เคยได้ยินคำว่า "ยาตีกัน" บ้างไหม!
ยาตีกัน หมายถึงคนที่กินยาหลายอย่างเข้าไปในระยะเวลาเดียวกัน ยาเหล่านั้นจะเข้าไปมีผลต่อกัน ทำให้ฤทธิ์ของยาแต่ละอย่าง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งอาจเป็นโทษได้ ในปัจจุบัน ประชาชน ไม่น้อยนิยมซื้อยามากินเอง บางทีซื้อยาเป็นชุดมาจากร้านขายยา บางคนนิยมไปหาแพทย์เฉพาะทางให้รักษาอาการแต่ละอย่าง บางทีไปหาหมอรักษาทีเดียวพร้อมกันหลายๆ คน เช่น คนหนึ่ง รักษาหัว อีกคนรักษาท้อง เป็นต้น โดยหารู้ไม่ว่ายาที่หมอคนหนึ่ง ให้อาจไปตีกับยาของหมออีกคนหนึ่ง เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอด เลือดหัวใจตีบตันบางชนิด จะต้องกินยา coumadin เพื่อทำให้ เลือดแข็งตัวช้าลง มีผลให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีขึ้น และหลอดเลือดหัวใจตีบตันดีขึ้น แต่มียาอยู่กว่า 20 ชนิดที่มีผล ให้ยา coumadin มีฤทธิ์แรงขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีเพราะอาจทำให้ เลือดไม่แข็งตัว เกิดเลือดออกในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น สมอง หรืออาเจียนเป็นเลือด อาจเป็นอันตรายได้ โดยยา ดังกล่าวได้แก่ แอสไพริน ยาแก้อักเสบ phenyl butazone หรือยาปฏิชีวนะอย่าง chloramphenicol บางคนที่กินยา coumadin อยู่แล้วไปกินยาแอสไพริน อีกเม็ดเดียวหรือสอง เม็ดก็เกิดเลือดออกเป็นอันตรายได้ผู้ที่กำลังได้รับยานี้รักษา จึงควรระวังการใช้ยาให้มาก
การที่ยาตีกันแต่ไม่รุนแรงอย่างที่ยกมาก็มี เช่น คนที่กินยาพวก เข้าเหล็ก ซึ่งเป็นยาบำรุงเลือด หรือคนที่กินยาพวกที่เป็นเกลือด่าง เพื่อลดกรดในกระเพาะอาหาร จะมีผลทำให้การดูดซึมของ ยาอื่นๆ จากกระเพาะและลำไส้เสียไป เช่น เมื่อมีการอักเสบ มีเชื้อโรค กินยาพวกปฏิชีวนะก็ดูดซึมไม่ได้ การอักเสบติดเชื้อ ก็ไม่หาย คนทีกินยาเบาหวาน ถ้าไปกินเหล้าหรือเบียร์ ซึ่งมี แอลกอฮอล์ก็จะเกิดอาการแพ้ได้ และยังมียาอีกหลายอย่าง ที่ไม่ถูกกับแอลกอฮอล์ เช่น ยาคลายกังวลบางอย่างจะทำ ให้เมาง่ายขึ้น ถ้าไม่ระวังคิดว่าดื่มแก้วเดียวเคยขับรถได้สบาย หากดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยาพวกนี้ ก็อาจได้รับอุบัติเหตุ เป็นอันตรายได้
จะเห็นได้ว่าการกินยาหลายอย่างพร้อมกันนั้น นอกจากยาจะมี ฤทธิ์ต่อคนแล้ว ยายังมีฤทธิ์ต่อยากันเองด้วย ทำให้ผลของยา ผิดไปจากปกติ ซึ่งบางอยางอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ต้อง ระวังให้มาก
Create Date : 06 ตุลาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2551 15:50:25 น. |
Counter : 811 Pageviews. |
|
|
|