนที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง คิด ๆ แล้วก็รู้สึกโกรธตัวเองไม่น้อย ที่พักนี้มัวแต่ให้เวลากับคนรัก จนไม่ค่อยได้มาถามไถ่น้องว่าเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้ใครอีกต่อไปแล้ว นอกจากรีบหาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ คิดได้เช่นนั้นก็รีบกลับห้องและขังตัวเองอยู่ในห้อง เพื่อเตรียมหาลู่ทางที่จะรับมือกับปัญหาต่อไป จนดึกดื่นถึงได้เข้านอน วันรุ่งขึ้นเขาบินไปสิงคโปร์พร้อมคุณกัมปนาท

‘ผมจะไม่อยู่สักสองสามวันนะลี’
นอกจากแม่และบรรพตแล้ว หญิงสาวเป็นคนที่สาม ที่เขาส่งข่าวบอกก่อนจะขึ้นเครื่องไป

“อะไรนะ นี่พี่ณินตั้งใจจะหลบหน้าผมหรือเปล่าคุณแหม่ม รู้ทั้งรู้ว่าผมกำลังรอคำตอบอยู่ จู่ ๆ จะไปก็ไม่ยอมบอกกล่าวอย่างนี้จะให้ผมคิดยังไงถ้าไม่คิดว่ากำลังจะแกล้งผม” คามินอดไม่ได้ที่จะบ่นกับแหม่มดัง ๆ เมื่อพยายามติดต่อพี่ชายแต่ไม่สำเร็จ

คณินหายไปสี่วันเต็ม ๆ เมื่อกลับมาคนแรกที่เขามุ่งไปหาก็คือคนที่หัวใจร่ำร้องและคิดถึง แม้จะดึกดื่นแต่จากสีหน้าของเขาทำให้ประณาลีเปิดประตูรับอย่างไม่ลังเล อาการของเขาเหมือนวันที่มาพบเธอก่อนไปไม่มีผิด เขาไม่ขอรับอาหารอะไรนอกจากล้มตัวลงนอนที่ชุดรับแขกอย่างคนเหนื่อยอ่อน แล้วก็หลับไปในสภาพนั้น

ประณาลีได้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เบา ๆ ก่อนจะหาผ้ามาห่มให้เขาหลับสบายขึ้น ส่วนตัวเองก็นั่งจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น น้ำตามันค่อย ๆ ไหลออกมา โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่กล่องดำที่เป็นศูนย์รวมทุกอย่างของพ่อแม่ ก็เรียกความเข้มแข็งกลับมาหาหญิงสาวอีกจนได้ จึงรีบกลับไปนอนบนเตียง กว่าจะหลับได้ก็เกือบจะค่อนรุ่ง ตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลาเก้าโมง

‘ผมต้องบินไปทำธุระด่วนที่ฝรั่งเศส ยังไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ แล้วผมจะโทรหา’
คณินทิ้งข้อความเอาไว้แค่นั้น

คามินรีบนำรถเข้าไปจอดขวางหน้ารถพี่ชายทันที เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในออฟฟิศ ซึ่งเป็นเวลาที่คณินกำลังจะให้นทีไปส่งที่สนามบินพอดี กระจกไฟฟ้าเลื่อนลงให้น้องชายได้คุยธุระที่ต้องการ แต่คนพี่ก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร
“พี่ณินจะไปไหนฮะ มินรอลายเซ็นต์พี่ณินมาหลายวันแล้ว ทำไมไม่อนุมัติเงินให้มินซักที”
คนน้องรีบลงมาจากรถและยิงคำถามที่ต้องการแทบจะทันที

