Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
ธารลาวา ๑๑ (ธัญรัตน์)




ตอน ๑๑

“พี่แพทว่านายนเรศจะมีอะไรเซอร์ไพร้ส์เราหรือเปล่าคะ”
รถญี่ปุ่นจอดไว้ที่เดิม แป้งพับถูกหยิบขึ้นมาใช้งานตามปกติ รู้ดีว่าตัวเองดึงดูดเหยื่อได้มากแล้ว แต่เธอก็ยังคงไม่วางใจจนวินาทีสุดท้ายก่อนจะลงจากรถก็ยังไม่วายมองตัวเองในกระจกอีก

“ลีก็เข้าห้องน้ำนานหน่อยแล้วกันนะ เผื่อนายนเรศจะอยากคุยกับพี่เป็นการส่วนตัว ไปได้แล้วแม่คุณ แค่นี้นายนเรศก็จะกระอักเลือดตายอยู่แล้วล่ะ” แพทอดหมั่นไส้ไม่ได้จริง ๆ กับความเป็นคนรอบคอบของอีกฝ่าย เรื่องความสวยงาม
“คุณลี คุณแพท เชิญครับผมเพิ่งจะถึงเหมือนกัน จะได้สั่งอาหารพร้อมกันเลย”
ห้องเดิมที่ทั้งสองคุ้นเคย มีเจ้ามือรออยู่ก่อนแล้ว

“คุณลีอยากทานอะไรครับ วันนี้ต้องทานเยอะ ๆ หน่อยนะครับ คุณลีดูผอมไปมากกว่าเก่าอีก มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ หรือว่าคุณลีจะ....เอ่อ....เรื่องวันนั้น”
“ลีขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ พี่แพทฝากสั่งปลาให้ลีอย่างเดียวก็พอค่ะ ขอตัวนะคะ”
น้ำเสียงอ่อย ๆ กับหน้าที่ดูเศร้าสร้อย มีให้ผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเห็นด้วยความจงใจ มองตามร่างสมส่วนไปจนลับตา แพทแอบยิ้มอยู่ในใจ ที่น้องสาวช่างหาโอกาสเหมาะดีเหลือเกินในการลุกหนีไป ทิ้งปริศนาให้นายนเรศขบคิดอย่างตั้งใจ

“ดูคุณลีไม่ค่อยจะสดชื่นเลยนะครับคุณแพท มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าคุณลีจะโกรธผมตั้งแต่วันงานคุณแม่ครั้งก่อน”
นเรศไม่รอช้าเพราะแพทคือสื่อกลางระหว่างเขาและเธอเสมอมา
“อืม! แพทไม่ทราบค่ะ แต่พักนี้เห็นลีเงียบ ๆ ไปค่ะ ถามก็ไม่บอก ได้แต่บ่น ๆ ว่าอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปแย่งบ้านของใครมาอยู่ประมาณนี้ล่ะค่ะ แพทก็ไม่กล้าถามเห็นเงียบ ๆ แต่เวลาร้อนนี่ แพทยังต้องถอยเลยนะคะ”
ปริศนาข้อที่สองสำหรับคนที่คะนองในความเป็นคนมีเงินอย่างนเรศ

“เหรอครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปเจอกันโดยบังเอิญแบบนั้น ผมฝากขอโทษคุณลีด้วยนะครับ ถ้าเกิดผมไปทำให้คุณลีต้องคิดมากและไม่สบายใจ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี หรือคุณแพทจะให้ผมพายายเจนนี่ไปเรียนที่อื่นด้วยเลยมั้ยครับ ผมเห็นใจคุณลีที่จะต้องพบกับ...เอ่อ....ณิเขาน่ะครับ” เหยื่อเข้าของตัวเองอีกแล้วในความคิดแพท
“ไม่หรอกค่ะคุณเรศ อย่าคิดมากเลยนะคะ ลีแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ค่ะ เราสั่งอาหารเลยนะคะ”

“อืม! จริงสิผมเกือบลืมไปเลย ผมไปดูบ้านที่คุณลีชอบมาแล้วครับ สวยดี ผมขอพูดตรง ๆ เลยนะคุณแพท เดี๋ยวคุณลีกลับออกมาจะเสียเรื่องก่อน คือผมอยากจะซื้อบ้านแบบที่คุณลีชอบให้ครับ แต่ผมกลัวคุณลีจะไม่รับ ก็อย่างที่คุณแพทบอกว่าคุณลีจะไม่ชอบให้ใครไปยุ่งเรื่องส่วนตัว แต่ยังไงผมก็อยากจะให้อะไรกับคุณลีบ้าง ชดเชยในสิ่งที่ผมทำร้ายจิตใจคุณลีไงครับ”
จุดประสงค์สำคัญของการนัดหมายได้ถูกถ่ายทอดให้แพทรู้

“แพทว่าคงจะซื้อให้ไม่ได้หรอกค่ะคุณเรศ ยายลีคงไม่ยอมรับแน่ ๆ เลย แต่แพทก็กราบขอบคุณแทนน้องนะคะ ที่คุณเรศกรุณาลีขนาดนี้ ขอโทษด้วยนะคะคุณเรศ แพทมองไม่เห็นทางที่จะทำให้ลียอมรับข้อเสนอนี้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”
แพทยิ้มบาง ๆ ให้พร้อมมือถูกยกไว้ไหว้อย่างอ่อนน้อม

