ทำข้าวต้มมัด.........ไปทำบุญวันเข้าพรรษา
ไม่ต้องตกใจค่ะ เข้าบล็อกโปแป้งคนเดิม แต่ที่เห็นแสงสีแปลกๆไปเป็นเพราะว่าคุณแคนหนอน เพื่อนสนิทกล้องคู่รักคู่แค้น เกิดป่วยกระทันหัน ต้องไปรับการรักษาด่วนที่ศูนย์แคนหนอน สาธรโน่นแน่ะค่ะ เลยหันมาใช้เจ้ากล้องดิจิคอมแพคเพื่อนเก่าซึ่งไม่ค่อยสนิทกัน เลยออกมาได้อย่างที่เห็น แต่ก็ยังอยากupบล็อกอยู่ดี เพราะวันนี้ทำข้าวต้มมัด เพื่อเตรียมไปใส่บาตรพรุ่งนี้วันเข้าพรรษาค่ะ อร่อยด้วยจิ.....พูดแล้วจะหาว่าคุย ฮิฮิ...
เครื่องเคราก็มีดังนี้นะคะ 1.ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ซื้อจากตลาด กก.ละ 30บาท ใช้1กก.แช่น้ำไว้1/2ชม. 2.กะทิ คราวนี้บอกลากระทิกล่องค่ะ ไปซื้อที่ตลาดสดคั้นเอาหัวกะทิ1กก. 3.น้ำตาลทราย 1/2กก. 4.เกลือป่น 1ชต. 5.ถั่วดำแช่ค้างคืน2ขีด เช้ามาต้มให้สุกดี มิฉะนั้นจะกรุบ เคี้ยวแล้วเสียอารมณ์ 6.กล้วยน้ำว้า1หวี เลือกที่งอมงั่กๆเลยนะคะ 7.ใบตองอ่อน จากสวนหลังบ้านคุณนายแม่ ผึ่งแดดไว้ซัก10-20นาทีเพื่อให้ใบตองอ่อนนุ่ม ไม่แตกง่าย ( พยายามนึกว่าจะใช้อะไรแทนสำหรับคนที่อยู่ไกลบ้าน นึกไม่ออกค่ะ ไม่มีอะไรจะมาแจ่มเท่าใบตองบ้านเราเป็นเด็ดขาด 8.ตอก เอาไว้มัด ซื้อมาจากตลาดเช่นเดียวกัน ( ในกทม. ตลาดใหญ่ๆหน่อยก็มีขายค่ะ ) เริ่มจากกการผัดข้าวก่อนนะคะ ใส่กะทิ น้ำตาล เกลือลงไปคนให้ละลาย พอเดือดใส่ข้าวที่สะเด็ดน้ำขึ้นมาลงไป คนไม่ให้มันติดกระทะ ใช้ไฟอ่อนไว้นะคะ ใช้เวลาช่วงนี้ประมาณ1/2ชม.ก็จะเริ่มแห้ง อย่าคนจนเละนะคะ นั่นมันกะละแมแล้ว!!!! สังเกตข้าวที่ได้ตอนนี้จะสุกใสเหมือนตากบ ( อันนี้คุณแม่บอก อิชั้นก็งงว่าตากบเป็นไงเหรอเคอะ) มันก็ใสๆหน่อยอ่ะคะและน้ำกะทิก็แห้งพอใช้ พักไว้ให้เย็นแล้วจึงนำมาห่อ
อีตอนห่อนี่จิคะ......วัยรุ่นเหงื่อตกเลย เพราะทำมุมนูนๆไม่เป็น หมดใบตองไปราว3ต้นกล้วย กว่าจะได้ออกมาหน้าตาเหมือนแหนมมัดเลยวุ้ย.................. เทคนิคคือนำใบตองที่ตากแห้งนุ่มๆมาเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆวางซ้อนกัน2ใบ ใบที่อยู่ล่างเอาด้านมันออก ส่วนใบที่อยู่ในเอาด้านมันขึ้น แล้วใส่ข้าวลงไป เกลี่ยให้แบๆแบนๆ อย่าใส่เยอะ ( ของมันแพง )จากนั้นก็ตามด้วยกล้วยหั่นครึ่งลูก แล้วตามด้วยข้าวอีกเล็กน้อยพอปิดหน้า และโรยถั่วลงไปอย่างไม่อั้น (ชอบทานถั่วนี่นา)แล้วก็ห่อ ปิดหัวปิดท้าย พอได้2อันก็ประกบกันเข้าแล้วเอาตอกมัดให้แน่น นำไปนึ่งไฟกลางๆประมาณ1ชม.ก็เป็นอันเสร็จค่ะ
เลือกกลีบสวยๆไว้ถวายพระ ส่วนที่ขี้ริ้วขี้เหร่ก็แบ่งกันฉัน เอ้ยไม่ใช่..... ชิมตะหาก อร่อยมากเลยค่ะ นุ่มเหนียวหวานมัน พอดีๆเลย แม้ไม่ใช่ของที่ทำง่ายนักสำหรับโปแป้งนะ แต่คิดว่าสนุกมากเลยและเป็นการเรียนรู้ของแบบไทยๆจากรุ่นสู่รุ่นจริงๆ เพราะแม่เล่าว่าสมัยคุณยายทวดทำนั้น พอห่อเสร็จแล้วเขาไม่นึ่งแต่ใช้ต้มแทน จึงเรียกว่าข้าวต้ม+มัด ด้วยประการฉะนี้แล
Create Date : 17 กรกฎาคม 2551 |
|
22 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2554 18:57:17 น. |
Counter : 4254 Pageviews. |
|
|
|