Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
ธารลาวา ๔๘ (ธัญรัตน์)




ตอน ๔๘

เสียงรถแล่นเข้ามาจอด แม้จะจำได้ว่าไม่ใช่รถที่เคยมาส่งเขา แต่ประณาลีก็ไม่วายแกล้งเดินออกมาเอาน้ำในตู้เย็น เพื่อจะดูว่าใช่เขาหรือไม่ แพทคือคนที่ลงจากรถและเดินขึ้นมาบ้านมาแทน ผิดหวังอยู่มากที่ไม่ใช่คนที่รอ แต่ประณาลีก็ยิ้มออกด้วยความดีใจ ที่ได้เห็นพี่มาหา

“เป็นไงบ้างลี ยังแพ้อยู่หรือเปล่า” แพทยิ้มรับน้องก่อนจะเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง
“ก็เหมือนเดิมค่ะพี่แพท จะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อนคะ แล้ววีไม่มาด้วยเหรอคะ”
“ไม่จ๊ะ พี่มาคนเดียว คิดถึงลีก็เลยจะมาอยู่ด้วยสักสองสามวัน”

สีหน้า น้ำเสียงและแววตาของแพท มีความหมายบางอย่างเกี่ยวกับการมาในครั้งนี้ แต่ประณาลีก็ไม่คิดที่จะคาดเดาอะไร เพราะในใจมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่านั้น แพทและคุณยายสำลีเฝ้ามองดูอาการ ที่เหม่อมองไปยังหน้าบ้านของประณาลี ถึงสองวันเต็ม ๆ สำหรับคุณยายไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ แต่สำหรับแพทที่พอจะเดาได้ว่าน้องกำลังรอใคร ทำให้มั่นใจว่าดูไม่ผิด แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรนอกจากจะสังเกตุการณ์อยู่ห่าง ๆ เท่านั้น

“ลีจะไปไหนจ๊ะ” แพทรีบถามเมื่อเห็นน้องออกมาจากห้อง หลังจากที่นอนพักจนมีแรงแล้ว
“ลีจะไปวัดค่ะ พี่แพทไม่ต้องไปหรอกค่ะ ลีอยากไปคนเดียว”
ไม่ยอมให้พี่ได้พูดอะไรต่อ หญิงสาวก็เดินลงบ้านแล้ว ทันทีที่อยู่ในรถคนเดียว น้ำตามันก็ไหลรินออกมา เพราะความน้อยใจ ที่เขาไม่ยอมมาหาเหมือนเคย มิหนำซ้ำยังไม่ยอมโทรมาบอกว่าติดธุระอะไร ‘โรส’ ชื่อนี้ผุดขึดมาในหัวอีกแล้ว

“โรสผมบอกแล้วไงว่าผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คุณอย่าพยายามหาเรื่องมาหลอกผมดีกว่า ผมขอสั่งให้คุณหยุดโทรมาได้แล้ว ผมจะไม่มองผู้หญิงคนไหนอีกนอกจากลีคนเดียวเท่านั้น”

แม้พยายามจะตัดออกไปแล้ว เพราะชื้นใจในคำพูดที่หนักแน่นของเขาวันนั้น แต่ก็ยังไม่วายเก็บมาคิดอีกจนได้ เพราะคลิปวีดีโอครั้งก่อนที่ได้เห็น มันก็เกิดขึ้นในวันที่เขาให้คำพูดที่มั่นเหมาะ ว่าจะรักเธอคนเดียว แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่วายทำให้เสียใจ แม้บอกแพทว่าจะไปวัด แต่หญิงสาวก็ขับรถไปเรื่อยเปื่อยนับชั่วโมง กว่าจะพาตัวเองมาถึงวัดได้ ดอกกล้วยไม้กับพวงมาลัยมีมากกว่าครั้งก่อนที่ตัวเองนำมา ‘พี่แพทคงจะมาไหว้คุณพ่อคุณแม่’ นั่นคือสิ่งที่คิดอยู่ในหัว ก่อนจะจัดดอกไม้ที่ตัวเองถือมาลงในแจกันอีก

“คุณพ่อคุณแม่คะช่วยลีด้วยค่ะ ช่วยทำให้ลีเข้มแข็งด้วยนะคะ ช่วยให้ลีอย่าหวั่นไหวกับการกระทำของเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง จะอยู่กับใคร คุณพ่อคุณแม่ก็ช่วยอย่าให้ลีคิดถึงเรื่องของเขาด้วยนะคะ ชีวิตพวกเราเจ็บช้ำมามากพอแล้ว กับคนพวกนี้ ลีไม่อยากจะเจ็บอีกค่ะ ลีอยากอยู่ให้ห่าง ๆ เขา อยากให้เขาไม่เข้ามามีอำนาจในใจลีได้ ลีกลัวค่ะ กลัวว่าลีจะแพ้ใจตัวเอง ได้ยินมั้ยคะคุณพ่อคุณแม่ ลีกลัวใจตัวเองค่ะ”

ความในใจที่เก็บซ่อนเอาไว้คนเดียว มักจะถูกระบายออกมา เมื่อประณาลีได้อยู่ต่อหน้าซุ้มเก็บอัฐิพ่อแม่ และเมื่อหญิงสาวรู้สึกสบายใจแล้ว ก็จะกลับไปด้วยอาการสงบนิ่งแทบจะทุกครั้ง แพทออกมาจากที่ซ่อนทันที ที่น้องขับรถออกจากรั้ววัดแล้ว เพียงแค่ได้เห็นท่าทีของน้อง กับได้ยินคำพูดที่ระบายออกมา แพทก็รู้ได้ว่าน้องต้องเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน ที่จะต้องควบคุมใจ ไม่ให้รักลูกศัตรูได้ แพทกลับไปบ้านด้วยอาการปกติ พูดคุยกับยายปกติ ตั้งใจว่าจะไม่พูดไม่ถามอะไรน้อง แต่จนแล้วจนรอดก็อดไม่ได้

“พี่แพทจะกลับแล้วเหรอคะ”
ประณาลีที่นอนอยู่ หลังจากอาเจียนอาหารเช้าที่กินเข้าไปจนหมดแรงเอ่ยถาม เมื่อพี่เดินเข้ามาหาในห้อง แพทพยักหน้าน้อย ๆ ให้น้อง ก่อนจะกุมมือของน้องไว้แล้วตบเบา ๆ เป็นการปลอบโยน