“มีสิครับคุณแพท เอาอย่างนี้นะ ผมจะให้คุณแพทช่วยผมหน่อย คือทำยังไงก็ได้ช่วยหลอกให้คุณลีเซ็นเอกสารมอบอำนาจการรับโอนกรรมสิทธิ์บ้านมาฉบับหนึ่ง แค่นั้นล่ะครับที่เหลือทนายผมจะจัดการให้ทั้งหมด ถ้าคุณแพทรับปากผมจะให้ทนายร่างจดหมายและส่งไปให้ทางอีเมล” สิ่งที่ทนายแนะนำมาเขาไม่รั้งรอที่จะบอกแพทไป

“อืม! แพทไม่กล้าหรอกค่ะคุณเรศ ถ้ายายลีจับได้นะคะ ได้โกรธกันตายไปข้างหนึ่งเลยค่ะ”
มันไม่สมเหตุสมผล หากจะตอบตกลงไปในทันที ในความคิดของแพท
“คุณแพทเอากลับไปคิดก่อนก็ได้ครับ ตกลงใจยังไงก็บอกผม แต่อยากจะให้รู้ไว้ว่าผมอยากจะให้อะไรกับคุณลีบ้าง ผมให้โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนนะครับคุณแพท ผมจะรอวันที่คุณลีพร้อมไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม”
แพทแทบอยากจะสำรอกออกมาตรงนั้น กับน้ำคำผู้ชายที่เห็นอิสตรี เป็นเครื่องระบายความใคร่

“งั้นแพทจะเอากลับไปคิดค่ะ ยายลีออกมาแล้วนะคะ”
แพทรีบตัดบทสนทนา เมื่อคนที่มองหากำลังเดินออกมาช่วยไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นอาหารเที่ยงคงจะกร่อยไปเลย ในความคิดของแพท
“ทานเยอะ ๆ นะครับคุณลี”
อาหารจานต่าง ๆ ถูกตักไปใส่จาน ให้ผู้ที่เขาเข้าใจว่ากำลังเจ็บ เพราะตัวเขาและคนรอบข้าง

“ขอบคุณค่ะ”
คำพูดที่ประณาลีตั้งใจจะประหยัดให้มากที่สุด สำหรับการพบกันเที่ยงนี้ถูกปล่อยออกไป ก่อนจะตักอาหารเข้าปากอย่างเชื่องช้า พร้อมกับสีหน้าที่จงใจทำให้คนนั่งตรงข้าม เห็นว่าหม่นหมองลงไป ยังผลให้เขารู้สึกเห็นใจหญิงสาวสวยอย่างที่สุด แรก ๆ นเรศแค่อยากจะเชยชมสาวสวยตรงหน้าแค่นั้น แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่เล่นด้วย เขาก็ไม่บังคับ

เลยเปลี่ยนแผนมาใช้ไม้อ่อนแทน แต่ความผูกพันธ์ที่เขาเริ่มมีให้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่แน่ใจว่ามันจะกลายมาเป็นความรักครั้งที่สองหรือไม่ ผู้หญิงตรงหน้าไม่เหมือนหลาย ๆ คนที่คอยแต่จะหิวเงิน ที่เขาจะหาซื้อมาเชยชมได้ง่าย ๆ แม้จะคิดหนักเรื่องบ้าน เพราะเป็นเงินไม่น้อย แต่สำหรับคนมีเงินเหลือใช้อย่างเขา แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ถึงกับร่วง แต่ก็จัดได้ว่าเขาไม่เคยคิดจะทุ่มให้ใครมากเท่าเธอเลย

“เป็นไงลี เซอร์ไพร้ส์มากพอมั้ย” เรื่องราวต่าง ๆ ถูกส่งต่อให้คนขับได้รับรู้
“ไม่ค่ะพี่แพท ลีคิดเอาไว้แล้ว ว่านายนเรศจะต้องทำแบบนี้ พี่แพทรอสักพักนะคะ อย่าเพิ่งตอบรับเร็วนัก พอตอบรับแล้วพี่แพทก็ต้องให้รออีกหน่อย บอกว่าหาทางหลอกลีไม่ได้ ให้นายนั่นรอไปอย่างนั้นค่อยเอาเอกสารมาให้ลีเซ็น”

แผนขั้นต่อไปถูกถ่ายทอดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วอย่างสะใจ แม้จะจัดการคณินไม่ได้โจ้ง ๆ แต่ทั้งสองก็มีนเรศเข้ามาให้จัดการคลายเหงาได้เรื่อย ๆ หนทางที่จำทำให้แผนสำเร็จได้ ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับความคิดของสองพี่น้องต่างสายเลือด แพทส่งความปลื้มปิติเกี่ยวกับแผนการที่คืบหน้าไปได้ดีไปยังปวีร์ให้รับรู้ ประณาลีจะไม่เอามือถือหรือโทรศัพท์ที่คอนโดฯ กดออกไปหาน้องชายเอง หากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน หรือถ้าจำเป็นต้องทำเธอก็จะใช้ซิมอื่น เพื่อไม่ให้ใครที่คิดเอะใจตามกลิ่นได้

รถหรูคันที่คณินใช้เป็นประจำมาจอดอยู่หน้าโรงเรียน ก่อนห้าโมงถึงยี่สิบนาที แพทกับนกออกมาส่งครูสาวก่อนจะพากันกลับบ้าน ในช่วงปิดเทอมแบบนี้ทั้งหมดจะได้เลิกงานเร็ว เพราะคลาสต่าง ๆ ถูกดึงขึ้นไปไว้ช่วงกลางวันแทน นทีทำหน้าที่เปิดประตูให้ผู้หญิง ที่เขาเห็นว่าสวยมาก ๆ คนหนึ่ง ข้อข้องใจว่าทำไมเขาจะต้องมารับครูสาว ถูกขจัดออกจากใจทันที เมื่อความงาม สง่าดังนางพญาพาร่างผอมบางไปนั่งในส่วนหลังของรถ

