Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
6 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
ธารลาวา ๑๗ (ธัญรัตน์)




ตอน ๑๗

แสงแดดเจิดจ้าสาดส่องเข้ามายังห้องนอน ที่ไม่ได้รูดม่านปิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ร่างที่นอนฟุบหน้าอยู่กับหมอนค่อย ๆ ขยับจากท่านอนคว่ำ มาเป็นหงายปวดเมื่อยไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าหลับท่านี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อยากจะหลับต่ออีกหน่อยแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะรู้สึกกังวลกับคนที่อยู่อีกห้องว่าป่านนี้จะเป็นยังไง เมื่อคืนเผลอสร้างวีระกรรมไว้มากทีเดียว คิดได้เช่นนั้นก็ดึงตัวเองให้ลุกจากเตียงหายไปในห้องน้ำสักพัก เสื้อผ้าสวมใส่อย่างลวก ๆ เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว จึงรีบออกจากห้อง ป้ามาทำความสะอาดบ้านตามปกติ

“คุณผู้หญิงไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ มีรถสีฟ้า ๆ มารับไป ผู้หญิงหรือกระเทยก็ไม่รู้ค่ะเป็นคนขับมา”
เดาได้ว่าเป็นใคร ทั้งติดใจและโล่งใจคละเคล้ากันไป ไม่ได้สนใจจะถามอะไรจากป้าอีก ได้แต่เดินออกไปเดินเล่นตามชายหาดให้สบายใจกว่านี้ อยากจะโทรไปถามว่าป่านนี้เธอถึงกรุงเทพฯ หรือยัง แต่ก็ได้แค่คิด เพราะคำพูดประชดประชันทำให้แสลงหูไม่น้อย ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่กลับล้มยักษ์อย่างเขาด้วยคำขู่ได้

‘รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น’

นานเป็นชั่วโมงกว่าจะกลับเข้าบ้าน ป้าก็ยังวนอยู่กับการเช็ดถูกอย่างละเอียดถี่ถ้วน สายตาก็คอยเมียงมองเจ้านายหนุ่ม ว่าต้องการเรียกใช้อะไรหรือไม่ แต่ก็เงียบ จนป้าต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาถาม ด้วยน้ำเสียงที่เบา บวกกับท่าทางที่เจียมเนื้อเจียมตัว

“คุณณินจะทานข้าวเลยหรือเปล่าคะ คุณผู้หญิงทำไว้ให้แล้ว ป้าจะเอาเข้าเวฟให้ เห็นแกลุกมาทำทิ้งไว้ตั้งแต่ป้ามาถึงค่ะ ถามว่าทำไมไม่ทำข้าวต้มเหมือนทุกเช้า แกก็บอกว่าคุณณินคงจะตื่นสายเลยทำกับข้าวรอไว้เลยดีกว่า”
ปากพูดไปมือก็จัดการกับอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ มองไปยังเจ้านายที่เหมือนจะตั้งใจฟังก็เล่าต่อ

“คุณผู้หญิงคนนี้ดีนะคะคุณณิน ดูห่วงคุณณินม๊ากมากค่ะ คืนที่คุณณินไม่สบายนะคะ แกก็ตั้งนาฬิกาปลุกขึ้นมากลางดึก เพื่อมาเช็ดตัวและเอายาให้คุณณินกินค่ะ ไม่ยอมปลุกป้าซักคำ คงจะเกรงใจ แถมพอคุณณินขอให้แกอยู่เป็นเพื่อน ก็ยอมทำตามไม่เกี่ยงค่ะ นั่งเอามือให้คุณณินกอดได้ครึ่งค่อนคืน ตื่นเช้ามาก็หลับอยู่ท่าเดิมอย่างนั้นล่ะค่ะ อาหารก็ทำอร่อย ยิ้มง่าย พูดเพราะ แถมมีน้ำใจกับครอบครัวป้าอีกค่ะ”

คนที่ย้ายตัวเองจากชุดรับแขกมานั่งที่โต๊ะอาหารฟังอย่างตั้งใจ ‘ไม่รู้ไปเอาป้าไว้เป็นพวกได้ตั้งแต่ตอนไหนสิน่า’ ถึงได้มายกยอสรรพคุณให้เขาฟังได้เป็นนานสองนาน

“ป้าเก็บกวาดให้หมดเลยนะครับอิ่มแล้วผมก็จะกลับเลย”
เขาบอกเมื่อจะลงมือกับอาหารมื้อแรกของวัน และอาจจะเป็นมื้อสุดท้าย ที่จะได้ลิ้มลองฝีมือของแม่เสือสาว ที่ทอดทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีแล้วด้วยกระมัง รถสปอร์ตเคลื่อนออกจากบ้านพักแทบจะทันทีที่อิ่ม ไม่ได้มุ่งตรงเข้ากรุงเทพฯ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ตรงไปไซด์งานที่ระยอง โดยไม่ได้บอกกล่าวให้ใครได้รู้ตัวก่อน ‘นี่อีกหนึ่งของความเป็นคณิน’ จะได้พบข้อผิดพลาดจากคนงานไปในตัว