“จ๊ะ อยู่ทางนี้ลีต้องดูแลตัวเองให้มาก ๆ นะ เดือนหน้าพี่อาจจะไม่ว่างมาหาลี เพราะงานเยอะ ยังไง ๆ ก็พยายามกินอะไรหน่อย หลานพี่จะได้แข็งแรง คิด ๆ แล้วก็แปลกดีเหมือนกันนะ เมื่อไม่กี่วันมานี้ เรายังหลงดีใจ คิดว่าจะได้หนีพวกคณานุรักษุ์พ้นแล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ต้องกลับมาผูกพันกันอีก แล้วดูท่าจะแก้ยากด้วยสิตอนนี้”
“พี่แพทหมายถึงอะไรคะ ลีไม่เข้าใจค่ะ” รู้ดีว่าความหมายของพี่คืออะไร แต่ก็ยังคงปั้นหน้าเฉยเอาไว้

“ลี! พี่รู้จักลีมาสิบห้าปีแล้วนะ เรารักและเข้าใจกันยิ่งกว่าพี่น้องแท้ ๆ อีก อะไรที่น้องคิดพี่ย่อมรู้ดี ถ้าลีรักเขาและจะลงเอยกับเขา พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก ถึงพี่จะโกรธพวกนั้นอยู่มาก แต่พี่ก็แยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร และที่สำคัญที่สุด สิ่งไหนที่ทำให้น้องพี่มีความสุข พี่ก็พร้อมจะทำจ๊ะ คิดให้ดี ๆ นะลี อย่าทรมานตัวเอง ทำในสิ่งที่ใจลีอยากจะทำ ไม่ว่าลีจะเลือกทางไหนพี่จะอยู่ข้าง ๆ น้องเสมอตลอดไป ดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะน้องรัก”

“พี่แพท” ประณาลีทำท่าจะลุกแต่แพทก็ห้ามเอาไว้ก่อน
“ลีไม่ต้องไปส่งพี่หรอก แค่เอาคำพี่เก็บไปคิดก็พอ พี่ไปนะ”

แหม่มกับปัทมาหันมองกันไปมา เมื่อหนุ่มวัยรุ่น ที่ดูจากการแต่งเนื้อแต่งตัวแล้ว บอกได้ว่าคงจะเป็นพวกเจ้าสำอางค์ไม่น้อย เพราะทั้งหล่อและดูดีไม่แพ้พระเอกหนังเกาหลีบางเรื่องเลย
“ให้เข้ามาพบผมในห้องได้”
คณินส่งเสียงตามสายมา เมื่อแหม่มโทรไปแจ้ง เกี่ยวกับแขกที่มาขอพบ สายตาที่แพรวพราวของหนุ่มหน้าตาดี ส่งไปหาปัทมาก่อนจะตามแหม่มเข้าไปในห้อง

“ผมขอเป็นเงินสดเท่านั้นนะครับ ช่วยเอาใส่เป้ให้ผมด้วย”
ไม่ทันที่คณินจะได้พูดอะไร ผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้องก็ปลดเป้ที่สะพายมาด้วย ส่งให้เขาที่ยังคงนั่งพิงพนักเก้าอี้ ด้วยสีหน้าของคนที่พกพาความมั่นใจสูง ‘แกกล้ามาที่เดินมาให้ฉันเชือดถึงที่’ เขาคิดตั้งแต่แรก ที่รู้ว่าเด็กหนุ่มจะมาเอาเงินกับเขาที่ออฟฟิศเอง แล้วเขาก็ตอบรับอย่างเต็มใจ เพราะจะได้จัดการอะไรง่าย ๆ กว่าไปพบกันที่อื่น

‘ทำไมมันต้องมาที่นี่ครับคุณณิน’ บรรพตสงสัย
‘มันคงจะคิดว่าอยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือน่ะสิ’ เขาให้ความกระจ่าง
‘แต่มันคงไม่รู้หรอกว่าเราไม่ได้เป็นแค่เสือ’ บรรพตพูด แล้วทั้งสองก็ยิ้มให้กันอย่างคนที่รู้ ๆ กันอยู่

“ก่อนที่ฉันจะจ่ายเงินให้ อยากให้นายช่วยดูอะไรในซองนี้หน่อย ใจเย็น ๆ นั่งก่อนก็ได้ ฉันกับนายคงมีเรื่องให้คุยกันอีกยาว จะรับเครื่องดื่มอะไรมั้ย จะให้คนยกมาให้” ท่าทีที่ยียวนของเขาเมื่อโยนซองสีน้ำตาลไปตรงหน้าเด็กหนุ่ม
“ไม่หรอกครับ อย่าเสียเวลาเลย ผมกะว่าจะอยู่ไม่นาน ได้เงินแล้วก็จะไป แล้วนี่มันอะไร”
“เปิดดูก่อนสิแล้วฉันจะบอกว่ามันคืออะไร”

ผู้มาเยือนอยู่ในอาการไม่ชอบใจนัก แต่ก็นั่งลงแล้วรีบเทของในซองออกอย่างรวดเร็ว เอกสารหลายร่วงลงมา ไม่ว่าจะเป็นสำเนาจากศาลเกี่ยวกับความผิดข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ ที่ศาลตัดสินโทษแล้วแต่ให้รอลงอาญา หรือสำเนาใบแจ้งความจากสถานีตำรวจหลายที่ ในข้อหาลักทรัพย์ที่เจ้าทุกข์ไปแจ้งความไว้ หรือจะเป็นรูปถ่ายที่กำลังทำร้ายโชติกา จนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล

“นี่มันอะไรกัน ผมต้องการเงินสามสิบล้านนะ ไม่ใช่ให้มาดูเอกสารไร้สาระพวกนี้”
รู้ว่าเล่นไม่ง่ายเหมือนกับโชติกา แต่เมื่อได้ขึ้นหลังเสือแล้ว จะลงก็คงจะลำบากไม่น้อย คณินยิ้มเยาะเย้ยคนตรงหน้า เมื่อเห็นแววตาที่เกรงกลัวเขาหลุดออกมาให้เห็น ‘ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม’ เขาประเมินคนตรงหน้าไว้แค่นี้
“ฉันจะให้โอกาสนายหยุดทุกอย่างที่ขู่ฉันกับคุณโรส เอาคลิปมาให้ฉันซะ แล้วก็ออกจากห้องฉันดี ๆ แล้วฉันจะลืม ว่านายเคยทำอะไรกับฉันและคุณโรสไว้”

“คุณคงจะความจำเสื่อมแล้วนะว่าผมมาเอาเงินแลกกับคลิป ไม่ใช่แค่เอาคลิปมาให้คุณ”
“สงสัยนายจะไม่รู้ว่าเล่นอยู่กับใครมั้ง งั้นช่วยดูนี่หน่อยสิ เผื่อมันจะทำให้นายตาสว่างขึ้นมาได้บ้าง”
แล็ปทอปตรงหน้าหมุนไปหาเด็กหนุ่มทันที แล้วภาพชายหญิงบนเตียงก็ปรากฏขึ้น ทำให้คนที่รู้ชะตาตัวเอง ว่ากำลังจะแพ้แล้วถึงกับโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