นทีนำเธอตรงไปหาแหม่มที่ห้องเรียนทันที ประณาลีเดินสำรวจห้อง ก่อนนะหันมายิ้มให้แหม่มด้วยความพอใจ แม้จะไม่ใหญ่โตเท่าห้องของเธอ แต่อุปกรณ์ในการเตรียมการเรียนการสอนถูกจัดไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นกระจกบานใหญ่ที่ถูกนำมาติดกับผนังเอาไว้ พื้นห้องที่ถูกทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่อง เครื่องเสียงสำหรับไว้เปิดเพลงเมื่อเวลาสอนรำ น้ำเย็น น้ำผลไม้ ชา กาแฟ พร้อมขนมถูกจัดไว้เกินคำเรียกร้องของครูสาวอีก

“ห้องอาบน้ำจะอยู่อีกชั้นนะคะครูลี เสร็จแล้วพี่จะพาไป ไม่ทราบว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือเปล่าคะ พี่จะได้จัดหาให้ สาว ๆ เปลี่ยนผ้าที่ครูลีเตรียมให้แล้วนะคะ ถ้าจะเริ่มสอนเลยพี่ก็จะไปตามให้”
แหม่มให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ตามคำสั่งเจ้านายหนุ่ม ที่ตอนนี้ออกไปข้างนอกกับบรรพต

“คงไม่มีอะไรขาดแล้วล่ะค่ะ ออกจะเกินด้วยซ้ำ เอ่อ! พี่แหม่มเรียกลีเฉย ๆ ก็ได้นะคะ อย่าเรียกครูเลยค่ะ ขอสงวนเอาไว้ให้นักเรียนเรียกก็แล้วกัน ถ้าทุกคนพร้อมก็ให้เข้ามาในห้องได้เลยนะคะ” ร่างในโจงกระเบน เดินสำรวจดูห้องจนพอใจแล้ว

“งั้นพี่ฝากให้คุณลีเซ็นเอกสารรับเช็คให้พี่ด้วยนะคะ และนี่ก็สัญญาว่าจ้างค่ะ ไม่มีอะไรมากค่ะ พี่แค่เอาไว้แนบไปส่งให้ฝ่ายบัญชีเท่านั้น” ความไม่มีอะไรตามคำของแหม่ม ทำให้ประณาลีจรดปลายปากกาอย่างว่าง่าย ก่อนจะรับเช็คมูลค่า ๑,๘๐๐,๐๐๐.๐๐ บาทไปเก็บไว้ในกระเป๋า ‘คนมีเงินนี่ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ เลยนะ เงินเกือบสองล้านบาทก็ดันเอามาจ่ายให้ค่าสอนรำ’ เสียงที่ตำหนิเจ้าของเงินมีอยู่ในใจ แต่ก็ถูกปกปิดเอาไว้ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ส่งให้แหม่มแทน

“เมื่อเราทำความรู้จักกันครบแล้ว ก็มาดูกันนะคะว่าจะเรียนอะไรบ้าง เราจะเรียนรำทั้งหมด สามเพลงค่ะ จะมี รำเชิญพระขวัญ ซึ่งเป็นการแสดงชุดหนึ่งที่ประกอบในละครเรื่อง "น่านเจ้า" ค่ะ ประพันธ์โดย ฯพณฯ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ส่วนใหญ่เราจะใช้เป็นการแสดงเบิกโรง หรือรำอวยพรทั่วไปค่ะ อาทิตย์แรกเราจะเรียนรำชุดนี้ก่อนนะคะ

ส่วนอาทิตย์ที่สองเราจะเรียนระบำเชียงแสน เป็นระบำโบราณคดีที่สร้างขึ้นตามแบบศิลปะและโบราณสถาน สมัยเชียงแสนค่ะ และได้แพร่หลายไปทั่วดินแดนภาคเหนือของไทย ซึ่งในสมัยโบราณเรียกว่า “อาณาจักรล้านนา” ท่ารำทั้งหมดมี ๑๓ ท่านะคะ จะยากขึ้นมากว่าอาทิตย์แรกหน่อย

ส่วนอาทิตย์ที่สาม เราจะเรียนรำชุดนารีศรีอีสาน เป็นการแสดงที่คิดขึ้นจากนักศึกษาวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ ซึ่งจะรวมเอาลีลาท่ารำของนาฏศิลป์อีสานชุดต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน จะมีท่ารำทั้งหมด ๑๕ ท่าค่ะ และอาทิตย์สุดท้ายเราจะทบทนท่ารำทั้งหมดที่เรียนมา มีใครสงสัยอะไรหรือเปล่าคะ...ถ้าไม่มีเรามาเริ่มกันเลยนะคะ เราจะเรียนท่ารำก่อนนะคะ ลีจะไปช้า ๆ ใครไม่ทันให้บอกได้ค่ะ ไม่ต้องรีบเรามีเวลาอีกเยอะค่ะ”