ผู้จัดการไซด์งานเหมือนจะรู้จักเขาดี เพราะเคยพบเจอเจ้านายไปเยี่ยมโดยไม่บอกกล่าวมาแล้ว ตามด้วยคอมเม้นท์สามหน้ากระดาษหลังจากเจ้านายกลับไป ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงดูแลงานทุกอย่างแบบไม่มีที่ติ ซึ่งเป็นที่พอใจให้กับเจ้านายหนุ่มดีทีเดียว อาหารเที่ยงในเวลาสี่โมงเย็นของเขากับคนที่ไซด์งานเป็นไปแบบง่าย ๆ ก่อนจะกลับเข้าบ้านในเวลาเกือบจะทุ่มครึ่ง เสียงเจื้อยแจ้วดังมาจากห้องนั่งเล่น เดาได้ว่าหลาน ๆ คงจะมาหาคุณยาย จริงอย่างที่คิด ก่อนจะไปร่วมวงกับสมาชิกในครอบครัวขออาบน้ำให้หายเหนียวตัวก่อน ไม่นานก็ลงมา

“สองหน่อจะมานอนกับแม่สองคืน วันมะรืนก็จะเปิดเทอมแล้ว” ไม่ต้องรอให้ถามอัมพรรีบบอกลูกชายคนโตทันที
“น้าณินไปไหนมาคะ แล้วมีขนมมาฝากเจนนี่หรือเปล่า” หลานสาวหน้าแฉล้มส่งสายตาใสแจ๋วมาหาผู้เป็นน้า
“ขนมที่บ้านเรามีเยอะแยะไป น้าให้คนซื้อมาไว้รอเราทั้งนั้นเลย” มือหนาเอื้อมไปโยกศีรษะน้อย ๆ ไปมา

“เจนนี่กินจนหมดแล้วค่ะน้าณิน อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลย ที่โรงเรียนครูลีก็มีขนมอร่อย ๆ ไว้ให้นักเรียนเยอะแยะเลยค่ะ เวลาเจนนี่ไปเรียนทีไรอิ่มกลับบ้านทุกที ดีใจจังเลยค่ะ อีกหน่อยก็จะได้ไปหาครูลีแล้ว ไม่เจอตั้งสามวันคิดถึงจังเลยค่ะ คุณแม่คะเจนนี่ไปเล่นเกมกับพี่เจเจนะคะ” ไม่ทันได้รอคำอนุญาตก็วิ่งดุ๊ก ๆ ขึ้นข้างบนไปแล้ว ปล่อยให้ผู้ใหญ่ทั้งสามมองตามแล้วก็ส่ายหน้าน้อย ๆ

“เอ๊ะ...ครูลีของยายเจนนี่ ใช่คนที่รำคืนนั้นหรือเปล่าแม่ณิ”
อัมพรหันมาถามลูกสาวที่ทำท่าจะกลับนานแล้ว แต่พอเห็นน้องชายมาก็นั่งรอคุยด้วย และเมื่อแม่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา ก็ทำให้เขาอดคิดถึงหน้าที่นองด้วยน้ำตากับคำพูดอ้อนวอนจนเป็นขู่เข็นเมื่อคืนไม่ได้

“ใช่ค่ะคุณแม่ ไม่รู้ยายเจนนี่ชอบใจตรงไหน ณิเห็นแล้วไม่ค่อยปลื้มค่ะ ออกจะหยิ่ง ๆ พิกล ตั้งแต่พายายเจนนี่ไปเรียนที่นั่นนะคะ ไม่เคยไหว้ณิสักครั้งเดียว แค่ยิ้ม ๆ ให้ ถามคำก็แทบจะตอบคำ ดีหน่อยแต่เวลาสอนนักเรียน ดูใจเย็นดีค่ะ”
คณิศรอดที่จะบ่นไม่ได้ เมื่อคิดถึงใบหน้าออกจะยโสของครูสาว ถึงสุดท้ายพี่สาวจะเอ่ยชม แต่ประโยคแรก ๆ ก็ทำให้เขาฟังแล้วขัดหูอยู่ไม่น้อย แต่ก็นั่งฟังแค่นั้น เพราะรู้จักพี่สาวดีว่าเป็นยังไง คงจะไม่ต่างจากมารดานักแต่ก็อดไม่ได้ที่จะประชดลูกสาว

“ไม่ชอบที่เขาไม่ยอมไหว้ล่ะสิเรา” ผู้พี่ให้ขัดใจที่สุดกับคำมารดา แต่คนน้องกลับยิ้มร่าออกเพราะเห็นด้วย
“คุณแม่ก้อ...ณินอีกคน กลับบ้านดีกว่า พรุ่งนี้เย็น ๆ ณิจะรับลูกนะคะคุณแม่ พี่ไปนะณิน”
ไม่ได้น้อยใจในคำแม่สักนิด แต่ถึงเวลาที่จะไปสอดส่องพฤติกรรมของสามีต่างหาก เพราะมีเพื่อนที่หวังดีโทรมาบอกไว้ว่านเรศมักจะไปหิ้วเอาพนักงานขายคลอสในฟิตเนสแห่งหนึ่งไปนอนกก

“ว่าหน่อยไม่ได้หนีแม่ทุกทีเลย แล้วเป็นไงบ้างลูก งานเรียบร้อยดีมั้ย หายไปตั้งหลายวัน”
สีหน้าที่ห่วงใยในตัวลูกทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาครามครัน
“ไม่หรอกครับคุณแม่ ทำงานไปด้วยพักไปด้วย คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ”
“วัน ๆ เอาแต่ตะลอน ๆ ไปโน่นมานี่ แล้วเมื่อไหร่จะตกลงปลงใจกับใครสักทีล่ะลูก แม่อยากเป็นย่าคนจะแย่แล้วนะ”
พักนี้แม่ชอบถามแต่เรื่องนี้ ถึงจะไม่มีคำตอบดี ๆ ให้ เขาก็ประจบด้วยการขยับเข้าไปกอดและหอมแก้มแม่แทน