“นี่คุณไปเอาภาพพวกนี้มาจากไหน ผมจะฟ้องคุณ โทษฐานที่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของน้องสาวผม”
“เอาสิฉันไม่แคร์อยู่แล้ว แต่กว่าที่นายจะได้แจ้งความ ภาพพวกนี้มันก็จะร่อนทั่วโลกแล้วเหมือนกัน เพื่อน ๆ น้องนายในมหา’ลัยจะว่ายังไงนะ ถ้ารู้ว่าน้องนายทำอาชีพไซด์ไลน์ เพื่อหาเงินเป็นค่าเทอม แค่นี้ยังไม่หมดนะ ฉันยังมีภาพที่แกไปยุ่งกับลูกใครเมียใครอีกนับไม่ถ้วน แล้วคนพวกนี้ฉันก็รู้จักดีแทบทั้งนั้น ถ้านายอยากดูฉันจะเปิดให้ดูเดี๋ยวนี้ล่ะ แล้วคงไม่ต้องบอกนะ ว่าถ้าภาพพวกนี้ไปอยู่ที่ผัวเขาแล้ว นายจะอยู่อย่างสุขสบาย” คณินทำท่าจะเปิดแต่ก็ชะงักไว้ เมื่ออีกฝ่ายเถียงด้วยน้ำเสียงของคนที่คิดว่ามีชัย

“งั้นผมก็คงจะต้องร่อนภาพคุณทั่วโลก เหมือนกันแล้วล่ะมั้ง มาลองดูกันสิว่าไอ้คนที่โนเนมอย่างผม กับคนมีชื่อเสียงอย่างคุณใครมันจะเสียหายกว่ากัน ผมแค่โทรไปหาพวกที่รออยู่ข้างนอกเท่านั้นล่ะ คุณก็จะดังเป็นพลุแตกภายในพริบตา”

“ก็เอาสิ ฉันก็ไม่แคร์อยู่ดี ฉันเป็นผู้ชายไม่เสียหายหรอก จะเสียหน่อยก็แค่โรสเท่านั้น แต่ฉันก็ไม่สน เพราะโรสไม่ได้มีความหมายมากพอ ที่ฉันจะยอมทุ่มเงินสามสิบล้านให้ขนาดนี้ อย่ามาโยกโย้ เลือกเอาว่าจะคืนของให้ฉันแล้วกลับออก หรือจะให้ฉันเรียกคนเข้ามา แล้วลากนายไปส่งตำรวจแทน คิดให้ดี ๆ นะคนอย่างฉันทำได้ทุกอย่าง ถ้าฉันไม่แน่จริง ฉันไม่ใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้หรอก นายมันก็แค่ไอ้แมงดาเน่า ๆ ตัวหนึ่ง อย่าคิดมาเทียบรุ่นกับสิงห์อย่างฉัน”

“แกอย่ามาขู่ให้ยากเลยฉันไม่กลัวแกหรอก”
เด็กหนุ่มเหลืออดจึงล้วงมือถือออกมาหมายจะโทรออก แต่ช้ากว่าคณินที่ระวังอยู่ก่อนแล้ว เขารีบขย่ำข้อมือเด็กหนุ่ม จนยึดมือถือมาได้ เด็กหนุ่มทำท่าจะล้วงบางอย่างออกมาจากเป้ แต่ก็ช้ากว่าเขาอีกจนได้ ปืนในมือเล็งไปหาเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะได้ปืนติดมือมาจากเป้ด้วยซ้ำ

“ฉันบอกแล้วไงว่าแกกับฉันมันคนละรุ่น แกรู้มั้ยว่าถ้าฉันลั่นไกเจาะกะโหลกแก ข้อหาเดียวของฉันก็คือ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา เพราะแกบุกรุกมาหาฉันพร้อมอาวุธร้ายแรงอีก บ่งบอกว่าแกประสงค์ร้ายกับฉัน ไม่ต้องบอกนะว่าเงินของฉัน จะทำให้ฉันไม่ต้องเดินเฉียดคุกด้วยซ้ำ แกคงไม่รู้หรอกว่าฉันซี้กับตำรวจระดับไหนบ้าง”
น้ำเสียงหนักแน่นกับท่าเล็งปืนที่มั่นคง บ่งบอกให้เด็กหนุ่มรู้ว่าทุกคำพูดของคณินเป็นจริง ก่อนเขาจะกดอินเตอร์คอมไปหาแหม่ม

“แหม่มให้บรรพตเข้ามาได้ แล้วสองคนก็กลับบ้านไปได้แล้วไม่ต้องรอผม เลยเวลางานมามากแล้ว”
ไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำ บรรพตและลูกน้องสามคนก็เปิดประตูห้องเข้ามาแล้ว

“เอามันออกไปจากห้องผมบรรพต แล้วให้มันพาไปเอาคลิปทั้งหมดมาให้ได้ ไปดูกับพรรคพวกมันด้วย ว่าใครเก็บเอาไว้บ้าง กวาดมาให้หมด จากนั้นฉันจะให้แกเลือกอีกที ว่าจะไปไหนต่อระหว่างคุกกับไปให้พ้นหน้าฉันกับคุณโรส คงไม่ต้องบอกหรอกนะ ว่าคนที่เป็นเดนสังคมอย่างแก ถ้าจู่ ๆ เกิดหายไปจากโลกนี้แล้ว จะมีใครสนใจตามหามั้ย ฉันจะบอกแกให้รู้ตรงนี้ไว้เลยนะ ว่าฉันน่ะส่งคนชั่วไปทัวร์นรกมานักต่อนักแล้ว ถ้าอยากจะลองก็บอกลูกน้องฉันก็แล้วกัน สั่งสอนมันแล้วเอามันออกไปได้”

สิ้นคำสั่งบรรพตก็แจกหมัดหนัก ๆ ไปนับไม่ถ้วน ก่อนจะลากตัวเด็กหนุ่มออกไป ออฟฟิศที่ว่างเว้นจากพนักงานที่กลับบ้านกันไปหมดแล้ว ทำให้บรรพตกับลูกน้องทำงานสะดวกขึ้นมาก คณินรอบรรพตอยู่ที่ห้องทำงานด้านบนเกือบเที่ยงคืน กว่าจะเอาคลิปต้นฉบับกลับมาให้เขาได้