“พี่จะไปฝรั่งเศส พอดีมีเรื่องด่วน โปรเจคตัวที่ส่งมาให้ใหม่พี่ยังไม่ได้อ่านเลย เอาไว้ให้พี่กลับมาก่อนได้มั้ย ตอนนี้ที่บริษัทมีปัญหาหลายเรื่อง” พยายามใจเย็นคุยกับน้องเป็นที่สุด แต่อีกคนดูเหมือนจะไม่เชื่อในสิ่งที่พี่บอก
“ถ้าพี่ณินยุ่งขนาดนี้ ก็ไม่เห็นจะต้องดูรายละเอียดก็ได้นี่ฮะ รีบอนุมัติให้มินเถอะ มันเป็นเงินของมิน ถ้ามีอะไรผิดพลาดมินจะรับผิดชอบเอง รับรองว่าจะไม่ไปกวนเงินส่วนของพี่ณินเด็ดขาด” คนน้องไม่ยอม ส่วนคนพี่ก็รีบ

“นี่มิน ตกลงจะไม่ฟังอะไรพี่เลยใช่มั้ย พี่บอกว่าให้รอก่อนก็รอสิ พี่มีปัญหามากพออยู่แล้วนะ อย่าเอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้มากกวนใจได้มั้ย ถ้าว่างมากก็กลับบ้านไปดูคุณแม่กับพี่ณิและหลาน ๆ โน่นไป ตอนนี้ที่บ้านกำลังวุ่นวาย พี่เองก็มีงานล้นมือ ช่วยทำตัวให้เป็นประโยชน์กับใครเขาบ้างจะได้มั้ย ไม่ใช่เอาแต่ห่วงตัวเอง ถอยออกไปพี่รีบ”

คณินไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะว่าน้องแบบนี้ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเหลืออดจริง ๆ คามินเองก็มองไม่เห็นเหตุผล ว่าทำไมพี่ถึงได้กล้าว่าเขาขนาดนี้ นอกจากจะพยายามขัดขวางเขากับคนรักไม่ให้ได้อยู่ร่วมกัน

“พี่ณินว่าเรื่องของมินเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหรอฮะ ใช่สิ! มันจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าธุระของพี่ณินได้ ก็ในเมื่อพี่ณินว่ามินทำตัวไม่เป็นประโยชน์ ทำไมไม่อนุมัติเงินให้มินล่ะฮะ มินจะได้เอาไปทำให้มันมีประโยชน์ขึ้นมาบ้าง หรือพี่ณินกลัวว่ามินจะทำอะไรแล้วดีเกินหน้าตัวเอง” สิ้นสุดความยำเกรงในตัวพี่ชายลงไปแล้ว จึงกล้าต่อปากต่อคำแบบนี้

“ไอ้มิน! อย่ามากร้าวร้าวกับฉันนะ อย่าลืมว่าฉันเป็นพี่แก อยากได้มากใช่มั้ยไอ้เงินนี่ ได้! ฉันจะให้ แล้วถ้ามันสูญขึ้นมา แกอย่ามาร้องขอจากฉันอีกก็แล้วกัน” ประตูรถเปิดออกในทันที พร้อมเดินกลับเข้าไปในออฟฟิศ ในเวลาไล่เลี่ยกัน คามินเดินตามไปโดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของพี่เลยสักนิด

“แหม่ม ผมจะอนุมัติจ่ายเงินให้คุณมินสามสิบห้าล้าน ช่วยเตรียมมาให้ด่วนที่สุด”
น้ำเสียงที่ดังก่อนจะเข้าไปในออฟฟิศ แหม่มรีบทำตามด้วยความรีบเร่ง
“เอานี่กลับไปด้วย ถ้าแกอยากจะอวดดีก็ไปให้มันรอด”