“คุณแม่ครับ คู่ของผมคงยังไม่เกิดหรอกมั้งครับ อยู่กับคุณแม่และหลานไปแบบนี้ดีกว่า”
“ไม่ต้องมาประจบแม่เลย เราน่ะอายุตั้งขนาดนี้แล้วนะ น่าจะหาคนมาดูแลได้แล้ว จะได้อยู่ติดบ้านกับเขาซักที ไม่ใช่โดนสาวหิ้วไปทางโน้นทีทางนี้ที ระวังจะไปเผลอทำใครเขาท้องขึ้นมาจนต้องรับผิดชอบล่ะ ผู้หญิงสมัยนี้ยิ่งชอบเอาเรื่องลูกมาจับผู้ชายรวย ๆ อยู่ แล้วจะหาว่าแม่ไม่เตือนไม่ได้นะ”

“โธ่! คุณแม่ครับ มือชั้นนี้แล้ว ไม่มีใครกล้าหรอกครับ ผมไม่ได้โง่จนลืมป้องกันสักหน่อย อีกอย่างมีสาวมาหิ้วก็ดีกว่าไม่มีนะครับ จะมีผู้ชายสักกี่คนเชียว ที่ผู้หญิงเอาตัวมาเสนอให้ถึงหน้าประตู”
น้ำเสียงที่ออกจะภาคภูมิใจในตัวเอง ทำให้มารดาทำตาขวางใส่อย่างหมั่นไส้ แต่อีกเสี้ยวหนึ่งในความคิดของเขา
‘ฉันอยากให้เธอมาหิ้วฉันบ้างจังประณาลี’ แต่ก็ถูกลบเลือนจากคำถามของแม่อีกหลายอย่าง

สีหน้าของพนักงานตั้งแต่ รปภ. ที่ประตูทางเข้าออฟฟิศ ฝ่ายต้อนรับชั้นล่างไปจนถึงส่วนของสำนักงานผู้บริหาร ต่างหวาด ๆ กับท่าทีขึงขัง ท่วงท่าก้าวเดินที่องอาจ สายตาคมกริบ ที่ไม่แม้แต่จะสบตาผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ยกมือไหว้แทบตลอดทาง แหม่มเองก็ยังลังเลที่จะเข้าไปเผชิญหน้าเจ้านายหนุ่มในตอนนี้ บรรพตที่เดินผ่านมาก็ยักไหล่ให้สัญญาณว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เมื่อแหม่มหันไปหาคล้าย ๆ จะมีคำถาม ปัทมารีบทำหน้าที่ยกกาแฟกับน้ำเย็นเข้าไปให้ แทบจะนับวินาทีได้ก็ออกมาจากห้องแล้ว

วันนี้เป็นวันที่แหม่มไม่อยากเข้าไปในห้องเจ้านายมากที่สุด แต่ก็จำเป็นที่จะต้องไปเพราะคืองาน บรรพตยังไม่ยอมไปไหนยืนรออยู่หน้าโต๊ะทำงานแหม่ม ไม่ถึงสิบนาที เจ้าของโต๊ะก็ออกมาจากห้อง พร้อมคิ้วที่ผูกกันคล้าย ๆ โบว์ ก่อนจะบ่นจนแทบจะกระซิบกับบรรพตที่ยืนกอดอกรอดูลาดเลาอยู่

“ลองกลับมาหน้าตาแบบนี้ แปลว่ายังไม่ได้แอ้มชัวร์”

ถึงเจ้านายไม่บอกว่าสามสี่วันหายไปไหน แต่ก็เดาได้ว่าหอบเอาครูสาวไปด้วย เพราะโทรสั่งเอาไว้ว่าให้พนักงานซ้อมรำตามที่เรียนมาเอง ครูจะไม่เข้ามาสอนแล้ว แรก ๆ ก็สงสัย แต่เมื่อลองโทรไปถามป้าที่บ้านพักตากอากาศ ถึงได้แน่ใจในความคิดของตัวเอง บรรพตเห็นท่าไม่ดีรีบเผ่นไป แต่สักพักก็เดินหน้าห้อยกลับมา เมื่อถูกเจ้านายหนุ่มเรียกตัวด่วน

คณินพยายามจะเก็บความขุ่นเคืองไว้ เท่าที่จะสามารถทำได้ แต่ไม่รู้เป็นอะไรเวลามองมือถือ หวังจะกดไปหาคนที่จากมา ความกลัวจะเสียหน้า กลัวจะเสียเชิง และกลัวอีกหลาย ๆ อย่างแล่นเข้ามา ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนลูกน้องจะพากันรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี เพราะตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่มีใครเยี่ยมหน้าเข้ามาหาถ้าไม่ได้เรียก แม้แต่บรรพตที่นับได้ว่าเป็นคนใกล้ตัวที่สุด มือถือถูกโยนลงไปที่โต๊ะอีกครั้ง เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะไม่ตอแยแม่เสือยิ้มยากอีก

“ว่าไงแหม่ม”
เสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ถามออกไป เมื่อแหม่มกดเข้ามาหาที่เครื่องตรงหน้า ก่อนจะหยุดคิดนิดหนึ่ง แล้วก็ตอบแหม่มไป
“ให้เข้ามาได้”
แค่นั้น เจ้าของร่างเพรียว ในชุดกางเกงยีนส์ทรงนำสมัยสีขาวกับเสื้อเกาะอกสีเดียวกัน ก็เดินเฉิดฉายเข้ามาในห้อง เพียงไม่นานทั้งแขกและเจ้านายหนุ่มก็เดินออกจากห้องทำงาน แต่ไม่วายหันมาสั่งเลขาฯ ว่า