ครูสาวเริ่มงานทันที เมื่อนักเรียนพร้อม แหม่มยืนมองผ่านกระจกใส ๆ เข้าไปจับจ้องอยู่ที่เจ้าของหน้าสวย ๆ หุ่นบาง ๆ ถ่ายทอดความรู้ให้พนักงาน ที่อุตส่าห์ไปคัดสรรมาจากทุกแผนกทั้งหมด จนได้สิบคนพอดิบพอดี อาการโล่งอกมีให้เห็น เมื่อคำสั่งเจ้านายในคืนก่อนว่าให้เตรียมห้องเรียนให้เสร็จภายในวันเดียว ห้องรับแขกที่มีกระจกครึ่งกับผาผนังครึ่ง ถูกแหม่มเนรมิตให้เป็นห้องเรียนทันที อุปกรณ์ในห้องถูกสั่งการให้มาติดตั้งอย่างรวดเร็ว จนเสร็จก่อนครูสาวจะทันได้มาถึงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น เจ้านายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเลขาฯ สาว กับผู้ช่วยมือขวาจัดการได้ตามคำสั่ง ก่อนจะออกไปหาลูกค้าเมื่อบ่าย ๆ แล้ว แม้จะอยากกลับเข้ามาในออกฟฟิศอีกครั้งแค่ไหน แต่เขาก็จะไม่กลับเข้ามา เพื่อให้อีกฝ่ายได้โล่งใจ

การเรียนสิ้นสุดลงในเวลาทุ่มครึ่ง ตามคำสั่งของแหม่ม เพราะต้องการให้ทั้งครูและนักเรียนได้เตรียมตัวกลับบ้าน แม้ประณาลีจะไม่เข้าใจว่าจะให้เลิกก่อนเวลาทำไม แต่เธอก็ไม่คิดจะถาม ได้แต่เดินตามแหม่มขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องชั้นบน ตามคำบอกเล่าของแหม่ม รหัสเปิดประตูแหม่มกดอย่างคล่องแคล่ว ประณาลีเดินตามหลังไปอย่างช้า ๆ พร้อมทั้งสำรวจข้าวของเครื่องใช้ในห้องอย่างฉับไว ไม่บอกก็พอจะรู้ว่าเป็นห้องที่คณินใช้เป็นที่พักผ่อนแน่ แต่เธอไม่คิดจะถามเลย

“ห้องน้ำด้านนี้ค่ะ พี่จะนั่งรอคุณลีอยู่ชุดรับแขกนะคะ เชิญตามสบายค่ะ เสร็จแล้วพี่จะพาไปกินข้าว แล้วก็จะส่งให้ถึงหน้าโรงเรียนตามคำสั่งคุณคณินค่ะ”

แหม่มที่แรก ๆ ก็ไม่ใคร่จะพอใจนัก ที่สาวสวยตรงหน้าทำให้เดือดร้อน ต้องวางแผนกันชุลมุนกับบรรพต แต่เมื่อเห็นกิริยาท่าทางที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ ของเธอแล้ว ก็คลายความขุ่นเคืองลงไปได้ไม่น้อย บวกกับความคิดที่ว่า สาวน้อยคนนี้คงจะไม่ธรรมดานักสำหรับเจ้านายหนุ่ม ไม่อย่างนั้นคงไม่ลุงทุนจ่ายค่าสอนที่แพงที่สุด เท่าที่แหม่มเคยได้เห็นมาเป็นแน่ ไหนจะอนุญาตให้ขึ้นมาใช้ห้องน้ำส่วนตัวได้อย่างง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่เจ้านายไม่เคยอนุญาตให้ผู้หญิงคนไหน เข้ามายุ่มย่ามเลยนอกจากแม่บ้าน

ประตูห้องน้ำเปิดออกมาภายในสิบนาทีแค่นั้น กลิ่นสบู่อ่อน ๆ โชยมากระทบจมูกผู้ที่นั่งรอ ก่อนที่ชุดผ้าซิ่นกับเสื้อกล้ามจะเผยโฉมออกมา แหม่มถึงกับมองผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างเพลินตา ไม่น่าเชื่อว่าผ้าซิ่นที่แทบจะไม่มีใครคิดเอามาเป็นเครื่องแต่งตัวในวันธรรมดา ๆ จะทำให้เธอดูดีได้ถึงเพียงนี้

“ลีเสร็จแล้วค่ะพี่แหม่ม จะไปกันเลยหรือเปล่าคะ”
แหม่มรีบลุกขึ้นทันที เมื่อเสียงเรียกทำให้ต้องรีบเรียกสติที่ล่องลอยให้กลับมา แม้ประณาลีจะปฏิเสธไม่รับให้เลี้ยงอาหารเย็นแค่ไหน แต่แหม่มไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ เพราะเกรงกลัวเจ้านายหนุ่มจะเล่นงานโทษ ฐานละเลยคำสั่ง จนครูสาวต้องยอมทำตาม แต่ก็ขอเลือกร้านข้างทางง่าย ๆ ก่อนที่แหม่มจะไปส่งเธอที่หน้าโรงเรียน เพราะรถจอดอยู่ตรงนั้น

ร่างกำยำในสูทราคาเรือนแสน จับจ้องไปยังรถ ที่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดอย่างช้า ๆ นทีทำหน้าที่คนขับรถที่ดี ตามเขาสั่งไว้ไม่มีขาดตกบกพร่อง โจงกระเบนสีน้ำเงินกับเสื้อยืดแบบรัดตัวสีขาว ทำให้เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาที่สอนรำจะต้องใส่แบบนี้ด้วย แต่คิด ๆ อีกทีมันก็หาเสื้อผ้าที่จะเหมาะกับท่ารำไม่ได้เลย จะให้ใส่กางเกงก็คงดูจะไม่เข้า ครั้นจะเป็นกระโปรงก็ดูจะไม่คล่องสักเท่าไหร่นัก ความคิดต่าง ๆ หยุดลง เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“น้ำองุ่นเย็น ๆ ค่ะคุณณิน ของคุณบรรพตด้วยค่ะ” แหม่มลงทุนยกมาให้เองกับมือ เมื่อมีบรรพตเปิดประตูห้องให้
“ขอบคุณครับ ว่าไงบรรพตว่าที่ลูกค้าเราไปถึงไหนแล้ว” เขาไม่ยอมปล่อยมือจากลูกค้ารายนี้แน่ ๆ
“เรียบร้อยดีครับ เห็นคนของเราบอกว่าพวกนั้น บ่นว่าไม่ประทับใจคู่แข่งเราเท่าไหร่ ในความไม่ค่อยจะรู้ลึกเรื่องงานแบบเรา ก็นับว่าเป็นลางดีนะครับ” บรรพตยิ้มน้อย ๆ กึ่งย่ามใจ

