อมตะวาจาแห่งปี...รดน.แบบไหนๆก็ดี....อะไรคือ"ปัญหา"....ถามใจตัวเองเถอะ...
อมตะวาจาแห่งปี...ขอยกให้คำนี้...
"ผมอยู่ในวงการการเมืองมา 40 ปี ไม่เคยเห็นนักการเมืองชุดใดจะเลวเท่ากับนักการเมืองในชุดนี้..."
อันเป็นคำกล่าวของคนที่มีส่วนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนี้... คนที่ผมไม่เคยชื่นชอบแม้เพียงน้อยนิดด้วยบุคลิกลักษณะและการกระทำที่ผ่านๆมา... แน่นอนครับ..ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก..คนที่มีสมญานามว่า..CIA เมืองไทย.. คำพูดนี้มาจากตรงนี้ครับ...ไปอ่านฉบับเต็มที่..
//www.thairath.co.th/today/view/139816
นอกจากนี้ก็มีเรื่องที่เป็นข่าวอยู่พร้อมมูลตามที่นักข่าวจะไปขุดไปคุ้ยขึ้นมาได้... แต่แค่อ่านข่าวก็ยังพอเห็นภาพ..ของนาย(ก)แห่งเมืองไทย..ที่ไม่เคยมีความจริงใจ.. ก็ได้แต่ปลง..ปลงกับสภาพบ้านเมืองเรา..
.........................................................................................................................
กระแสเรียกร้องให้ รดน.กลับไปเป็นแบบเดิมนั้นสร้างกระแสร้อนแรงไม่น้อย.. จนหลายคนที่ไม่เห็นด้วย..อดรนทนไม่ได้ ต้องมาโวยวาย.. ผมว่าอะไรที่มันอยู่ในกรอบกติกา การเรียกร้องก็เป็นสิทธิอย่างหน่ึง.. ก็ปล่อยให้เค้าเรียกร้องไปเพราะไม่ได้มีกฏพันทิพนี่ครับ.. ถ้าคนมาเรียกร้องกี่เสียงๆแล้วพันทิพจะยอมทำตาม.. ถึงการเรียกร้องจะเป็นหมื่นเป็นแสนกระทู้แต่อำนาจการตัดสินใจ.. ก็อยู่ที่พันทิพว่าจะให้ ห้อง รดน.เป็นแบบไหน..????? ต่างคนก็ต่างใช้สิทธิและสิ่งที่ตนเองมีอยู่..ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดนี่ครับ...
ส่วนผมแบบไหนๆก็เหมือนๆเดิม.. แบบเก่าก็ดีได้อ่านความคิดแต่ละคนได้ทีเดียวในกระทู้นั้นๆ.. ไม่ต้องมานั่งคอยตามกระทู้แตกประเด็นให้ปวดตา.. และทำให้เกิดความคิดที่หลากหลายเหมือนอยู่ในโลกประชาธิปไตย.. แต่ถ้าแบบที่เป็นๆอยู่ทุกวันนี้ก็ดี..ไปอีกอย่าง.. เพราะตั้งกระทู้เสร็จก็หมดหน้าที่ปิดคอม..กลับมาอีกทีตอนว่าง.. มาดูว่ามีคนเขียนแย้งเห็นด้วย..และได้กิ๊ฟเท่าไร???..อิอิอิ....
ที่ว่าเหมือนๆเดิมคือ ผมไม่ถนัดมานั่งตอบ..มานั่งทะเลาะ.. ผมคิดว่าผมเป็นคนไทยมีสิทธิในการพูดการเขียน..ที่ไม่ได้ระรานใคร.. ไม่ได้ดูหมิ่นเหยียดหยามใคร..การสะท้อนว่า.รัฐบาลทำอะไรอยู่..??? ก็เป็นสิทธิที่คนไทยทุกคนสามารถทำได้..ไม่ใช่หรือ????
...............................................................................................
หลายสิบปีก่อนเมื่อมีสถาบันจากส่วนกลางมาเปิดระดับปริญญาโทที่อุบล... เพื่อนๆนักธุรกิจหลายคนก็ไปเรียนเพื่อเพิ่มดีกรีให้กับตนเอง.. มีเพื่อนบางคนมาชวนผมไปเรียนด้วย..ผมถามเรียนเพื่ออะไร??? เค้าบอกว่า..อ้าว..นายคนอุบล..ก็เรียนเอาความรู้นะซิ..??? ถามแปลก..?? ผมหัวเราะ..แค่ที่มีอยู่นี่ก็ใช้ไม่หมดเลย..ต้องคืนครูบาอาจารย์ไปหมดแล้ว.. เค้ายังไม่ยอมแพ้...เอ๊าถ้ายังงั้น..ไปเรียนเอาเพื่อน..เอาคอนเนคติ้ง..??? ผมขำกว่าเดิม..บอกยังงั้นยิ่งบอกว่า..ไม่เอา..เพราะทุกวันนี้ผมกลุ้มเพราะมีเพื่อนเยอะนี่แระ... แค่นั้น..เพื่อนคนนั้นเลิกพูดเรื่องเรียนโทกับผมไปเลย... อยากเอาเรื่องนี้มาให้คุณม่วงคัน..สบายใจ.. ว่าที่ว่าจะหนีผมไปไกลๆนะ..อิอิอิ...ไปเถอะๆ.. เพราะผมคิดว่าตนเองคงไม่ได้ต้องการใครมาอยู่ใกล้ๆขนาดนั้น... ส่วนกระทู้คุณเมื่อวานผมคงไม่ต้องตอบ..เพราะไม่อยากตอบ..(ตามสิทธิ..)
