กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยราชวงศ์พระเจ้าอู้งานเมือง มีกระทาชายนายหนึ่งที่ทำงานรับใช้ราชวงศ์อู้งานชื่อว่า กรมหมื่นตาทิพย์ หรือ
ไอ้สัปปะรด ชื่อก่อนได้บรรณดาศักดิ์
สัปปะรดเป็นช่างคุมงานก่อสร้างกำแพงพระราชวังของพระเจ้าอู้งานเมือง เนื่องด้วยเป็นบุรุษผู้ควบคุมงานได้อย่างแม่นยำราวกับมีตารอบตัว เขาจึงได้รับความไว้วางใจจากออกยากรมหลวงเฝ้ากำแพงวังให้ควบคุมการก่อสร้างกำแพงวังของพระเจ้าอู้ฯ...
งานส่วนใหญ่ของไอ้สัปปะรดไม่เคยผิดพลาด เรียกได้ว่าเขาจะมองเห็นจุดบกพร่องได้แทบจะทุกรายละเอียด เหล่าลูกน้องจึงเกรงกลัวไอ้นายช่างสัปปะรดเป็นการมากจนมีเรื่องร่ำลือกระจายไปทั่วราชอาณาจักรของพระเจ้าอู้งานเมืองว่า
ไอ้สัปปะรดมันมีตาทิพย์รอบตัว มันเห็นทุกๆ อย่าง... เรื่องความรอบคอบและเด็ดขาดของไอ้สัปปะรดเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วจนเกิดคำพูดที่ชาวบ้านมักจะใช้ไว้ด่าลูกหลานกันบ่อยๆ ให้เอาอย่างความเรียบร้อยของนายช่างสัปปะรด ..
นี่ ทำงานไม่เป็น(เหมือน) สัปปะรดเลยชีวิตเรื่องงานของสัปปะรดดูจะราบรื่นดีจนได้บรรดาศักดิ์เป็นกรมหมื่นตาทิพย์ แต่ก็เหมือนกับเรื่องราวทั่วๆ ไปในประวัติศาสตร์ที่เมื่อมีความสงบสุขแล้วก็ย่อมจักมีสงคราม ในระหว่างที่ดูแลการสร้างกำแพงให้วังของพระเจ้าอู้งานเมืองนั้น นายช่างสัปปะรดของเราก็ได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งผู้มีทรวดทรงองค์เอวงามระหงส์ดุดเทพธิดามาจุติ
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่งได้มีขบวนเกี้ยวเดินทางเข้ามาสู่ในวัง ทราบภายหลังว่าเป็นบรรณาการจากเจ้าเมืองประเทศราชที่ขึ้นต่อพระเจ้าอู้ฯ ซึ่งได้ส่งของกำนัลมีค่าต่างๆ ซึ่งในบรรดาทรัพย์สินมีค่าต่างๆ นั้นก็มีนางสนมคนหนึ่งที่มีรูปโฉมโนมพรรณกระจ่างออกจากทุกสิ่งอันในขบวนแห่นั้น...
นางคือแม่นางแตงโม อิสตรีผู้เลอโฉมแห่งแคว้นเมืองโนตม ในเพลานั้นนายช่างสัปปะรดผู้มีความรอบคอบและเข้มงวดในการควบคุมงานก่อสร้างพระราชวังถึงกับตะลึงงันในสิ่งที่ตาสองลูกของมันมองเห็น... โอ้ แม่เจ้า.. นางช่างขาวกระจ่างและ...โอ้ว ปทุมถันของหล่อนมันช่างใหญ่โตอะไรเช่นนั้น พลันโลหิตก็ทะลักออกจากสองรูแห่งลมหายใจบนใบหน้าของนายช่างใหญ่แห่งอาณาจักรอู้งานฯ ราวกับเป็นพรมแดงที่ปูต้อนรับความอลังการของอิสตรี แม่หญิงแตงโมแห่งแคว้นโนตม
ในค่ำคืนวันนั้นหลังการก่อสร้างกำแพงเมือง ไอ้สัปปะรดได้พบเจอกับนางแตงโมโดยบังเอิญในสวนหย่อมของพระราชวัง.. ราวฟ้าประทานทั้งสองตกหลุมรักกันในครั้งแรก และลักลอบแอบพบเจอกันทุกค่ำคืนหลังฟ้ามืดมิด ความรักเข้าครอบงำจนสัปปะรดลืมความรอบคอบของมันจนมีคนแอบสังเกตและนำความไปแจ้งต่อพระเจ้าอู้งานเมืองนำมาซึ่งความโกรธแค้นที่ถูกหยามเกียรติ.. ไม่นานนักสัปปะรดและแตงโมก็ถูกจับและถูกมัดประจานและเตรียมที่จะถูกประหารที่โหดร้าย
ก่อนที่ทั้งสองจะถูกประหาร สัปปะรดและแตงโมสาบานร่วมกันว่า ต่อไปภายภาคหน้าเกิดมาชาติไหนก็จะขออยู่ด้วยกันทุกวันไป ขอให้ทุกคนทุกชาติภพได้จดจำความรักที่ทั้งสองมีต่อกันในทุกหลังมื้ออาหารที่พวกเขากิน ขอให้พวกเขาได้เห็นความรักแท้หลังความอิ่มเอมอย่างที่คนทั้งสองต้องการ
และยังได้สาปแช่งต่อโชคชะตาที่เล่นตลกกับพวกเขา...
ต่อไปใครที่จะไปอู้งาน(เมือง) ขอให้คนๆ นั้นถูกประณามและไม่มีคนรักไม่นานนักหลังจากทั้งสองตาย เมืองก็เกิดเรื่องร้ายๆ ต่างๆ นาๆ และหลังจากนั้นไม่นานนักอาณาจักรอู้งานก็ล่มสลาย ผู้คนพากับอพยพหนีไปเมืองอื่น แต่ตำนานสัปปะรดกับแตงโมยังคงอยู่ ผู้คนระลึกถึงทั้งสองโดยเรียกผลไม้ที่มีตารอบด้านว่า"สัปปะรด" เพื่อระลึกถึงความรอบคอบของกรมหมื่นตาทิพย์และเรียกผลไม้กลมโตที่ใหญ่เหมือนหน้าอกของแม่นางแตงโมตามชื่อของหล่อน..
ผลไม้ทั้งสองมักถูกนำมากินรวมกันทุกมื้ออาหารหลังจากนั้นเป็นต้นมา... เช่นนั้นแลเรื่องแต่งล้วนๆ.... ได้แรงบันดาลใจจากผลไม้หลังอาหาร
สรุปว่าแต่งเองหรอ
แต่ก็ใช้ได้หนุกดี