สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
จากโรคเบาหวานสู่โรคไตจะป้องกันหรือบรรเทาได้อย่างไร?

โรคเบาหวาน มักจะมาพร้อมกับอาการหรือโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ในที่นี้เราจะกล่าวถึง”โรคไตวายเรื้อรัง” เนื่องจาก 1 ใน 3 ของผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาในการควบคุมน้ำตาลในเลือดจะเกิดโรคไตวายเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้ป่วยกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป มีความดันเลือดสูง และบุคคลในครอบครัว มีประวัติเป็นโรคไตวายเรื้อรังร่วมด้วยภาวะน้ำตาลในเลือดที่สูงมานาน จะส่งผล “ไตของผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน” ดังนี้

- ผลต่อหลอดเลือดฝอยที่ไต น้ำตาลจะสะสมที่ผนังหลอดเลือดทำให้ หลอดเลือดตีบและอุดตันในที่สุด จึงพบการรั่วของโปรตีนออกมาในปัสสาวะ และทำลายไต ทำให้ความสามารถในการกรองเอาของเสียออกจากร่างกายลดลง
- ผลต่อเส้นประสาทในร่างกาย จะเกิดการทำลายเส้นประสาทในร่างกาย ทำให้การสั่งงานระหว่างสมองและอวัยวะที่ควบคุมโดยเฉพาะ “กระเพาะปัสสาวะ” มีการทำงานลดลง ดังนั้นเวลากระเพาะปัสสาวะมีน้ำปัสสาวะเต็มจึงไม่รู้สึกปวด และความสามารถในการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะก็อาจจะลดลง ทำให้เกิดการคั่งของปัสสาวะจึงมีผลต่อความดันที่เพิ่มขึ้นในทางเดินปัสสาวะ และส่งผลต่อการทำลายไตในที่สุด
- ผลต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การคั่งของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และลุกลามขึ้นมาตามทางเดินปัสสาวะจนทำลายเนื้อไต
จากหลักฐานทางการแพทย์พบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาในการควบคุมน้ำตาลจะเริ่มเข้าสู่ “ภาวะไตถูกทำลาย” ในระยะ 5 ปีแรก จากนั้นอีกประมาณ 5 – 15 ปี จะเกิด “ภาวะความดันเลือดสูง” และ “การทำงานของไตลดลง” ต่อจากนั้นอีก 3 – 5 ปี ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็จะ “เข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย”

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยเบาหวานไม่จำเป็นจะต้องเกิดโรคไตวายเรื้อรังทุกคน เพราะแค่ดูแลและปฏิบัติตนอย่างถูกต้องก็จะสามารถป้องกันหรือลดความรุนแรงต่อการเกิดโรคไตซึ่งอาจนำไปสู่ไตวายเรื้อรังได้



ข้อแนะนำในการปฏิบัติตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน

- การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ควรให้อยู่ในเกณฑ์ตามคำแนะนำของแพทย์ ได้แก่ การควบคุมอาหารออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่แพทย์แนะนำให้ใช้ยาควบคุมน้ำตาลในเลือดทั้งชนิดกินหรือยาฉีดอินซูลิน ที่สำคัญต้องใส่ใจกับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์นัด

- ควบคุมความดันเลือด
ละเลยไม่ได้เชียวนะครับ เพราะหากละเลยอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ส่งผลกระทบต่อหัวใจ สมอง และไต

- สังเกตอาการผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ
โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยเบาหวานจะมีความผิดปกติของเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ และกระทบไปถึงการทำงานของไตได้ ดังนั้นหากปัสสาวะแล้วรู้สึกไม่สุด มีปัสสาวะค้าง ปัสสาวะลำบาก ต้องเบ่ง หรือมีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (เมื่อปัสสาวะจะรู้สึกแสบ ขัด และหากปัสสาวะสุดจะเจ็บร่วมกับปัสสาวะบ่อย) ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาความผิดปกติทันที

- ควบคุมอาหารประเภทโปรตีน
ผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคไตร่วมด้วยควรได้รับอาหารโปรตีนอย่างพอเพียง ในขณะเดียวกันพบหลักฐานแสดงให้เห็นว่าการควบคุมจำกัดอาหารโปรตีนอย่างเหมาะสมสามารถชะลอการเสื่อมของไตได้ ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นโรคไตควรปรึกษาแพทย์เรื่องการควบคุมอาหารโปรตีนอย่างเหมาะสมต่อไป

- ควบคุมไขมันในเลือด
ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่จะมีไขมันในเลือดสูง ซึ่งจะมีผลทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมองตีบตัน จึงจำเป็นที่จะต้องควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ และในปัจจุบันเริ่มมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าไขมันที่สูงในเลือด ก็อาจส่งผลทำให้การทำงานของไตลดลง

- หยุดสูบบุหรี่
ผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีโรคไตร่วมด้วยควรหยุดสูบบุหรี่ เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง

- ยาที่ส่งผลต่อไต
ผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคไตร่วมด้วย ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้ยาแก้ปวด โดยเฉพาะยาในกลุ่ม NSAIDs (non-steroidal anti-inflammatory drugs) ทุกชนิด เพราะจะมีผลทำให้เกิดไตวายเรื้อรังหรือทำให้หน้าที่การทำงานของไตเสื่อมลง ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งที่จะใช้ยาในกลุ่มนี้

จะเห็นได้ว่าสุขภาพกายและใจของผู้ป่วยเบาหวานทุกคนจะดีขึ้นได้ ส่วนหนึ่งนอกจากจะมาจากการได้รับการดูแลรักษาที่ดีแล้ว ยังมาจากการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ ที่สำคัญ กำลังใจจากคนรอบข้างโดยเฉพาะบุคคลในครอบครัวและเพื่อน ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ




ขอบคุณข้อมูลจาก//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=709




Create Date : 04 สิงหาคม 2553
Last Update : 4 สิงหาคม 2553 16:32:15 น. 0 comments
Counter : 628 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.