.............................................................................................................
ของฝากเช่นเคย..ธรรมะ..จาก ท่านอาจารย์ชยสาโร..
"...คนที่ยังไม่มีปัญญามักปฏิเสธว่า.."ฉันไม่มีปัญหา".. เมื่อเริ่มแสงสว่างขึ้นมาน้อยหนึ่งก็ยอมรับว่า"ฉันมีปัญหา"... ขั้นต่อไปคือ"ฉันคือปัญหา" ในที่สุดแล้วไม่มีปัญหาจริงๆ.... แต่การไม่มีปัญหาอย่างคนทั่วไปนี้ไม่ใช่ ต้องพัฒนาให้เห็นปัญหา.. ยอมรับปัญหา จนกระทั่งเห็นความยึดมั่นถือมั่นในตัวฉันนั่นแหละคือ"ตัวปัญหา..."
จากธรรมะเทศนา"ทุกข์ทำไม" หน้า 9
.......................................................................................................
Create Date : 10 มกราคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 10 มกราคม 2554 5:42:31 น. |
Counter : 885 Pageviews. |
|
|
|
ต้องยอมรับจริง ๆ สำหรับเราปริญญา เป็นใบสำคัญ
ใบเบิกทางในการก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ดูเหมือนเราจะเรียน
เพื่อใบนี้เป็นประการหลัก แต่การเรียนเพื่อรู้จริง ๆ ยังมีน้อย
คนจำนวนไม่น้อยขาดการไขว่รู้นับแต่ย่างก้าวออกจากสถานศึกษา
เมื่อจบทำงานแล้วขาดการพัฒนาค้นคว้าใส่ใจที่จะหาความรู้น้อยลง
เห็นได้จากสถิติที่พบว่าคนไทยมีการอ่านหนังสือเฉลี่ยต่ดปีต่ำ ซึ่ง
อันที่จริงเรามีอินเตอร์เน็ตที่ช่วยให้เราย่นระยะเวลาและข้อจำกัด
ในการเรียนรู้ และโดยส่วนตัวชอบการเรียนรู้อิสระซึ่งทำได้ตาม
ความเหมาะสมเท่าที่เราจะสามารถ หากคนรุ่นใหม่ ๆ ถ้าพัฒนา
ศักยภาพตนเองได้ ปท.น่าจะดีขึ้นเมื่อทรัพยากรมีคุณภาพ..........
พูกถึงเรื่องนี้พาลคิดถึงเรื่องขำขันที่ได้ยินจากข่าวเย็นวันนี้....ไข่...
เรื่องของ ไข่ ทำให้ขำ 555.. ไข่ขายโดยวิธีชั่งกิโลกรัม...ตั่งแต่เกิดมาจำความได้ ก็เห็นเค้านับใบขายกัน.....นี่คนคิดวิธีนี้เค้าคง
จะเห็นไข่เป็นทุเรียนแน่..ลองนึกภาพดูนะซื้อ ไข่ 2 โหล เอาขึ้น
ตาชั่งเสร็จแล้วใส่ถุง มันคงได้ไข่แตกเละเทะโดยไม่ต้องกระเทาะ
เปลือก ถึงบ้านเจียวได้เลย..อิๆ.ๆ ....คิดไปด๊าาาย ช่างคิดเน๊อะ...
เข้ามาดึกวันนี้วังเวง เอาเพลงฟังแล้วฮึกหน่อยมาให้ฟัง เปิดmv
แล้วเห็นคนร้องอินเดียนร่างใหญ่ ๆ เต้น อย่ารีบปิดทิ้งหาว่าเอาไรมาให้ดูซะก่อนล่ะ..ฟังไปดี ๆ ดนตรีเพราะนะ
www.youtube.com/watch?v=Une_itj_jns
www.youtube.com/watch?v=sZYpGocxxfo
www.youtube.com/watch?v=HdzMG0gOeg0&feature=related
เอามาให้ฟังบ่ดย ๆ เนี่ย แค่อยากให้เสียงเพลงเป็นเพื่อน แต่
บางครั้งก็จะนึกเหมือนกันนะว่า..เอ..มายัดเยียดให้ฟัง หรือว่า
รำคาญบ้างป่าวนะ...