“มันกับพวกคงไม่กล้าแล้วล่ะครับ คนของเราสั่งสอนมันหนักเหมือนกัน ก่อนที่จะเอาไปทิ้งไว้ที่ห้องเพื่อนมัน หรือถ้ามันกล้าอีกเราก็ให้ตำรวจจัดการต่อได้เลยครับ” บรรพตรายงานตามสมควรให้เจ้านายรับรู้
“ขอบใจมากนะบรรพต ผมฝากช่วยดูแลโรสด้วยนะ ถ้าหมอให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็พาไปพักที่คอนโดโรสก่อนก็แล้วกัน จนกว่าจะหายดี แล้วอย่าลืมให้คนคอยคุ้มกันด้วยนะ เผื่อมันกลับมาเล่นงานโรสอีก พรุ่งนี้ผมจะไปเชียงรายดูโปรเจคที่โน่นด้วย ส่วนบรรพตก็ดูที่ภูเก็ตให้ดี ๆ นะอย่าให้พลาด” เขาเดินเข้ามาตบบ่าลูกน้องคู่ใจ เพื่อเป็นการขอบคุณ

“ครับคุณณิน ไม่ต้องห่วงนะครับผมจะทำให้ดีที่สุด” บรรพตยิ้มรับเจ้านายด้วยความปรีดา
“กลับบ้านไปพักเถอะดึกมากแล้ว เดี๋ยวลูกเมียจะรอ อ้อ! เอานี่ไปแจกลูกน้องด้วย”
บอกแล้วก็หยิบซองสีน้ำตาล ที่มีเงินจำนวนหนึ่งส่งให้ แล้วลุกจากเก้าอี้เพื่อกลับบ้าน

“ขอบคุณครับ คุณณินก็ควรจะรีบกลับบ้านนะครับ เดี๋ยวลูกเมียจะรอเหมือนกัน”
จบคำบรรพตก็รีบเผ่นออกจากห้องทันที เพราะกลัวถูกเจ้านายแจกรางวัลใหญ่ให้อีก คณินได้แต่ยิ้มตามลูกน้องด้วยความขำ

ประณาลีให้แปลกใจเป็นที่สุด เมื่อกลับจากตักบาตรที่หน้าบ้านมา พบว่าคุณยายสำลีจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เหมือนจะไปอยู่ที่ไหนหลายวัน ‘หรือเขาจะมา’ อดคิดไม่ได้ว่ายายอาจจะอยากหลีกทางให้เธอและคณินได้อยู่ด้วยกันอีกก็เป็นได้ แต่หญิงสาวคิดว่าไม่ใช่ เพราะเพิ่งจะวันพุธ ถ้าเขาจะมาก็น่าจะเป็นวันเสาร์หรือถ้าเร็วหน่อยก็วันศุกร์เท่านั้น บัวเองก็หอบเสื้อผ้ามาสมทบกับยายด้วยเหมือนกัน

“ยายจะไปขอเมียให้ลูกชายคุณนายบานชื่นที่ต่างจังหวัดนะยายลี แกเพิ่งจะโทรมาชวนเมื่อคืนนี้เอง ยายขอเอาบัวไปด้วยนะ ลีอยู่กับเจ้านิดก็แล้วกัน” คุณยายเหมือนจะรู้ว่าหลานสงสัยจึงชิงบอกก่อน
“ยายจะไปกี่วันคะ แล้วทำไมพักนี้ยายเดินทางบ่อยจัง ไม่เหนื่อยแล้วเหรอ แล้วจะไปจังหวัดอะไรคะ”

“ยายก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณนายแกโทรมาด่วน ๆ ยายเลยไม่ได้ถามมัวแต่รีบ คนเขาอุตส่าห์ให้เกียรติ เห็นยายเป็นผู้ใหญ่ จะปฏิเสธก็ดูจะไม่งามเท่าไหร่ ยายก็กลัวจะเหนื่อยเหมือนกัน เลยเอาบัวไปเป็นคนคอยดูแลไง อยู่ทางนี้ลีก็ดูแลตัวเองไปก่อนนะ อีกไม่กี่วันยายก็จะกลับแล้วล่ะ” เมื่อเหตุผลของยายหนักแน่น จนคนเป็นหลานเหนื่อยที่จะคล้าน จึงปล่อยให้ยายไปอย่างที่ตั้งใจเอาไว้

“ยายจะให้เจ้านิดไปส่งที่บ้านคุณนายตอนไปเปิดร้านนะยายลี”
คุณยายสำลีบอกหลานสาว ก่อนจะออกเดินทางในเวลาต่อมา แต่รถของนิดไม่ได้เลี้ยวไปไหนเลย นอกจากจะตรงไปยังรีสอร์ทนอกเมือง ที่คณินจองไว้ให้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน ที่โทรมาหาคุณยายสำลี คล้อยหลังยายไปไม่นานคนท้องจึงเริ่มหิวขึ้นมา เดินไปดูพบว่าบัวเตรียมอาหารไว้ให้สองสามอย่าง จึงจัดการกับอาหารอยู่คนเดียว ไม่ทันที่จะได้อิ่ม อาหารที่กินเข้าไปก็ทำท่าจะไหลออกมาทางเดิมอีกจนได้ ทนไม่ไหวขึ้นมาก็ได้แต่ไปโก่งคออาเจียนออกตามเคย

“ลี! คุณเป็นยังไงบ้าง”
เสียงนี้ทำให้หญิงสาวถึงกับหันไปหาในทันที ดีใจที่ได้เห็นเขา แต่ความน้อยใจที่เขาไม่ยอมมาเมื่ออาทิตย์ก่อนก็มีมากกว่า จึงปั้นหน้าบึ้งให้ได้เห็นแทน แต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องอาเจียนออกมาอีก
“ทนอีกหน่อยนะลี ถ้าครบสามเดือนแล้วคุณหมอบอกว่าอาการแพ้จะไม่มีแล้ว นั่งพักก่อนนะ”
คณินรีบตรงไปช่วยลูบหลังให้ด้วยความห่วง แล้วก็พาไปนั่งพักที่เตียงเหมือนหลาย ๆ ครั้ง

“ฉันไม่เป็นอะไรมากคุณออกไปได้แล้ว” แม้จะไม่มีแรงแต่ก็รวบรวมพลัง ผลักไสเขาให้ออกไป
“ไม่ไปไหนหรอก บอกแล้วว่าจะมาง้อเมียกับลูกให้กลับไปด้วยกันให้ได้ไง” เขาเถียงแล้วทำหน้าทะเล้นใส่
“ไปให้พ้นนะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ จะไปอยู่กับใครที่ไหนก็ไป”
เหมือนคนถูกผลักไสจะรู้ว่าหญิงสาวน้อยใจ ที่เขาไม่มาหา จึงยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“ลี ผมเคยบอกแล้วไงว่าหัวใจของผมไม่มีที่ว่างให้ใครได้อีกแล้วนอกจากคุณ พักผ่อนเถอะนะเดี๋ยวบ่าย ๆ ผมจะพาไปหาหมอ วันนี้คุณหมอนัดไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมจะนั่งทำงานอยู่ข้างนอกนะ ลีอยากได้อะไรก็เรียกผมแล้วกัน”