“ผมจะไปข้างนอก ไม่กลับเข้ามาอีก ใครโทรมาก็บอกว่าไปกับคุณวิชุดา ถ้าที่บ้านโทรมาให้บอกว่าผมอาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยก็ได้” ไม่ได้คิดว่าแม่เสือสาวจะโทรมา แต่เผื่อเอาไว้ก่อน ให้รู้ซะบ้างว่าคนอย่างเขา มีหรือจะไร้ซึ่งสตรีมาทอดกายให้

เสร็จจากอาหารในร้านหรู ต่อด้วยไปฟังเพลงที่ผับดัง เอวคอดกิ่วถูกกระชับเข้าหาอกกว้าง เคลื่อนไหวช้า ๆ ไปตามเสียงเพลงอยู่กลางฟอร์ วิชุดาให้แปลกใจว่าทำไมวันนี้ ถึงได้ดึงเขาออกมาท่องราตรีง่ายกว่าหลาย ๆ ครั้ง แต่ก็ไม่สนอะไรมากไปกว่าใบหน้าที่หล่อเหลา คมเข้ม ที่เอาแต่จ้องมองมายังตัวเองนานสองนาน เกือบจะเที่ยงคืน คอนโดฯ ที่ไม่ค่อยได้มาใช้งานนักของเศรษฐีหนุ่มก็ถูกเปิดออก แขกร่างอรชรไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดที่เขาพาขึ้นมาที่นี่แทนการไปส่งบ้าน

“เดี๋ยวค่ะคุณณิน เรามาตกลงกันก่อนนะคะ ว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน จะเป็นเพียงการพึงพอใจของเราที่คิดจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันแค่นั้น เราจะไม่ผูกมัดกันและกันในอนาคตนะคะ” มือบางดันหน้าที่ก้มลงไปหาหน้าขาวเนียน

“ผมไม่เคยคิดจะผูกมัดใคร เราต่างมีอิสระต่อกันและกันพอใจหรือยังครับคุณวิ”
อยากจะขอบคุณเหลือเกิน ที่ฝ่ายหญิงเอ่ยคำคำนี้มาก่อน มันทำให้เขารู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด ก่อนบทรักที่รุนแรง และเร่าร้อนจะถูกถ่ายทอดให้กันและกัน ความขุ่นเคืองที่มีให้คนที่ไม่ใยดีเขามากแค่ไหน ถูกระบายลงไปกับเรื่อนร่างเปล่าเปลือยที่ยิ้มรับการรุกเร้าของเขามากเท่านั้น

สลัดผักกับแซนด์วิชทูน่าในกล่องบอกยีห้อที่โปรดปราน แพทละสายตาจากรายงานบัญชี มองหน้าน้องสาวต่างสายเลือดอย่างมีคำถาม เพราะเท่าที่รู้คือวันนี้น้องจะไม่เข้ามาในออฟฟิศ แต่จู่ ๆ ของกินก็มาวางตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะถาม
“ไหนว่าจะไปหานายคามินแล้วไปสนามบินเลยไง”

“ลีรู้ว่าพี่แพทจะไม่ยอมออกไปกินข้าวข้างนอก เพราะต้องตรวจบัญชี ก็เลยแวะซื้ออะไรมาให้ก่อนค่ะ”
“มาก็ดีแล้ว นายคณินติดต่อมาบ้างหรือยัง จะสามอาทิตย์แล้วนะ ตกลงจะเอายังไงกันแน่ หรือว่าหลงแม่คู่ควงคนใหม่จนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว พี่ว่าแผนเราท่าจะเหลวซะละมั้งลี”

ตั้งแต่หนีกลับมาครั้งนั้น เหยื่อก็หายเงียบไปไม่เคยติดต่อกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเหตุให้ต้องส่งนักสืบอย่างน้องชายไปหาข่าว ก็ได้ความว่าเหยื่อกำลังควงอยู่กับวิชุดาสาวนักเรียนนอก ที่พกพาความมั่นใจไว้ในตัวชนิดเต็มกระเป๋าได้สักพักแล้ว บางครั้งก็มีคู่ขาเก่าคือโชติกาเข้ามาผลัดเวรให้เหยื่อคลายเหงา

“เอ่อ! รอดูสักพักก่อนเถอะค่ะพี่แพท”
ออกจะกลุ้มใจอยู่บ้างกับระเบิดลูกสุดท้ายที่ทิ้งไว้ครั้งนั้น เหมือนจะไม่ได้ผล
“หรือเราจะบุก แทนที่จะรอ”

ไม่รู้จะทำยังไงจึงเสนอออกไปแบบนั้น แต่เจ้าของเสื้อกล้ามกลับยิ้ม แล้วก็ส่ายหน้าบอกให้รู้ว่าคำแนะนำหาประโยชน์แทบไม่ได้ ก่อนจะให้ความกระจ่างกับแพทที่สีหน้าเหมือนมีคำถาม