“คุณลืมบอกไปหรือเปล่า ว่าพวกเขาบ่นว่าไม่มีใครรู้ลึกเท่าผม หรือจะพูดให้ถูกก็คือ นายปรเมศ ยังอ่อนกว่าผมอยู่มาก”
เขาเสริมคำพูดอีกฝ่ายให้ถูกต้อง จนบรรพตถึงกับยิ้มกว้างออกมา รู้ทั้งรู้ว่าเจ้านายหนุ่มอยากจะเช็คความพร้อมของเขาแค่นั้น ก็ยังไม่วายเปิดช่อง ให้เจ้านายเล่นงานจนได้ แหม่มถึงกับหัวเราะออกมา ที่นาน ๆ ทีจะเห็นบรรพตพลาดสักครั้ง
“แล้วเราจะจัดการยังไงดีครับคุณณิน อีกหน่อยพวกนั้นก็จะกลับแล้วนะครับ” บรรพตกังวลในเรื่องนี้

“รอสักพักก่อนขอคิดนิดหนึ่ง พรุ่งนี้ผมจะไประยองด้วยนะ จะออกแต่เช้าใช่มั้ย นัดไม่สำคัญให้เลื่อนก่อนนะแหม่ม ถ้าจำเป็นก็เอาไว้ช่วงบ่าย แต่ห้ามดึกผมมีธุระสำคัญ”
เขาไม่เคยพลาดที่จะออกตรวจตรางาน ถ้ามีเวลาว่าง และก็คิดว่าใครบางคนที่ยั่วยุเขา พร้อมกับหอบเขาไปค้างที่คอนโดฯ คราวที่แล้วก็คงจะไม่พลาดเช่นกันกับเขา

“ค่ะคุณณิน แล้วคุณณินไม่ไปดูคุณลีสอนรำหน่อยเหรอคะ” แหม่มอดสงสัยไม่ได้ ก็เห็นเจ้านายออกจะทุ่มซะขนาดนั้น แต่ครูมาสอนได้ตั้งสามวันแล้ว ยังไม่ยอมโผล่หน้าไปดูเลยสักนิด

“ผมไม่ว่าง ขอบคุณมากสำหรับน้ำ ไม่มีอะไรแล้วผมขอเคลียร์งานหน่อยแล้วก็จะไป เอ้อ! แหม่มช่วยบอกให้ครูสอนรำเลิกทุ่มหนึ่งนะ แล้วก็พาไปอาบน้ำได้เลย” เขามักจะไม่ยอมให้ลูกน้องล้ำเส้นมากนัก จึงต้องรีบตัดบทด้วยวิธีนี้ ทำเอาแหม่มถึงกับร้อนวูบไปทั้งตัว ได้แต่เดินตามบรรพตออกไปอย่างเงียบ ๆ

“ทีหลังอย่าเล่นของสูง มันจะตกลงมาเจ็บ” บรรพตอดซ้ำเติมเลขาฯ ที่ได้ชื่อว่ารู้ใจนายที่สุด แต่ก็ต้องมีพลาดเหมือนกัน
“ไม่น่าเลยจริง ๆ แหม่มนี่หาเรื่องแท้ ๆ”
ทั้งสองหันมายิ้มให้กันอย่างขบขันในที่สุด ก่อนพากันเดินไปที่ห้องสอนรำ บรรพตที่เคยแต่ได้ยินชื่อครูลีมาสักพัก แต่ไม่เคยเห็นหน้าสักครั้ง เมื่อมีโอกาสได้มายืนดูอยู่นอกห้องแบบนี้ เขาถึงกับพูดไม่ออก จนแหม่มต้องลอบยิ้มให้อย่างขัน ๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างช้า ๆ

“ดีมากค่ะ ขออีกรอบนะคะ เริ่มท่าออกได้เลยค่ะ เท้าซ้ายออกมานะคะ มือซ้ายถือแว่นเทียน มือขวาจีบคว่ำระดับอกค่ะ เอียงซ้าย เท้าขวาก้าวออกมา มือขวาปล่อยจีบเป็นวงแบหงาย เอียงขวาค่ะ ค่อย ๆ นั่งคุกเข่า มือขวายังจีบคว่ำ และ ปล่อยจีบค่ะ เพลงมาแล้วนะคะ
ขวัญเจ้าเอย ขวัญเอย มือทั้งสองถือแว่นเทียน แล้วยกขึ้นระดับหน้าผากค่ะ
มาสู่องค์เอย มือขวาผายออก เอียงซ้ายค่ะ
ขอเชิญพระขวัญ มือซ้ายยกแว่นเทียนขึ้นทางซ้าย มือขวาแบหงายระดับเดียวกัน เอียงขวาค่ะ ต่อไปเลยนะคะ ไม่ต้องรอให้ลีคอยบอกค่ะ นั่นค่ะอย่างนั้น ดีมากค่ะ” ปากก็เจื้อยแจ้ว ส่วนตัวก็เดินมาหาแหม่มกับบรรพต