อีกแล้วที่หญิงสาวยอมหลับตาลงตามคำบอกของเขา คณินห่มผ้าให้แล้วก็ออกจากห้องไป กลับเข้ามาอีกทีก็ใกล้เที่ยง พบว่าประณาลีลุกอาบน้ำเตรียมตัวไปหาหมอแล้ว ‘ฉันไปของฉันได้’ น้ำเสียงที่แข็งบอกเขาไป แต่มีหรือที่จะยอมปล่อยเธอไปตามลำพัง และประณาลีก็รู้ดีว่าไม่มีทางห้ามได้อีกเช่นเคย อาการคอยเอาอกเอาใจสารพัด คอยจูงมือ คอยถือกระเป๋าให้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ถึงโรงพยาบาล ทำให้ความน้อยใจของหญิงสาวค่อยคลายลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ยอมพูดดี ๆ กับเขา

“นิดไม่กลับมานอนที่นี่หรอก” คณินเดินออกมาหา เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งชะเง้อคอคอยนิดอยู่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านจนค่ำมืด
“คุณรู้ได้ยังไง หรือว่าคุณ”
“เปล่า ผมไม่ได้ทำอะไร นิดโทรเข้ามือถือผมว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน กว่าจะกลับก็ดึกเลยจะนอนที่บ้านเพื่อน เพราะไม่อยากปลุกเรามาเปิดประตู”

“แล้วทำไมนิดไม่โทรมาบอกฉัน ไปโทรบอกคุณทำไม”
“อ้าว! ก็ตอนนิดโทรมาลีหลับอยู่นี่ ผมเลยไม่กล้าปลุก นี่ไหน ๆ ก็ลงมานั่งตรงนี้แล้ว เราไปเดินเล่นแถวนี้กันดีกว่านะอากาศกำลังดีเลย แต่ก่อนไปลีต้องห่มนี่ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวลูกจะเป็นหวัดเอา”
ผ้าแพรที่ติดมือมาด้วย คลี่ไปคลุมให้เธอที่ไหล่ ก่อนจะจูงมือบางให้ออกเดิน แต่ประณาลีก็ไม่อยากจะลุกตามไป

“มาเถอะลี ดูสิลมพัดเบา ๆ สบายดีจังเลย ลูกอยากเดินเล่นกับเราเต็มทีแล้วล่ะ ถ้าลีไม่ยอมผมจะอุ้มไปแล้วนะ”
เท่านั้นล่ะร่างในชุดแซกก็รีบลุกตามมือเขาไปทันที คณินยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี ที่คำขู่นี้ใช้ได้ผลในเกือบทุกกรณี
“ผมขอโทษนะที่อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มาหาคุณ งานที่ออฟฟิศยุ่งมาก ๆ แล้วต้องไปดูโปรเจคที่ภูเก็ตอีก ตอนนี้ผมบินขึ้นเหนือล่องใต้บ่อยพอ ๆ กับนกเลยรู้มั้ย”

“ใครถามกัน แล้วใครอยากให้คุณบินไปบินมากัน”
“ไม่มีใครถามหรอก แต่ผมอยากบอก และที่ยอมบินไปบินมา ก็เพราะว่าคิดถึงใครบางคนแถว ๆ นี้ไง คิดถึงมากแล้วก็อยากจะกอดแบบนี้มากด้วย แถมด้วยอยากหอมแบบนี้เป็นที่สุดเลย”
ปากพูดวงแขนก็โอบร่างบางเอาไว้ แล้วก้มลงไปหอมแก้มเธอจากด้านหลังด้วยความเร็ว อีกคนพยายามจะดึงมือเขาออกแต่ไม่สำเร็จ

“ปล่อยฉันนะ ที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ นะ ที่คุณจะทำอะไรตามใจแบบนี้ ปล่อยเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าฉันอายคน”
“แต่ผมไม่อายนี่ แล้วค่ำมืดป่านนี้ใครจะมาเห็นกัน ถึงเห็นก็จะเป็นไรไป ผัวจะกอดจะหอมแก้มเมียบ้าง ใครจะทำไม คนแถวนี้น่ะเขารู้หมดแล้วล่ะว่าเราเป็นอะไรกัน”

“ปล่อย ฉันจะขึ้นบ้านแล้วลมแรงเดี๋ยวจะไม่สบาย”
เมื่อเอาเหตุผลนี้มาอ้าง เขาจึงยอมละวงแขนออก แต่ก็ยังดึงมือเธอไปจูงพาขึ้นบ้านแทน แถมเขาก็ไม่ยอมกลับออกไปจากห้องอีกต่างหาก แม้ประณาลีจะจ้องตาเขม็งเป็นสัญญาณว่าให้ออกไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านแม้แต่นิด
“ดึกแล้วฉันจะนอน คุณไปนอนห้องของคุณสิ” ทนไม่ได้จึงต้องออกปากไล่

“คืนนี้ผมจะนอนกับเมียกับลูกที่ห้องนี้ ดึกแล้วคุณก็นอนได้แล้วนะลี ลูกเราง่วงจะแย่แล้วล่ะ”
ไม่บอกเปล่ายังมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วโอบเธอที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่อย่างนั้น
“ปล่อยสิ ฉันบอกให้คุณออกไปไง หรือจะให้ฉันเป็นคนออกไปเอง” วงแขนกระชับแน่นไม่ยอมให้เธอลุกไปไหนได้

“โธ่! ลีจ๋า ผมไม่ได้ใกล้ลีมาตั้งเกือบสองอาทิตย์ คิดถึงจะแย่รู้มั้ย ไหนบอกว่าง่วงไง แล้วทำไมไม่นอน แต่ถ้าลียังไม่นอนก็ดีเหมือนกันนะ เรามานั่งคุยกันก่อนดีกว่า นานเท่าไหนแล้วที่เราไม่ได้คุยกันดี ๆ แบบนี้น่ะ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ ปล่อยได้แล้วนั่งห่าง ๆ ด้วย” น้ำเสียงที่แข็งแต่แรกดูจะอ่อนลง เมื่อรู้ว่าไล่ยังไงเขาก็คงไม่ไปแน่