ยื่นเอกสารที่น้องชายเอามาทิ้งไว้ โดยไม่ได้มองหน้า ส่วนคนน้องก็ปิดปากเงียบ แหม่มนำเช็คและเอกสารทุกอย่างเข้ามาในเวลาไม่นานนัก ทันทีที่เรียบร้อย คณินก็เดินออกจากห้องทำงาน โดยไม่ได้สนใจน้องชายอีกต่อไป คามินออกมาทันได้เห็นแต่ท้ายรถของพี่เท่านั้น แม้จะรู้ว่าพี่ไม่พอใจมาก แต่ด้วยความรักที่มีต่อประณาลีมีมากกว่า จึงไม่สนใจจะคิดอะไรให้ปวดหัว

ประณาลีเมื่อออกจากคอนโดฯ มาก็สอนนักเรียนด้วยหัวใจเลื่อนลอยแทบจะทั้งวัน ไม่รู้ทำไมถึงได้เฝ้ามองแต่โทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่โทรมา จนเข้าวันที่สอง หญิงสาวก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเขาแต่อย่างใด หากกลับเห็นโชติกานั่งอยู่ในห้องทำงานแทน

“คุณโรสมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้มาที่นี่” รู้ดีว่าการมาของโชติกาคงจะไม่ใช่เพื่อผูกมิตรแน่ ๆ
“สั้น ๆ และตรง ๆ นะคะคุณลี โรสต้องการณินคืนค่ะ เขารักโรส และโรสก็รักเขา เราสองคนรักและอยู่ด้วยกันมานานแล้ว แต่จู่เขาก็กลับไปหมั้นกับคุณลี เพราะโกรธที่โรสควงคนอื่นแทน ตอนนั้นโรสไม่รู้ว่ารักณินมากขนาดนี้ แต่ว่าตอนนี้โรสค้นพบหัวใจตัวเองแล้วค่ะ จึงมาพูดกับคุณลีดี ๆ ว่าขอของที่เคยเป็นของโรสคืน” วันนี้โชติกาไม่ได้มีน้ำเสียงที่อวดดีเหมือนหลาย ๆ ครั้ง

“ลีต้องเชื่อคุณด้วยเหรอคะ ถ้าคุณณินรักคุณ ทำไมไม่ไปหมั้นกับคุณคะ หรือไม่ ทำไมไม่มาบอกลีเอง ว่าอยากจะกลับไปคืนดีกับคุณ ตอนนี้คุณณินก็ไม่อยู่ด้วย เอาไว้ให้เขามาบอกลีเองจะดีกว่านะคะ ถึงตอนนั้นถ้าเขามีใจที่จะกลับไปหาคุณ ลีจะไม่ขัดขวางหรอกค่ะ ลีเป็นคนง่าย ๆ อยู่แล้ว” มีหรือที่ประณาลีจะยอมให้ใครมาหยามถึงถิ่นได้ขนาดนี้

“งั้นก็เอานี่ไปดูนะคะคุณลี เผื่อจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง ในนี้มีวันที่และเวลาด้วยค่ะ แล้วคุณลีจะรู้อะไรดี ๆ มากขึ้น หวังว่าคงจะคืนของที่โรสต้องการเร็ว ๆ นะคะเมื่อดูเสร็จแล้ว ขอตัวค่ะ”

ยิ้มอย่างคนมีชัยส่งให้เจ้าของห้อง พร้อมซองซีดีอีกหนึ่ง ก่อนที่แขกจะกลับไปอย่างรวดเร็ว ประณาลีไม่คิดที่จะสนใจกับสิ่งที่ได้จากโชติกามา จนกระทั้งกลับถึงคอนโดฯ ก็มองลายมือที่เขียนอยู่บนซีดีว่า ‘Kanin & Rose’ จึงลองเปิดมันดู และแล้วความสงสารความเห็นใจ ที่มีให้กับคนที่ตัวเองแอบเผลอมีเขาอยู่ในใจอยู่บ้าง ก็แทบจะหมดไป เมื่อบทรักที่เร่าร้อน ปรากฏอยู่บนหน้าจอ หญิงสาวจำได้ว่าวันและเวลานั้น เป็นวันเดียวกับที่เธอและเขากลับจากงานเลี้ยง