“วันนี้คุณลีเลิกตอนทุ่มหนึ่งนะคะ พอดีแหม่มต้องไปทำธุระค่ะ”
แหม่มต้องหาเรื่องโกหก เมื่อประณาลีเดินมาหา เพราะเดาได้ว่าคงมีอะไรจะคุยด้วย ไม่มีความแปลกใจกับเธออีกแล้ว เพราะตั้งแต่สอนมาสามวัน เธอไม่เคยได้ทำหน้าที่เต็มเวลาเลยสักวัน แม้จะขัดใจอยู่บ้าง ด้วยกลัวว่านักเรียนจะถูกริดรอนเวลาเรียนไป แต่คิดอีกที ก็ในเมื่อเจ้าของเงินยังไม่สนใจ ครูอย่างเธอจะไปกังวลทำไมกัน

“ค่ะ งั้นลีขอตัวนะคะ เอ้า เดินวนทางซ้าย รอบตัวเองเลยค่ะ เท้าซ้ายก้าว มือซ้ายถือแว่นเทียนไว้นะคะ มือขวาจีบคว่ำระดับอก เอียงซ้าย ก้าวเท้าขวา มือขวาปล่อยจีบเป็นวงแบหงาย เอียงขวา ค่ะดีมากค่ะ” ความสนใจทั้งหมดถูกดึงไปหานักเรียนโดยสัญชาตญาณของความเป็นครู ที่ไม่ได้สนใจอะไร แม้บรรพตกับแหม่มจะยังยืนดูอยู่อย่างนั้น เป็นนานสองนานกว่าจะออกไปจากห้อง

“รอลีสักครูนะคะพี่แหม่ม” เจ้าของโจงกระเบนรีบหอบข้าวของเพื่อไปอาบน้ำ เพราะรู้ว่าแหม่มต้องไปทำธุระต่อ
“ไม่ต้องรีบมากก็ได้ค่ะคุณลี พี่มีนัดตั้งสองทุ่มครึ่งค่ะ”

รู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ แต่ก็ไม่กล้าบอกความจริงออกไป ได้แต่มองร่างบาง ๆ ที่หายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงสิบนาทีชุดผ้าซิ่นกับเสื้อกล้ามก็เดินออกมาแล้ว ห้องว่างเปล่า พร้อมกับความเงียบเข้ามาปกคลุมมากยิ่งกว่าเดิม แม้ที่ผ่านมาสองคืนจะไร้ซึ่งเงาของเจ้าของสถานที่ แต่เธอไม่ลืมว่านี่คือห้องพักส่วนตัวของคณิน

โอกาสที่เขาจะเข้ามาในห้องนี้ มีล้านเปอร์เซ็นต์ มือเรียวคลำไปที่กระเป๋าสะพาย ความอุ่นใจค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา เมื่อในกระเป๋าเต็มไปด้วยเครื่องป้องกันตัว ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์พริกไท ที่ช็อตไฟฟ้า หรือแม้แต่มีดพกด้ามเล็ก ๆ เธอก็แอบซ่อนเอาไว้ เพราะไม่เคยไว้ใจศัตรูแม้แต่วินาทีเดียว

“แหม่มกลับไปแล้วพอดีต้องรีบไปทำธุระให้ทัน”
ร่างสูงกับเสื้อเชิ้ตพับแขนแบบลวก ๆ ขึ้นไปถึงศอกทั้งสองข้าง เดินออกมาจากระเบียงหน้าห้อง อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แม้ความตกใจจะมีมากแค่ไหน แต่ประณาลีก็พยายามควบคุมสติอารมณ์ตัวเองเอาไว้ ให้อยู่กับตัวได้เป็นอย่างดี

“เหรอคะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
ถึงความที่อยากอยู่ต่อเพื่อสังเกตุอะไรหลาย ๆ อย่างในห้องจะมีมาก แต่เมื่อเธอไม่สามารถควบคุมสถานะการเอาไว้ได้ ก็ควรจะรีบออกจากที่นี่ไปโดยเร็ว ประตูดูเหมือนจะตั้งรหัสเปิดปิดเอาไว้ เธอจึงหันมาหาเขา

“ช่วยกรุณาเปิดประตูให้ฉันด้วยค่ะ”
“ตอนนี้เพิ่งจะทุ่มยี่สิบ ยังไม่หมดเวลาทำงานของคุณ ผมคงจะเปิดให้ไม่ได้หรอก ขอผมไปอาบน้ำก่อนนะ เหนื่อยมาทั้งวันเหมือนกัน แล้วเราค่อยคุยกัน”

ไม่ทันที่ร่างที่เกาะประตูอยู่จะได้เอ่ยอะไรออกไปอีก เจ้าของห้องก็คว้าผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว แม้จะไม่ชอบใจที่ถูกกักเอาไว้มากแค่ไหน แต่ประณาลีก็อดยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ออกมาไม่ได้ ไม่มีใครอยู่ในห้องตอนนี้นอกจากเธอ ไวเท่าความคิด โต๊ะทำงานของเขา ถูกหญิงสาวเดินมาสำรวจทันที ไม่มีอะไรนอกจากแบบงานก่อสร้างกองรวม ๆ กันอยู่ ลิ้นชักทุกชั้น ถูกล็อคเอาไว้หมด เซฟสามตู้เรียงกันอยู่ที่ชั้น แต่คงจะหมดโอกาสเปิดในความรู้สึกของเธอ

