รู้มั้ยขี้หู...มาจากไหน
หู เป็นอวัยวะที่ใช้ในการดักคลื่นเสียง เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ประสาทการได้ยิน ส่วนรูหูส่วนนอกเท่านั้นที่มีต่อมสร้างขี้หู ทำให้เราพบขี้หูอยู่รอบๆ ปากทางเข้ารูหู ซึ่งมีหน้าที่ดักฝุ่น , สิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปถึงเยื่อแก้วหู
ธรรมชาติสร้างรูหูให้มีรูปร่างเป็นกรวย มีปากทางเข้ากว้างกว่า รูหูส่วนใน ขี้หูที่สะสมอยู่นี้ปกติจะแห้งหลุดออกมาได้เอง โดย ไม่เคลื่อนตัวเข้าไปในส่วนลึกๆ ของรูหู จึงไม่จำเป็นที่คนจะ ต้องแคะหูหรือใช้ไม้พันสำลีเช็ดหู เพราะบ่อยครั้งอาจจะดัน ให้ขี้หูเข้าไปสะสมในรูหูส่วนใน หรือทำให้รูหูถลอก อักเสบ ติดเชื้อได้ หนังหุ้มรูหูส่วนในนั้นเปราะบางมาก เวลาแหย่หูลึกๆ ถ้ากระแทกโดนจะเจ็บมาก
หลายคนเข้าใจผิดว่า ควรต้องเช็ดรูหูให้สะอาดเสมอ หรือเช็ดหู ด้วยไม้พันสำลีหลังอาบน้ำทุกครั้ง แต่จริงๆ แล้ว มีขี้หูเคลือบ รูหูบ้างจะดีกว่า เพราะว่ายิ่งเช็ดหรือแคะหูมาก รูหูจะยิ่งแห้ง และคันหูได้มากกว่า หลังอาบน้ำหรือสระผม ถ้าน้ำเปียกหูอาจ ใช้ไม้พันสำลีชนิดเนื้อแน่น ขนาดเล็ก ซับน้ำที่ปากรูหูนิดหน่อย ก็พอ
ถ้าน้ำเข้าหูเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่ออกมา หรือหูยังอื้ออยู่ส่วนใหญ่ เป็นเพราะมีขี้หูในส่วนลึกของรูหูซึ่งอมน้ำไว้ กรณีเช่นนี้ควรให้ แพทย์ หู-คอ-จมูก ตรวจทำความสะอาดหู แพทย์อาจล้างหูด้วย การฉีดน้ำ หรือใช้เครื่องดูดขี้หู แล้วแต่ความเหมาะสม
ผู้ที่มีปัญหาขี้หูมาก หรือขี้หูแห้ง - คันหูมาก หลังจากให้แพทย์ ทำความสะอาดหูแล้วอาจใช้น้ำมันพวก GLYCERINE, BABY OIL หยอดหูอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยชะล้างรูหูให้สะอาด ขึ้นได้ วิธีนี้ใช้ได้ดีกับเด็กเล็กๆ เพราะรูหูเล็ก เช็ดก็ยาก แคะ ก็ยาก
ถ้าคันหูบ่อยๆ สิ่งที่ควรกระทำ คือ
1. งดแคะหู หรือ ใช้ไม้พันสำลีปั่นหู
2. ให้แพทย์ทำความสะอาดหู แล้วใช้น้ำมันหยอดหูเป็นประจำ
3. ถ้าเป็นโรคผิวหนังที่รูหู เช่น Seborrheic dermatitis แพทย์ จะให้ป้ายยา - หยอดยาที่มี Cortisone ผสมอยู่
ถ้าเจ็บหู รูหูอักเสบบ่อย ควรปฏิบัติเพิ่มเติมจากปัญหาคันหู คือ
1. อย่าใช้นิ่วแหย่หูเด็ดขาด เพราะขอบเล็บที่ปลายนิ้วจะทำให้ รูหูถลอก ติดเชื้อ และอักเสบได้ง่าย
2. ให้แพทย์ตรวจ ทำความสะอาดหูปีละ 2 - 3 ครั้ง ไม่ให้ขี้หู ค้างในรูหู
3. หลังว่ายน้ำทุกครั้ง ควรหยอดหูด้วย น้ำส้มสายชู (2% Acetic acid) หรือ น้ำส้มสายชูผสมแอลกอฮอล์ (1:1) ซึ่ง สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ทั้งแบคทีเรียและ เชื้อรา
แต่ถ้ามีอาการหูอื้อหลายวันยังไม่หาย อาจจะไม่ใช่เป็นเพราะ มีขี้หูก็ได้ เช่น น้ำขังในหูส่วนกลาง หรือโรคของหูส่วนใน ที่ ต้องให้แพทย์ตรวจรักษาอย่างทันท่วงที
Create Date : 11 ตุลาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 11 ตุลาคม 2551 19:02:58 น. |
Counter : 749 Pageviews. |
|
|
|