“จะบุกหรือจะรอ ค่าของมันก็เท่าเดิมค่ะพี่แพท สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือรอเท่านั้น รอให้นายนั่นติดต่อมาหาเราเอง ถ้าจะต้องสานสัมพันธ์ต่อกับนายนั่น เราต้องไปอย่างหงส์ ไม่ใช่อย่างกาค่ะ ลีว่าพี่แพทอย่ากังวลเลย ถ้าแผนเอของเราล้มเหลว แผนบีเราก็มีไว้แล้ว ลีไปแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าจะต้องเสียเวลากับนายคามินนานแค่ไหน ไม่รู้ด้วยว่าแผนขั้นต่อไปกับนายนี่จะใช้ได้ผลหรือเปล่า ขอไปหยั่งเชิงนาน ๆ หน่อยก็แล้วกันค่ะ”

เหมือนไม่อยากเอาเรื่องพวกนี้มาให้แพทต้องครุ่นคิดไปด้วย ประณาลีจึงหันหลังกลับทันที ทิ้งให้แพทมองตามอย่างไม่เข้าใจ แต่คนที่กำลังจากไปก็หันกลับมาถามพร้อมยิ้มให้ผู้พี่

“พี่แพทอยากได้อะไรเป็นของฝากหรือเปล่าคะ ลีจะหามาให้”
“ไม่หรอก ฝากกราบยายด้วยนะ บอกด้วยว่าพี่คิดถึง”

ไม่บ่อยครั้งนักที่แพทจะได้ขึ้นไปเยี่ยมยาย เพราะต้องยืนยงดูแลงานทางนี้มาตั้งแต่แรก จึงปล่อยให้น้องสาวกับน้องชายผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปเยี่ยมแทน น้องชายดูเหมือนจะมีโอกาสมากกว่า เพราะงานค่อนข้างอิสระ ส่วนผู้พี่จะไปได้เฉพาะเวลาที่โรงเรียนหยุดในทุก ๆ สิ้นเดือน หรือตามแต่โอกาสจะอำนวย เช่นตอนนี้ที่คลาสสอนตัวตอตัว มีแค่เจนนี่เท่านั้น จึงให้นกดูแลแทนได้ รวมไปถึงการเรียนการสอนที่กลับมาอยู่ในเวลาปกติในช่วงเย็นหลังจากช่วงปิดเทอมผ่านไป

ความไม่อยากจะคิดมากของประณาลีเกี่ยวกับผลของแผนที่วางไว้คล้าย ๆ จะไม่ได้ผล จึงตัดสินใจไปอยู่กับยายสักพักจะดีกว่า ได้กำไรสองต่อ คือพักผ่อนกับดูแลยายไปด้วย แต่ก่อนจะไปก็ต้องไปเยี่ยมหน้าให้เหยื่อหมายเลขสองได้เห็นเป็นบุญตาสักหน่อย หลังจากที่เฝ้าเวียนวนโทรมาหาหลายครั้ง ส่วนเหยื่อหมายเลขสามช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไร เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็ได้กินข้าวเที่ยงด้วยกันอีก เพื่อให้ข่าวกับแพทว่าบ้านที่ซื้อไว้การก่อสร้างเหลืออีกไม่มากก็จะเสร็จ

เด็กในแกลรอรี่บอกว่าเจ้าของร้านอยู่บนดาดฟ้าเช่นเคย ขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ แต่ก่อนจะถึงชั้นบนสุด กระจกเงาทำหน้าที่บอกสภาพใบหน้าคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แป้งพับไม่ได้ยกขึ้นมาทำให้หน้าตาสดใสเหมือนทุก ๆ ครั้ง ด้วยต้องการให้ความหม่นหมองเข้ามาแทนที่ เพราะเป็นหนึ่งในแผนขั้นต่อไป เท้าเปล่าค่อย ๆ เดินอย่างเชื่องช้าขึ้นไป ยิ้มที่จงใจจะให้คนที่ละสายตาจากผืนผ้าใบหันมาหาเห็นว่าเจ้าของรอยยิ้มคล้าย ๆ จะมีเรื่องเก็บงำเอาไว้ในใจ

“คุณลีดูไม่ค่อยจะสดชื่นเลยนะฮะ หรือว่าเบื่อที่ต้องมาหาผม”
ง่ายจริง ๆ สำหรับเหยื่อรายนี้ ‘ทำไมนะทำไม พ่อคนพี่ถึงไม่ง่ายแบบนี้’ ใจคิดไปอีกเรื่อง แต่หน้ากลับปั้นเศร้าสร้อยได้แนบเนียน จนผู้มีอารมณ์อ่อนไหว ไม่แม้แต่จะสังเกตุเห็น ร่างในผ้าซิ่นเดินเชื่องช้าไปนั่งกับเก้าอี้ตัว ที่ครั้งก่อนถูกเหยื่ออุ้มไปคอยปฐมพยาบาลเท้าให้ พู่กันในมือจุ่มล้างน้ำแล้วก็ตามไปนั่งเก้าอี้ใกล้ ๆ

“มีอะไรหรือเปล่าฮะคุณลี ผมพอจะมีเกียรติที่จะรับรู้ได้บ้างหรือเปล่าฮะ เห็นหน้าคุณลีแบบนี้แล้วทำให้ผมอดห่วงไม่ได้ เล่าให้ผมฟังบ้างได้ไหมฮะ” ยังไม่ละความพยายาม
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณคุณมินมากนะคะที่ห่วงลี จะเที่ยงแล้วเราจะทานที่ไหนดีคะ”
ยิ้มคล้าย ๆ ฝืน ถามเรื่องกินคล้าย ๆ จะกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาสนใจ มีหรือที่จิตใจที่อ่อนโยนของคามินจะไม่หลงในกลลวงนี้