ร่างบางต้องรีบวิ่งไปนั่งที่ชุดรับแขกทันที เมื่อเสียงน้ำในห้องน้ำเงียบลง นิตยสารตรงหน้าคว้าขึ้นมาเปิดไว้โดยเร็ว หน้าที่ขาวเนียนเปลี่ยนเป็นระเรื่อ เมื่อเจ้าของห้องออกมา มีแต่ผ้าขนหนูผืนเดียวปิดท่อนร่างเอาไว้ ครูสาวต้องรีบย้ายตัวเองออกไปนั่งเก้าอี้ที่ระเบียงห้องแทน ‘ฉันจะต้องมาทนพวกที่ชอบโชว์อย่างนายไปนานแค่ไหนนะ’ ในใจด่าส่งอยู่อย่างนั้น

หน้าคมที่ทำเหมือนไม่สนใจผู้อยู่ร่วมห้อง ถึงกับลอบยิ้ม เมื่อเห็นอีกฝ่ายระเห็ดออกไประเบียง ไม่รู้เป็นเพราะอะไรสิน่า ที่ทำให้เขาอยากจะเอาชนะแม่เสือยิ้มยากคนนี้นัก อาจจะเป็นเพราะฝ่ามือน้อย ๆ ที่ประทับไปที่แก้มเขาก็เป็นได้ ให้มันรู้ไปว่าได้อยู่ใกล้ ๆ กันทุกวัน ๆ แล้วจะทนเสน่ห์ของเขาได้ เวลาเดือนหนึ่งเขามั่นใจว่าแม่เสือยิ้มยากคนนี้ จะต้องพลีกายให้เขาได้พิสูจน์ ว่าคุณเธอยังโสด และสดอยู่อย่างที่เขาสงสัยอยู่หรือไม่

“ผมเสร็จแล้ว เราจะไปกินข้าวกันได้หรือยัง” คำถามหน้าตาย ทำให้ประณาลีรู้สึกไม่ชอบใจนัก เมื่อเขาเดินมาที่ระเบียง
“ฉันจะกลับบ้านค่ะ ไม่ได้จะไปกินข้าว” น้ำเสียงที่เรียบเหมือน ไม่เกรงกลัวกับชายตรงหน้า
“งั้นคุณก็คงจะต้องอยู่ในนี้กับผมทั้งคืนแล้วล่ะ ถ้าไม่ไปกินข้าวกับผม”
สีหน้าของคนมีชัยทำให้ประณาลีต้องขบคิด แต่คิดยังไงก็คิดไม่ทันเขา

“หมายความว่ายังไงคะ”
แม้จะรู้ว่าเขามีลูกเล่นที่เธอเองก็เดาทางไม่ถูก แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ยอมเล่นกับเขาสักหน่อยจะเป็นไรไป
“ก็ในสัญญาว่าจ้าง ระบุว่าคุณจะต้องกินข้าวเย็นกับผมทุกคืน” สายตาของคนมีชัยมองไปยังหน้านวลเนียน
“ฉันไม่เคยสัญญาอะไรแบบนั้นไว้ หรือถ้ามี ฉันก็ขอยกเลิกสัญญา เพราะฉันมาสอนรำ ไม่ได้จะต้องมาคอยกินข้าวกับใคร”

“ถ้าคุณจะยกเลิก คุณก็ต้องเอาเงินสามล้านหกมาคืนผมด้วย เพราะคุณทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับผม นี่ไงคุณเซ็นชื่อไว้แล้ว ว่าจะสอนรำไทยให้ลูกน้องผม และจะไปกินข้าวกับผมก่อนกลับบ้านทุกคืน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณปฏิเสธ โดยที่ผมไม่ยินยอม คุณตกลงไว้ว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ผมอีกเท่าตัว”

เขาเดินไปหยิบเอากระดาษในเทรบนโต๊ะ แล้วชูขึ้นอย่างผู้มีชัย ก่อนจะส่งให้ผู้ที่ทำหน้างวยงงตรงหน้า โกรธตัวเองเป็นที่สุด ที่ไม่ยอมอ่านเอกสารให้ถี่ถ้วน ก่อนจะเซ็นอะไรลงไปเมื่ออ่านสัญญาแล้ว แต่ก็ยังคงปั้นหน้าเรียบเฉยอยู่แบบนั้น ดีเหมือนกันที่ออกมาในรูปนี้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาวิธีเข้าใกล้ศัตรู จู่ ๆ ศัตรูก็ดิ้นรนให้เชือดเอง แถมด้วยค่าจ้างงาม ๆ อีกต่างหาก

“อ้าว! แล้วคุณจะไปไหน” อีกฝ่ายให้สงสัยที่เจ้าของไหล่ระหง เดินเนิบ ๆ เข้าไปในห้อง
“คุณหิวไม่ใช่เหรอคะ เราจะไปกันหรือยัง ฉันอยากจะกลับบ้านเต็มทีแล้ว”

ยิ้มอย่างผู้ชนะเผยออกมาอีกครั้ง ก่อนที่ร่างสูงจะคว้าเอาข้าวของ เดินนำเธอออกจากห้องไป เรียวปากบาง ๆ เผยอมุมปากออกมาอย่างผู้ชนะยิ่งกว่า ไม่อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองนักในเวลานี้ แต่ก็พอจะสรุปได้ว่า เหยื่อเริ่มจะสนใจเธอขึ้นมาแล้ว แต่จะสนใจด้วยเหตุผลอะไรนี่ เอาไว้คอยดูกันต่อไป

“คุณจะกินร้านไหน ผมให้คุณเลือก” เจ้าของรถสปอร์ตราคายี่สิบกว่าล้านหันมาหา และเหมือนจะรอคำตอบ
“ร้านนั้นค่ะ”
งวยงงเป็นที่สุด เมื่อคนข้าง ๆ ชี้ไปยังสถานที่ที่ไม่ไกลนัก แต่เขาก็ยอมทำตาม โดยการเลี้ยวรถไปจากถนนใหญ่ แค่ไม่กี่สิบเมตร ก่อนจะจอดรถหรูไว้หน้ารถเข็นที่เขียนตัวเบ่อเร่อว่า ‘ข้าวต้มโต้รุ่ง’

