มาล่า มาช้า มาวันสุดท้าย จนเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับการส่งการบ้าน 3F Return
และเดือนนี้แน่นอนว่าไม่พลาดที่จะส่งก่อนเที่ยงคืนวันสิ้นเดือนเหมือนเช่นเคย หุ..หุ..

โจทย์เดือนพฤศจิกายนนี้ น้องฟ้าใสวันใหม่ เป็นผู้ออกโจทย์ค่ะ
โจทย์คือ "ผลไม้ 4 อย่าง " แต่จำเพาะเจาะจงว่าผลไม้ 4 อย่างนั้น ได้แก่
สับปะรด - มะละกอ - กล้วย - ส้ม
จะเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะหลายอย่างก็ได้
จะเป็นผลไม้สดหรือผลไม้แห้งก็ได้ ผลไม้ดิบหรือสุกก็ได้
จะทำเมนูคาว-หวาน หรือของว่างก็ได้
แต่เอามาแค่ประดับตกแต่งจานอย่างเดียวไม่ได้นะคะ



******************************************


เวลาทำอาหารส่วนใหญ่จะนึกถึงอาหารคาวก่อนแทบทุกครั้ง
อย่างโจทย์ครั้งนี้เหมือนกัน ถึงจะเป็นผลไม้แต่ก็จะนึกถึงกับข้าวก่อน
แล้วเมนูอะไรที่ยังไม่ได้ทำอัพบล็อก แกงส้มมะละกอ ตำกล้วยดิบ เป็ดอบซอสส้ม
สามเมนูที่ว่าตัดออกไป คือทำแล้วก็ต้องกิน เลยไม่ทำ เพราะยังไม่อยากกิน
เลยถามแม่ว่ามีเมนูอะไรที่มีผลไม้บ้าง แม่เสนอว่าทำผัดเปรี้ยวหวานใส่สับปะรดสิ
เป็นเมนูที่พ่อชอบไง แต่...เป็นเมนูที่เราไม่ชอบ เพราะตอนเราเด็กแม่จะทำบ่อยมาก
(แม่ทำกับข้าวเอาใจพ่อ 55) แม่ทำบ่อยจนเราเบื่อและพาลไม่ชอบไปเลย
แม่บอกว่างั้นทำสูตรโบราณดีไหม สูตรแบบของตา ใส่หน่อไม้สดกับเห็ดหูหนูด้วย
แต่ตอนนี้ยังไม่อยากกินผัดเปรี้ยวหวาน เลยถามแม่ว่ามีอะไรอีก แม่ก็นึกๆ
งั้นแกงคั่วสับปะรดไข่แมงดา(เมนูโปรดของพ่ออีกแล้ว แม่คงจะคิดถึงพ่อมาก)
เราก็เห็นด้วยนะ แต่...ไข่แมงดาในกรุงเทพหายาก เป็นอันว่าตัดไป
ไปซื้อเป็ดย่างมาทำแกงเผ็ดแล้วกัน ง่ายและยังไม่เคยอัพบล็อกด้วย







แกงเผ็ดเป็ดย่างเป็นเมนูที่ทำแทบทุกครั้งที่ซื้อเป็ดย่างมา
เป็ดเนื้อหนาๆ นุุ่มๆ แบบนี้ทำแกงอร่อยกว่าเนื้อบางๆ
แกงเผ็ดเป็นแกงที่ทำง่าย คงไม่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนน๊า







นอกจากสับปะรดกับมะเขือเทศแล้ว เราชอบใส่ทั้งมะเขือพวงและมะเขือเปาะ
...สับปะรดใส่แยะหน่อย เวลาทานรสอมเปรี้ยวหวานอร่อยชื่นใจดี







ครั้งนี้เราใช้พริกแกงใต้(ลืมซื้อพริกแกงเผ็ดน่ะค่ะ) เวลาแกงลดปริมาณเครื่องแกงหน่อยเพราะเผ็ดมากก
เติมกะปิลงไป 1:4 ผัดกับหัวกะทิด้วยไฟอ่อนจนแตกมัน
เราใช้กะทิกล่องค่ะ เลยเติมน้ำมันพืชลงไปนิดหน่อยเวลาผัดน้ำแกงจะได้สีสวย
แต่ครั้งนี้เราผัดไม่นานนะคะ ไม่อยากให้แตกมันจนน้ำมันลอยแยะ เอาแค่พอเครื่องแกงขึ้นเงา
Note: กะทิกล่องเราจะตักแยกตรงข้นๆ ออกมาใช้เป็นหัวกะทิ
ส่วนที่เหลือผสมน้ำเพิ่มเพื่อใช้แทนหางกะทิ






จากนั้นเติมหางกะทิ ใส่มะเขือพวง มะเขือเปาะ สับปะรด มะเขือเทศ
ตั้งไฟจนเดือดและมะเขือสุกได้ที่ เพื่อไม่ให้เนื้อเป็ดเละยุ่ยใส่เนื้อเป็ดท้ายสุดเลยค่ะ







รอน้ำแกงเดือดอีกรอบ ใส่หัวกะทิลงไป ตอนนี้น้ำมันจะลอยขึ้นสีสวย
ปรุงรสเพิ่ม ถ้ากะปิไม่เค็มก็เติมน้ำปลา ตัดด้วยน้ำตาลปี๊ปนิดเดียวพอ
เพราะสับปะรดจะออกรสหวานอยู่แล้ว เดี๋ยวแกงจะหวานเกิน
ใส่โหระพากับพริกชีฟ้าหรือแดงจินดาหั่นแฉลบเพื่อความสวยงามก่อนปิดเตา







เอารูปโหลดลงคอมพ์ อ้าว...มีรูปที่ทำไว้ครั้งก่อนหน้าอยู่ 1 ชุด







น้ำแกงสีจะแดงเพราะใช้พริกแกงเผ็ด และน้ำมันลอยสวยเพราะผัดพริกแกงนานหน่อย








ถ้าถามว่าชอบแบบไหน เราชอบแบบที่ทำวันนี้มากกว่า
น้ำมันไม่ลอยมาก น้ำแกงไม่ข้น ไม่มัน ไม่เลี่ยน ตักน้ำแกงทานเปล่าๆ ได้