“แต่ผมมีเยอะแยะเลย อืม! เริ่มเรื่องไหนดีก่อนนะ เอาเรื่องลูกของเราก็แล้วกันนะ ลีอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชายดี ส่วนผมนะอยากได้ลูกผู้หญิง จะได้สวย ๆ เหมือนแม่ไง แต่ไม่เอาดื้อ ๆ รั้น ๆ และขี้งอนแบบนี้นะ” มือยกไปบิดจมูกคนข้าง ๆ ไปมา
“นี่คุณอย่ามาว่าฉันนะ” จนประณาลีต้องตีมือเขาหนัก ๆ ไปสองที
“โอเค ๆ ไม่ว่าแล้ว ลูกสาวเราถ้าเกิดมาคงจะผิวดีเหมือนแม่นะลีว่ามั้ย สวย ๆ หวาน ๆ พูดเพราะ ๆ พอโตขึ้นคงจะมีหนุ่ม ๆ มาตามจีบ จนหัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่ ๆ เลย สงสัยผมต้องคอยพกปืนไว้ตลอดเวลา จนไม่เป็นทำงานเลยล่ะ”

“ลูกของฉันจะเป็นผู้ชายต่างหาก” ขอให้ได้ขัดเขาเท่านั้น
“เป็นผู้ชายก็ได้ โตขึ้นจะได้หล่อ ๆ รวย ๆ มีสาว ๆ มารุมล้อมจนเลือกไม่ถูกเหมือนพ่อไง”

แล้วอีกสารพัดเรื่อง ที่คณินหยิบมาเป็นหัวข้อสนทนา ยกเว้นอยู่เรื่องเดียว คือเรื่องที่ทำให้ทั้งสองต้องพบกับสภาพแบบนี้ ประณาลีเองก็รู้สึกโล่งใจไม่น้อย ที่เขาไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย จมูกยื่นไปหอมแก้มคนที่หลับไปแล้วด้วยความแผ่วเบา หลังจากที่คุยกันหลายเรื่องจนหญิงสาวง่วง แล้วหลับไปในอ้อมอกของเขา คณินลุกขึ้นไปปิดบ้านช่องให้เรียบร้อย ก่อนจะกลับเข้าห้องเบียดกายเข้าใกล้ ๆ ร่างบอบบางด้วยหัวใจที่มีสุขขึ้น

จากท่าทีของหญิงสาวทำให้เขาค่อนข้างจะมั่นใจ ว่าอีกไม่นานจะได้เธอมาแนบครองในฐานะเมียอย่างแน่นอน ทั้ง ๆ ที่ประณาลีตั้งใจเป็นแน่วแน่ ว่าจะยอมให้เขาเข้าใกล้ได้แค่คืนเดียว แต่ด้วยความที่เขาคอยมาดูแลเอาใจใส่สารพัด เป็นเหตุให้คืนถัดมาและอีกหลายคืนมีเขาคอยอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา นิดไม่กลับเข้าบ้านจนกระทั่งวันจันทร์ พร้อมคุณยายสำลีและบัว ซึ่งเป็นวันที่คณินจะต้องบินกลับกรุงเทพฯ

“ดูแลตัวเองดี ๆ นะลีแล้วผมจะรีบกลับมา”
เขาสั่งก่อนจะเดินลงบ้านไป ประณาลีรีบปลีกตัวเข้าห้องทันที เพราะรู้สึกอายที่เห็นยายมองมาหาด้วยอาการของคนอมยิ้ม ด้วยสายตาของผู้อาวุโสพอจะมองออกแล้ว ว่าอีกไม่นานหลานสาวคงจะใจอ่อนเป็นแน่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่บ้าน เมื่อนิดขับรถไปส่งคณินที่สนามบินได้สักพัก บัววิ่งมารับแล้วก็วิ่งเข้าไปหาของบางอย่างที่เขาลืมไว้ในห้อง บัวใช้เวลาหาอยู่สักพัก แต่ก็หาไม่พบ เพราะส่วนใหญ่จะเขียนภาษาอังกฤษแทบทั้งสิ้น จึงวิ่งมาเรียกประณาลีที่ห้อง

“มันเป็นกระเป๋าซีดีนะลีสีฟ้า ๆ ผมวางไว้แถวนั้นนั่นล่ะ หรือถ้าหาไม่เจอก็ลองมองดูว่ามีซีดีที่เขียนว่า เปรมฤดี พล็อบเพอร์ตี้อยู่หรือเปล่า ในนั้นมีแบบลูกค้ารายใหม่อยู่ ผมจะเอาไปให้เด็กแกะหน่ะ อีกสิบนาทีผมจะไปถึงนะ ถ้าหาเจอแล้วให้บัววิ่งเอาลงมารอหน้าบ้านเลย จะได้ไม่เสียเวลา เดี๋ยวไม่ทันเครื่อง”

“รู้แล้ว”
ประณาลีพยายามหาตามที่เขาบอก มองเห็นกระเป๋าซีดีสีฟ้า เปิดหาแผ่นที่ต้องการยังไม่ทันครบ คณินก็มาถึงบ้านแล้ว
“บัวเอานี่ไปให้คุณณินช่วยดูหน่อยซิว่าใช่หรือเปล่า เดี๋ยวฉันจะหาแถว ๆ นี้รอ”
บัวรีบวิ่งลงไปทันที ส่วนประณาลีก็เปิดหาตรงนั้นตรงนี้แต่ก็ไม่พบ

“คุณลีคะ คุณณินบอกว่าได้แล้วค่ะ อยู่ในกระเป๋าที่คุณลีให้เอาไปให้นั่นล่ะค่ะ”
บัวรีบวิ่งขึ้นมาบอก ประณาลีทันได้ชะโง้กหน้าไปมองท้ายรถ ที่ถอยมากลับรถหน้าบ้านแล้วก็วิ่งออกไปใหม่ แรกทีเดียวคิดจะเดินออกจากห้อง แต่ดูสภาพห้องที่เขาใช้พักพิงอยู่นานแล้วมีค่อยไม่สะอาดตานัก หญิงสาวจึงลงมือจัดให้ใหม่ แล้วก็พบซีดีอีกแผ่นที่เสียบไว้กับเอกสารอื่น ๆ แว๊ปแรกที่เห็น ไม่ได้สนใจนักว่าด้านในจะมีอะไร แต่เมื่อเหลือบไปอีกทีก็เห็นมีชื่อ

‘Kanin & Rose II’
เขียนอยู่บนแผ่น ลายมือนี้กับชื่อนี้ให้คุ้นตาเหลือเกิน

คว้าซีดีได้ ก็รีบเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อเปิดดู แล้วภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็แทบจะทำให้ดวงใจน้อย ๆ หยุดเต้นลงในทันที และยิ่งเห็นวันที่และเวลาเด่นชัดด้วยแล้ว จำได้ดีว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตัวเองตั้งท้องใหม่ ๆ หัวใจมันยิ่งเจ็บปวดเพิ่มเข้าไปอีก เมื่อวาดภาพได้ว่าเขาสุขสำราญแค่ไหน เมื่ออยู่ใกล้ ๆ คู่ขาเก่า น้ำตาแห่งความเสียใจมันได้ไหลรินออกมา นับตั้งแต่บทรักของเขาเริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งถึงฉากสุดท้าย เสียใจจนไม่รู้จะบอกให้ใครร่วมรับรู้ด้วย เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกใครเอาแส้มาเขียนตีด้วยซ้ำ