น้ำตาไหลรินอาบแก้มลงมา โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แม้จะบอกว่าไม่คิด ไม่แคร์ในสิ่งที่โชติกาพูดสักแค่ไหน แต่เมื่อภาพอยู่ตรงหน้ามันช่างบาดตาบาดหัวใจเหลือเกิน พลันคำบอกรักของเขาก็ผุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

“ใครว่าล่ะ ทั้งชีวิตและหัวใจผมมอบให้คุณเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะผมรักคุณ และจะมีคุณคนเดียวตลอดไป แล้วผมก็ไม่มีวันที่จะไปไหนกับใครหรอก นอกจากไปกับคุณ ”

นี่หรือน้ำคำผู้ชาย นี่หรือคือสิ่งที่เขาบอกว่าจะมีเธอเพียงคนเดียว นี่หรือคือผู้ชายที่เธอยอมให้เขาแนบชิด แม้จะบอกตัวเองว่าเป็นเพียงแผนการแค่นั้น แต่หญิงสาวก็รู้อยู่แก่ใจตัวเองว่า ที่ยอมเขานั้นมันมีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่ภายใน ซึ่งเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่ยอมเปิดเผยให้แพทและน้องชายได้ล่วงรู้ แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่อยากจะค้นหาว่าแท้จริงแล้ว เหตุผลนั้นมันคืออะไรกันแน่

เมื่อโกรธคนเป็นลูก ความคิดก็พาลไปหาคนที่ให้กำเนิดอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ใช่เพราะน้ำคำที่หว่านล้อม น้ำคำที่คอยประจบประแจงเอาใจสารพัดแบบนี้หรอกหรือ ที่ทำให้พ่อและแม่ต้องพบกับความพินาศ จนไม่อาจมีชีวิตอยู่สู้หน้าผู้คนได้

“ประณาลี เธอเชื่อเขา เหมือนที่คุณพ่อกับคุณแม่เชื่อใช่มั้ย เธอเผลอไปกับคำหวาน ๆ เผลอไปกับการเอาอกเอาใจของเขา จนแทบจะละทิ้งจุดหมายสำคัญไปแล้วใช่มั้ย จำไว้นะว่าพ่อมันเป็นยังไง ลูกมันก็คงไม่แตกต่างกันหรอก เธอจะใจอ่อนไม่ได้ประณาลี เขาไม่ได้รักเธออย่างที่เธอคิดสักนิด”

พร่ำบอกตัวเอง และจมอยู่กับน้ำตาเป็นนานสองนาน กว่าจะตั้งสติได้ และลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก มือถือถูกกดไปหาแพททันที เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับสาย ก็กดไปหาน้องชาย แต่ก็ไม่มีใครมารับสายเช่นกัน รู้สึกโมโหขึ้นมาอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดได้ว่าไม่ควรจะวู่วาม หรือฟูมฟายให้มากความ จึงตั้งสติใหม่ ไม่นานแพทก็โทรกลับเข้ามา หญิงสาวรีบยิงคำถามออกไปทันที

“พี่แพทคะนายนเรศติดต่อเข้ามาหรือยังคะ เรื่องหย่าไปถึงไหนแล้ว”
“ยังเลยลี พี่ว่าจะลองโทรไปเซิ๊ฟ ๆ ดูเหมือนกัน แต่คิดอีกทีรอถามลีก่อนดีกว่า จะให้พี่โทรเลยมั้ย”
“โทรเลยค่ะ ลีต้องการให้นายนเรศหย่าเร็วที่สุด ตอนนี้นายคณินไปต่างประเทศ เป็นโอกาสของเราแล้วค่ะ ที่จะทำให้แผนขั้นสุดท้ายสำเร็จลง ส่วนลีจะโทรไปหานายคามินเดี๋ยวนี้ บอกวีด้วยนะคะ ว่าให้หาโอกาสดำเนินแผนขั้นสุดท้ายกับญาณินได้ค่ะ”