“คุณอย่าบอกนะว่าจะกินข้าวที่นี่”
ขาไม่ยอมก้าวลงจากรถ เพราะความไม่เคย ได้ลงมากินข้าวต้มข้างทางแบบนี้สักครั้งเลย ยิ้มที่ออกจะเย้ยหยันกับ ‘พวกคนมีเงิน’ ที่ไม่เคยมองเห็นความสำคัญ ของคนข้างถนน ปรากฏบนใบหน้าอีกคน แรกทีเดียวเธอคิดว่าจะแกล้งกินอะไรที่มันแพง ๆ ไปร้านหรู ๆ จะได้ผลานเงินให้เข็ด แต่คิด ๆ อีกที วิธีนี้ดูจะดีสำหรับเธอมากกว่า ไม่ต้องเสียเวลาหา แถมรวดเร็วอีกต่างหาก จะได้รีบ ๆ กลับบ้านซักที

“ใช่ค่ะ คุณให้ฉันเลือก ฉันก็เลือกร้านนี้ เร็วหน่อยนะคะฉันหิวจะแย่แล้ว”
น้ำเสียงราบเรียบเอ่ย แกมความไม่สนใจที่จะรอ เท้าขาว ๆ ก็ก้าวเนิบ ๆ ไปนั่งกับโต๊ะ ที่ตั้งเรียงเอาไว้ตามแนวบาทวิถี จนเศรษฐีหนุ่มจำต้องตามไปอย่างเสียไม่ได้

“ผัดผักบุ้งไฟแดง ยำปลาข้าวสาร ต้มยำรวมมิตร แล้วคุณล่ะคะ”
ทั้งเจ้าของร้านทั้งคนที่เพิ่งสั่งของตัวเองเสร็จ ต่างรอคำตอบจากอีกคน ที่มองสำรวจรอบ ๆ บริเวณที่แม่เสือยิ้มยากเรียกว่าร้านอาหาร
“เอ่อ! ผมกินอะไรก็ได้ตามใจคุณ”
ไม่ใช่เพราะเป็นคนง่าย ๆ แต่เป็นเพราะไม่รู้ ว่าจะสั่งอะไรดีต่างหาก จึงตัดสินใจยกหน้าที่ให้ผู้รู้ไปซะอย่างนั้น

“งั้นเอาปลาอินทรีย์แดดเดียวทอดอีกที่ค่ะ ข้าวต้มสอง ข้าวสวยสอง ขอน้ำเปล่าค่ะ”
รายการอาหารถูกสั่งอย่างคล่องแคล่ว คณินให้แปลกใจนัก เพราะเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที อาหารเกือบทุกรายการ ก็ลำเลียงมาไว้ตรงหน้าแล้ว ถึงจะไม่เคยกินของข้างทางแบบนี้มาก่อน แต่กลิ่นหอม ๆ ของอาหารก็โชยมาเตะจมูกโด่ง เรียกน้ำย่อยในกระเพาะได้เป็นอย่างดี

“เชิญค่ะ คุณจะเอาข้าวต้มหรือข้าวสวยคะ”
มือเรียวเลื่อนถ้วยข้าวต้มไปไว้ตรงหน้าตัวเอง แล้วก็เอื้อเฟื้ออีกคนด้วยการยื่นถ้วยข้าว ไปให้ทั้งสองแบบ ก่อนจะลงมือกับอาหารตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหวเช่นกัน เพราะปกติมื้อค่ำเธอจะกินพวกสลัดเป็นส่วนใหญ่ แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ ก็ต้องกินอะไรที่พิเศษ ๆ หน่อย คงจะไม่สะเทือนหุ่นเพรียวลมของตัวเองมากนัก

“อร่อยมั้ยคะ อาหารแบบพื้น ๆ” คำถามที่ไม่ได้บ่งบอกว่า อยากรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยสักนิด ออกจะกระเดียดไปทางค่อนขอดพวกคนมีอันจะกิน ที่ไม่เคยเหลียวมองร้านค้าแบบนี้ซะมากกว่า
“อืม! ก็ใช้ได้นะ แต่ต้มยำนี่มันเผ็ดไปหน่อย ปกติผมไม่กินอาหารเผ็ด”
เขาเองเพิ่งจะรู้ว่าอาหารแบบพื้น ๆ นี่ ก็ใช้ได้เหมือนกันแฮะ
“๒๖๐ บาท ค่ะ” มันเป็นราคาที่ผิดจากคณินคาดเดาเอาไว้เกือบครึ่ง เมื่อเจ้าของร้านเดินมาเก็บเงิน

“ไม่ต้องทอนครับ”
แบงค์แดงสามใบถูกส่งให้ไปพร้อมกับทิป ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูรถ ให้คุณผู้หญิงเข้าไปในนั่งแล้วก็ขับออกไป ลูกค้าในร้าน ไม่เว้นเจ้าของร้านต่างมองตามรถหรู ที่พวกเขาไม่ค่อยจะได้เห็นเป็นบุญตานัก หรือเหนือไปกว่านั้น มันแทบจะไม่เคยมาเกยที่หน้าร้านข้างทางแบบนี้เลยด้วยซ้ำ







Create Date : 31 มกราคม 2552
Last Update : 31 มกราคม 2552 9:45:35 น. 0 comments
Counter : 424 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.