“ลี ผมรักคุณ แต่งงานกับผมนะ”

“ลีผมไม่รู้ว่ารักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าอนาคตของเราสองคนจะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าเวลาที่เรารู้จักกันจะนานพอมั้ย แต่ผมมั่นใจว่า ผมได้รักและเลือกคนไม่ผิดแล้ว คุณคือคนที่หัวใจผมเรียกหามาโดยตลอด มันอาจจะเร็วไปสักนิดกับการตัดสินใจของผมในครั้งนี้ แต่ผมไม่เห็นประโยชน์ว่าเราสองคนจะรอไปอีกทำไม มีเวลาถมเถให้เราได้ศึกษาซึ่งกันและกัน ถ้าลีไม่ขัดข้องผมจะจัดงานแต่งงานของเราให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตกลงมั้ย”

“ผมรู้ว่าลีเป็นคนยังไง ผมก็อยากจะบอกลีให้รู้เหมือนกันว่า ผมเป็นคนเลือกเป็น มีผู้หญิงหลายคนที่อยากจะเข้ามาในชีวิตผม อาจจะเพราะผมหรือเพราะเงินผมก็ได้ แต่ไม่เคยมีใครอยู่ในสายตาผม มากไปกว่าคุณนะลี อย่าห่วงเลย ผมรักคุณ เราจะช่วยกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันนะ วันนี้ลีเหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนเถอะ”

“คืนนี้ผมจะนอนกับเมียกับลูกที่ห้องนี้ ดึกแล้วคุณก็นอนได้แล้วนะลี ลูกเราง่วงจะแย่แล้วล่ะ”
“โธ่! ลีจ๋า ผมไม่ได้ใกล้ลีมาตั้งเกือบสองอาทิตย์คิดถึงจะแย่รู้มั้ย ไหนบอกว่าง่วงไง แล้วทำไมไม่นอน แต่ถ้าลียังไม่นอนก็ดีเหมือนกันนะ เรามานั่งคุยกันก่อนดีกว่า นานเท่าไหนแล้วที่เราไม่ได้คุยกันดี ๆ สักครั้งหนึ่งน่ะ”

และอีกหลาย ๆ ภาพเมื่อเขาพร่ำบอกว่ารัก และจะรักเธอเพียงคนเดียวที่ผุดขึ้นมาในความทรงจำตอนนี้ นี่หรือน้ำคำของผู้ชายที่ตัวเองรัก นี่หรือน้ำคำของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกตัวเอง นี่หรือน้ำคำของคนที่บอกว่าจะแก้ไขทุกอย่างให้จบลงด้วยดี อีกร้อยแปดคำถามที่หญิงสาวเฝ้าถามตัวเองและร่ำไห้อยู่ในห้องคนเดียว

“คุณพ่อ! คุณพ่อร้องไห้ทำไมคะ ใครทำให้คุณพ่อเสียใจคะ ใช่ลุงคนึงกับป้าพรหรือเปล่าคะ ทำไมวันที่เราไปหาลุงกับป้าที่บ้านคุณพ่อต้องว่าแรง ๆ ด้วยคะ แล้วทำไมลุงกับป้าต้องไล่คุณพ่อแล้วก็ไล่พวกเราด้วยคะ ลุงกับป้าไม่รักเราเหมือนเมื่อก่อนแล้วเหรอคะ แล้วลุงกับป้าไม่ทำงานกับคุณพ่อแล้วเหรอคะ”

“ลีอย่าพูดถึงสองคนนี้ให้พ่อได้ยินอีกนะลูก แล้วต่อไปลีต้องจำคำพ่อไว้นะลูก ว่าถ้าลีโตขึ้นแล้ว ไม่ว่าลีจะทำอะไรหนูอย่าไว้ใจคนมากเกินไปนะลูก อย่ามองคนในแง่ดีจนเกินไป ให้มองคนสองด้านเสมอ ๆ ทั้งด้านดีและด้านร้าย”

“พ่อรักลูกที่สุดเลยจำไว้นะลูก อย่าลืมนะลูก โตขึ้นหนูอย่าไว้ใจใครให้มากเกินไป โดยเฉพาะคนในตระกูล ‘คณานุรักษุ์’ ลูกอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกเด็ดขาด เดี๋ยวจะเป็นเหมือนพ่อกับแม่แบบนี้ เป็นเด็กดีของคุณแม่นะลูกรัก ดูแลทุกคนแทนพ่อด้วย พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกต้องลำบากแบบนี้”

นี่กระมังคือโทษฐานที่ไม่ฟังคำสั่งเสียของพ่อแม่ นี่กระมังที่เป็นผลกรรมที่ตามมา ของการไม่ยอมปล่อยวางตามคำสั่งสอนของยาย แต่เมื่อรู้ตัวมันก็เหมือนจะสายไปแล้ว เพราะทั้งตัวทั้งหัวใจได้มอบให้เขาไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่เขากลับทำร้ายเธออีกเป็นคำรบที่สอง รองจากผู้ให้กำเนิด อาการของคนที่อดกลั้นไม่ให้เสียงร้องไห้ดังออกไปภายนอก ให้ยายได้ยินนั้น มีขึ้นนับตั้งแต่พากายขึ้นไปนอนบนเตียงเอาหน้าซบกับหมอนจนเปียกแฉะไปด้วยน้ำตา

คุณยายสำลีสังเกตุเห็น ว่าหลานสาวมีสีหน้าที่เศร้าหมองกว่าหลาย ๆ วันที่ผ่านมา แต่ก็คิดแค่ว่าคงจะเหนื่อย เพราะอาการแพ้ท้องจึงไม่ได้สนใจมาก แม้หญิงสาวจะขังตัวเองอยู่ในห้องแทบตลอดเวลา หรือแม้จะพูดจากับคนในบ้านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด คุณยายสำลีก็มองข้ามเพราะคิดว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้หลานสาวต้องขุ่นข้องหมองใจอีกแล้ว