สิ้นสุดการสนทนาเพียงแค่นั้น ตั้งใจว่าจะกดหาคามินอย่างที่บอกกับแพท แต่คิดอีกทีก็ไม่ควรจะทำอะไรแบบไร้ความยั้งคิด อาจจะไม่เป็นผลดีกับตัวก็เป็นได้ จึงทนรอไปก่อน การหายไปอาบน้ำดูเหมือนจะเป็นเครื่องช่วยทำให้หญิงสาวอารมณ์เย็นขึ้นมาได้มาก

รถยุโรปป้ายแดงคันหรูแล่นเข้ามาจอดในบ้าน คณิศรที่นั่งรับลมอยู่สนามหญ้าดูเหมือนจะไม่คุ้นตานัก แต่เมื่อมองเห็นคนที่ลงจากรถมาว่าเป็นใคร รอยยิ้มและแววตาแห่งความดีใจ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หมองหม่นมาหลายวันทันที แต่เมื่อเห็นเด็กสาวที่คณิศรจำได้ดีว่าเป็นคนเดียวกับที่สามีลากมานอนกกที่บ้าน ความดีใจกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังขึ้นมาในทันทีเช่นกัน

“คุณพามันมาบ้านฉันทำไม แค่นี้คุณยังทำร้ายฉันไม่พออีกเหรอ”
เป็นคำทักทายแรกที่คนเป็นสามีไม่อยากได้ยินสักนิด และยิ่งมองแววตาที่ดูเหมือนจะไม่หลงเหลือความรักไว้ให้เขาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มั่นใจว่า ตัวเองคิดไม่ผิดเลยที่ขอแยกทางในตอนนี้
“ผมก็ไม่อยากมาหรอก ที่มานี่ก็เพื่อจะมาฟังคำตอบจากคุณเท่านั้น ว่าจะไปหย่าให้ผมได้เมื่อไหร่ ผมต้องการหย่าให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้ได้ยิ่งดี ในเมื่อเราสองคนไม่มีทางที่จะอยู่ร่วมกันได้แล้ว ผมไม่เห็นประโยชน์อะไรที่คุณจะดึงผมไว้”

“ฉันไม่มีวันหย่า ไม่มีวันจะปล่อยให้คุณไปมีความสุขกับอีนังหน้าด้านคนนี้หรอก ถ้าอยากหย่านักคุณก็ไปฟ้องเอาสิ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าศาลจะเห็นใจใครระหว่างคุณกับฉัน” มีหรือที่คนอย่างคณิศรจะยอมทำตามง่าย ๆ แม้ความหวังที่จะดึงสามีมาอยู่กับตัวเองริบหรี่ลงแล้วก็ตาม

“อย่าทำให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตดีกว่านะณิ คุณจะได้อะไรถ้าทำแบบนี้ ยังไง ๆ ก็ดึงตัวผมไว้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าคุณไม่หย่าก็ไม่เป็นไรนะ เพราะอันที่จริงสมบัติที่พ่อคุณหาเอาไว้ให้ แล้วก็หุ้นในบริษัทในส่วนของคุณก็มีไม่น้อย เมื่อไม่ยอมหย่า ผมก็ถือว่าผมมีสิทธิ์ที่จะได้เท่า ๆ กับคุณ ผมให้เวลาคุณอีกสองวัน ถ้าเลยนั้นต่อให้คุณเปลี่ยนใจ และมานั่งคุกเข่าอ้อนวอนผมยังไง ก็ไม่มีทางที่ผมจะหย่าให้