“คุณลีอย่าเฉไปเรื่องอื่นซิฮะ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยแบ่งปันได้บ้าง ก็ขอให้บอกนะฮะ ไม่ต้องเกรงใจ เราเองก็รู้จักและคุ้นเคยกันมานานแล้ว ช่วยกันได้ก็อยากจะช่วย” ใจจริงอยากจะบอกว่า ‘รู้จักและรักคุณมานานแล้ว’ แต่ก็ได้แค่คิด
“ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะคุณมิน ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ที่คุณมินมีน้ำใจกับลี เอาไว้ให้ลีช่วยตัวเองไม่ได้จริง ๆ แล้วลีจะบอกนะคะ แต่ตอนนี้ลีชักจะหิวแล้ว ไปกินร้านเดิมของเราดีกว่านะคะ”
ถึงจะปฏิเสธในประโยคแรก แต่ก็ยังคงทิ้งทวนเอาไว้ให้คนตรงหน้าเก็บไปขบคิดเอาเอง

“คุณลีนี่จริง ๆ เลย”
ความอยากรู้ว่าคนที่ตัวเองแอบมอบหัวใจให้ ว่ามีปัญหาอะไรมีมากแค่ไหน แต่ก็ยอมลุกตามร่างกลมกลึง ที่เดินนำหน้าไปก่อนแล้วอยู่ดี แทนที่จะไปกินร้านเดิมตามที่เธอเชิญชวน เขากลับเสนอให้ไปร้านหรูและแพงลิบแทน เพราะอยากจะให้เธอผ่อนคลายกับบรรยากาศในร้านมากกว่า ‘ดีแล้วที่เผื่อเวลาเอาไว้มาก ๆ ไม่งั้นคงตกเครื่องแน่’ เมื่อเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำตามคำชวนของเขาก็จำต้องโอนอ่อนผ่อนตาม

ก่อนไปไม่วายรอบคอบ ขอเข้าห้องน้ำแล้วก็โทรเข้าไปเช็คพิกัดของเหยื่อหมายเลขหนึ่ง ว่าอยู่ที่ไหน ปัทมาไม่เฉลียวใจพอที่จะคิดว่าเสียงที่ถูกดัดเป็นใครจึงแจ้งว่า ‘คุณณินกำลังประชุมค่ะตั้งแต่สิบเอ็ดโมงแล้ว กว่าจะเสร็จคงจะถึงบ่ายสามเลยค่ะ’ ไม่ทันได้ไตร่ถามว่าใครโทรมา คนอยู่ในห้องน้ำก็ตัดการสื่อสารลงทันที ยิ้มเย้ยหยันให้กับตัวเองในกระจกเงาก่อนจะออกจากห้องน้ำ

อาหารเที่ยงในร้านหรูใช้เวลานานกว่าร้านเดิมตามที่คิดไว้ และกว่าจะเดินชื่นชมฝีมือพ่อจิตรกรหนุ่มกับงานชิ้นใหม่ ๆ หลายชิ้น ก็กินเวลาไม่น้อย สีหน้าที่เหมือนครุ่นคิดกับปัญหาที่กำลังเผชิญยังคงมีให้เขาเห็นเป็นพัก ๆ รู้ทั้งรู้ว่าเขาสังเกตุเห็น แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รับรู้กระทั่งวินาทีสุดท้ายที่ออกรถ

ปวีร์รออยู่ที่เดิม เรื่องราวต่าง ๆ ที่บ้านพักตากอากาศ ‘ยกเว้นเรื่องที่พี่ถูกจาบจ้วงทั้งสายตาและการกระทำ’ ในแผนการถูกถ่ายทอดให้กันและกันระหว่างทางไปสนามบิน คนพี่รีบลงจากรถและตรงไปเช็คอินทันที เมื่อรู้ว่าเวลาเหลือไม่มาก ส่วนคนน้องก็นำรถไปไว้ที่คอนโดฯ แพท กลับไปที่ร้านด้วยแท็กซี่ โดยไม่ต้องฝากกุญแจที่เคาน์เตอร์ เพราะมีกันคนละดอกอยู่แล้ว

ขนมไทยในร้านนับสิบ ๆ รายการ มีให้สองหลานยายเลือกสรรอย่างจุใจ แต่ส่วนใหญ่คนเป็นยายจะชี้นิ้วสั่งคนขายมากกว่าหลาน คนขายมีน้ำใจแถมให้สองสามชิ้น เพราะคุณยายสำลีเป็นลูกค้าประจำมานาน ดอกไม้ที่ร้านข้าง ๆ ไม่วายถูกหลานสาววิ่งไปซื้อ เพื่อเอามาจัดแจกัน กลับมามือซ้ายก็ต้องหิ้วถุงขนมจนเต็ม ส่วนอีกข้างก็จูงยายข้ามถนน เพื่อจะกลับไปขึ้นรถที่จอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลเช่นเคย ความรักที่หลานมีต่อยาย มักจะถูกแสดงออกด้วยการบังคับให้ยายมาหาหมอ ถึงจะไม่เจ็บปวดแต่ประณาลีก็อยากให้ยายได้ยาบำรุงจากหมอไปกินบ้าง

“ทำไมยายซื้อขนมเยอะจังคะ” มองมือตัวเองที่เต็มไปด้วยถุงขนม
“ยายก็จะซื้อไว้ให้เราตักบาตรพรุ่งนี้ไง นาน ๆ จะกลับมาหายายสักที” สายตาที่เอ็นดูหลานสาวยิ่งนักมองไปหา

