สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
ไหมขัดฟัน (Dental floss)





มีหลายๆคนคิดว่า ไหมขัดฟันมีไว้เพื่อใช้กำจัดเศษอาหาร (food debris) ที่ติดอยู่ระหว่างซอกฟันเท่านั้น ถ้าอาหารไม่ติดก็ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีเศษอาหารติดอยู่ที่ซอกฟัน แต่มันก็ ยังคงมีคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์ (dental palque) ที่เรามองไม่
เห็นอยู่


วิธีการกำจัดคราบเหล่านี้ ได้แก่ การแปรงฟันให้สะอาด แต่การแปรงฟันก็ยังคงมีข้อจำกัด กล่าวคือ การแปรงฟันจะทำ ความสะอาดได้ดีเฉพาะบริเวณด้านนอกและด้านในของตัวฟันเท่านั้น ไม่สามารถทำความสะอาดได้ดีบริเวณซอกฟัน วิธีหนึ่ง ที่นิยมใช้ในการกำจัดคราบฟัน และคราบจุลินทรีย์
ที่บริเวณนี้ ก็คือ การใช้ไหมขัดฟัน


คำถามที่ว่า ควรใช้ไหมขัดฟันบ่อยแค่ไหน ขอแนะนำว่าให้ใช้ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้งอาจใช้มากกว่านี้ก็ได้ เหตุผลที่ แนะนำเช่นนี้ก็เนื่องมาจาก คราบฟันที่เราสามารถจะกำจัดออกได้ โดยการแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน ต้องเป็นคราบฟันที่ เพิ่งเกิดขึ้นไม่เกิน 24 ชั่วโมง นั่นก็หมายความว่า ถ้าเราปล่อย คราบฟันทิ้งไว้โดยไม่ทำความสะอาดนานเกินกว่า 24 ชั่วโมง
มันก็จะเริ่มมีแร่ธาตุต่างๆ มาจับและตกตะกอนอยู่ ซึ่งเราไม่สามารถ กำจัดมันออกได้ด้วยตัวเองอีกแล้ว และมันจะสะสมเกิดเป็นหินปูน ในที่สุด ซึ่งจำเป็นที่จะต้องไปให้ทันตแพทย์เป็นผู้กำจัดออก เท่านี้คงพอจะทราบกันแล้วใช่ไหมครับว่า ไหมขัดฟันมีความ จำเป็นมากน้อยเพียงใดทีนี้ก็ลองไปหาซื้อมาใช้ดูนะ ราคา พอๆ กับแปรงสีฟันแต่ใช้ได้นานกว่า มีจำหน่ายตาม
ซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป


ขอบคุณข้อมูลดีดีจากเวป Thaiclinic




Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2551 14:41:24 น. 0 comments
Counter : 1143 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 
10 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.