เลือกเอาก็แล้วกันว่าจะนอนกอดทะเบียนสมรส แล้วยอมให้ผมมีสิทธิ์ในสมบัติของคุณ หรือว่าจะหย่ากับผมแล้วแบ่งทุกอย่างตามสัดส่วน ที่ผมบอกก็เพราะเห็นแก่ที่เราเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหรอกนะ ถ้าคุณคิดที่จะต่อรองกับผม ขอแนะนำว่าอย่าดีกว่า คุณพ่อถึงจะไม่มีตำแหน่งในวงการแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ถอดเขี้ยวเล็บสักเท่าไหร่หรอก คงพอจะมีหนทางมาบีบให้คุณทำตามที่ผมต้องการได้”
สรรหาเหตุผลร้อยแปดเอามาอ้าง เพราะรู้จักเมียตัวเองดีว่าเป็นคน เห็นแก่เงิน เห็นแก่หน้าตา มากแค่ไหน

“ฉันไม่คิดเลยนะว่าคุณจะเลวได้ถึงขนาดนี้ เสียแรงที่เคยรัก ออกไปให้พ้นจากบ้านฉันนะ ลากเอาอีนี่ไปด้วย แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก และอย่าคิดว่าฉันจะกลัวคำขู่ของคุณ ไป๊ ออกไปให้พ้น ฉันเกลียดคุณ ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดคุณ”
เมื่อถูกดักคอไว้แทบทุกทาง ทำให้คณิศรไม่รู้จะหาอะไรมาเป็นเครื่องต่อรองได้ จึงรีบเอะอะโวยวายตามเคย

“ไปแน่ แต่อย่าลืมนะว่าอีกสองวัน ถ้าไม่มีคำตอบจากคุณ อย่าหาว่าผมไม่เตือน”
ก่อนจะจากไปก็ยังไม่วายขู่เอาไว้ด้วย แม้เขาไม่คิดที่จะทำในสิ่งที่พูด แต่เพื่อให้สิ่งที่ต้องการสำเร็จผลโดยเร็ว จึงจำจะต้องแสดงท่าทีที่เอาจริงขึ้นมา

“ลี! นายคามินมาที่ออฟฟิศแล้วนะ จะให้พี่ทำยังไงดี”
แพทรีบออกจากห้องกดโทรศัพท์ไปหาประณาลีที่กำลังจะแต่งตัวเตรียมมาทำงาน

“พี่แพทถามเขาเลยค่ะว่ามาทำไม แต่ถ้าให้เดาก็คงจะเอาเงินมาให้แน่ ๆ งั้นลีไม่เข้าไปนะคะ ถ้านายคามินอยากช่วย พี่แพทก็รับเรื่องเอาไว้เลยค่ะ นายคามินคงไม่กล้าเอาเงินมาให้ลีตรง ๆ แน่ เพราะกลัวลีไม่รับ ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ไปหาพี่แพทถึงนั่นหรอกค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบแล้ว แพทก็กลับเข้ามาหาแขกที่มาพร้อมเป้ แพทเดาได้ว่าในนั้นน่าจะมีเงินสามสิบล้านอยู่ กาแฟและน้ำดื่มสำหรับแขกแพทจัดการเรียบร้อยแล้ว

“พี่ติดต่อลีไม่ได้ สงสัยจะยังไม่ตื่น เมื่อคืนพาเด็กไปรำกว่าจะกลับก็เกือบตีหนึ่งค่ะ คุณมินมีธุระอะไรจะฝากพี่ไว้ก่อนหรือเปล่าคะ ถ้าลีมาพี่จะบอกให้” แพทเริ่มตามแผน
“อันที่จริง มินมาหาพี่แพทนั่นล่ะฮะ” แม้จะเคยได้พูดคุยกับแพทไม่กี่ครั้ง นับตั้งแต่รู้จักประณาลีมา แต่ชื่อ ‘พี่แพท’ เขามักจะได้ยินจากปากหญิงสาวเสมอ ๆ และเขาเองก็เดาได้ว่า คนทั้งสองน่าจะมีความสัมพันลึกซึ้งให้กันและกันอย่างแน่นแฟ้น ถึงได้ร่วมงานกันมาเป็นเวลานาน โดยไม่มีปัญหาอะไรเข้ามาทำให้บาดหมางใจกันได้