“นานที่ไหนกันคะ ลีก็มาหายายเดือนละครั้งนี่นา คิดถึงยายจะแย่ อยากมาหาบ่อย ๆ จะตาย แต่ก็ไม่ว่าง”
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่ออดอ้อนยายด้วยความรัก แม้จะยืนอยู่กลางถนนอย่างนั้น

สองยายหลานค่อย ๆ เดินตามทางม้าลาย เมื่อสัญญาณไฟแดงสว่างขึ้น หน้าคมเข้ม กับสายตาคมกริบที่มีแว่นกันแดดบดบังเอาไว้กระพริบตาถี่ ๆ กับสองร่าง ที่กำลังจะเดินผ่านหน้ารถ จำได้ว่าครั้งก่อนก็เคยเห็นแม่เสือสาวกับหญิงชราคนนี้ที่นี่ ‘ทำไมถึงหนีไม่พ้นนะ’ โกรธโชคชะตาอยู่บ้าง ก่อนจะพยักหน้ารับกับบรรพตที่หันมาถามว่า

“นั่นคุณประณาลีใช่หรือเปล่าครับคุณณิน”
เมื่อรับรู้ว่าเจ้านายไม่ประสงค์จะต่อบทสนทนาเขาก็เงียบ รถค่อย ๆ เคลื่อน เมื่อไฟเขียวส่งสัญญาณมา มุ่งหน้าไปไซด์งานของลูกค้ารายใหญ่ที่ตามอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อเดือนที่แล้ว จู่ ๆ บรรพตก็ต้องหันมารับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่ม ที่พูดรัวรวดเดียวเมื่อลงจากรีมูซีน

“บรรพตช่วยไปดูให้ทีว่าประณาลีมาทำอะไรที่นี่ แล้วยายที่เดินมาด้วยเป็นใคร ทำไมผมถึงเห็นเธอตั้งสองครั้งที่หน้าโรงพยาบาลเดิม ขอคำตอบคืนนี้นะ”

สิ้นคำสั่งเขาก็หันไปยิ้มให้ลูกค้าต่างชาติ ที่เพิ่งขับรถเข้ามาจอดในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะโทรนัดเอาไว้แล้ว บรรพตแยกไปทำงานใหม่ที่เพิ่งได้รับ ไม่เข้าใจแต่ก็ต้องไปทำตาม ส่วนคณินก็ตรวจตราความเรียบร้อยไปพร้อม ๆ กับลูกค้า กว่าจะเสร็จก็เกือบค่ำ อาหารแบบพื้นเมือง ที่เขาอาสารับรองลูกค้า แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ เพราะลูกค้าเบื่อแล้ว เนื่องด้วยมาอยู่ที่เชียงรายได้เกือบเดือน แต่เขากลับถูกชวนให้ไปร่วมอาหารที่บ้านลูกค้าแทน กว่าจะได้กลับเข้าห้องพักก็เกือบเที่ยงคืน บรรพตรายงานสิ่งที่เขาเฝ้ารออย่างละเอียดแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องตัวเอง

แม้จะรู้สึกง่วงแต่อะไรบางอย่าง ก็มาก่อกวนให้หลับตาไม่ลง ภาพอันเลือนลางของนางรำหุ่นอรชร ที่เคลื่อนกายตามจังหวะดนตรีในร้านอาหารวันแรกที่เขาเห็น ตามด้วยภาพต่อหลายภาพที่ค่อย ๆ แฝงอยู่ในความทรงจำส่วนลึกลอยมาอีกครั้ง จุมพิตแรกที่เขาหยิบยื่นให้ ตามด้วยหลาย ๆ ครั้งในห้องพักส่วนตัว แม้จะไร้ซึ่งความหมายในครั้งนั้น ๆ แต่ทว่าวันนี้ถูกดึงเอามาขบคิด ภาพคนที่นอนหลับขดตัวที่ชุดรับแขกรอเขาเป็นนาน ต่อด้วยท่านั่งหลับเมื่อถูกเขายึดครองมือไปนอนกอดครึ่งค่อนคืน รอยจิกข่วนและกัดจางหายไปแล้ว แต่ภาพแม่เสือสาวที่ต่อสู้ขัดขืน การรุกรานในคืนที่สองจากเขากลับเด่นชัดขึ้นมา

ถึงจะแปลกใจกับการโอนเอนกับสัมผัสในคืนต่อมา จนเรียกรอยยิ้มให้คนที่นั่งครุ่นคิดอยู่ที่ระเบียงได้บ้าง แต่ก็ต้องหุบลงเมื่อใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตากับคำขู่จะปลิดชีวิตตัวเองทิ้ง ถ้าต้องตกเป็นของเขาในคืนนั้น ถึงอยากจะรู้ว่าคนขู่จะเอาจริงสักแค่ไหน แต่จากแววตาและท่าทางที่เขาเห็น ทำให้ไม่กล้าที่จะดึงดันต่อไปจนต้องล่าถอย แต่แม่เสือก็ยังอุตส่าห์ทิ้งคำถามที่ค่อนไปทางตัดพ้อไว้ ทำให้เขารู้สึกผิดมาเกือบเดือนอีกจนได้