คณิณกลับมาอีกทีในวันศุกร์และมีแผนจะอยู่ยาวไปถึงวันพุธ แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่มาก ที่หญิงสาวไม่ออกมาให้เห็นหน้าในตอนที่เขามาถึงบ้าน แล้วรีบเอาของไปเก็บในห้อง แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะไตร่ถาม ได้แต่เข้าไปตรวจไซด์งานจนค่ำมืด กลับเข้าบ้านอีกทีก็คนในบ้านหลับเกือบหมดแล้ว บัวเป็นคนเดียวที่รอเปิดประตูให้เขา อยากจะเคาะประตูเรียกอีกคนเพราะแรงคิดถึง แต่เขาก็เลือกที่จะเข้าไปนอนในห้องตัวเองแทน

คุณยายสำลีใช้ไม้เดิม คือหลีกทางให้หลานได้อยู่กับคณินสองต่อสองอีก เช้าวันต่อมาจึงพาบัวตามนิดไปร้านผ้าไหม โดยบอกว่าจะมีผ้าล็อตใหม่เข้ามาจึงต้องไปดูด้วยตัวเอง ประณาลีรู้ดีว่ายายมีจุดประสงค์อะไร แต่ก็ไม่ได้ห้าม คล้อยหลังยายได้แค่นั้น ประณาลีก็กลับเข้าห้องทันที คณินที่รอจังหวะอยู่แล้วจึงรีบวิ่งไปดันประตูไว้ก่อน

“ลี! คุณเป็นอะไรไป ทำไมไม่พูดกับผม ถามอะไรก็ไม่พูด ครั้งก่อนเรายังคุยกันดี ๆ อยู่เลยนะลี”
เขารีบยิงคำถาม เมื่อเข้าไปอยู่ในห้องกับเธอได้แล้ว
“ก็เพราะว่าฉันมัวแต่โง่อยู่ไง ถึงได้ไม่รู้ทันคนอย่างคุณ คนที่ปากอย่างใจอย่าง พูดอีกอย่างทำอีกอย่าง ออกไปให้พ้น ๆ หน้าฉันนะ กลับไปได้แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก”

รีบสวนทันควัน พร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมาด้วยความเสียใจ แม้พยายามจะไม่หยิบเอาเรื่องนี้มาพูด แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้าเขามันก็เรียกความเจ็บปวดมาได้จนยากที่จะปิดบังเอาไว้

“คุณพูดอะไรของคุณลี นี่ตกลงเราจะเข้าใจกันไม่ได้เลยใช่มั้ย ผมพยายามทำดีที่สุดแล้วนะ แต่ทำไมคุณคอยแต่จะถอยหนีผมอยู่เรื่อยเลย แล้วเมื่อไหร่เราจะเข้าใจกันได้สักทีล่ะลี”
“นั่นสิเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ฉันถึงจะได้ฟังคำพูดที่ออกมาจากใจจริง ๆ ของคุณสักที เมื่อไหร่ที่คุณจะเลิกหลอกฉันสักที เมื่อไหร่ที่คุณจะเลิกคั่วคู่ขาเก่าคุณสักที หรือถ้าคุณยังไม่เลิกก็อย่าทิ้งหลักฐานเอาไว้มาทำร้ายฉันแบบนี้”

“คุณพูดอะไรลี ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้มั้ย” คณินเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง แต่ยังไม่แน่ชัดนัก
“คุณอยากรู้เหรอ นี่ไงคำตอบมันอยู่ในนี้ไง คุณจะให้ฉันบอกมั้ยว่าวันที่บนซีดีนี้ ฉันกับคุณอยู่ในสถานะภาพไหน ฉันนั่งแพ้ท้องลูกของคนจะเป็นจะตาย แต่คุณกลับไปนอนกกกับคู่ขาเก่าอย่างสุขใจ แล้วคุณยังจะมีหน้ามาบอก ว่ารักและคิดถึงฉันอีกเหรอ คุณทำได้ยังไง คุณหลอกฉันทำไม”

“ลีเรื่องนี้ผมอธิบายได้นะ มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก” แล้วเรื่องที่เขากังวล มันก็เป็นจริงขึ้นมาจนได้
“คุณเลิกพูดเถอะ ฉันมีวุฒิภาวะมากพอ ที่จะรู้ว่าคนมีความสุขมันทำหน้ายังไง กลับไปได้แล้วอย่ามาที่นี่อีก ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับคุณอีกแล้ว ฉันผิดเองที่ไม่เชื่อคำสั่งสอนคุณพ่อคุณแม่ ว่าให้อยู่ไกล ๆ พวกคุณ ฉันผิดเองที่หลงลมปากคุณ เหมือนกับที่พ่อกับแม่ฉันหลงลมปากพ่อแม่คุณไง แต่โชคฉันยังดีกว่าท่านเยอะ ที่ยังรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ฉันสิท่านต้องตายเพราะคนเลว ๆ อย่างพ่อกับแม่คุณไง” ความโกรธแค้นทำให้ไม่สนใจ ที่จะเก็บงำอะไรไว้อีกต่อไปแล้ว

“ลี! หยุดว่าพ่อแม่ผมได้แล้วนะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ท่านเองก็รับผลกรรมที่ท่านทำไว้แล้ว คุณจะเอามาพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา พ่อแม่ใครใครก็รัก คุณด่าพ่อแม่ผมก็เหมือนคุณด่าผมไปด้วย” คณินเกือบจะเหลืออด เมื่อถูกก้าวร้าวถึงผู้ให้กำเนิด

“อ้อ! ทีคุณยังรักพ่อแม่คุณได้ กับอีแค่ฉันด่าว่าแค่นี้คุณยังทนฟังไม่ได้ แล้วพ่อแม่ฉันล่ะ ท่านตายเพราะพ่อแม่คุณแท้ ๆ คุณกลับมาบอกให้ฉันลืม ให้ฉันยกโทษให้ มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ ใช่พ่อแม่ใครใครก็รัก ฉันก็รักพ่อแม่ฉันเหมือนกัน และคนที่มันทำให้พ่อแม่ฉันตาย ฉันก็ไม่มีวันยกโทษให้เหมือนกัน รวมทั้งคุณด้วย คุณมันก็ไม่ต่างไปจากพ่อแม่คุณนักหรอก

โกหก หลอกลวง ทำดีเอาหน้า เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด พอฉันหลงกลคุณ ยอมยกโทษให้คุณแล้ว คุณจะเก็บฉันไว้ที่ไหน แล้วคุณจะเก็บแม่คู่ขาของคุณไว้ที่ไหน ฉันกับเขาจะได้ครอบครองคุณคนละกี่วันกัน ฉันเกลียดคุณ เกลียดพ่อแม่ของคุณด้วย ไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว”







Create Date : 09 มีนาคม 2552
Last Update : 9 มีนาคม 2552 8:17:44 น. 0 comments
Counter : 477 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.