“คุณมินมีอะไรกับพี่คะ”
“มินจะพูดตรง ๆ นะฮะพี่แพท ในนี้มีเงินสามสิบล้านบาท ซึ่งมินไปเบิกมาช่วยคุณลีให้เอาไปใช้หนี้ไอ้นั่น”
“คุณมิน” แพททำท่าเหมือนพูดอะไรไม่ออก

“มินรู้ดีฮะ ว่าพี่แพทกับคุณลีกำลังเจออยู่กับอะไร ความจริงมินอยากจะเอาเงินนี่ให้คุณลีเองด้วยซ้ำ แต่พี่แพทคงจะรู้จักคุณลีดีกว่ามินอีก คุณลีคงไม่มีทางรับเงินมินแน่ ๆ ฮะ มินก็เลยมาหาพี่แพทให้ช่วยเอาไปจัดการให้หน่อย หรือถ้าจะให้มินไปด้วย มินก็ยินดีนะฮะ มินพอมีพวกอยู่บ้าง”

“คุณมินทำแบบนี้ทำไมคะ ต้องการอะไร อย่าบอกนะคะว่าเงินจำนวนนี้จะเอามาซื้อตัวยายลี เหมือนอาเสี่ยเงินหนาคนอื่น ๆ ที่เสนอมาให้ แล้วถูกยายลีปฏิเสธไปนับครั้งไม่ถ้วน ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่แนะนำคุณมินว่าให้กลับไปเถอะค่ะ พี่รับเงินนี้ไม่ได้หรอก เรากำลังหาหนทางแก้ไขอยู่ คงไม่รบกวนคุณมินจะดีกว่า” แพทรู้ดีว่าจะต้องเล่นไม้นี้กับผู้อ่อนประสบการณ์กว่า

“ไม่ฮะพี่แพท มินแค่อยากจะช่วย จะถือว่าเป็นเงินยืมก็ได้ฮะ มีเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืนมิน ขออย่างเดียวให้พี่แพทเอาเงินนี้ไปใช้หนี้ก่อนฮะ เป็นหนี้มินน่าจะดีกว่าเป็นหนี้พวกมันนะฮะพี่แพท เชื่อมินเถอะ รับรองว่าเงินจำนวนนี้ มินไม่เอามาเป็นข้อผูกมัดอะไรหรอกฮะ”
“แล้วคุณคณินล่ะคะ คุณมินบอกเรื่องนี้กับแกหรือเปล่า ถ้ามารู้ทีหลังจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”

“ถ้าคุณลียังไม่ได้บอกพี่ณินเรื่องนี้ แปลว่าคุณลีไม่อยากให้รู้ มินก็ไม่คิดที่จะบอกฮะ มินแค่ช่วยให้คุณลีเป็นอิสระจากการผูกมัดของพี่ณินก็แค่นั้น เชื่อมินนะฮะพี่แพท รับเงินนี้ไปเถอะ” แพททำท่าลังเลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะยอมรับเงินจากคามินเอาไว้ และบอกว่าจะจัดการนำไปใช้หนี้เอง คามินดีใจจนแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่

“ดีให้มันโง่ให้หมดบ้านเลย พี่แพทเอาเงินนี่ไปเข้าแบงค์ให้ลีเลยนะคะ อย่าลืมถ่ายเอกสารการฝากเงินมาให้ลีด้วยค่ะ”
เมื่อรับรู้เรื่องราวจากปากแพทแล้ว ประณาลีบอกด้วยความสะใจ
“ทำไมต้องเอาเข้าแบงค์ด้วยล่ะลี เดี๋ยวมันจะเป็นหลักฐานมัดตัวเราเปล่า ๆ นะ พี่ว่าเอาไปให้วีเก็บไว้เหมือนครั้งก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” แพทไม่ค่อยมั่นใจว่าวิธีนี้จะดี