“ไม่มีใครจะรังเกียจคนอย่างคุณหรอกค่ะ คุณมีทุกอย่างที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนใฝ่ฝันหา โดยเฉพาะเงิน คนอื่น ๆ อาจจะรีบอ้าแขนรับคุณเพราะสิ่งนี้ แต่สำหรับฉันไม่ได้บูชาเงินมากขนาดนั้น ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็อยากจะมอบร่างกายและหัวใจให้กับผู้ชายที่ฉันรัก และเขาก็ต้องรักฉันต้องการฉันจากจิตใจจริง ๆ ด้วย ไม่ใช่แค่รูปกายเท่านั้น คุณถามตัวเองหรือยังคะว่าใจคุณมองและจัดฉันไว้แบบไหน ใช่ประเภทพวกดอกไม้ริมทางที่คุณเพียงแค่เอาเงินมาฟาดเพื่อจะเด็ดมาเชยชมแล้วก็โยนทิ้งเมื่อยามเบื่อหรือเปล่า

หรือเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่คุณพอใจจะซื้อมาไว้ครอบครองยามอยากได้ แล้วถูกลดระดับลงไปไว้ที่ห้องเก็บของหรือว่าถังขยะเวลาที่คุณคิดว่าหมดประโยชน์ หรือคุณจะเห็นว่าคนอย่างฉัน เพียงแค่ทุ่มเงินค่าจ้างแพง ๆ ให้ไปสอนรำคนงานก็แล่นตามคุณไปทุก ๆ ที่รึไงคะ ฉันจะบอกคุณก็ได้ว่าที่ฉันยอมรับค่าจ้างจากคุณ ก็เพราะฉันชื่นชมกับการที่คุณให้ความสนใจด้านนาฏศิลป์ พี่ฉันยอมให้คุณหาเศษหาเลยก็เพราะคิดว่าคุณก็มีความเป็นสุภาพบุรุษไม่รังแกเพศที่อ่อนแอกว่ามากจนเกิดไป

และที่ฉันยอมมากับคุณและอยู่กับคุณจนถึงวันนี้ ก็เพราะว่าฉันสงสารที่เห็นคุณเจ็บไข้ ต่อมาก็สงสารและสำนึกผิดที่ทำกับคุณจนได้รอยเขียวเต็มตัว แต่วันนี้คุณทำลายทุกอย่างในใจฉันจนหมดสิ้นแล้วด้วยคำพูดที่ดูถูกฉันเป็นที่สุด พร้อมกับการกระทำที่ไร้ซึ่งความเป็นลูกผู้ชาย คุณอยากครอบครองฉันแต่คุณไม่เคยสักนิดที่จะศึกษาฉันอย่างถ่องแท้ ไม่เคยมองที่ใจฉันมากไปกว่าเรือนร่าง คุณกลับไปคิดดูเอาเถอะว่าที่ฉันพูดมาทั้งหมดนี่มันมีส่วนจริงอยู่บ้างมั้ย ถ้าคุณเห็นว่ามันไม่จริง ฉันจะถือว่าเรื่องคืนนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น จะถือว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยพบเห็นกันด้วยซ้ำ”

เขาเป็นจริงอย่างที่เธอพูดหรืออย่างไร ไม่ต้องถามก็พอจะรู้ว่าจริง แล้วที่บอกว่าเขาเป็นชายที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนใฝ่ฝันหาจริง ๆ หรือ เขามีพร้อมทุกอย่างจริง ๆ หรือ ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วทำไมเธอจึงไม่อยู่ในกลุ่มของผู้หญิงพวกนั้นเล่า เธอต้องการอะไรกันแน่ ความรักและหัวใจของเขาอย่างนั้นหรือ

“คุณผู้หญิงคนนี้ดีนะคะคุณณิน ดูห่วงคุณณินม๊ากมาก คืนที่คุณณินไม่สบายนะคะ แกก็ตั้งนาฬิกาปลุกขึ้นมากลางดึก เพื่อมาเช็ดตัวและเอายาให้คุณณินกินค่ะ ไม่ยอมปลุกป้าซักคำ คงจะเกรงใจ แถมพอคุณณินขอให้แกอยู่เป็นเพื่อน ก็ยอมทำตามไม่ยอมเกี่ยงค่ะ นั่งเอามือให้คุณณินกอดได้ครึ่งค่อนคืน ตื่นเช้ามาก็หลับอยู่ท่าเดิมอย่างนั้นล่ะค่ะ อาหารก็ทำอร่อย ยิ้มง่าย พูดเพราะ แถมมีน้ำใจกับครอบครัวป้าอีกค่ะ”

คณินถอนหายใจออกมาดัง ๆ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์ด่วนไปหาบรรพตที่อยู่ห้องข้าง ๆ คำสั่งที่รวดเร็วจนคนฟังแทบจะไม่ทันตั้งตัวจากเจ้านายหนุ่ม

“บรรพต พรุ่งนี้ช่วยหารถดี ๆ ให้ผมสักคัน เสื้อผ้าทำงานกับชุดธรรมดาเพิ่มอีกสี่ห้าชุด ของใช้ทุกอย่างเอาให้ครบ เลื่อนเที่ยวบินของผมไปอย่างน้อยสามถึงสี่วัน ส่วนคุณกลับตามกำหนดเดิมได้ ทุกอย่างต้องพร้อมก่อนคุณกลับ อ้อ! ขอแผนที่ร้านผ้าไหม กับบ้านของประณาลีด้วยนะ” ไม่มีการสั่งซ้ำสองสำหรับคนหัวไวอย่างบรรพต







Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2552 7:53:01 น. 0 comments
Counter : 359 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.