“ไม่หรอกค่ะ นายคามินไม่เหมือนนายนเรศ ก็พี่แพทบอกลีเองไม่ใช่เหรอคะว่านายคามินให้เรายืม ลีจะเอาหลักฐานการฝากเงินไว้ให้แม่มันดูค่ะ มันจะได้รู้ว่าลูกมันโง่แค่ไหน รู้แล้วมันจะได้กระอักเลือดตายตามผัวมันไป เหมือนที่คุณแม่ตายตามคุณพ่อไปไงคะพี่แพท ผัวมันยังทำให้แม่กับพ่อตายได้ เราก็จะทำให้เมียมันตายบ้างจะได้ตามไปใช้กรรมด้วยกันในนรก”
ความเคียดแค้นชิงชังศัตรู ดูเหมือนจะเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นมาเรื่อย ๆ เมื่อใจคิดไปถึงอีกคนที่ยังไม่ติดต่อมาหาเลย

เจ้าพนักงานที่อำเภอละความพยายามที่จะหว่านล้อม ให้สองสามีภรรยาที่นั่งอยู่ตรงหน้ายอมกลับบ้านไปปรับความเข้าใจกันได้ สมุดเล่มหนาถูกทั้งคู่จรดปลายปากกาลงลายมือชื่อ พร้อมได้รับทะเบียนหย่ากันคนละใบ คณิศรแทบไม่หันกลับมามองอดีตสามีเลยด้วยซ้ำ เมื่อออกจากอำเภอมาได้ ก็ขึ้นรถที่มีคนรออยู่ก่อนแล้ว นเรศเองที่เป็นฝ่ายมองตามรถของภรรยาเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้า ๆ พร้อมถอนหายใจแรง ๆ อย่างคนโล่งอก ที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ไม่น่าเชื่อว่าการขู่เอาสมบัติกับคณิศรจะได้ผลเกินคาด

“คุณแพทครับผมมีข่าวดีจะบอก เราไปกินข้าวกันหน่อยดีมั้ยครับ ชวนคุณลีด้วยนะ” รีบรายงานไปยังแพททันที
“ดี พี่แพทนัดไปเลยค่ะ ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้” กระซิบบอกแพท เมื่อกำลังรอที่จะให้คำตอบกับคนที่อยู่ปลายสาย
“ได้ค่ะคุณเรศ ยายลีบอกว่าที่ร้านเดิม และเวลาเดิมค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” ตอบไปก่อนจะวางสาย แล้วหันมาพูดกับน้องที่นั่งรอฟังผลอย่างคนอารมณ์ดี แล้วก็ถามออกไป เพราะไม่รู้ว่าเรื่องราวจะออกไปในทิศทางไหน

“มันคงจะหย่ากับคณิศรแล้วล่ะลี เสียงใสเชียวนะ ทีนี้จะทำยังไงดีล่ะลี”
“ติดต่อหาวีเลยค่ะ งานนี้สนุกแน่ ๆ ลีจะทำให้ ‘บ้านคณานุรักษ์’ ร้อนเป็นไฟในอีกไม่กี่วัน”
รับมือถือมาจากแพทได้ก็กดไปหาน้องทันที แผนการต่าง ๆ ถูกวางเอาไว้โดยหญิงสาว แพทยิ้มรับอย่างคิดไม่ถึงว่าน้องจะฉลาด และรอบคอบมากขนาดนี้ จนต้องเอ่ยปากชม พร้อมทั้งรอยยิ้ม

“ไม่เบาเลยจริง ๆ นะยายลี”
“เดี๋ยวมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะพี่แพท” ยิ้มอย่างสาสมใจในสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นเอาไว้







 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2552
0 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2552 9:08:56 น.
Counter : 339 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.